ข่าว:

ทดลองใช้งานบอร์ดตะลุง ที่อยู่ในขั้นตอนการกู้คืนข้อมูล เบื้องต้นมีแต่กระทู้ (ข้อความ) กำลังกู้รูปภาพ ไฟล์แนบต่าง ๆ คาดว่าจะทยอยสมบูรณ์ภายในไม่ช้า

Main Menu

ออมสินขายบอนด์1หมื่นล.ปลายปี ชูดบ.3%นาน3ปีเปิดศึกดูดเงินฝากหนุนปล่อยกู้รัฐ

เริ่มโดย ทีมงานบ้านเรา, 15:27 น. 21 ก.ย 55

ทีมงานบ้านเรา

ประชาชาติธุรกิจออนไลน์

นายธัชพล กาญจนกูล รองผู้อำนวยการอาวุโส และรักษาการผู้อำนวยการธนาคารออมสิน เปิดเผยกับ "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า ธนาคารเตรียมออกพันธบัตร (บอนด์) ออมทรัพย์วงเงิน 5,000-10,000 ล้านบาท อายุ 3 ปี อัตราดอกเบี้ยเฉลี่ยประมาณ 3% คาดว่าจะเสนอขายก่อนสิ้นปีนี้ ทั้งนี้ การระดมเงินด้วยการออกพันธบัตร เพื่อต้องการลดต้นทุนค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ของธนาคาร ประกอบกับการขายพันธบัตรจะมีต้นทุนการออกที่ต่ำกว่าเมื่อเทียบกับการออกสลากออมสินที่มีต้นทุนอยู่ประมาณ 0.25-0.50 บาทต่อสลาก

"เราศึกษารูปแบบการออกบอนด์มา ระยะเวลาหนึ่งแล้ว คาดว่ากระแสตอบรับจะดีเหมือนกับที่แบงก์กรุงไทยและธนาคารอาคารสงเคราะห์ออกไปก่อนหน้านี้ ซึ่งในเบื้องต้นเราจะออกทดลองตลาด เพราะที่ผ่านมาออมสินยังไม่เคยออกบอนด์ และคิดว่าอาจเปิดขายให้เฉพาะกองทุนสถาบันก่อน จะซื้อหมดทั้งลอตก็ได้ การออกบอนด์ถือเป็นการระดมทุนอีกช่องทางหนึ่ง เพราะปัจจุบันเงินฝากโตไม่ทันใจ เราจึงต้องหาแนวทางอื่น ๆ มาเสริมบ้าง ซึ่งเราจะต้องขออนุญาตกระทรวงการคลังด้วย คิดว่าไม่น่าจะติดขัดปัญหาอะไร" นายธัชพลกล่าว

นายธัชพลกล่าวอีกว่า การออกพันธบัตรในครั้งนี้ ทำให้ธนาคารยังสามารถต่อยอดและสนับสนุนรัฐบาลลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน อาทิ รถไฟฟ้า, โครงการทวาย รวมถึงโครงการอื่น ๆ ที่รัฐบาลต้องการให้ธนาคารรัฐเข้าไปมีส่วนร่วม ขณะเดียวกัน รูปแบบออกพันธบัตรเพื่อระดมทุนให้รัฐบาลในอนาคต อาจมีรูปแบบพันธบัตรระยะยาว 3-5 ปี ส่วนกรอบวงเงินในการออกพันธบัตรต้องขึ้นอยู่กับแต่ละโครงการ แต่น่าจะอยู่ในวงเงิน 40,000-50,000 ล้านบาท ตามมูลค่าโครงการที่รัฐบาลต้องการขอกู้

สำหรับการระดมเงินเพื่อมาสนับสนุน การปล่อยเงินกู้ให้รัฐบาลนั้น นายธัชพลคาดว่าธนาคารจะได้รับผลตอบแทนในรูปส่วนต่างอัตราดอกเบี้ย เช่น ธนาคารออกพันธบัตรระยะยาว 3-5 ปี คิดอัตราดอกเบี้ยเฉลี่ยใกล้เคียงตลาดที่ 3.2% ต่อปี หากนำไปปล่อยกู้ให้รัฐบาล ธนาคารอาจคิดอัตราดอกเบี้ยที่ 4.2% ซึ่งส่วนต่างดอกเบี้ย 1% ก็จะกลับเข้าสู่ระบบธนาคารเป็นผลกำไร อย่างไรก็ตาม แผนการระดมทุนดังกล่าวยังไม่ได้หารือกับรัฐบาล แต่เนื่องจากที่ผ่านมาธนาคารเคยสนับสนุนแหล่งเงินกู้ให้กับรัฐบาลมาก่อนหน้า ในครั้งนี้จึงเตรียมแผนระดมเงินเพื่อรองรับนโยบายของรัฐบาลได้

สำหรับผลดำเนินงานในปีนี้ คาดว่าธนาคารจะมีผลกำไรเกินเป้าหมายที่ 19,000 ล้านบาท เป็น 21,000 ล้านบาท เนื่องจาก 2 เดือนที่ผ่านมา ก.ค.-ส.ค. ธนาคารสามารถทำกำไรเพิ่มขึ้นมาเฉลี่ยที่เดือนละ 2,000 ล้านบาท จากก่อนหน้านี้ที่อยู่เพียง 1,600 ล้านบาท ซึ่งทำให้ภาพรวมต้นปีถึงปัจจุบันมีกำไรเกินเป้าหมายไปแล้ว 600 ล้านบาท ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นผลจากธนาคารมีการลดรายจ่ายและเพิ่มรายได้มากขึ้น

ด้านนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ปาฐกถาในงานสัมมนา "โครงสร้างบริหารจัดการภาครัฐ ด้าน SMEs" ว่า แนวทางการส่งเสริมและช่วยเหลือเอสเอ็มอีของภาครัฐนั้น ส่วนหนึ่งกระทรวงการคลังมีแผนจะใช้ธนาคารเฉพาะกิจของรัฐ เป็นกลไกในการขับเคลื่อนและให้การช่วยเหลือเอสเอ็มอีให้สามารถแข่งขันได้ ซึ่งปัจจุบันประเทศไทยมีโครงสร้างเศรษฐกิจที่ดีและแหล่งเงินทุนที่พร้อมภายใต้ธนาคารเฉพาะกิจที่มีความแข็งแกร่ง อาทิ ธนาคารออมสิน ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร หรือ ธ.ก.ส. ฯลฯ

"ในอนาคต หากจะเห็นธนาคารรัฐเข้าไปมีบทบาทในการช่วยเหลือเอสเอ็มอีมากขึ้น ก็ไม่แปลก เป็นการเพิ่มบทบาทของธนาคาร อาทิ ธอส. ที่ปัจจุบันบทบาทธนาคารค่อนข้างจำกัด หากอนาคตจะเห็น ธอส.เข้าไปมีส่วนร่วมในการปล่อยสินเชื่อให้กับผู้ที่ดูแลพืชผลทางการเกษตรก็ถือเป็นเรื่องที่ดี หากจะสามารถส่งเสริมและช่วยเหลือเอสเอ็มอีไทยให้แข็งแกร่งได้" นายกิตติรัตน์กล่าว
สนับสนุนการขับเคลื่อนโดย
- ฮอนด้าพิธานพาณิชย์-อริยะมอเตอร์ www.phithan.co.th/hondaphithan
- ปาล์มสปริงส์ & ซิตี้รีสอร์ท บ้านและคอนโดคุณภาพจากเครืองศุภาลัย www.hatyainakarin.com
- ธีระการช่าง หาดใหญ่ (เยื้องบิ๊กซีคลองแห) โทร 086-4910345 www.facebook.com/teerakarnchanghy
- เอนกการช่าง ผู้นำการพัฒนาเครื่องจักรกลเกษตร โทร 081-7382622 www.an-anek.com/contact.php
รีวิวธุรกิจ เกาะติดบ้านเมือง ร้อยเรื่องท้องถิ่น TLP 0897384215