ข่าว:

ทดลองใช้งานบอร์ดตะลุง ที่อยู่ในขั้นตอนการกู้คืนข้อมูล เบื้องต้นมีแต่กระทู้ (ข้อความ) กำลังกู้รูปภาพ ไฟล์แนบต่าง ๆ คาดว่าจะทยอยสมบูรณ์ภายในไม่ช้า

Main Menu

“ไทเกอร์” อยู่หรือไป?...มอ'ไซค์ไทยทำ

เริ่มโดย ทีมงานประชาสัมพันธ์, 10:13 น. 10 ต.ค 55

ทีมงานประชาสัมพันธ์

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์   5 ตุลาคม 2555 12:29 น.   

เงียบหายจากตลาด 2 ล้อไปสักพักใหญ่ สำหรับรถจักรยานยนต์ของคนไทยแบรนด์ "ไทเกอร์" จนเกิดคำถามว่าตอนนี้ยังทำตลาดอยู่หรือไม่ หรือว่ายอมยกธงขาวให้กับรถญี่ปุ่นไปหมดแล้ว หรือจะมุ่งขายแต่รถตำรวจ!?... "ปริย มโนมัยพิบูลย์" ผู้จัดการฝ่ายพัฒนาการตลาด บริษัท ไบค์แคร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด พร้อมให้คำตอบ...

       ภาพลักษณ์ใหม่ไทเกอร์
       
       ยืนยันว่ายังทำตลาดในเมืองไทย ไม่ได้หายไปไหน แต่ต้องยอมรับตามตรงว่าเราไม่มีงบประมาณที่จะไปทุ่มสู้กับแบรนด์รถญี่ปุ่นได้ ไม่ว่าเรื่องของเงินทุนการทำตลาดหรือเรื่องของเทคโนโลยี ดังนั้นจึงเกิดความเปลี่ยนแปลงกับแบรนด์ไทเกอร์ เริ่มประมาณ 3 ปีก่อน เรากลับมาเน้นตลาดเฉพาะกลุ่มแนวย้อนยุค โดยใช้พื้นฐานทำสิ่งที่ถนัดในสมัยเคยทำกับคาวาซากิ คือ รถสปอร์ต จนนำมาสู่โมเดลเรโทร 110 และเรโทร สปอร์ต 110 ซึ่งเป็นสองรุ่นหลักที่มีขายอยู่ตอนนี้
       
       เจาะตลาดรถคลาสสิก
       
       จากการสำรวจตลาดพบว่ามีกระแสเรโทรอยู่มากทีเดียว เพราะมีคนนำรถเก่าๆ มาบูรณะใหม่ ยกตัวอย่างเช่น รถตระกูล ซี ซึ่งเป็นรถครอบครัวที่ฮิตมากในกลุ่มนี้ แต่ก่อนเราสงสัยว่ามีคนมาซื้อเครื่องยนต์สำเร็จรูปจากเราเยอะมาก ไม่รู้เอาไปทำอะไร มาทราบภายหลังว่าเอาไปใส่รถประเภทนี้ และยิ่งความนิยมดังกล่าวนับวันมีแต่จะเพิ่มขึ้น จึงมองเห็นโอกาสในการทำตลาดต่อไป

     เปลี่ยนแปลงเพื่ออยู่รอด
       
       การปรับเปลี่ยนครั้งนี้นับเป็นการรีแบรนด์ครั้งใหญ่จากรถจักรยานยนต์ที่เป็นของคนไทยร้อยเปอร์เซ็นต์ มาสู่แบรนด์คนไทยที่ทำรถแนวคลาสสิก ตลอดจนการปรับโครงสร้างโรงงานที่สมุทรปราการ โดยหันมารับงานจ้างประกอบมากขึ้น ซึ่งกำลังการผลิตรวมอยู่ที่ประมาณ 1,200 คันต่อเดือน แบ่งเป็นของไทเกอร์ 300 คัน และทำให้แบรนด์อื่นอีก 900 คัน แต่หลังจากหมดฝนปีนี้จะเข้าสู่หน้าขายอีกครั้ง มีแผนจะขยับการผลิตไทเกอร์เพิ่มเป็น 500 คัน ส่วนยี่ห้ออื่นก็ลดลงไปตามสัดส่วนที่ทำได้
       
       เป้าหมายขายน้อยแต่อยู่นาน
       
       สำหรับยอดขายของไทเกอร์แม้จะไม่มาก เฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 300 คันต่อเดือนเท่านั้น ใกล้เคียงกับกำลังการผลิต เพราะไม่ต้องการให้ทำรถเสร็จแล้วไปจอดค้างอยู่ในสต็อค ดังนั้นยอดสะสมล่าสุด (ม.ค.-ส.ค.) มีประมาณ 2,400 คัน ขณะที่เป้าหมายการขายเราเองก็วางไว้ไม่สูงมากนัก อยากให้ทำได้จริงและเฉลี่ยอยู่เท่านี้ไปเรื่อยๆ ดีกว่า โดยขายผ่านดีลเลอร์ทั่วประเทศ 50 แห่ง แบ่งเป็นในกรุงเทพฯ 10 แห่ง และต่างจังหวัดอีก 40 แห่ง

  รุ่นรถและราคาในปัจจุบัน
       
       มีทั้งหมด 4 รุ่น คือ เรโทร 110 ราคา 31,500 บาท, เรโทร สปอร์ต 110 ราคา 36,000บาท, เอฟโฟร์ 150 ราคา 45,000 บาท และล่าสุดเป็นรถสายพานที่ไม่เคยทำมาก่อน รุ่น สตีทบอมเบอร์ 150 ราคา 55,000 บาท ซึ่งเป็นโมเดลที่บริษัทญี่ปุ่น "โรดบอมเบอร์" ออกแบบและว่าจ้างให้ผลิต โดยไทเกอร์ได้รับสิทธิ์การขายรถรุ่นนี้ในประเทศไทยด้วย

แผนรับเออีซี 2015
       
       สำหรับสตีทบอมเบอร์เป็นการต่อยอดจากรุ่นซูเมอร์ของญี่ปุ่น ครึ่งตัวรถด้านหน้าแทบจะถอดแบบมาทั้งหมด แต่ด้านหลังเป็นดีไซน์ใหม่ที่เรากับโรดบอมเบอร์ร่วมกันพัฒนาขึ้นมาเพื่อส่งขายที่ญี่ปุ่นและเวียดนามภายในปีหน้า ทั้งนี้เป็นแผนเตรียมความพร้อมก่อนเปิดรับเออีซีในปี 2015 ด้วย เนื่องจากประเทศที่หลายค่ายต่างมุ่งไปคือ เวียดนาม ด้วยกำลังซื้อและความนิยมรถจักรยานยนต์มีสูง ขณะที่การผ่านมาตรฐานและได้ขายในประเทศญี่ปุ่น จะเป็นการส่งเสริมภาพลักษณ์ให้กับสินค้าของเราได้เป็นอย่างดี และสำหรับเป้าหมายระยะยาวอาจเปิดตลาดทุกประเทศในภูมิภาคนี้ เพราะมาเลเซียและฟิลลิปปินส์ก็มีส่งไปขายอยู่แล้ว
       
       โครงการขายรถตำรวจ
       
       สำหรับการประมูลงานจากทางภาครัฐอย่างรถตำรวจเป็นเรื่องของอนาคต หากถามว่ามีแผนที่จะมุ่งตลาดนี้ไหม ขณะนี้ตอบว่ายังไม่มี เพราะยังไม่เห็นว่ามีการเปิดประมูล และด้วยสภาพเราตอนนี้ ทิศทางที่กำลังมุ่งไป แผนดำเนินธุรกิจที่วางไว้ค่อนข้างแน่นพอสมควร คงไม่สามารถรับโปรเจกใหญ่ๆ ได้ขนาดนั้น อย่างไรก็ตาม เรื่องของอนาคตก็ไม่แน่นอน


puiey

รถคนไทยผลิต อยากให้คนไทยใช้กันเยอะ ๆ ครับ เงินทองจะได้ไม่รั่วไหลไปใหน ๆ จนหมด
โกธรกับแฟน ขึ้นสเตตัส "โสด" ถ้าวันนึง แม่มึงโกธร มึงไม่ขึ้นสเตตัส "กำพร้า" เลยเหรอ

ปอนครับ

ถ้าอยากให้คนไทยใช้ก็ทำให้ดีซิครับ
ส่วนใหญ่ยีห้อนี้มันพังเอาง่ายๆ
อีกอย่างดูแลลูกค้าด้วยครับไม่ใช่พังแล้วหาของซ่อมไม่ได้
รถออกแบบมาสวยดีครับ
แต่การบริการ และการดูแลเรื่องอะไหล่ห่วยมาก
ถ้าแก้ตรงนี้ได้นะผมว่าผ่ายเลยครับ

คนค้าแก้ว

ถ้าผลิตได้มาตรฐานรถสามารถใช้ได้โดยไม่มีปัญหาสักสามสี่ปี(รถใหม่)ผมว่าน่าจะโอเคนะครับ แต่หลังจากนั้นก็อยู่ที่การบริการนั่นแหละครับค่อยๆทำค่อยๆโตน่าจะดี อย่าเป็นเหมือนยี่ห้อหนึ่งก่อนหน้านี้ขายดีมากในบ้านเราแต่บางคนเพิ่งถอยออกจากศูนย์ต้องขับกลับเข้าไปใหม่แล้วให้ช่างแก้ไขยังไม่หายเลยรถใหม่ๆเลยครับท่าน เดี๋ยวนี้รู้สึกจะขายโรงงานทิ้งไปแล้ว
ไม่ต้องบินสูงอย่างใครเขา จงบินเอาเท่าที่เราจะบินไหว ท่าที่บินไม่จำเป็นต้องเหมือนใคร แต่บินไปให้ถึงฝันเท่านั้นพอ