จะกู่ร้องผลาญเงินให้ก้องโลก..

[โกง และ โกง..]

..เพื่อเห็นแก่ความสวย รวยทรัพย์ แต่อับปัญญา หน้าทนอีกตะหาก ก็อยากบอกกับนายกฯยิ่งลักษณ์ว่า ที่สั่งให้รัฐมนตรีพาณิชย์แถลงเพื่อ "ทำความเข้าใจที่ตรงกัน" ของสังคมทั่วไปในเรื่องจำนำข้าว เรื่องรัฐบาลขาย "จีทูจี" นั้น ไม่ต้องแถลงหรอก เพราะคนที่ไม่รู้เรื่อง ไม่เข้าใจ ควรที่จะทำความเข้าใจให้ตรงกันมีอยู่ ๒ คนเท่านั้น คือคนสั่งให้แถลง กับคนแถลงนั่นแหละ!
นายกฯ ยิ่งลักษณ์ กับรัฐมนตรีบุญทรง รู้ตัวบ้างหรือเปล่า ว่าท่านทั้งสองทำให้ชาวบ้านร้านตลาดอยากกลั้นใจตายหนีอายสุนัขวันละหลายร้อยหน เพราะขยายขี้เท่อกัน ๒ คน จนคนฟังเกิดอาการหน้ามืด วิงเวียน คลื่นเหียน อาเจียน หัวใจสั่น สวิงสวายคล้ายจะเป็นลมไปตามๆ กัน

กระทั่งจำนวนไร่-ใช้กับอะไร, จำนวนตัน-ใช้กับอะไร แม่คุณแม่ทูนหัวก็ยังไม่เข้าใจ สัญญาคืออะไร เอ็มโอยูคืออะไร แอลซีคืออะไร จีทูจีคืออะไร เอฟโอบี-ซีไอเอฟคืออะไร ปรับปรุงคุณภาพข้าวคืออะไร บ่ฮู้ บ่หัน บ่ดัน บ่เข้ากันเลย
สรุปรวมว่า องค์ประกอบในการค้าขายแบบจีทูจีนั้น มันมีขั้นตอนที่ต้องทำ-ต้องปฏิบัติอย่างไรบ้าง ๑ นางเฉลียว กับอีก ๑ นายฉลาด
อุจาดพอกัน!?
"เรื่องจำนำข้าวที่ไทยขายข้าวรัฐต่อรัฐ ๘ ล้านตันนั้น มีรายละเอียดอย่างไรบ้าง โดยหลักๆ จะให้ชี้เป็นกลุ่มๆ ว่า ตั้งแต่เริ่มของการเซ็นสัญญาเอ็มโอยูกับประเทศใด และจากเอ็มโอยูแล้ว ขั้นตอนเรื่องการทำสัญญาเปิดแอลซีและการส่งมอบ ซึ่งจะให้มีการชี้แจงรายละเอียดให้ทราบ"
นั่นคือ "โจทย์การบ้าน" ที่ยิ่งลักษณ์มอบหมายแบบกลวงๆ ให้นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ รมว.พาณิชย์ ไปทำแบบมึนๆ เมื่อวาน (๑๐ ต.ค.) ในเมื่อคนตั้งโจทย์เองยังไม่เข้าใจ แล้วคนแก้โจทย์มันจะไม่เข้าป่าได้ยังไง ยิ่งดูยิ่งกลุ้ม
เอ้า...ออกมายืนกางแขนคาบไม้บรรทัดหน้าชั้น แล้วฟังนี่ จะสรุปคร่าวๆ ถึงขั้นตอนในการซื้อขายแบบจีทูจีให้ฟัง โม้ไม่ได้ เพราะมันมีขั้นตอนให้จับได้ว่าจริง-ไม่จริง อีกอย่าง เอ็มโอยู มันก็เอ็มโอยู คนละขั้นตอนกับการเซ็นสัญญา อย่าเที่ยวพูดสะเปรอะ
มาทำความเข้าใจเรื่อง MOU ที่ย่อมาจาก Memorandum of understanding กันก่อน เพื่อให้เห็นภาพชัด สมมุติว่าประเทศมอนเตเนโกรอยากมีสัมพันธ์ติดต่อทำมาค้าขายกับไทย สนใจจะซื้อข้าวไทย แบบนี้ ขั้นแรก รัฐบาลมอนเตฯ ก็จะส่งตัวแทนมาพบปะพูดคุยกับฝ่ายไทย
มอนเตฯ อยากได้ข้าวแบบไหน อย่างไร เมื่อไหร่ แล้วฝ่ายไทยจะสามารถตอบสนองได้มาก-น้อยขนาดไหน อย่างไร ก็ไถ่ถามกันให้เป็นที่เข้าใจตรงกันก่อน เมื่อเข้าใจตรงกันแล้ว ก็ทำกรอบบันทึกความเข้าใจกันไว้กว้างๆ ว่า สนใจจะซื้อ-จะขายกัน ณ วันใด-วันหนึ่ง
นี่แหละคือ MOU เป็นบันทึกกรอบความเข้าใจกันทำนอง "กราวหน้าพาทย์" เท่านั้น ไม่ใช่สัญญา-สายัณห์ ผูกมัดว่าต้องซื้อ-ต้องขายกันเป็นมั่นเหมาะหรอก จะซื้อในเวลาต่อมาก็ได้ ไม่ซื้อเลย ไปซื้อข้าวญวน-เขมรแทนก็ยังได้
นั่นกรณีหนึ่งละ ทีนี้สมมุติว่า มอนเตฯ ต้องการซื้อข้าวขึ้นมาจริงๆ หน่วยงานรัฐบาลมอนเตฯ ก็จะมาคุยกับหน่วยงานของไทยเราในกรอบแรกว่า เอาละนะ...ฉันต้องการซื้อข้าวสารชนิด ๕% จำนวน ๑๐ ตัน ต้องส่งมอบให้ทันเดือนเมษา ๕๖ ไทยพร้อมสนองความต้องการนี้ได้มั้ย?
ไทยก็บอกว่า ได้ซี..ข้าวไทยเหลือเฟือล้นทั้ง โกดังสนามบินดอนเมือง-สุวรรณภูมิ โกดัง-คลังอาวุธกองทัพ ตลอดถึงโกดังเก็บศพตามวัดทั่วประเทศ รัฐบาลกว้านซื้อข้าวกักตุนไว้เก็งกำไรเกวียนละ ๑,๐๐๐ เหรียญยูเอสเต็มไปหมด พร้อมจัดหา-จัดส่งให้ได้ตามจำนวน ตามชนิด และตามเวลาที่ต้องการ
แบบนี้ก็เซ็น MOU ลงลึกถึงรายละเอียดในขั้นตกลงจะซื้อขายกันจริง ส่วนราคานั้น ไม่มีใครเขาตกลงกันตายตัวตั้งแต่ตอนทำ MOU หรอก เขาจะให้เป็นไปตามราคาตลาด ณ วันที่ทำสัญญาซื้อขายเป็นหลัก
แล้ววันไหนล่ะ.....ก็วันที่ผู้ซื้อ คือมอนเตฯ ต้องการข้าว ก็นัดหมายมาตกลงในรายละเอียด ฝ่ายไทยก็จะมีปลัดกระทรวงพาณิชย์หรือระดับรองปลัด เจ้าหน้าที่กรมการค้าต่างประเทศ แม่งานหลักจะเป็น "กรมการค้าต่างประเทศ" ก็จะกำหนดหลักการกว้างๆ เช่น เพดานราคา เป็นต้น
หากจะซื้อด้วยสินเชื่อ กรมการค้าต่างประเทศก็จะกำหนดอัตราดอกเบี้ย ระยะเวลาให้สินเชื่อ และถ้าค้าขายด้วยระบบสินเชื่อ จะต้องเสนอเรื่องให้ ครม.อนุมัติก่อน
ราคาเป็น FOB หรือ CIF ช่วงเวลาส่งมอบ การชำระเงิน ซึ่งจะกำหนดให้เปิด LC มีรายละเอียดของ LC ที่จำเป็น เช่น เป็น LC ประเภทใด ออกโดยธนาคารอะไร เรียกเก็บผ่านธนาคารอะไรของไทย นี่ก็ต้องตกลงกันก่อน
เรื่องของธนาคารนี้ บางกรณี กรมการค้าต่างประเทศจะต้องตรวจสอบก่อนว่าธนาคารนั้นๆ เชื่อถือได้หรือไม่ด้วย เรียกว่า มั่นใจเชื่อถือได้แล้ว LC มาส่งเข้าคลังได้แล้ว นั่นแหละ ข้าวถึงจะเคลื่อนไปได้ตามระบบจีทูจี
ยังไม่จบในขั้นรายละเอียด ต้องเจรจาให้ตกลงกันถึงขนาดกระสอบที่จะใช้บรรจุข้าว เครื่องหมายที่จะตีบนกระสอบ การรมยาฆ่าแมลง เอกสารสำคัญที่ผู้ซื้อต้องการ เช่น CO การแจ้งเรือเข้า อัตราค่าเสียเวลาเรือ และ ฯลฯ
เอาคร่าวๆ พอ เมื่อตกลงกันได้หมดแล้ว จากนั้นก็พิมพ์เป็นสัญญา ทั้งสองฝ่ายอ่านทานตรวจ เห็นว่าถูกต้องครบถ้วนตามที่ตกลงกัน ทีนี้ก็...โละเมี้ยเป็นสัญญากันเลย
เข้าใจนะ MOU เบี้ยวได้ แต่สัญญานี่ ฝ่ายไหนเบี้ยว...เจ็บ!
เอ้า...เรื่อง MOU เรื่องสัญญาผ่านไป แต่ระบบจีทูจีนี้ ไม่ต้องทำ MOU กันก่อนก็ได้ ต้องการซื้อขายก็นัดหมายเข้าสู่ขั้นตอนเจรจารายละเอียด แล้วเซ็นสัญญาตกลงซื้อขายกันไปเลยก็ได้
เดี๋ยว...ถามนิด เข้าใจการส่งมอบราคา FOB กับราคา CIF ในความเหมือน-ความต่างกันหรือยัง เพราะมันมีความรับผิดชอบด้าน "ความเสี่ยงภัย" ของสินค้าต่างกันอยู่ ไม่ใช่เราหรือเขาพอใจกำหนด หากแต่เป็นคำสากลที่ "สภาหอการค้านานาชาติ" กำหนดขึ้น จำไว้สั้นๆ ง่ายๆ ว่า
ราคา FOB (Free On Board) คือ ประเทศผู้ซื้อสินค้าต้องหาเรือมารับที่ท่าเรือประเทศผู้ขาย ส่วนผู้ขายมีหน้าที่ลำเลียงไปส่งขึ้นเรือเขา ต้องจ่ายค่าลำเลียง จ่ายค่าภาษีตามแบบศุลกากรประเทศผู้ซื้อให้เขา
ฝ่ายประเทศผู้ขาย ลำเลียงสินค้าไปส่งขึ้นถึงเรือใหญ่ สินค้า "พ้นกราบเรือ" แล้วนั่นแหละ ถือว่าหมดพันธะที่ประเทศผู้ขายจะต้องรับผิดชอบตามสัญญา ต่อให้ใครมาระเบิดเรือไปทั้งลำก็ตาม นี่คือราคา FOB
ส่วนราคา CIF (Cost, Insurance and Freight) คือ ฝ่ายขายต้องเป็นฝ่ายจัดหาเช่าเรือไปยังท่าจุดหมายปลายทาง จ่ายค่าเช่าระวางเรือ ค่าสัญญาประกันภัยสินค้า จนกว่าเรือถึงท่าปลายทาง ขนสินค้าขึ้นพ้นกราบเรือใหญ่แล้วนั่นแหละ จึงถือว่าครบถ้วนตามสัญญา
ทั้ง FOB และ CIF จะเหมือนกันแค่ขอบเขต "ความรับผิดชอบ" ถือการขนถ่ายพ้น ณ กราบเรือใหญ่เป็นเกณฑ์!
ทีนี้มาถึงเรื่อง "การส่งมอบ" ซึ่งเกี่ยวเนื่องไปถึงการ "ปรับปรุงคุณภาพข้าว" ด้วย ทั้งยิ่งลักษณ์และบุญทรงโปรดทราบ การส่งมอบจีทูจีนี้ ไม่ว่ากรมการค้าต่างประเทศ หรือองค์การคลังสินค้า ที่เป็นผู้รับผิดชอบในการส่งมอบ มีปัญญาทำเองได้ที่ไหน
ก็ต้องเปิดประมูลให้บริษัทเอกชนที่ชำนาญด้านส่งออกข้าวมาประมูลเอาไปจัดการแทน พูดง่ายๆ ถึงรัฐบาลจะมีข้าวกักตุนไว้เต็มบ้าน-เต็มเมืองก็ตาม แต่ขั้นปฏิบัติการ ทำไม่ได้และไม่เป็น เอกชนที่ประมูลได้ ก็จะต้องนำข้าวของรัฐบาลไปปรับปรุงคุณภาพข้าวแทน
จากปนเป แหลก-หัก-เลว-ดี ก็เอามาผสมตกแต่งใหม่ ให้มันมีอัตราส่วนที่ดูแล้วหน้าตาได้ตามเกรด แล้วบรรจุกระสอบ ขนถ่ายทำพิธีการส่งออก ประกอบด้วยการขอใบอนุญาตส่งออก การทำพิธีทางศุลกากร จนลำเลียงถึง "พ้น ณ กราบเรือ" นั่นแหละ
ขั้นตอนทั้งหมดนี้ ใบอนุญาตที่ใช้ส่งออกจะต้องออกในนาม "กรมการค้าต่างประเทศ" หรือ "องค์การคลังสินค้า" ข้าวส่งออกนี้จึงเรียกว่า "ข้าวรัฐบาล" และกระทรวงพาณิชย์ เป็นผู้รับผิดชอบในการส่งมอบข้าวจีทูจีนี้ให้กับประเทศผู้ซื้อ
ในกรณีที่รัฐบาลไม่ค้าขายแข่งเอกชน คือไม่ซื้อข้าวกักตุนเอง เมื่อมีการซื้อขายจีทูจี รัฐบาลก็จะโอนให้เอกชนรับไปจัดการทั้งล็อต อาจใช้ระบบ Bag to Bag คือให้ "สมาคมผู้ส่งออก" ไปจัดสรรปริมาณกันเองว่า เจ้าไหน-รายไหน จะได้กันเท่าไหร่
ครับ...เข้าใจระบบจีทูจีกันแล้วนะ ทีนี้ก็มาถึงคำตอบของคำถามว่า "ตกลง...ตอนนี้รัฐบาลขายข้าวจีทูจีได้ ๘ ล้านตัน ตามที่นางสาวยิ่งลักษณ์ปั้นจิ้ม-ปั้นเจ๋อจริงหรือเปล่า?"
ผมตอบไม่ได้ แต่ "นายวิชัย ศรีประเสริฐ" นายกฯ กิตติมศักดิ์สมาคมผู้ส่งออกข้าวเขาตอบได้ และตอบไปวานนี้แล้วว่า
".......รัฐบาลไม่มีปัญญาระบายข้าว เอกชนก็ไม่มี เรื่องขายข้าวแบบจีทูจีเป็นเรื่องพิสดารมาก เพราะ ๑๒ เดือนที่ผ่านมา ตั้งแต่ตุลาคมปีที่แล้ว รัฐบาลชุดนี้ยังไม่มีการส่งมอบข้าวในระบบจีทูจีแม้แต่เม็ดเดียว ไม่มีหลักฐานเลยว่ามีการส่งออก เราไปตรวจสอบทุกประเทศที่รัฐบาลกล่าวว่าได้มีการขายไป เช่น ฟิลิปปินส์, อินโดนีเซีย, บังกลาเทศ, จีน, ไอวอรีโคสต์ เป็นไปไม่ได้เลย
เพราะฟิลิปปินส์ไม่ได้ซื้อข้าวจากไทย อินโดนีเซียมีส่งออกไม่ถึง ๓ แสนตัน แล้วที่ส่งมอบนี้เป็นสัญญาที่ตกลงไว้ตั้งแต่รัฐบาลชุดก่อน ส่วนบังกลาเทศไม่มีเลย ไอวอรีโคสต์ส่งออกแค่แสนตัน แล้วเป็นเอกชนที่ขาย ไม่ใช่รัฐบาลขาย จีนก็เป็นเอกชนขาย ประมาณ ๑-๒ แสนตัน ยอดทั้งหมดที่ส่งออกจากไทย ไม่มีอะไรบ่งบอกเลยว่า รัฐบาลมีการขายข้าวให้รัฐบาลต่างประเทศ เป็นเอกชนที่ขายทั้งหมด"

โกหกแบบหน้าด้าน ๆ เลย..เฮ้ออ..

[โกง และ โกง..]

ผมจับโกหก บุญทรง รมว พาณิชย์ครับ บอกว่า ส่งออกข้าวได้ 7-8 ล้านตัน แบบ G to G เอาล่ะถ้าอยากโกหกไม่เป็นไรครับต่อไปนี้คือความจริงข้อมูลนี้มาจาก สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ครับเป็นคนรวบรวมข้อมูลไว้ทั้งหมดครับ ข้อมูลที่ผมรวบรวมได้คือ เอกชนล้วนๆครับ ไม่มีของรัฐบาลเลยครับ กรุณาหยุดบิดเบือนว่าขายขายได้ คำถามที่รัฐบาลต้องตอบคือ ข้าว 18 ล้านตันอยู่ในโกดังใช่หรือไม่ครับ

ขอบคุณข้อมูลจาก http://www.riceinspection.com/

: ชาวไทยปกป้องชาติและราชบัลลังก์

[Destiny]

ไม่อยากให้นักข่าวไปสัมภาษณ์ยิ่งลักษณ์เลย ถามอย่าง ตอบอีกอย่าง ไม่รู้อะไรทั้งสิ้น แต่หน้าหนากว่าพื้นซีเมนต์ เกาะเก้าอี้ไม่ไปไหน สุดจะทนจริงๆ 

[ซัมเบ้ Note 7 Jr.]

โง่ทั้งตระกูล

[Destiny]

โง่ทั้งตระกูล

[คนเมืองสงขลา]

ใครว่าง ๆ  ช่วยเอาโครงการไทยเข้มแข็ง...สมัยนายกอภิสิทธิ์ มาเปรียบเทียบให้ดูหน่อยครับ
ว่าระหว่าง นโยบายจำนำข้าว กับไทยเข้มแข็ง ใครกันที่ได้ประโยชน์.....

[puiey]

เกลียด....ทั้งตระกูล


ขอบคุณมากครับ

[มองด้านเดียว]

ทำใจให้เป็นธรรม จะเห็น จะรู้ ความจริง

ทั้งทีวี หนังสือพิมพ์ มีหลายช่อง หลายฉบับ

อ่านฉบับเดียวแล้วปักใจเชื่อ เรียกว่าตาบอด

การประกันราคาของ ปชป ใช้งบหลายแสนล้าน

การจำนำข้าวของเพื่อไทยก็ใช้งบเท่าๆกัน

ตัวเลขต้องให้หน่วยงานจริง ไม่มั่ว ไม่โมเม

เป็นนโยบาย ประชานิยมเหมือนกัน

อย่าเข้าข้างใดข้างหนึ่งเลย รับความจริงเหอะ

ถ้าเพื่อไทย เลว ระยำ จริง เอาหลักฐานมาพูด

เพื่อไทยก็อยู่ไม่ได้เอง อย่า ดีแต่พูด สิครับ

[puiey]

ทำใจให้เป็นธรรม จะเห็น จะรู้ ความจริง

ทั้งทีวี หนังสือพิมพ์ มีหลายช่อง หลายฉบับ

อ่านฉบับเดียวแล้วปักใจเชื่อ เรียกว่าตาบอด

การประกันราคาของ ปชป ใช้งบหลายแสนล้าน

การจำนำข้าวของเพื่อไทยก็ใช้งบเท่าๆกัน

ตัวเลขต้องให้หน่วยงานจริง ไม่มั่ว ไม่โมเม

เป็นนโยบาย ประชานิยมเหมือนกัน

อย่าเข้าข้างใดข้างหนึ่งเลย รับความจริงเหอะ

ถ้าเพื่อไทย เลว ระยำ จริง เอาหลักฐานมาพูด

เพื่อไทยก็อยู่ไม่ได้เอง อย่า ดีแต่พูด สิครับ

ดูข่าวสิครับ ไม่ต้องฟังใครก็ได้

[ไม่ฟังใครจะไม่รู้]

ดูข่าวสิครับ ไม่ต้องฟังใครก็ได้

ดูข่าวใช่ ดูหลายช่องหน่อย

ไม่ฟังใครแล้วจะรู้ไม๊?

ตอบแบบนี้ อคตินี่หว่า

แว่ว ๆ มาอีกเมื่อเช้า

นายไพร โดนใบแดงซะแล้ว

จริงไม่จริง ช่วยติดตามมาบอกด้วย

[Destiny]

...................

นายไพร โดนใบแดงซะแล้ว

จริงไม่จริง ช่วยติดตามมาบอกด้วย

นายไพรโดนใบแดง เรื่องเป็นไง??? ไม่ได้ข่าวเลย 

[คอยหน่อย]

นายไพรโดนใบแดง เรื่องเป็นไง??? ไม่ได้ข่าวเลย 

มีข่าววงในยืนยันมา  ภายในเดือนนี้ กกต จะประกาศให้ใบแดงให้กับ นายไพร

หลังจากนั้นก็จะนำ หลักฐานและข้อมูล ในการซื้อเสียง ของนายไพร ลงในเว็บหรือ ยูทูบ

เห็นบอกว่าเป็นหลักฐานชัดเจนในความผิด มีทางเดียวคือการให้ใบแดง นายไพร พร้อมกับ สท ทั้งหมดเท่านั้น

[เป็นเช่นนั้นได้งัย]

มีข่าววงในยืนยันมา  ภายในเดือนนี้ กกต จะประกาศให้ใบแดงให้กับ นายไพร

หลังจากนั้นก็จะนำ หลักฐานและข้อมูล ในการซื้อเสียง ของนายไพร ลงในเว็บหรือ ยูทูบ

เห็นบอกว่าเป็นหลักฐานชัดเจนในความผิด มีทางเดียวคือการให้ใบแดง นายไพร พร้อมกับ สท ทั้งหมดเท่านั้น

เป็นจริงหรือนี่?

โอ้ย ไม่น่าเชื่อ ปลาตายน้ำตื้น

เพราะนายไพรโดนใบแดง

ก็ต้องยุบพรรค ปชป ด้วยซิ

คนใต้ไม่ยอม ไม่ยอม ไม่ยอม

[มองให้ทะลุ]

ทำใจให้เป็นธรรม จะเห็น จะรู้ ความจริง

ทั้งทีวี หนังสือพิมพ์ มีหลายช่อง หลายฉบับ

อ่านฉบับเดียวแล้วปักใจเชื่อ เรียกว่าตาบอด

การประกันราคาของ ปชป ใช้งบหลายแสนล้าน

การจำนำข้าวของเพื่อไทยก็ใช้งบเท่าๆกัน

ตัวเลขต้องให้หน่วยงานจริง ไม่มั่ว ไม่โมเม

เป็นนโยบาย ประชานิยมเหมือนกัน

อย่าเข้าข้างใดข้างหนึ่งเลย รับความจริงเหอะ

ถ้าเพื่อไทย เลว ระยำ จริง เอาหลักฐานมาพูด

เพื่อไทยก็อยู่ไม่ได้เอง อย่า ดีแต่พูด สิครับ

คุณนั้นแหละอย่ามองด้านเดียว ผมเคยเป็นทั้งเหลืองแล้วก็มาแดง แต่ตอนนี้ตาสว่างและเข้าใจวิถีของนัการเมืองจนถ่องแท้หมดแล้ว ทุกวันนี้ผมไร้สีไม่เลือกสีไหนอีกเพราะได้เห็นธาตุแท้ของนักการเมืองและพวกแสวงหาผลประโยชน์ทางการเมืองทั้งพวกอีแอบและพวกสว่างจิตทุกๆพวก ว่ามีแต่ตอแหลและเอาแต่ผลประโยชน์เข้าตัวเองกับพรรคพวกก็เท่านั้น ไม่ได้มีความจริงใจที่จะบริหารและพัฒนาบ้านเมืองสร้างความมั่งคั่งให้กับประชาชนให้อยู่ดีกินดีขึ้นเลย นอกจากสร้างเงื่อนไขและฉวยโอกาสจากความเดือดร้อนของประชาชนมาเป็นข้ออ้างในการใช้งบประมาณเพื่อล้างผลาญเข้ากระเป๋าตัวเองและสร้างภาพ อย่างดีก็ให้เศษๆเงินเล็กๆน้อยๆให้แก่ประชาชนบางกลุ่มที่เป็นฐานเสียงตัวเองให้ได้อานิสงค์เพื่อรักษาฐานเสียงทางการเมือง แต่ไม่ได้ตั้งใจที่จะแก่ปัญหาปากท้องของประชาชนจริงๆ เป็นนโยบายแก้ปัญหาเฉพาะหน้าแบบปีต่อปีไม่ว่า ประกันราคาหรือรับจำนำที่บิดเบือนกลไกตลาดจริงๆ ทำให้มีผลเสียหายในระยะยาวแถมเป็นเป็นการบ่งเพาะสันดานขี้เกียจ ไม่พยายามเข้าใจกลไกตลาด ไม่คิดจะช่วยเหลือและพัฒนาตัวเองให้ดำรงอยู่ได้ในระบบเศรษฐกิจเสรีแบบต่างชาติเขาทำกันอย่างญี่ปุ่นเป็นต้น ทุกวันนี้ถ้าเกษตรกรที่ปลูกพืชและเลี้ยงสัตว์ประเภทอื่นๆเรียกร้องให้รัฐฯช่วยให้ราคาสูงขึ้นโดยการชุมนุมประท้วง ปิดถนน โดยอ้างนโยบายจำนำข้าวมาเป็นข้ออ้างรัฐฯจะทำได้มั้ย ช่วยได้ทุกประเภทสินค้าเกษตรหรือเปล่า อย่าลืมว่าไม่ว่าชาวนา ชาวสวน ชาวไร่และอาชีพอื่นๆ ทุกคนมีสิทธิเท่าเทียมกัน ไม่ใช่รัฐฯคิดแต่จะอุ้มแต่กลุ่มชาวนา แล้วอย่างนี้คนอาชีพอื่นไม่ใช่คนไทยเหรอ พวกเขาก็เสียภาษีให้รัฐฯเอามาผลาญในการจำนำข้าวเหมือนกัน มันไม่ใช่เงินของ ครม.หรือนายกฯหุ่นเชิดนี่ มันถูกต้องแล้วหรือที่เอาเงินของคนส่วนรวมมาอุ้มชาวนาแถมแพงกว่าราคาตลาดมากๆ ซึ่งจะต้องขาดทุนกับนโยบายนี้อยู่แล้ว มีใครหน้าไหนในครม.นี้กล้าแอ่นอกรับผิดชอบภาระขาดทุนบ้างในเมื่อเป็นเงินจากภาษีของประชาชน ถ้าเป็นบริษัทฯของ MD ปูนิ่ม มีพนง.ทำงานแบบนี้ประเภทลดแลกแจกแถมจนบริษัษฯขาดทุนเป็นล้านๆ ผู้ถือหุ้นและคุณปูนิ่มจะรับสภาพได้มั้ย สิ่งที่พวกคุณทำมันผิดสังเกตมาตั้งแต่ต้นว่าทำไมต้องเอาเงินภาษีจำนวนมหาศาลมาตำน้ำพริกละลายแม่น้ำด้วย เพราะขั้นตอนและวิธีการไม่สามารถควบคุมให้เป็นไปตามนโยบายได้เกิน 50% ด้วยซ้ำไป ที่เหลือละลายหายไปไหนก็รู้ๆกันอยู่ไม่ต้องมาอ้างหาใบเสร็จจากโจรหรอก
        ทุกวันนี้ประเทศไทยก็บอบช้ำมามากจนเกินพอแล้วจากน้ำมือของนักการเมืองตั้งแต่ปี 2475 มีมั้ยที่เราเจริญก้าวหน้ากว่าเพื่อนบ้านที่ไร้สงครามกลางเมืองอย่าง สิงคโปร์ มาเลเซีย บูรไน และอินโดนีเซีย แม้แต่เวียตนามที่เพิ่งร้างลาสงครามไปสิบกว่าปี ทุกวันนี้กำลังเดินก้าวข้ามประเทศไทยไปข้างหน้าในหลายๆเรื่องแล้วเช่นข้าว นิคมอุตสาหกรรม การประมง ในขนาดที่เราย่ำอยู่กับที่และถอยหลังในบางครั้ง(ปฏิวัตรัฐประหาร) นักการเมืองไทยไม่ได้ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมและจิตสำนึกเลย แต่จะยิ่งเอาเปรียบประชาชนมากขึ้นกว่าเดิมด้วยซ้ำ เพียงแต่ทำให้ดูซับซ้อนซ่อนเงื่อนออก กม.ให้เอื้อผลประโยชน์แก่ตนเองเท่านั้น เวรกรรมของคนไทยจริงๆ นี่คือยุคเสื่อมของประเทศไทย

[Destiny]

มีข่าววงในยืนยันมา  ภายในเดือนนี้ กกต จะประกาศให้ใบแดงให้กับ นายไพร

หลังจากนั้นก็จะนำ หลักฐานและข้อมูล ในการซื้อเสียง ของนายไพร ลงในเว็บหรือ ยูทูบ

เห็นบอกว่าเป็นหลักฐานชัดเจนในความผิด มีทางเดียวคือการให้ใบแดง นายไพร พร้อมกับ สท ทั้งหมดเท่านั้น

ขอบคุณสำหรับคำตอบค่ะ 

[puiey]

ดูข่าวใช่ ดูหลายช่องหน่อย

ไม่ฟังใครแล้วจะรู้ไม๊?

ตอบแบบนี้ อคตินี่หว่า

แว่ว ๆ มาอีกเมื่อเช้า

นายไพร โดนใบแดงซะแล้ว

จริงไม่จริง ช่วยติดตามมาบอกด้วย

ไอบ้า กุให้ดูข่าว เพราะกุดูข่าวที่นำเสนอในช่องต่าง ๆ ยังจะแถไปออกเรื่องอื่นอีก

[อีปูต้องรับกรรม]

..โครงการที่อ้างว่าเป็นการ"รับจำนำข้าว"ของรัฐบาลทักษิณส่วนหน้าภายใต้การนำของนายกฯนกแก้วยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นับวันจะส่งผลกระทบบานปลายกลายเป็นระเบิดเวลาลูกใหญ่สำหรับรัฐบาล ซึ่งที่เป็นเช่นนี้ก็เพราะเป้าหมายที่มาของโครงการนี้ผิดและมีเจตนาเคลือบแฝงตั้งแต่แรกโดยวิธีการรับจำนำของโครงการประชานิยมนี้ถูกบิดเบือนไม่ได้มุ่งเพื่อช่วยเหลือเกษตรกรอย่างแท้จริง แต่หงังใช้เป็นเครื่องมือสร้างคะแนนนิยมทางการเมืองแบบฉายฉวย ขณะเดียวกันก็เปิดช่องทางให้มีการทุจริตอย่างมโหฬาร

คำยืนยันที่สะท้อนให้เห็นว่าโครงการที่อ้างชื่อ"รับจำนำข้าว"ของรัฐบาลชุดนี้ไม่ใช่การรับจำนำข้าวอย่างแท้จริงก็คือความเห็นของ ดร.อดิศร์ อิศรางกูร ณ อยุธยา คณบดีคณะพัฒนาการเศรษฐกิจ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์(นิด้า) ที่เข้าให้การต่อคณะกรรมาธิการแก้ไขปัญหาหนี้สินของชาติ สภาผู้แทนราษฏรเมื่อวันพุธที่ผ่านมาโดยย้ำว่า โครงการที่รัฐบาลดำเนินการรับซื้อข้าวจากชาวนาอยู่ในขณะนี้ไม่ใช่โครงการรับจำนำ แต่เป็นการทุ่มเงินรับซื้อข้าวจากชาวนา ซึ่งการที่รัฐบาลจ้างโรงสีเก็บข้าว 10-20 ล้านตันเท่ากับฟ้องอยู่แล้วว่าไม่ใช่การรับ...จำนำ แต่เป็นการผูกขาดซื้อข้าวมาอยู่ในมือรัฐบาลแต่เพียงเจ้าเดียว ซึ่งปัญหาที่ตามมาคือช่องทางการทุจริตและภาวะข้าวล้นประเทศจนขายไม่ออก รวมทั้งอาจขัดต่อกฏขององค์การการค้าโลก (WTO)

ทัศนะของ ดร.อดิศร์ ตรงกับความเห็นของ ดร.วีระพงษ์ รามางกูร หรือ "ดร.โกร่ง" ประธานที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจของนายกฯยิ่งลักษณ์ ที่ย้ำมาก่อนหน้านี้ว่า โครงการที่รัฐบาลกำลังดำเนินการอยู่ไม่ถือเป็นการรับจำนำข้าว เพราะหากเป็นการรับจำนำรัฐจะต้องรับซื้อข้าวจากเกษตรกรในราคาที่ต่ำกว่าหรือเท่ากับราคาตลาดเพื่อเกษตรกรจะได้มาไถ่ถอนคืนในภายหลัง แต่รัฐบาลกลับทุ่มเงินมหาศาลซื้อข้าวจากเกษตรกรทุกเม็ดแบบไม่อั้นในราคาที่สูงกว่าราคาตลาดถึงเกือบเท่าตัว ซึ่งเมื่อชาวนาขายข้าวได้ในราคาที่สูงเช่นนี้คงไม่มีใครโง่ที่จะมาไถ่ถอนข้าวคืน และรัฐบาลเองก็รู้ดีว่าคงไม่มีเกษตรกรมาไถ่ถอนข้าวแน่นอน แต่ก็ยังดันทุรังกู้เงินก่อหนี้สาธารณะมหาศาลละเลงไปกับโครงการนี้ซึ่งจะสร้างความวิบัติหายนะตามามาแน่นอน และจะเป็นการทำลายวงจรค้าข้าวทั้งระบบจนพังพินาศ ขณะเดียวกันเปิดช่องให้มีการทุจริตอย่างโหฬาร โดย ดร.โกร่ง เตือนว่ารัฐบาลจะพังหากยังดันทุรังเดินหน้าโครงการในลักษณะนี้ต่อไป

โครงการรับจำนำข้าวไม่เพียงกลายเป็นระเบิดเวลาสำหรับรัฐบาลยิ่งลักษณ์ภายในประเทศ แต่ส่อเค้าอาจบานปลายกลายเป็นปัญหาระหว่างประเทศเมื่อสื่อต่างชาติเริ่มวิพากษ์วิจารณ์ว่ารัฐบาลของไทยชุดนี้กำลังจะฝ่าฝืนกฏของ WTO ด้วยการาแทรกแซงผูกขาดการค้าข้าว ซี่งไทยในฐานะประเทศผู้ส่งออกข้าวรายใหญ่ของโลกย่อมถือเป็นสัญญาณอันตรายต่อวิกฤติอาหารของโลก

ในการประชุมสามัญของคณะกรรมาธิการการเกษตรของ WTO เมื่อปลายปีที่แล้วมีการหยิบยกปัญหาโครงการรับจำนำข้าวของไทยมาถกเถียงซึ่งหลายประเทศรวมทั้งมหาอำนาจอย่างสหรัฐอเมริกาเห็นว่า ไทยกำลังฝ่าฝืนกฏ WTO ว่าด้วยการรักษาสมดุลและรักษาผลกระทบตลอดจนความมั่นคงด้านอาหารของประเทศสมาชิก WTO และเรียกร้องให้ WTO ดำเนินการอย่างใดอย่างหนึ่งโดยเร็วก่อนที่ประเทศอื่นๆจะเอาอย่างแนวทางของไทย

เพราะฉะนั้นโครงการรับจำนำข้าวส่อเค้าบานปลายออกไปเรื่อยๆกลายเป็นปัญหาในเวทีโลกไปแล้ว ซึ่งจะต้องจับตาท่าทีของ WTO ให้ดีเพราะอาจจะมีมาตรการอย่างใดอย่างหนึ่งเพื่อกดดันให้ไทยทบทวนโครงการรับจำนำข้าว

ทีมข่าวการเมือง..

[ยอดเลยครับ]

ถ้าจริงอย่างที่คุณว่าก็ง่ายนิดเดียว

ให้นายกยิ่งลักษณ์ เชิญสองคนที่ท่านอ้าง

ดร.อดิศร์ อิศรางกูร ณ อยุธยา คณบดีคณะพัฒนาการเศรษฐกิจ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์(นิด้า)

ดร.วีระพงษ์ รามางกูร หรือ "ดร.โกร่ง" ประธานที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจ

มาเป็นประธานแก้ปัญหาข้าว

โดยทำตามที่อ้างไว้ทั้งหมดและรับผิดชอบ

เอาไม๊ล่ะ ทุกอย่างจะได้ดีตามความเห็นของท่าน

แต่ เอ... มันคงไม่ง่ายอย่างว่ามั๊ง

หรือว่า ความคิดท่านสุดยอดเลยนี่

ขอเรียนเชิญท่านมาดำเนินการเลย ดีกว่า

เพื่อความเจริญของประเทศชาติไง ขอบคุณครับ

[แดง ต้ม ลาว]

แล้วเมื่อไรจะปรองดองกันได้ละ ถ้าทุกๆท่านยังเห็นว่าตัวกุของกุ ไม่...หาย(ขอโทษที่ไช้คำไม่สุภาพ)กันทั้งประเทศก่อนหรือ แล้วทีนี้จะไปเป็นคนรับไช้เขาได้ไหมอยากล่มจมกันนักหรือ อ่านประวัติศาสตร์กันหน่อย ไทยคงเป็นไทยมิไช่ชาติเป็นเชลย เราคนไทยรักกันไว้เถิด ไอ้-อี พวกนั้นบรรพบุรุษของมันไม่ไช่คนไทยมันถึงต้องการทำลายประเทศไทยโดยรว่มมือกับพวกขายชาติบางคน เราก็อย่าไปเดินตามเกมมันชิอย่าทะเลาะกัน ฟังหูไว้หูบ้าง