ข่าว:

ทดลองใช้งานบอร์ดตะลุง ที่อยู่ในขั้นตอนการกู้คืนข้อมูล เบื้องต้นมีแต่กระทู้ (ข้อความ) กำลังกู้รูปภาพ ไฟล์แนบต่าง ๆ คาดว่าจะทยอยสมบูรณ์ภายในไม่ช้า

Main Menu

แบงค์ชาติ จัดสัมมนา “แนวโน้มเศรษฐกิจไทยปี 2556 รุ่งหรือร่วง”

เริ่มโดย ทีมงานประชาสัมพันธ์, 12:52 น. 03 ต.ค 55

ทีมงานประชาสัมพันธ์

วันนี้(3 ตุลาคม 55) เวลา 9.00 น. ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย ดร.ประสาร ไตรรัตน์วรกุล ได้เป็นประธานเปิดงานสัมมนาทางวิชาการ ประจำปี 2555  ทิศทางนโยบายของธนาคารแห่งประเทศไทยในปี 2556  "แนวโน้มเศรษฐกิจไทยปี 2556 รุ่งหรือร่วง" ณ ศูนย์ประชุมนานาชาติฉลองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี  โดยมี นายพฤทธิพงศ์ ศรีมาจันทร์ ผู้อำนวยการอาวุโส ธนาคารแห่งประเทศไทย สำนักงานภาคใต้ ให้การต้อนรับ และกล่าวรายงาน งานนี้ได้รับเกียรติจากแขกผู้มีเกียรติหลายท่าน มาร่วมรับฟังกัน

มีผู้ร่วมเสวนาคือ ดร.ปรเมธี วิมลศิริ รองเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ , นายฉัตรชัย บุญรัตน์ รองประธานกรรมการหอการค้าไทย , ดร.วิรไท สันติประภพ รองผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย

แบงค์ชาติชี้ ภาวะและแนวโน้มเศรษฐกิจ การฟื้นตัวจากส่วนต่างๆโดยเฉพาะ "กำลังภายใน" ของเศรษฐกิจในประเทศนั้น ช่วยเป็นแรงขับเคลื่อนให้เศรษฐกิจไทยในครึ่งแรกของปีขยายตัวได้ร้อยละ 2.2 ซึ่งมากกว่าที่แบงค์ชาติประเมินไว้ ถึงแม้ว่าการส่งออกจะมีสัญญาณไม่ดีนักเพราะเริ่มมีอาการเจ็บป่วยแทรกซ้อนจากปัญหาเศรษฐกิจโลก  ซึ่งแบงค์ชาติคาดว่า ปัจจัยต่างๆเหล่านี้จะช่วยให้เศรษฐกิจมีแรงส่งได้ต่อเนื่องในปีนี้ และคาดว่าทั้งปีเศรษฐกิจจะขยายตัวได้ใกล้เคียงกับที่คณะกรรมการนโยบายการเงินคาดไว้(ร้อยละ 5.7 ณ กันยายน 2555 )

สำหรับปีหน้า แบงค์ชาติมองว่าเงินเฟ้อมีแนวโน้มอยู่ในกรอบเป้าหมายที่ร้อยละ 0.5 ถึง ร้อยละ 3.0 แต่แรงส่งทางเศรษฐกิจมีแนวโน้มจะชะลอลง ทำให้ความเสี่ยงต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจจะกลับมาเป็นประเด็นหลัก

ความหวังสำหรับเศรษฐกิจไทยในปีหน้า จึงต้องจับตาว่า จุดแข็งด้านเสถียรภาพเศรษฐกิจชองไทยที่อยู่ในเกณฑ์ดีในช่วงที่ผ่านมาและแรงชับเคลื่อนจากเศรษฐกิจในประเทศจะช่วยเป็นเกราะป้องกันหรือบรรเทาผลกระทบของเศรษฐกิจโลกได้มากน้อยเพียงใด

ในส่วนของการดำเนินนโยบายในช่วงที่ผ่านมา หลักการของ ธปท. และแนวนโยบายในปี 2556 ดร.ประสาร กล่าวเพิ่มเติมว่า การเสริมจุดแข็งด้านเสถียรภาพเศรษฐกิจเป็นหน้าที่โดยตรงของแบงค์ชาติ ภายใต้แนวโน้มเศรษฐกิจและปัจจัยเสี่ยงดังกล่าว ในปีหน้า แบงค์ชาติจะยังคงดำเนินนโยบายโดยมุ่งเน้นเตรียมความพร้อมให้เศรษฐกิจมีเสถียรภาพและมีความแข็งแกร่งพร้อมรับมือความท้าทายในด้านต่างๆ  (นโยบายการเงิน) แรงกดดันเงินเฟ้อมีแนวโน้มลดลง การดำเนินนโยบายจึงมีความยืดหยุ่นมากขึ้นทั้งในแง่จังหวะที่จะใช้และเครื่องมือต่างๆเพื่อเตรียมความเข้มแข็งให้เศรษฐกิจ กล่าวคือ นโยบายการเงินสามารถผ่อนปรนได้ในจังหวะที่เหมาะสมเพื่อช่วยสนับสนุนเศรษฐกิจ  การมองรอบด้านและคำนึงถึงสถานการณ์ต่างๆ เหล่านี้ช่วยทำให้การดำเนินนโยบายทำได้ถูกจังหวะและเกิดประสิทธิผล

เรื่องนโยบายสถาบันการเงิน  แบงค์ชาติมีแนวทางมุ่งเน้นเสริมสร้างความเข้มแข็งของระบบสถาบันการเงิน โดยมุ่งรักษาความมั่นคงของระบบสถาบันการเงินและเพิ่มประสิทธิภาพให้ระบบสถาบันการเงิน จะทำให้ระบบสถาบันการเงินซึ่งเป็นจุดแข็งของระบบเศรษฐกิจการเงินไทย สามารถช่วยเป็นเกราะรองรับความผันผวนจากเศรษฐกิจโลกในปีหน้าได้

สำหรับธุรกิจสถาบันการเงินบางประเภท  เช่น สินเชื่อเช่าซื้อ (Hire – Purchase) สินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ (Leasing) แม้ไม่อยู่ในการกำกับดูแลของแบงค์ชาติ แต่การยึดแนวทางให้ความรู้ความเข้าใจเรื่องการเงินคงจะช่วยสร้างภูมิคุ้มกันให้ประชาชนได้บ้าง  โดยแบงค์ชาติได้ตั้งศูนย์คุ้มครองผู้ใช้บริการทางการเงิน สายด่วน 1213

แบงค์ชาติตระหนักถึงผลกระทบทางเศรษฐกิจที่เกิดขึ้น จึงได้เตรียมพร้อมออกแผนแม่บทเงินทุนเคลื่อนย้าย เพื่อให้เงินทุนสามารถไหลเข้าออกได้สมดุลมากขึ้น  และในการดำเนินนโยบายต่างๆของแบงค์ชาติ เราให้ความสำคัญกับการสื่อสารแนวนโยบายต่อสาธารณชนอยู่เสมอ การนำนโยบายต่างๆมาใช้ในทางปฎิบัติให้สัมฤทธิ์ผล การประสานงานระหว่างหน่วยงานทั้งภาครัฐและภาคเอกชนเป็นสิ่งสำคัญ

"การดำเนินนโยบายของแบงค์ชาติไม่ใช่ส่วนเดียวที่จะช่วยให้เศรษฐกิจไทยในปีหน้า ไม่"ร่วง" การดำเนินนโยบายของรัฐบาลและภาคเอกชนเองก็มีบทบาทสำคัญเช่นกัน"  ดร.ประสาร กล่าวสรุป

ข้อความ

ได้ยินเรื่องแบงค์ชาติแล้ว
อดคิดถึงเรื่อง  ปรส. 8แสนล้าน  คิดถึงรถประจำตำแหน่ง 12 ล้าน คิดถึงความเหมาะสมเงินที่แบ้งค์ชาติบริจาคให้บุคคล/องค์กร(ของใคร??)ที่ผ่านมาแล้ว รู้สึกสะอิดสะเอียน


เดินติดดิน

ไม่มีความสามารถที่จะมีรถประจำตำแหน่งกับเขาก็อย่าอิจฉาเขาต่ะ เราได้แค่เบ็นส์หางปลาก็พอใจ

เงินโหมเราเพ

ภาษีเงินโหมเราเพ เข้าห้างเข้า7-11ไปตลาดก็เสียภาษีทุกขั้นตอน ไม่เสียดายพรื่ออ่อถ้าไม่โกงกิินกันป่านนี้โหมเราก็ได้ซื้อของถูกลงมีเงินเก็บมีรถเบนซ์หางปลาขับสัก2-3คันกันแล้วหรือมีบ้านกันสัก2-3หลังให้เอยู่กันคนล่ะหลังสบายแฮ