ข่าว:

ทดลองใช้งานบอร์ดตะลุง ที่อยู่ในขั้นตอนการกู้คืนข้อมูล เบื้องต้นมีแต่กระทู้ (ข้อความ) กำลังกู้รูปภาพ ไฟล์แนบต่าง ๆ คาดว่าจะทยอยสมบูรณ์ภายในไม่ช้า

Main Menu

โครงการปรับปรุงตลาดสดลีรถไฟ เมืองสงขลา

เริ่มโดย ลูกแมวตาดำๆ, 22:08 น. 03 ต.ค 55

coldman

ผมว่าเรื่องค่าเช่า๒๖๕๐บาทต่อเดือนก็พอสมควรอยู่ แต่ทางลีจะต้องชี้แจงว่าจะปรับปรุงตัวอาคารอย่างไรบ้าง ผู้เช่าจะได้ไม่รู้สึกถูกเอาเปรียบเกินไป เช่นอาจจะเปลี่ยนกระเบื้องหลังคาที่ใช้เกือบ ๓๐ ปีแล้ว ทาสีบ้านใหม่หรืออะไรก็ตามแต่จะต้องให้ชัดเจนไม่ใช่พูดลอย ๆ วันนี้อย่างพรุ่งนี้อย่าง ทำให้ชาวบ้านไม่เชื่อใจ เพราะไม่ว่าคุณจะเช่าบ้านหรืออพาร์ทเมนท์ ถ้าจะขึ้นค่าเช่าเค้าก็จะต้องมีการปรับปรุงบางส่วนให้อยู่แล้ว ในสัญญาที่ลีทำกับการรถไฟเองก็ระบุอยู่แล้วว่าจะต้องมีงบปรับปรุงอย่างน้อย ๓๒ ล้าน ซึ่งส่วนนี้ไม่ควรจะนำมารวมกับการสร้างศูนย์การค้าใหม่เพราะมันจะดูไม่ยุติธรรม

เรื่องบ้านที่จะถูกไล่ที่ ๑๓ หลัง จะได้ค่าขนย้ายหลังละ ๑๐๐,๐๐๐บาท แล้วบอกว่าเป็นผู้เสียสละนั้น  เวลาจะไล่คุณก็บอกว่าเป็นพื้นที่โทรม ๆ เวลาจะต่อสัญญาก็บอกว่าที่ค่าต่อสัญญาแพงเพราะบวกค่าความเจริญ คุณเองก็บอกว่าตอนนี้บ้านเซ้งกันราคา ๗-๘แสนแล้วคุณจะให้บ้านละ แสน มันน้อยไปหน่อยมั๊ย เค้าต้องเสียสละเพื่อให้พวกคุณรวยขึ้นนะ เพราะผลโยชน์ส่วนใหญ่ก็ตกอยู่ลีทั้งนั้น ทีบ้านบริเวณหลังสถานีที่เป็นบ้านไม้เล็ก ๆ คุณยังให้ค่าย้ายหลังละหลายแสนได้

ค่าต่อสัญญาเช่าที่ลี ทำกับรถไฟจำนวน ๓๗ ล้าน ถ้าเอาจำนวนบ้านในโครงการมาหาร ก็จะได้ ๒๕๐,๐๐๐ กว่า ๆ เท่านั้น เซ็นสัญญา ๓๑ สิงหาคม ๒๕๕๕ พอกันยาคุณให้ทุกบ้านมาเซ็นสัญญา ค่าต่อสัญญา ๕๕๐,๐๐๐-๘๐๐,๐๐๐ บาท ได้เงินไปประมาณ ๘๐ ล้าน คุณคิดกำไรเกินไปหรือป่าว มันยุติธรรมกับชาวบ้านรึป่าว สำหรับสัญญา ๙ ปี ไม่ใช่ไปเซ็นสัญญามาแล้ว คุณมีสิทธิ์จะเรียกร้องเท่าไหร่ก็ได้ เพราะถ้ามีเท่าไหร่เอามาให้หมดนะ มันคือการปล้นแล้ว ไม่ใช่การต่อสัญญา ถ้าวันหน้าหมดสัญญา ๙ ปีคุณจะเรียกร้องเท่าไหร่ก็จะต้องให้คุณอย่างนั้นหรือ มันไม่ใช่นะ คิดดูดีดี

ลูกแมวตาดำๆ

ขอสอบถามทาง บ.มิตรทอง เกี่ยวกับโครงการห้างสรรพสินค้า "ลี ดีพาร์ทเม้นท์สโตร์ ช้อปปิ้งแอนด์มูฟวี่" มีรายละเอียดเบื้องต้นวางไว้อย่างไร สนใจค่ายโรงหนังค่ายไหนครับ

ส่วนหนึ่งผมก็สนับสนุนห้างนี้ เป็นการพัฒนาพื้นที่ห้าง แต่ขอแค่ว่า อย่ากระทบพื้นที่อาคารสถานี อย่าสร้างอะไรเพิ่มทับพื้นที่แนวรางรถไฟ จนถึงป้ายประเพณีสถานีรถไฟด้านทิศเหนือก็เพียงพอแล้วครับ หรือพัฒนาแค่ตัวโรงหนังเฉลิมทองเก่าน่ะครับ

บ้านรถไฟ

อ้างจาก: บ.มิตรทองสงขลา เมื่อ 22:44 น.  11 ต.ค 55
สวัสดีครับ  ผมในฐานะกรรมการและเป็นตัวแทนบริษัท มิตรทองสงขลา จำกัด ซึ่งได้รับฟังข่าวสารมาตลอดแต่ไม่ได้โต้ตอบและแก้ข้อกล่าวหา  เพราะไม่อยากทำให้เรื่องบานปลาย ซึ่งยอมให้กลุ่มบุคคลบางกลุ่มได้กล่าวหาในแง่ลบมาโดยตลอด แต่เมื่อทุกอย่างเริ่มมีการใส่ร้ายป้ายสีมากขึ้น และข้อมูลที่แจ้งออกมาไม่ได้ตรงกับความเป็นจริงเลย เป็นการให้ร้ายป้ายสีทุกอย่างและเท่าที่จะทำให้บริษัทและผู้บริหารได้รับความเสื่อมเสียและเสียหาย สร้างข่าวให้มองภาพในด้านลบมาโดยตลอด ดังนั้นทางบริษัทจะขอตอบชี้แจง ณ ที่นี้และทุกท่านก็จะทราบความเป็นจริงว่าอะไรคืออะไร
   ที่มีข้อความแจ้งว่า ต้องมีการขับไล่ผู้อยู่อาศัยเดิมออกเกือบ 10 ครอบครัวเป็นเพียงเพราะการที่บริษัทตอบรับเงื่อนไขจากการรถไฟให้จ่ายค่าเช่า, ค่าธรรมเนียมที่สูงขึ้น รวมมูลค่าต่อสัญญากว่า 65 ล้านบาท และมีค่าปรับปรุงตลาดในโครงการกว่า 30 ล้านบาท ซึ่งยังไม่รวมดอกเบี้ยเงินกู้ที่ทางบริษัทได้ขอไว้ที่จะต้องจ่ายดอกเบี้ยกว่าเดือนละ 300,000-400,000 บาทต่อเดือน
โดยการที่บริษัทมิตรทองไม่ต่อสัญญาให้กับผู้เช่าบางส่วน เพียงเพราะต้องการที่จะนำโครงการที่จะพัฒนาพื้นที่ให้สามารถดึงดูดผู้สนใจพื้นที่มาช่วยกันพัฒนาเศรษฐกิจบริเวณในโครงการและต้องใช้พื้นที่พอสมควรจึงเลือกใช้โรงภาพยนตร์เก่าและคูหาข้างเคียงเพื่อให้กระทบน้อยที่สุด ซึ่งโครงการห้างนั้นจำเป็นต้องใช้พื้นที่พอสมควรจึงสามารถดึงดูดความน่าสนใจครับ เมื่อเกิดแล้วอาคารข้างเคียงก็มีรายได้มากขึ้นใช่หรือไม่ซึ่งทางบริษัทก็มิได้ให้ย้ายออกทันที บริษัทให้บ้านเหล่านั้นอยู่อาศัยปราศจากค่าเช่าไปจนถึงสิ้นปี (ตั้งแต่สิงหาคม-ธันวาคม 2555) โดยไม่ต้องจ่ายค่าเช่าและบริษัทได้ให้ค่าเยียวยาจำนวน 100,000 บาทต่อคูหาครับ ซึ่งบริษัทถือว่าอาคารที่ได้รับผลกระทบเหล่านั้นเป็นผู้เสียสละให้กับส่วนรวมในการพัฒนาพื้นที่โครงการนี้ให้ทุกคูหาได้มีความเจริญต่อไป

โดยที่การรถไฟนั้นได้ปรับขึ้นมาตามสภาพเศรษฐกิจของพื้นที่ปัจจุบัน และให้บริษัทบุคคลภายนอกนอกมาประเมินค่าเช่า, ค่าเซ้งใหม่โดยไม่ได้อิงจากอัตราเดิม ผมถามว่าทุกท่านในสื่อออนไลน์คิดว่าต้องทำธุรกิจอะไรที่จะสามารถคืนทุนในพื้นที่โทรมๆของตลาดและอาคารพาณิชย์ที่เอาไว้เก็บของและอยู่อาศัย ซึ่งไม่ได้ทำธุรกิจอะไรเลย ทั้งๆที่เป็น "อาคารพาณิชย์" และอยู่ในเขตพื้นที่ที่มีความเจริญ และที่คุณบอกว่าไม่ผิดสัญญาอะไรเลย อยู่อาศัยมา 10-20 ปี ที่จะบอกความจริงคือทุกท่านและบริวารที่อยู่อาศัยในโครงการรถไฟได้อยู่อาศัยโดยไม่มีสัญญาเช่า (สัญญาได้หมดตั้งแต่เดือน กุมภาพันธ์ พ.ศ.2550) ผมถามว่าหากสัญญาเช่าหมดลงและทุกท่านไม่ต่อสัญญาจะอยู่ไปตลอดได้อย่างไรครับ ก็ต้องออกจากสถานที่ที่เช่าเมื่อหมดสัญญาเช่า ที่ดินนี้เป็นของการรถไฟ ซึ่งเมื่อหมดสัญญาเช่าทางการรถไฟก็สามารถจะยกเลิกสัญญาเช่ากับใครก็ได้ หากบริษัทมิตรทองไม่ยอมรับเงื่อนไขทางการรถไฟก็จะประมูลหาผู้เช่ารายใหม่ที่สามารถรับเงื่อนไขต่าง ๆ ได้ ในทำนองเดียวกันหากอัตราเช่าที่บริษัทได้ตั้งไว้ แล้วผู้เช่ารับไม่ได้ก็ควรสละสิทธ์ และทางบริษัทจะดำเนินการหาผู้เช่ารายใหม่แทน หากจะบอกว่าแพง บริษัทก็อาจจะไม่สามารถหาคนมาเช่าใหม่ได้ แต่ไม่ใช่จะใช้วิธีก่อตั้งกลุ่มมวลชนมาเจรจากดดันข่มขู่ผู้ให้เช่า(เจ้าของที่) และยื้อเวลาอยู่ต่อไปโดยไม่จ่ายค่าเช่าโดยให้วันเวลาผ่านไปเรื่อยๆซึ่งกลุ่มเหล่านั้นไม่มีต้นทุนแต่ทางบริษัทต้องรับภาระดอกเบี้ยเดือนละ300,000-400,000บาท ซึ่งผมถามทุกท่านว่าบ้านอาคาร 2 ชั้น, 3ชั้นในโครงการ พวกท่านจะเช่าในราคา 1,000 บาท ในมุมกลับกันถ้าคุณเป็นผู้ให้เช่าควรจะให้ราคาที่เท่าไหร่เทียบกับราคาข้างเคียงปัจจุบันครับ โดยในปัจจุบันอาคารพาณิชย์ 2 ชั้นในโครงการนั้นให้เช่าช่วงต่อเอง ซึ่งผิดกฎสัญญาของบริษัทมิตรทองในอัตราตั้งแต่ 5,000 – 8,000 บาท และอาคารพาณิชย์ 3 ชั้นให้เช่าช่วงต่อสูงถึง 15,000 บาท-20,000บาทต่อคูหา แต่ทางกลุ่มผู้เช่าเสนอให้บริษัทในอัตราที่เดือนละ 1,000 บาทต่อเดือนและค่าเซ้งที่ 50,000 บาท ซึ่งเหมาะสมและเป็นธรรมกับผู้ให้เช่าหรือเปล่าครับ ในสภาพของภาวะเศรษฐกิจปัจจุบัน
   ตอบข้อ 2 ครับ ที่บอกว่าอยู่ในพื้นที่อนุรักษ์ ขอบอกว่าโครงการดังกล่าวอยู่ในอาณาเขตพื้นที่สัญญาเช่าของบริษัทมิตรทองแน่นอนครับ โดยสามรถตรวจสอบจากการรถไฟดีกว่าจะได้ข้อมูลที่เป็นความจริงและที่ถูกต้อง หากเป็นพื้นที่อนุรักษ์จะขึ้นเป็นโรงภาพยนตร์ได้อย่างไรครับและการรถไฟก็ไม่ได้แจ้งอะไรเมื่อต่อสัญญาฉบับใหม่ว่าต้องห้ามปรับปรุงในพื้นที่ของกรมศิลป์ในบริเวณโครงการรถไฟและก็คงจะไม่ต่อสัญญาเช่าให้กับบริษัท มิตรทองสงขลา อย่างแน่นอน
   ตอบข้อ 3 ที่บอกว่าบริษัทยังไม่มีการเซ็นต์สัญญาเช่า ผิดครับ เซ็นต์สัญญาเช่ามาตั้งนานแล้วดูจากจดหมายรูปที่แนบมาด้วยดีกว่าครับ แต่บริษัทไม่ได้คิดว่าต้องพิมพ์แจก โดยบริษัทได้ติดประกาศไว้ที่หน้าสำนักงานเพียงเท่านั้นและได้แจ้งให้ผู้เช่าทุกท่านได้เข้ามาติดต่อเพื่อรับข้อมูลการต่อสัญญาที่บริษัท และทางบริษัทจะชี้แจงว่าจะต้องชำระในอัตราเท่าไหร่เพื่อบริษัทจะได้รับทราบถึงผู้มีสิทธ์ในการเช่าที่แท้จริงด้วยเนี่องจากมีการเช่าช่วงต่อกันเองมากมาย
   ตอบข้อที่ 4 ผู้ประท้วงส่วนใหญ่คือผู้เช่าอาคารพาณิชย์ที่ไม่ยอมจ่ายเงินค่าเช่าและค่าธรรมเนียม ส่วนแม่ค้าทางบริษัทยังไม่มีการเก็บค่าเช่าเพิ่มอย่างไรยังคงเก็บในอัตราเดิมอยู่ มีแต่การพัฒนาการทำความสะอาด จัดระเบียบการจอดรถ เพิ่มระบบแสงสว่าง และกำลังเตรียมปรับปรุงหลังคาตลาดให้ดีขึ้นไม่รั่วซึมและเป็นการประหยัดค่าใช้จ่ายของแม่ค้า  เพื่อให้ทุกคนในสงขลาได้ใช้บริการได้อย่างสบายใจ,สะดวกไม่เปียกและสะอาดขึ้น ทุกท่านไม่ชอบหรือครับ
   ผมขอเกริ่นให้ทุกท่านลองทบทวนว่าคุณจะยอมรับราคาค่าเช่า 1,000 บาทต่อคูหาได้หรือไม่ และค่าเซ้งที่ 50,000 บาทครับ กับการลงทุนในโครงการกว่า 100 ล้านบาท ค่าเช่าที่การรถไฟเรียกเก็บจากบริษัทมิตรทองสงขลาปีละ 1,000,000 เป็นปีละกว่า 5,000,000 บาท แล้วคุณไม่กล่าวโทษการรถไฟบ้างละครับ แต่กลับมาลงความผิดที่บริษัทรับสัญญาเช่ามาจากการรถไฟ (เสริมอีกนิด ที่ข่าวออกมาว่าบริษัทปรับอัตราค่าเช่าที่อัตรา 10,000 นั้น เป็นข้อมูลเมื่อ 3-4 เดือนที่แล้ว โดยที่ประกาศกันโครมๆว่า10,000บาทนั้นเพียง12คูหาที่เป็นอาคาร3ชั้นติดถนนปละท่าและคิดคูหาละ5,000บาทสำหรับอาคาร2ชั้นที่เหลือ และคิดเฉพาะชั่วคราวถึงสิ้นปี2555เท่านั้น และบริษัทได้ยกเลิกค่าเช่านั้นไปแล้วด้วยเพราะไม่อยากให้มีปัญหา) และหากมีการต่อสัญญาเช่าฉบับใหม่กับบริษัทปัจจุบันอาคารพาณิชย์ 2 ชั้นบริษัทมีการเรียกเก็บค่าเช่าอยู่ที่เดือนละ 2,650 บาทต่อเดือน และมีค่าเซ้ง(ค่าต่อสัญญา) อยู่ที่คูหาละ 550,000 บาทยกเว้นในส่วนของถนนรามวิถี ซอย 2 มีค่าเซ้ง (ค่าต่อสัญญา) อยู่ที่คูหาละ 600,000 บาท  ส่วนอาคารพาณิชย์ทั้ง 2 ชั้น ละ 3 ชั้น ที่อยู่ห้องหัวมุมมีการเก็บเพิ่มเติมอีกจำนวน 50,000 บาท ในส่วนของอาคารโกดังมีการเก็บค่าเช่าตกเดือนละ 3,000 บาทจำนวน 8 คูหา โดยไม่มีค่าเซ้ง ( ไม่มีค่าต่อสัญญา )  ส่วนอาคารพาณิชย์ 3 ชั้น เก็บค่าเช่าเดือนละ 3,000 บาท ค่าเซ้ง (ค่าต่อสัญญา)  คูหาละ 800,000 บาท ซึ่งบริษัทก็ยอมเก็บอัตราเซ้งเท่ากับที่ทุกท่านได้เซ้งกันเมื่อ20กว่าปีก่อนและเพิ่มเพียงอีกห้องละ100,000-150,000บาท เมื่อเทียบกับความเจริญที่ต่างกันมากมายแต่อัตราเรียกเก็บนั้นใกล้เคียงกับของเดิม ซึ่งทุกวันนี้มีการนำไปเช่าต่อแล้วที่เกือบ 20,000 บาทต่อเดือน ผมถามว่าถ้าคุณเป็นเจ้าของสิทธิ์ครอบครอง คุณจะให้เช่าอัตราเท่าไหร่ ซึ่งในระหว่างการต่อสัญญาทุกบ้านจะอ้างว่าไม่มีสัญญาก็จะไม่จ่ายค่าเช่า แต่การรถไฟได้เก็บอัตราค่าเช่าใหม่400%ปีละกว่า 5,000,000 บาทตั้งแต่ปี กุมภาพันธ์ พ.ศ.2550 ซึ่งบ้านทุกคูหาก็จ่ายอัตราเดิมมาโดยตลอด ทางบริษัทก็มิได้เก็บเงินส่วนต่างเพิ่มเติมแต่อย่างใด ถือว่าจ่ายกันมาแล้วก็ยกผลประโยชน์ไป บริษัทยอมรับผิดชอบส่วนต่างดังกล่าวกว่า 20 ล้านบาท ซึ่งเมื่อบริษัทต้องจ่ายค่าเช่าให้การรถไฟในอัตราใหม่และรอให้การรถไฟเซ็นต์กลับมา และต้องเสนอแบบแปลนปรับปรุงอีกกว่า 30 ล้านบาท ทำให้บริษัทคิดว่าคงใช้ระยะเวลาประมาณครึ่งปี ดังนั้นจึงขอความเห็นใจจากทุกท่านโปรดช่วยกันบ้างนิดหน่อย จากบ้านหลังละ 600 บาท(ค่าเช่าถูกหรือไม่,โดยไม่คิดค่าเซ้ง) ปรับขึ้นมาบ้างหากทุกท่านช่วยกันก็แค่สามารถจ่ายค่าดอกเบี้ยได้เท่านั้นเอง แต่ก็ยังดีครับ เพราะบริษัทไม่มีมรดกและสมบัติจากไหนส่งมาให้ ทุกอย่างต้องขอกู้จากสถาบันการเงินทั้งนั้น และที่ปรับ 6 เดือนนั้นทางบริษัทคิดในอัตราตามมาตรฐานที่ละแวกใกล้เคียงที่เช่ากันและปรับลดลงนิดหน่อย เพราะถือว่าที่คุณอยู่ในเวลาที่ชั่วคราวไม่มีค่าเซ้งมารวมด้วย และได้ยกเลิกการคิดอัตราค่าเช่าดังกล่าวนานมาแล้วครับ ยังไม่ได้เก็บบ้านใดบ้านหนึ่งเลย แต่พวกคุณชอบเอาประเด็นดังกล่าวมาจุดฉนวนกระแสต่อต้านบริษัท
   ถ้าบอกว่าบริษัทเก็บค่าเซ้งแพง บริษัทจึงขอให้ช่วยสอบถามดูว่าในการเซ้งเปลี่ยนมือในโครงการตลาดที่ผ่านมา มีการเสนอและเสียค่าใช้จ่ายกันเท่าไหร่ อาคารพาณิชย์ บางแห่งที่ขายอุปกรณ์เบอร์เกอรี่ ขายเสื้อผ้า รองเท้า หนังสือ ละแวกเดียวกับฝั่งตลาดสดบอกว่าบริษัทเรียกเก็บราคาสูง แต่ทางเขาเองเซ้งมาคูหาละ 1 ล้านบาท โดยไม่มีสัญญาอะไรเป็นหลักค้ำประกันเลย และทราบด้วยว่าสัญญาที่ทำกับบริษัทได้กำลังหมดลง และอีกใกล้ๆกันเป็นคลับ, ผับเก่าหัวมุมเขาได้เซ้งกันเองคูหาละ 800,000 บาท เมื่อหลายปีก่อน ซึ่งแทบจะไม่เหลือระยะเวลาเช่าในสัญญาเลย ขอให้ท่านย้อนกลับไปดูว่าสัญญาเช่าทุกท่านที่เช่าจากบริษัทก็เป็นที่ดินของการรถไฟ เมื่อสัญญาหมดก็ต้องออกโดยไม่มีเงื่อนไขหากไม่มีการต่อสัญญากันใหม่ และก็ขอให้ท่านช่วยกลับไปดูสัญญาเช่าเก่าฉบับครั้งล่าสุดที่ท่านได้ทำสัญญาเช่าไว้กับบริษัทมิตรทองว่ามีเงื่อนไขในสัญญาอย่างไร สัญญาเริ่มมีผลบังคับเมื่อใด สิ้นสุดเมื่อใด หน้าที่และความรับผิดของผู้เช่ามีอย่างไร สิทธิอำนาจหน้าที่ของผู้ให้เช่ามีอย่างไร ซึ่งก่อนทำสัญญาเช่าและจดทะเบียนการเช่าทุกท่านคงได้อ่านรายละเอียดข้อความในสัญญาเช่าแล้ว
   บริษัทไม่ได้กระทำการข้ามขั้นตอนในการแจ้งยกเลิกสัญญาเช่า แต่บริษัทได้แจ้งด้วยวาจาเบี้องต้นตั้งแต่ก่อนที่จะได้รับสัญญา และเมื่อได้รับสัญญามาแล้วก็ได้ทำหนังสือแจ้งให้กับทุกท่านเชิญชวนมาติดต่อที่สำนักงานตั้งแต่สิงหาคม-ต้นกันยายนแล้วแต่ปรากฏว่าไม่มีผู้ประสงค์ที่จะมาต่อสัญญาเช่า แล้วจะให้ทางบริษัทดำเนินการอย่างไรในเมื่อทุกท่านไม่ประสงค์ต่อสัญญาเช่า ทางบริษัทจึงทำหนังสือให้ย้ายออกเพื่อที่จะได้หาผู้เช่ารายใหม่

สำหรับข้อมูลอื่นๆ หากทุกท่านสงสัยทางบริษัทจะชี้แจงผ่านทาง Web ดีกว่าและขออย่าได้หลงเชื่อคำพูดกล่าวอ้างและใส่ร้ายป้ายสีต่างๆที่ไม่เป็นความจริง เพราะถ้าทุกท่านดูข้อมูลคร่าวๆที่บริษัทได้อธิบายแล้ว ก็หวังว่าจะเข้าใจหัวอกคนทำธุรกิจที่เดินตามกฎระเบียบต่างๆ และกฎหมาย และบริษัทไม่อำนาจที่จะใช้กฎหมู่ ไม่ใช่คิดจะยื้อไม่จ่ายค่าเช่าและไม่ออกอย่างนี้ ทางบริษัทมีข้อมูลเชิงลึกทุกอย่าง แต่คิดว่าให้ทุกท่านได้พิจารณาเองดีกว่า เพราะบริษัทได้ประชุมกับกลุ่มแกนนำแล้ว ได้บอกกล่าวทุกอย่างแต่กลุ่มแกนนำกลับไม่เปิดเผยข้อมูลให้ครบถ้วน จึงขอเปิดเผยข้อมูลที่ถูกต้องผ่านสื่อสาธารณะดีกว่าครับ และบริษัทขอย้ำอีกครั้งรรับว่าไม่ได้ต้องกากรยุแหย่แต่เพียงแค่ต้องการแก้ไขข้อมูลให้ถูกต้องขอบคุณครับ
   ปล. ท่านใดที่ให้การสนับสนุนกลุ่มบุคคลดังกล่าวโปรดใช้วิจารณญาณในการรับฟังข้อมูลด้วยนะครับว่าถูกต้องเป็นจริงหรือไม่ เพราะหากไปช่วยคนที่ไม่สมควรช่วยเหลือ ก็อาจจะเสื่อมเสียและเสียสิทธิที่ควรพึงจะได้รับได้เหมือนกันและหากเกิดความเสียหายแก่ท่านใครหรือบุคคลคลใดจะเป็นผู้รับผิดชอบให้ท่านได้
   ขอความเป็นธรรมกับบริษัทมิตรทองด้วยที่โดนกล่าวใส่ร้ายมาโดยตลอด

ขอบคุณครับ ที่ได้ชี้แจง และเข้าใจเหตุผล จริงๆ ทางบริษัทควรชี้แจงให้เร็วกว่านี้ การเข้าใจผิด หรือ ไม่เข้าใจทำให้คนทะเลาะกันก็มีเยอะครับ ก็คงต้องอธิบายต่อสำหรับคนที่ยังเข้าใจผิด

country_road

ผมอ่านบางข้อความแล้ว ส.ยกน้ิวให้ แปลว่า มีการอยู่ฟรีมาตั้ง 5 ปีจริงหรือนี่ อยู่ฟรีมาตั้งหวา 100 คูหา ส-เหอเหอ แปลว่าถ้ามีรถเฟอร์รารี่มาจอดมาจอดอยู่ข้างแผงแม่ค้าปลาดุกก็ต้องเป็นรถของแม่ค้าฯ ส.ก๊ากๆ ที่จอดรถปัจจุบันนั่นมันเป็นส่วนรายได้ที่บริษัทฯจัดเก็บค่าจอดทั่วไป ไม่เห็นว่าจะมีป้ายบอกว่าต้องเป็นของคนแถวนั้นนี่คุณ ส.หลก ค่าเช่าที่เคยเก็บ 600 บาทนั่นเป็นสัญญาฯต่อเนื่องแรกเริ่ม ทำไมถึงขาดทุนผมไม่ขอวิจารณ์เพราะเป็นเรื่องส่วนตัวของผู้ประกอบการฯนั้นๆ แต่ให้ข้อคิดว่าหากไม่คุ้มจะทำไปทำไมจิ๋งมายล่ะ ส่วนที่บอกว่าค้าขายทั้งนั้นและรายได้เดือนเป็นหมื่นเป็นแสน อันนี้ถือว่าไม่ยุติธรรม เพราะอาจมีบ้างแต่คงไม่ทุกรายครับ จะเหมารวมหมดถูกต้องแล้วหรือ ทั่นผู้มีการศึกษาฯคงคิดได้ ส.โบยบิน ข้อเท็จจริงเป็นดังนี้ครับ

ก่อนที่จะมีโครงการตลาดรถไฟเมื่อเกือบ 30 ปีแล้วสภาพเดิมคงเป็นที่ทราบได้ ซึ่งตอนนั้นเดะบางคนยังดูดนมขวดอยู่เลย ต่อเมื่อมีบริษัทฯคิดทำโครงการนี้จึงเป็นที่มาฯและทำสัญญาเช่ากัน โดยบริษัทฯลงทุนในส่วนตัวตลาด,โรงหนัง ส่วนอาคารพาณิชย์ ผู้อยู่ชำระเองเต็มจำนวนในราคาสี่-แปดแสน(ขอย้ำยี่สิบกว่าปีแล้ว)และจ่ายค่าเช่าเป็นรายเดือนตามสัญญาฯ จนใกล้ครบสัญญาแต่ไม่ได้รับคำตอบจากเจ้าของที่ตัวจริงจนเลยกำหนดสัญญาจะให้ผู้อยู่ทำพรื่อครับทั่น เพราะเป็นเรื่องของคู่สัญญากับเจ้าของตัวจริง(มิใช่ตัวปลอม)
ที่ทำได้ก็คือจ่ายค่าเช่าอัตราเดิมไปก่อนแหละพี่น้อง หาใช่อยู่ฟรีนะทั่นนะโปรดเข้าจัยด้วย หรือทั่นจะจ่ายเดือนละหมื่นไปก่อนโดยยังไม่รู้คับ? ส.สั่งสอน

ต่อเมื่อมีคนหัวใสๆใส่แว่นตาขยายแล้วคิดว่า มีคนเซ้งกันห้องละล้านถ้าดีดเป็นตัวเงินแล้ว..เหนาะๆ อย่ากระนั้นเลยเข้าสวมซะเลย จ่ายเจ้าของที่ตัวจิงซะ สาม-สี่สิบล้านแล้วเรียกซะ แปดสิบล้านบาท บายตัวหมัยพี่น้อง แล้วอ้างว่าคิดอัตราเดิมทั้งที่สัญญาเหลือไม่ถึง สิบปี ค่าเช่าสามพันปรับเพิ่มอีกทุกปีหรือห้าปีก็ว่าไป ค่าเซ้งต่างหาก แปลว่าไม่ถึงสิบปี ก็ต้องจ่ายค่าเซ้งใหม่อีกในราคาตลาดค่าเช่าอีกต่างหากในอัตราเพิ่มนะพี่น้อง หรอยจั๋งหู้นาพี่น่อง เอาเป็นว่าแค่นี้ก่อนค่อยมาต่อครับ ส.กลิ้ง

country_road

อ้างจาก: coldman เมื่อ 12:39 น.  13 ต.ค 55
ผมว่าเรื่องค่าเช่า๒๖๕๐บาทต่อเดือนก็พอสมควรอยู่ แต่ทางลีจะต้องชี้แจงว่าจะปรับปรุงตัวอาคารอย่างไรบ้าง ผู้เช่าจะได้ไม่รู้สึกถูกเอาเปรียบเกินไป เช่นอาจจะเปลี่ยนกระเบื้องหลังคาที่ใช้เกือบ ๓๐ ปีแล้ว ทาสีบ้านใหม่หรืออะไรก็ตามแต่จะต้องให้ชัดเจนไม่ใช่พูดลอย ๆ วันนี้อย่างพรุ่งนี้อย่าง ทำให้ชาวบ้านไม่เชื่อใจ เพราะไม่ว่าคุณจะเช่าบ้านหรืออพาร์ทเมนท์ ถ้าจะขึ้นค่าเช่าเค้าก็จะต้องมีการปรับปรุงบางส่วนให้อยู่แล้ว ในสัญญาที่ลีทำกับการรถไฟเองก็ระบุอยู่แล้วว่าจะต้องมีงบปรับปรุงอย่างน้อย ๓๒ ล้าน ซึ่งส่วนนี้ไม่ควรจะนำมารวมกับการสร้างศูนย์การค้าใหม่เพราะมันจะดูไม่ยุติธรรม

เรื่องบ้านที่จะถูกไล่ที่ ๑๓ หลัง จะได้ค่าขนย้ายหลังละ ๑๐๐,๐๐๐บาท แล้วบอกว่าเป็นผู้เสียสละนั้น  เวลาจะไล่คุณก็บอกว่าเป็นพื้นที่โทรม ๆ เวลาจะต่อสัญญาก็บอกว่าที่ค่าต่อสัญญาแพงเพราะบวกค่าความเจริญ คุณเองก็บอกว่าตอนนี้บ้านเซ้งกันราคา ๗-๘แสนแล้วคุณจะให้บ้านละ แสน มันน้อยไปหน่อยมั๊ย เค้าต้องเสียสละเพื่อให้พวกคุณรวยขึ้นนะ เพราะผลโยชน์ส่วนใหญ่ก็ตกอยู่ลีทั้งนั้น ทีบ้านบริเวณหลังสถานีที่เป็นบ้านไม้เล็ก ๆ คุณยังให้ค่าย้ายหลังละหลายแสนได้

ค่าต่อสัญญาเช่าที่ลี ทำกับรถไฟจำนวน ๓๗ ล้าน ถ้าเอาจำนวนบ้านในโครงการมาหาร ก็จะได้ ๒๕๐,๐๐๐ กว่า ๆ เท่านั้น เซ็นสัญญา ๓๑ สิงหาคม ๒๕๕๕ พอกันยาคุณให้ทุกบ้านมาเซ็นสัญญา ค่าต่อสัญญา ๕๕๐,๐๐๐-๘๐๐,๐๐๐ บาท ได้เงินไปประมาณ ๘๐ ล้าน คุณคิดกำไรเกินไปหรือป่าว มันยุติธรรมกับชาวบ้านรึป่าว สำหรับสัญญา ๙ ปี ไม่ใช่ไปเซ็นสัญญามาแล้ว คุณมีสิทธิ์จะเรียกร้องเท่าไหร่ก็ได้ เพราะถ้ามีเท่าไหร่เอามาให้หมดนะ มันคือการปล้นแล้ว ไม่ใช่การต่อสัญญา ถ้าวันหน้าหมดสัญญา ๙ ปีคุณจะเรียกร้องเท่าไหร่ก็จะต้องให้คุณอย่างนั้นหรือ มันไม่ใช่นะ คิดดูดีดี

"จิ้งจอกเมื่อพบพานกระต่ายป่า ย่อมไม่ปล่อยปละละเว้น แต่เมื่อเผชิญกับสุนัขป่า มันจะหนีเร็วกว่าผู้ใดโดยเฉพาะจิ้งจอกเฒ่า"
สมมตินะครับว่าผมเห็นนายก.ได้เงินมาหนึ่่งล้านบาทแปลว่าคนอื่นต้องมีเงินหนึ่่งล้านด้วยใช่ไหมครับ แบบนี้เขาเรียกว่ารัยครับทั่นCold ผมค่อนข้างจะเห็นด้วยกับทั่นColdแต่ไม่ทั้งหมด เช่นค่าเช่า 2,650 ทั่นคงลืมไปว่าตลอดสัญญาหรือเปล่าหรือปรับทุกปี,5ปียังไม่ทราบจากผู้เกี่ยวข้องโดยตรงเลยครับทั่น ผมมิอาจตอบแทนผู้อื่นได้ว่าค่าเช่าเท่าไรจึงเหมาะสม ควรต้องเป็นผู้ได้รับผลกระทบทุกคนให้ความเห็น ร่วมกับเจ้าของที่ตามคำอ้าง ในส่วน 37 ล้านนั่นถ้าอ่านไม่ผิดน่าจะหมายความว่า"ทั้งโครงการ"มิใช่หรือครับ เอามาโยนใส่ส่วนหนึ่งส่วนใด มันจะแบกไหวหรือครับพี่น้อง มันต้องหันหน้าเข้ากันด้วยความจริงใจมิใช่ถือมีดอยู่ข้างหลัง

ทั่นกล่าวอ้างว่ารวมกลุ่มกันแล้วข่มขู่ทั่นอันนี้มิทราบมีหลักฐานพิสูจน์ได้หรือเปล่า มิเช่นนั้นก็เป็นการพูดเข้าข้างตัวเอง ผมไม่ได้มีส่วนร่วมเพียงแต่อ่านจากข้อความนี้นะ ส.มองลอดแว่น แต่การรวมกลุ่มกันต่อรองอย่ามองว่าเป็นการข่มขู่ซิครับ ทั่นก็น่าจะเห็นเป็นข่าวอยู่เสมอถึงชาวบ้าน,ชาวนา,เกษตรกร รวมตัวกันเรียกร้องความเป็นธรรมมันเป็นเรื่องปกติ หากไม่เดือดร้อนจะเกิดเหตุการณ์อย่างนี้เหรือ? นายทุนก็ต้องออกมุขว่าเป็นกลุ่มเพียงบางส่วนที่เสียผลประโยชน์(มุขเดิมๆ) แต่อ่านในวรรค ปล.ของใครไม่ทราบกล่าวว่า ท่านบางคนที่ไปสนับสนุนคนบางกลุ่มอาจเสียสิทธิ  ส.อืม อันนี้เข้าข่ายข่มขู่หรือเปล่า? อันนี้เหมือนคุ้นๆว่า ท่านที่ไม่ไปใช้สิทธิเลือกตั้งอาจทำให้เสียสิทธิได้(เกี่ยวกันไหมนี่) ส.ตากุลิบกุลิบ เสียสิทธิอะไรไม่ทราบครับ มิใช่แสดงความคิดเห็นในสื่อออนไลน์หรือครับ(โดยมิได้ใช้ถ้อยคำหยาบหรือดูหมิ่น)
จ่ายสี่สิบล้าน(ขอผ่อนอีกต่างหาก)แต่เรียกเก็บแปดสิบล้านในทันทีทันใด แบบนี้เรียกว่าหรัยครับ ช่วยตอบโหน่ย เวลานี้ครบกำหนดขนย้ายหรือยัง? ส.ร้อง เป็นธรรมจริงๆครับผมเชื่อ,ผมเชื่อ

ปล. ขอฝากคำโบราณกล่าวไว้ว่า "เรือนั้นลอยได้ก็ด้วยอาศัยน้ำ และน้ำก็สามารถจะล่มเรือได้" อันนี้เป็นจริงทุกยุคสมัยประสาอะไรกะเรือพาย

ทิวสน(ผู้ได้รับผลกระทบ)

อ่านความเห็นแล้วสงสัยครับว่า คุณรู้ได้งัยครับว่าบริษัทฯขาดทุนทุกปีซ้ำซากทั้งทีไม่มีข้อความตรงหนัยกล่าวไว้เลย ส.อืม  ยังกะนั่งเก็บเงินให้บริษัทฯมาก่อนถึงได้รู้ลึกซะขนาดนั้น กก
ส่วนที่จอดรถในโรงหนังเป็นรถยี่ห้ออะไรบ้าง คิดว่าคนที่ไม่มีธุระเกี่ยวข้อง คงไม่มีเวลามานั่งดูหรอกครับ ถ้าไม่ใช่คนเก็บเงินให้บริษัทฯ จะไปดูทำไมล่ะครับมันไม่ใช่งาน expo นี่ครับ ยังงั้นค่อยสนใจหน่อย ต่อความเห็นที่ว่าผู้ค้าแถวนั้นรายได้เป็นหมื่นเป็นแสนซะส่วนมากน่ะ  ส.โอ้โห เป็นคำกล่าวที่ไม่ถูกต้องครับ กรรมการคุณเองให้คำตอบชัดเจนแล้วว่า เป็นที่เก็บของบ้าง,อยู่อาศัยบ้าง
อันนี้ชัดเจนพอหมัยครับ แต่มีการให้ข้อมูลที่ไม่ถูกดังนี้
1.ในย่อหน้าที่สองของคุณกรรมการกล่าวว่า การที่ต้องขับไล่บางส่วน เป็นเพียงเพราะบริษัทตอบรับเงื่อนไขของการรถไฟ อ่านแล้วตีความว่า การรถไฟมีเงื่อนไขให้รื้อตึก(ขับไล่)บางส่วนออกเพื่อพัฒนาสูญการค้าอย่างงั้นหรือ?
2.อยู่โดยสัญญาหมดตั้งแต่ปี 50 นั้นกล่าวถูกต้อง แต่คุณไม่ได้กล่าวต่อว่าได้ส่งจนท.มาเรียกเก็บค่าเช่าทุกเดือนตั้งแต่ปี 50 เรื่อยมาในอัตราเดิมตลอด เพราะตอนนั้นคุณก็ยังไม่ได้ต่อสัญญากับรถไฟ คุณคิดว่าเราควรจะจ่ายคุณเท่าไหร่ในเมื่อยังไม่อนาคต และคุณก็เพิ่งได้เข้ามาไตรมาส3 ของปีนี้เองนะ ที่บอกว่าเป็นการอยู่ฟรีนั้นกล่าวเท็จ
3.เมื่อคุณจะขับไล่เขาคุณให้ค่าตอบแทน 100,000 บาทแล้วบอกว่าเสียสละเพื่อส่วนรวมหรือส่วนตัวกันแน่พิจารณากันเอง ได้ถามความเห็นผู้ได้รับผลกระทบหรือเปล่า?หรือส่วนรวมหรือยัง? แล้วสร้างสูญการค้านั่นเพื่อใคร(ส่วนตัวหรือไม่?) ส.อ่านหลังสือ และเวลาจะเรียกเก็บเขาก็บอกว่าราคาตลาดเป็นล้าน อันนี้ยุติธรรมจิงๆ ผู้รับข้อมูลพิจารณาเองได้ หนึ่งในสิบของมูลค่าตามอ้าง
4.ตอบข้อ4 วรรคสอง ทำไมไม่กล่าวโทษรถไฟบ้าง ข้อเท็จจริงคือ คุณ เป็นผู้ทำสัญญาเช่ากับรถไฟ หาใช่ผมไม่ ถือว่าคุณเป็นคู่กรณีกันโดยตรงทำไมไม่ใช้สิทธิ(ไม่กล้า)หรือเปล่าแล้วผลักภาระมาที่ผม ซึ่งไม่ใช่คู่กรณีโดยตรง ทำไมไม่ทำ การกล่าวอ้างตัวอย่าง.เซ็นทรล..มันคนละเรื่องกันครับ ยุติธรรมแล้วหรือ

ผมว่าปรับภูมิทัศน์สถานีให้เป็นแหล่งโบราณสถานควบคู่กับพัฒนาตลาดให้ทันสมัย แม่ค้านำสินค้าพื้นบ้านมาจำหน่าย ให้นักท่องเที่ยวมาชมดูพื้นเพวิถีชีวิตพื้นบ้านน่าจะสอดคล้องกันกว่า การมีห้างสูญการค้ามาบัดบังทัศนียภาพที่ปล่อยให้พังไปตามกาลเวลาแล้วพอมีกระแสขึ้นมา ก็รีบออกตัวว่าเราดูแลไม่ให้คนอื่นเข้ามาใช้ประโยชน์(แต่ตัวเองใช้เป็นที่จอดรถพนักงานส่วนตัว)มันดูไม่จืดเลย
เห็นด้วยหมัย
ก็ว่ากันไปตามขั้นตอนของคุณไปเถอะ ในสื่อออนไลน์ก็ว่ากันไป(ถ้าคุณไม่หนีซะก่อน)

ไข่นุ้ยอย่างแรง

บริษัทเป็นผู้เช่า เค้าจะทำอะไร ไม่ทำอะไร ก็เรื่องของเค้า เค้าจะเก็บค่าเข่าแพงขึ้นก็เรื่องของเค้า ใครรับได้ก็อยู่ รับไม่ได้ก็ไม่ต้องทำสัญญา ง่ายนิดเดียว

บางทีก็เห็นพวกผู้เช่ารายย่อยอยากเสียเงินให้น้อยๆ จนน่าเกียจเกินไป เอาเปรียบเอกชนเยอะแยะ แล้วร้องขอความเป็นธรรม แหมตอนขายกำไรเยอะช่วยจ่ายเค้าพิเศษมัยละ

coldman

เรื่องค่าเช่าขอให้ข้อมูลเพิ่มเติมนะครับ ค่าเช่า ๒๖๕๐ บาทเป็นค่าเช่าปี ๕๕-๖๐ ต่อจากนั้นเพิ่มอีก ๑๐ % เป็น ๒๙๐๐ สำหรับปี ๖๑-๖๕  ส่วนเรื่องค่าต่อสัญญาผมเพียงคิดคร่าว ๆ ให้ดูว่าที่ลีคิดกับชาวบ้านมันมากเกินไป แต่ถ้าจะคิดกันให้ละเอียดมันก็คงต้องน้อยกว่านี้อยู่แล้ว ตอนนี้ได้ข่าวว่าศูนย์การอาจจะระงับโครงการไปแล้วเพราะตัวโรงหนังติดเขตโบราณสถาน ซึ่งทางฝั่งลีเองคงจะไม่ทราบรายละเอียดเรื่องนี้มาก่อน คงเข้าใจว่าเมื่อเซ็นสัญญาแล้วจะสามารถทำอะไรก็ได้ แต่เรื่องบ้านที่จะไล่ยังเหมือนเดิม ได้ข่าวจะจ่ายหลังละแสน แล้วเอาไปปล่อยเซ้งหลังละ ๗-๘ แสน  ส.บ่น ส.บ่นตอนนี้ทางจังหวัดได้แต่งตั้งคณะกรรมการขึ้นมาชุดหนึ่งเพื่อพิจารณาเรื่องนี้โดยมีหลาย ๆ ฝ่ายเข้าร่วมพิจารณาเช่น รองผู้ว่าฝ่ายเศรษฐกิจ นายกเทศมนตรี นายอำเภอเมือง ธนารักษ์ รถไฟ ศิลปากร พาณิชย์จังหวัด เป็นต้น โดยมี ส.ส. เจือ และอัยการจังหวัดเป็นที่ปรึกษา อีกไม่นานก็จะรู้ว่าเรื่องนี้จะจบยังไง ส.หัว ส.หัว ส.หัว หมดเรื่องบ้านแล้วปีหน้าค่อยมาแก้ปัญหาเรื่องตลาดกันอีกคอยดู

ทิวสน(ชัดเจน)

 ส.สู้ๆ รับทราบครับชัดเจน ก็ว่ากันไปตามขั้นตอน(หลวมตัวแล้วนี่) สูญการค้าระงับแล้วหรือครับเสียดายจริงๆ(อุตส่าห์ทำเพื่อส่วนรวม)แต่ข่าวยังคงเป็นข่าวและ/หรือ หยิบโครงการมาปัดฝุ่นใหม่ได้ หากเวลาและโอกาสอำนวยครับ
ครับสิทธิของใครก็เป็นเรื่องของผู้นั้น แต่ต้องตั้งอยู่บนพื้นฐานของการไม่ทำให้ผู้อื่นได้รับผลกระทบ(หรือน้อยที่สุด)หรือได้รับความเดือดร้อน ไม่อย่างนั้นจะมีหน่วยงานเข้ามาดูแลผู้ถูกเอารัดเอาเปรียบหรือครับ ผู้ไม่รับผลกระทบย่อมไม่เกียวข้องอยู่แล้วจริงไหม(หรือเดือดร้อนด้วย) ใครเอาเปรียบใครย่อมพิสูจน์ได้ไม่ยากหรอกครับ โดยปกติผมไม่เคยพบมาก่อนว่าผู้อยู่ในฐานะเช่าจะเอาเปรียบเจ้าของที่  ส.หยิบตาข้างเดียว
ผู้พักอยู่อาศัยเฉยๆก็เป็นเรื่องของเค้า,ผู้ทำการค้าจะกำไรมากหรือน้อยก็เป็นเรื่องของเค้าตราบใดที่ไม่ทำให้ผู้อื่นเดือดร้อนและไม่ทำผิดกม.(โปรดแยกแยะ) แหมพอกำไรเยอะช่วยจ่ายเค้าพิเศษไหมล่ะ ไม่ทราบจ่ายพิเศษอะไรครับ(หมายถึงจ่ายใต้โต๊ะเหรอครับ) แหม!! ผมทำไม่เป็นซะด้วย ส.โทร

มองกลางๆ

ผู้เช่านี่แหละครับตัวดีเลย ค่าเช่าเค้าก็ต้องขึ้นตามภาวะปัจจุบัน ต้นทุนมาสูง ให้ผู้เช่าช่วงที่ได้สัญญาจากการรถไฟแบกคนเดียว แต่ตัวเองจะจ่ายค่าเซ้ง ค่าเช่าถูกๆหรือเอาให้เท่าเดิมเหมือนเมื่อกี่สิบปีที่เคยเก็บ อ้างคำว่าเอาเปรียบพยายามเล่นข่าวในมุมที่เหมือนกับรายย่อยโดนบีบโดนรังแก แต่ถามนิดเคยมองในมุมผู้ลงทุนมั๊ยว่าเค้าได้มาซึ่งการดูแลและบริหารตลสดเนี่ย จ่ายไปเท่าไหร่ ค่าจัดการต่อเดือนเท่าไหร่ การรถไฟลองมาเก็บเองบริหารเอง พวกคุณได้ออกมาร้องแหกปากบอกไม่แฟร์อีกอะ ดูจตุจักรได้ ไม่ใช่จะเอาถูกเอาให้ตัวเองได้อย่างเดียว

coldman

มันเทียบกับจตุจักรไม่ได้หรอกครับไม่เฉพาะเทียบเรื่องเงินค่าเซ้งนะ ทุกอย่างระบบการจัดการ การรักษาความปลอดภัย ความสะอาด  ลองหันมามองตัวตลาดรถไฟก่อนดีกว่าว่าควรหรือไม่ควรทำอะไรบ้าง  ยกตัวอย่างเช่น ของแม่ค้าทีเอามาเตรียมเพื่อจะขายหายบ่อยมาก  วันก่อนมีการจับขโมยในตลาด แม่ค้าก็จับกันเอง ขโมยโดนซ้อมซะน่วมได้ข่าวว่าถึงตายแล้วด้วย  ส.เดี๋ยวโดน ส.เดี๋ยวโดนเรื่องความสะอาด ตลาดรถไฟอาจจะเป็นตลาดเดียวในประเทศไทยหรืออาจจะในโลกก็ว่าได้ที่ไม่มีถังขยะ อยากทิ้งตรงไหนก็ทิ้งได้เลย วันไหนลมแรง ๆ โอ้โฮลองมาดูทอร์นาโดขยะในตลาดซิครับ ปลิวกันว่อนเลย ส.กลิ้ง ส.กลิ้ง เรื่องกลิ่นก็เหมือนกันลองมาแถวร้านบาจาก็ได้ เหมือนอยู่โรงงานแถวแพปลาเลย เหม็นเน่าสุด ๆ  ส.โกรธอย่างแรง ส.โกรธอย่างแรง แต่ก่อนนี้บ.มิตรทองเคยล้างตลาดเดือนละครั้ง แต่ตั้งแต่ลีเข้ามาบริหาร ครึ่งปีเข้าไปแล้วไม่เคยล้างตลาดสักครั้ง คงเสียดายเงินนะ  ส.โขกกำแพง ส.โขกกำแพงและอีกเรื่องนะผมว่าถ้าบ.มิตรทองจัดการเรื่องการทุจริตภายในบริษัทเองได้ ก็จะมีกำไรเพิ่มขึ้นเดือนละเป็นแสนละมั่ง  ว่าแต่กล้ารึป่าวล่ะ ส.ก๊ากๆ ส.ก๊ากๆ

ทิวสน(มองเอียงๆ)

ช่วง2-3ปีมานี้แล้ว รู้สึกพายุทอนาโดจะอ่อนกำลังกว่าซัก 5 ปีทีแล้วปลิวขึ้นหัวเลยครับ(โดยเฉพาะวันอาทิตย์ง่ะ) ครั้นพอผ่านหน้าพายุเจอมรสุม ฝนตกแป๊บเดว น้ำขังถึงข้อเท้าครับ เรื่องถังขยะผมสังเกตว่าเคยตั้งแล้วแต่ค่อยๆหายไปทีละอัน ต้องกล่าวโทษผู้เช่าครับ ส.ตากุลิบกุลิบ
เช่าถูก/แพง ก็เจรจากันสิครับ แต่เท่าที่ทราบตัวแทนฯพยายามขอเจรจาแต่ได้รับการปฎิเสธ(ผิดถูกอย่างไรโปรดชี้แจง) อันนี้ไม่แน่ใจว่ามีนักข่าวเช่าอยู่หรือเปล่าจึงบอกได้มีการเล่นข่าว
กรณีจตุจักรเท่าที่ทราบจากข่าวมีผู้เช่าเป็นพันราย บางส่วนก็ยอมรับเงื่อนไขแต่บางส่วนเห็นว่า สัญญาไม่เป็นธรรมจึงร้องศาลปกครองขอคุ้มครองชั่วคราวซึ่งศาลท่านเห็นว่ามีมูลครับ
หากหน่วยงานรัฐมาเก็บเอง จะมีปัญหาหรือเปล่าเป็นเรื่องอนาคตนี่ ใครจะไปตอบได้ล่ะ?  หากมองอย่างเอียงๆด้านผู้ลงทุนจ่ายไปเท่าไหร่ อ้าววว!!!ก๊อลงทุนก็ต้องจ่ายเองสิครับ แต่การเรียกเก็บค่าเช่าก็ควรนำตัวเลขมาดูกันซีครับ ผู้เช่าเอาเปรียบเจ้าของยังไง?
แต่โดยความเข้าใจส่วนตัว เมื่อมีแผนการพัฒนา,ปรับปรุงตลาด ตามคำกล่าวอ้าง ก็ควรดำเนินการไปด้วยซีครับ?
การจ่ายเงินให้หน่วยงานรัฐ 40 ล้าน(ทั้งโครงการ)เพื่อขอต่อสัญญาแล้วเรียกเก็บผู้เช่า 80 ล้าน...ปรับปรุงไปด้วยสิครับทำได้ทันทีนี่ รออะไรล่ะ?

มองกลางๆ เด็กหาดใหญ่

555 ผู้เช่าเอาเปรียบยังไงไม่น่าถามนะครับ ก็เห็นๆกันอยู่ ผมตามข่าว ก็เห็นผู้เช่าออกมาร้องแหกปากบอกค่าเซ้งค่าเช่าแพงอย่างงั้นอย่างงี้ คือภาษาบ้านๆเรียกหัวหมอ จะเอาถูกๆไว้ก่อน

ธุรกิจ = จุดประสงค์คือทำกำไร แน่นอนครับจะเอาถูกๆฟรีๆ ต้องไปเรียกมูลนิธิมาเซ้งต่อให้พวกพ่อค้าแม่ค้า แต่แน่นอนว่ามันจะไม่มีทางเกิดขึ้น เนี่ยลองให้การรถไฟเรียกเก็บเอง ตามมาตรฐานเดียวกับที่เคยออกเอกสารจะเรียกเก็บที่จตุจักรดิครับ (มาตรฐานที่ว่าคืออิงราคาที่ดิน ณ ปัจจุบัน) พ่อค้าแม่ค้าจะได้อึ้งแดก เพราะมันแพงแน่ๆครับ แพงกว่าที่ลีเรียกเก็บพวกคุณ

ทิวสน

แล้วตกลงได้ข้อสรุปหรือยังล่ะครับ ว่าคืบหน้ายังไงต่อสำหรับปัญหาทียังตกลงกันไม่ได้ เพราะแม้จะมีคณะกรรมการระดับจังหวัด,ตัวแทนการรถไฟฯ,คณะกรรมการฯที่มีส.ส.เจือ เป็นประธาน รวมถึงตัวแทนที่มีส่วนเกี่ยวข้องร่วมพิจารณา ไม่ทราบไปถึงไหนกันแล้ว เห็นเงียบๆไป แต่เท่าที่ทราบ บริษัทฯออกหนังสือแจ้งเสมือนออกหนังสือบอกกล่าว หรือจะฟ้องก็ควรฟ้องให้มันจบๆซะทีครับ
   ปลาใหญ่กินปลาเล็กเป็นกฎธรรมชาติ