ข่าว:

ทดลองใช้งานบอร์ดตะลุง ที่อยู่ในขั้นตอนการกู้คืนข้อมูล เบื้องต้นมีแต่กระทู้ (ข้อความ) กำลังกู้รูปภาพ ไฟล์แนบต่าง ๆ คาดว่าจะทยอยสมบูรณ์ภายในไม่ช้า

Main Menu

“มาร์ค” เชื่อ 3 วันแก้ รธน.เสร็จปูทางยุบสภาถ้าชาติสงบ

เริ่มโดย ฅนสองเล, 17:41 น. 23 พ.ย 53

ฅนสองเล

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์    23 พฤศจิกายน 2553 17:21 น.
   
นายกฯ คาดประชุมสภาเดินหน้าราบรื่น เชื่อวันลงมติม็อบมามากแน่ ยันคนค้านส่วนใหญ่รับได้เนื้อหาแก้รัฐธรรมนูญ ยันไม่มีสอดแทรกประเด็นอื่น ลั่นเป็นไปไม่ได้สอดไส้นิรโทษในชั้นกรรมาธิการ แต่ทำไก๋!! ไม่รู้ กมธ.จะดึงฉบับพรรคร่วมแปรญัตติหรือเปล่า ยัน 2 ประเด็นไม่สร้างปัญหา เชื่อ 3 วันจบสิ้นตามเงื่อนไขยุบสภา เหลือแค่ความสงบ ปัด ปชป.ทรยศประชาชน คาดไม่ทำพรรคแตก ยันไม่มีข่มขู่ไม่ส่งลงเลือกตั้ง
       
       วันนี้ (23 พ.ย.) ที่รัฐสภา นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการอภิปรายการแก้ไขรัฐธรรมนูญวันแรกว่า ที่ผ่านมาโดยรวมถือเป็นปกติ ขณะเดียวกันสถานการณ์การชุมนุมก็ปกติ คิดว่าจะเดินหน้าไปด้วยความเรียบร้อย ส่วนจะผ่านหรือไม่ขึ้นอยู่กับอยู่ที่สภา แต่ขณะนี้การพิจารณาเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ทั้งนี้ ในวันลงมติอาจมีความเป็นไปได้ที่จำนวนผู้จำนวนจะมากขึ้น แต่อยากให้ฟังการอภิปรายจะได้ทราบเนื้อหาประเด็นของรัฐธรรมนูญ โดยเฉพาะฉบับที่รัฐบาลเสนอ แม้กระทั่งคนที่บอกว่าคัดค้าน พอสอบถามมาว่าเนื้อหาคืออะไรที่เป็นปัญหา ส่วนใหญ่จะรอมชอม รับว่าจริงๆ แล้วที่อยู่ในเนื้อหาที่เสนอไม่ได้เป็นปัญหา แต่ไปกลัวว่าจะเพิ่มอะไรเข้าไป ซึ่งก็เห็นชัดเจนว่าในหลักการของรัฐธรรมนูญที่รัฐบาลเขียนว่า รัดกุมไม่มีการสอดแทรกประเด็นอื่น
       
       เมื่อถามว่าจะให้ความมั่นใจได้อย่างไร ในเมื่อความกังวลตรงนี้ยังมีอยู่ นายกฯ กล่าวว่า มันเป็นไปตามกฎระเบียบ จะเป็นไปได้อย่างไรที่จะไปเปลี่ยนหลักการเป็นเรื่องอื่นตรงนี้ชัดเจนอยู่ แล้ว เมื่อถามต่อว่า โดยปกติในชั้นกรรมาธิการที่จะมีการแปรญัตติในหลักการจะทำอะไรได้บ้าง นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า การจะแปรญัตติต้องไม่ขัดกับหลักการถ้าแปรญัตติอะไรที่นอกเหนือไปจากหลักการ เขาต้องกลับมาขออนุมัติจากสภา ซึ่งการทำงานทางการเมืองของตนเองมาเกือบ 20 ปีเกิดน้อยมาก มั่นใจตรงนี้ เพราะรัฐบาลมีจุดยืนชัดเจนอยู่แล้วว่า ประเด็นที่แก้ไขคืออะไร
       
       ส่วนจะมีความเป็นไปได้หรือไม่ ที่บางฝ่ายอาจนำเรื่องการนิรโทษกรรมเข้าสู่การแปรญัตติในชั้นกรรมาธิการนั้น นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า เป็นไปไม่ได้ ตนยังมองไม่เห็นเลยว่า จะไปใส่ในรัฐธรรมนูญที่พูดถึงเรื่องที่มาของสภาผู้แทนราษฎรกับเรื่องหนังสือ สัญญากับต่างประเทศได้อย่างไร ส่วนกรณีที่พรรคชาติไทยพัฒนามีมติจะรับหลักการทั้ง 2 ร่างนั้น ตนเห็นว่าเป็นเรื่องระบบเลือกตั้ง และมาตรา 190 เพียงแต่สาระต่างกันในรายละเอียด แต่อย่างไรตัวนั้นไม่สามารถจะไปเปิดช่องให้เรื่องอื่นเข้ามาได้ เมื่อถามว่า เท่ากับว่ายังมีความพยายามเปลี่ยนแปลงเนื้อหาในส่วนที่คณะกรรมการฯชุดนาย สมบัติ ธำรงธัญวงศ์ เพื่อกลับไปสู่ร่างของ ส.ส. นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ต้องไปดูว่ากรรมาธิการฯจะว่าอย่างไร
       
       เมื่อถามว่า โดยหลัก ครม.ที่เสนอร่างนี้เข้ามา มองหรือไม่ว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงในขั้นกรรมาธิการฯ นายกฯ กล่าวว่า ถ้าเปลี่ยนแปลงไปก็จะกลายเป็นร่างของสภา พรรคการเมือง ก็ต้องมาทบทวนกันอีกทีว่าจะมีความเห็นกันอย่างไร โดยจะดูกันในวาระ 2 และ 3 กันอีกที ซึ่งเรายังไม่ทราบว่าในชั้นกรรมาธิการฯ ใครจะแปรญัตติอย่างไรบ้าง โดยส่วนตัวอยากให้เป็นไป ตามหลักที่คณะกรรมการฯ ชุดนายสมบัติเสนอมา เพราะเห็นว่ามีเหตุ มีผลที่เชื่อมโยงกันชัดเจน และพยายามตอบโจทย์ทุกฝ่าย หากมีการเปลี่ยนแปลงไปจากนี้ แต่ละพรรคการเมืองก็ต้องนำไปพิจารณากันอีกครั้ง ถือเป็นเรื่องปกติ กฎหมายทุกฉบับเวลาเข้าสู่สภาหากในชั้นกรรมาธิการฯ มีการแปรญัตติ หรือสงวนความเห็น เวลาจะเข้าสู่การพิจารณาของสภาแต่ละพรรคจะต้องไปประชุม ขณะเดียวกันวิปก็ต้องไปประชุมว่าตกลงมาตรานี้เห็นด้วยตามกรรมาธิการฯ หรือจะเอาตามเดิม สุดท้ายจะเห็นชอบในวาระที่ 3 หรือไม่ ซึ่งจุดยืนของตัวเองหากมีการเปลี่ยนแปลงก็ต้องดูว่ามีการเปลี่ยนแปลงอย่างไร แต่หลักไม่น่าจะหนีไปจากสิ่งที่คณะกรรมการฯเสนอมา
       
       เมื่อถามว่า ดูเหมือนความไม่พอใจที่มีอยู่คือเรื่องจำนวน ส.ส.ที่อาจจะเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม นายอภิสิทธิ์กล่าวย้ำว่า แปรญัตติเสร็จแล้วค่อยว่ากันอีกที อย่าเพิ่งไปคิดอะไรล่วงหน้า เพราะตอนนี้ยังไม่ได้รับหลักการกันเลย และมั่นใจว่า 2 ประเด็นนี้ไม่ใช่ประเด็นที่สร้างปัญหาอะไร จึงจะต้องทำให้เกิดความวุ่นวาย เป็นประเด็นที่น่าจะสามารถเดินหน้าทำงานกันตามกระบวนการของระบบรัฐสภาได้ แต่ถ้าฉบับไหนมีเรื่องนิรโทษกรรมก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง ตนคิดว่า 2-3 วันนี้ถ้าเราได้ข้อยุติเรื่องนี้ไป ปมเรื่องรัฐธรรมนูญจะได้จบไปสำหรับรัฐสภาชุดนี้
       
       ผู้สื่อข่าวถามว่า ตอนนี้มีการกล่าวหาค่อนข้างแรง ในส่วนของพรรคประชาธิปัตย์ เหมือนกับทรยศต่อประชาชน และมติของตัวเองที่เคยมีเกี่ยวกับเรื่องรัฐธรรมนูญ นายกฯ กล่าวว่า ไม่มี เมื่อวานก็มีการประชุมกันในพรรค ทุกคนก็เข้าใจซึ่งตนยังย้ำว่าถ้าเราไม่มีกระบวนการที่รัฐบาลอิงกับการเชิญ ผู้ทรงคุณวุฒิทั้งหลายมาทำงาน เรื่องนี้รัฐบาลคงไม่เสนอ ขณะเดียวกันเมื่อเราเข้าสู่กระบวนการในลักษณะของการให้มีคณะกรรมการต่าง ๆ แล้วเราจะยึดติดอยู่กับความต้องการหรือความเห็นของตัวเองตลอด มันก็ไม่มีประโยชน์อะไรที่จะใช้กระบวนการตั้งคณะกรรมการต่าง ๆ ขึ้นมา ในวันที่เราตั้งคณะกรรมการฯ พรรคก็เห็นชอบ ทุกท่านก็รับทราบเพราะตนเองได้รายงานให้ที่ประชุมพรรคด้วย
       
       เมื่อถามว่า ถ้าวันลงคะแนนเสียงหลุดออกไปจากที่มีมติ ถือว่าพรรคเกิดรอยร้าวและไม่มีความเป็นเอกภาพหรือไม่ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า เมื่อเช้าได้คุยกับนายชวน หลีกภัย และนายบัญญัติ บรรทัดฐาน อดีตหัวหน้าพรรคทั้ง 2 ท่านไม่มีปัญหาอะไรเลย เมื่อถามว่าปมรัฐธรรมนูญถือเป็นความแตกแยกในพรรคหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ไม่ เมื่อถามว่าทำไมจึงคิดว่าหากการแก้ไขรัฐธรรมนูญครั้งนี้สำเร็จ ปมการแก้ไขรัฐธรรมนูญจะจบไป นายกฯ กล่าวว่า เพราะเห็นว่าหลังจากการประชุมในร่างรัฐธรรมนูญชุดนี้ ก็ไม่ควรจะมีประเด็นที่มาโต้แย้งกันอีก ในเรื่องของรัฐธรรมนูญในสภาชุดนี้ ถ้าใครยังมีปัญหาเรื่องรัฐธรรมนูญก็ควรจะรอหลังการเลือกตั้ง คิดว่าเรื่องนี้จะจบไปเรื่องหนึ่ง
       
       ผู้สื่อข่าวถามว่า กรณีที่นายชวนออกมาระบุว่า นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ พูดลักษณะเชิงข่มขู่ ส.ส.พรรค ถ้าไม่ให้ความร่วมมือจะไม่ส่งลงสมัครรับเลือกตั้ง นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า เห็นท่านคุยกับตนวันนี้บอกว่า ท่านพูดถึงอดีต แต่วันนี้ไม่มี ท่านถึงไม่มีปัญหาอะไร ท่านบอกว่าคราวที่แล้วตอนที่เราอภิปรายกันในพรรค มันมีการพูดถึงประเด็นนี้ขึ้นมา มีจริงไม่จริงก็อีกเรื่องหนึ่ง แต่ความรู้สึกอันนี้ ทำให้คนเห็นว่า ถ้ามันมีคงไม่ถูกต้อง แต่ครั้งนี้ไม่มี
       
       เมื่อถามว่าดูเหมือนว่าสมาชิกพรรคบางส่วนมองว่า มีขาใหญ่ในพรรคพยายามโน้มน้าวให้มติออกมาอย่างใดอย่างหนึ่งตามที่ต้องการ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า การโน้มน้าวก็ทำกันทุกคน มีการสอบถามในที่ประชุมพรรคและพูดคุยกัน ความเห็นก็ยังแตกต่างกันอยู่ เมื่อต่อว่า คำว่าสถาบันของพรรคยังมีอยู่หรือไม่ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า มี จะเห็นได้ว่าไม่อย่างนั้นเราคงไม่มีการพิจารณาประชุมอะไรกันตามปกติ เมื่อถามต่อว่าพรรคไม่แตกอย่างที่เป็นข่าวใช่ไหม นายอภิสิทธิ์ ได้แต่ยิ้มไม่ได้ตอบคำถามดังกล่าว
       
       เมื่อถามต่อว่า ตามเป้าหมายที่นายกฯ วางไว้ ถ้ารัฐธรรมนูญผ่าน ปฏิทินการเมืองจะเป็นอย่างไร นายกฯ กล่าวว่า คิดว่าถ้าเรื่องรัฐธรรมนูญจบไปอีกเรื่องหนึ่ง ก็ถือว่าหมดไปอีกเงื่อนไขหนึ่ง ในเรื่องของปัญหาที่ว่าจะยุบสภา ที่อาจจะมีปัญหาเรื่องกติกา ที่ยังค้างคาใจกันอยู่ เพราะที่ผ่านมาเคยบอกว่าอยากให้ตกลงเรื่องกติกาให้ชัดก่อนการเลือกตั้ง ถ้าเรื่องนี้เสร็จไป ก็ช่วยให้เรามีความมั่นใจในเรื่องการจัดการเลือกตั้งที่จะเป็นที่ยอมรับมาก ขึ้น เมื่อถามว่า เท่ากับว่า 3 เงื่อนไขครบ ทั้งเศรษฐกิจ กติกาและเรื่องความสงบ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ยังเหลือเรื่องความสงบ ตัวนั้นจะเป็นตัวสุดท้าย แต่วันนี้ถือว่าดีขึ้นโดยลำดับ เมื่อวานตนได้สอบถามบรรยากาศการสมัครรับเลือกตั้งก็ยังมีอยู่ประปราย ซึ่งจะรอดูการเลือกตั้งซ่อม เหตุการณ์สงบเรียบร้อยหรือไม่ด้วย
       
       ผู้สื่อข่าวถามว่า หมายความว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญครั้งนี้ เพื่อปูทางไปสู่การยุบสภา และการเลือกตั้ง นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ถูกต้อง ตนได้บอกมานานแล้วว่า ก่อนที่จะยุบสภาควรจะได้ข้อยุติในเรื่องรัฐธรรมนูญก่อน วันนี้ตนคิดว่า 3 วันนี้จะทำให้สภาจะได้ข้อยุติในเรื่องรัฐธรรมนูญ

ตอบกลับอย่างรวดเร็ว

ชื่อ:
การยืนยัน:
กรุณาเว้นช่องนี้ว่างไว้:
พยัญชนะไทยตัวที่สอง:
shortcuts: กด alt+s เพื่อตั้งกระทู้ หรือ alt+p แสดงตัวอย่าง