4 บริษัทสั่งสอน “สรยุทธ์” ถอนโฆษณาหนีนักข่าวโกง

[ทีมงานบ้านเรา]

โดย ASTVผู้จัดการรายวัน   13 ตุลาคม 2555 06:49 น.   

[attach=1]
1.ห้องแถวซึ่งเป็นสถานที่ตั้งของบริษัท ไร่ส้ม จำกัดและบริษัท ชัดถ้อยชัดคำ จำกัด(ภาพประกอบจากสำนักข่าวอิศรา)
   
ASTVผู้จัดการสุดสัปดาห์-แม้จะรู้ทั้งรู้ว่า "นายสรยุทธ์ สุทัศนะจินดา" นักเล่าข่าวคนดังแห่งสารพัดรายการเรื่องเล่าทางไทยทีวีสีช่อง 3 จะมีพฤติกรรมฉ้อโกงอย่างชัดแจ้งหลังคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) มีมติเมื่อวันที่ 20 กันยายน 2555 ที่ผ่านมาว่า บริษัท ไร่ส้ม จำกัด และตัวนายสรยุทธมีความผิดในฐานะ "ผู้สนับสนุน" ทำให้ บริษัท อสมท จำกัด(มหาชน) ได้รับความเสียหายจากค่าโฆษณาเป็นเงิน 138,790,000 บาท แต่ดูเหมือนสังคมก็มิได้สนใจใยดีต่อพฤติกรรมดังกล่าวเท่าใดนัก
       
      หลายคนยังคงติดตามรายการของนายสรยุทธ์ทางช่อง 3 เหมือนเดิม
       
       ขณะที่นายสรยุทธ์ก็ยังคงทำหน้าที่เป็นนักเล่าข่าวทางช่อง 3 เหมือนเดิมโดยไม่ยี่หระต่อการทำผิดจรรยาบรรณแห่งวิชาชีพ แถมยังทำแสบด้วยการยื่นใบลาออกจากสมาชิกสมาคมนักข่าวและนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย หลังถูกกดดันให้แสดงความรับผิดชอบ
       
      เกิดอะไรขึ้นกับสังคมไทย?
       
       หรือว่าสังคมไทยยอมรับการโกงหรือการฉ้อฉลว่าเป็นสิ่งที่ถูกที่ควรไปเสียแล้ว?
       
       กระนั้นก็ดี ท่ามกลางความมืดมนอนธการก็ปรากฏข่าวที่น่ายินดียิ่ง เมื่อ "นายประมนต์ สุธีวงศ์" อดีตประธานหอการค้าไทย ในฐานะประธานภาคีเครือข่ายต่อต้านคอร์รัปชันได้ส่งหนังสือถึงกรรมการผู้จัดการ บริษัท บางกอก เอ็นเตอร์เทนเมนต์ จำกัด หรือช่อง 3 โดยจดหมายมีเนื้อความว่า...
       
       "ตามที่สังคมได้มีการวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างกว้างขวางในกรณีของบริษัท ไร่ส้ม ถูกป.ป.ช. ชี้มูลความผิดว่า ได้ร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ของ อสมท ทำการทุจริตเป็นเหตุให้ อสมทได้รับความเสียหาย ภาคีเครือข่ายต่อต้านคอร์รัปชันมีความเห็นว่า บริษัท บางกอก เอ็นเตอร์เทนเมนต์ จำกัด (สถานีวิทยุโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3) ซึ่งเป็นบริษัทในกลุ่มของบริษัท บีอีซีเวิลด์ จำกัด (มหาชน) ในฐานะที่เป็นสื่อมวลชนที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างสูงและได้รับรางวัลช่อสะอาดประจำปี 2555 จาก ป.ป.ช. มีความจำเป็นที่ต้องแสดงความชัดเจนถึงจุดยืนในการดำเนินธุรกิจต่อกรณีข้างต้น ภาคีฯ ยังหวังเป็นอย่างยิ่งว่า ช่อง 3 ในฐานะองค์กรธุรกิจระดับชาติ จะเข้ามามีส่วนร่วมสำคัญในการต่อต้านคอร์รัปชัน และสร้างความน่าเชื่อถือขององค์กรธุรกิจไทย"
       
      เจ็บปวดและทิ่มแทงลึกเข้าไปในหัวใจของผู้บริหารช่อง 3 ชนิดที่คนธรรมดาย่อมต้องรู้สึกรู้สาบ้าง
       
       แต่ช่อง 3 ก็ยังคงนิ่งเฉยและมิได้มีปฏิกิริยาใดๆ ออกมา ซึ่งความจริงก็ไม่น่าแปลกใจอะไรเพราะต้องไม่ลืมว่านายสรยุทธ์คือตัวเงินตัวทองที่สร้างรายได้ให้กับช่อง 3 จำนวนมหาศาล
       
       เมื่อคนโกงยังคงลอยหน้าลอยตาอยู่ในสังคม และช่อง 3 ทำเป็นทองไม่รู้ร้อน ภาคีเครือข่ายต่อต้านคอร์รัปชัน และสมาชิก 40 องค์กรเอกชนจึงปฏิบัติการต่อเนื่องเป็นคำรบที่สอง โดยมีรายงานข่าวว่า ภาคีฯ เตรียมที่จะแสดงจุดยืนในการถอนโฆษณารายการเล่าข่าวของนายสรยุทธซึ่งออกอากาศทางช่อง 3 ในปีหน้า หากช่อง 3 ไม่ออกมาแสดงความชัดเจนถึงจุดยืนในการดำเนินธุรกิจต่อกรณีที่นายสรยุทธ ถูกคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ชี้มูลความผิดว่าร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ อสมท ทำการทุจริต เป็นเหตุให้ อสมท ได้รับความเสียหาย
       
       ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 7 ต.ค.2555 ที่ผ่านมา ผู้บริหารภาคเอกชน 40 องค์กรที่เป็นสมาชิกภาคีฯ ได้มีการหารือกัน และเห็นควรที่จะต้องดำเนินการอย่างใดอย่างหนึ่ง เพื่อให้เห็นว่าภาคีฯ เอาจริงกับการแก้ไขปัญหาทุจริตคอร์รัปชัน และได้มีการรวบรวมข้อมูลการซื้อโฆษณาในรายการของนายสรยุทธ โดยมีเอกชนขนาดใหญ่ 4 ราย ตัดสินใจยกเลิกการซื้อเวลาโฆษณาในรายการของนายสรยุทธตั้งแต่เดือนม.ค.2556 เป็นต้นไป
       
       ขณะเดียวกัน สมาชิกที่เป็นบริษัทจดทะเบียน (บจ.) ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ซึ่งตระหนักในเรื่องธรรมาภิบาล ก่อนเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) ในปี 2558 ได้แสดงเจตนารมณ์การต่อต้านปัญหาทุจริต โดยจะใช้มาตรการทางสังคม (โซเชียล แซงก์ชัน) เพื่อเป็นการสร้างบรรทัดฐานใหม่ทางสังคมด้วย
       
       4 บริษัทดังกล่าว ว่ากันว่าประกอบไปด้วยโตโยต้า โตชิบา ปูนซิเมนต์ไทยและธนาคารไทยพาณิชย์
       
       และถ้าเป็นเช่นนั้นจริง ย่อมต้องส่งผลกระเทือนต่อช่อง 3 และนายสรยุทธ์ไม่น้อย จนอาจเป็นปมที่บีบบังคับให้ผู้บริหารช่อง 3 ต้องตัดสินใจอย่างใดอย่างหนึ่งกับนายสรยุทธ์ก็เป็นได้
       
       ขณะเดียวกัน บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) เกียรตินาคิน จำกัด เผยแพร่บทวิเคราะห์หุ้นบริษัท บีอีซี เวิลด์ จำกัด (มหาชน) หรือ BEC หลังภาคีเครือข่ายต่อต้านคอร์รัปชั่น เตรียมถอนโฆษณารายการเล่าข่าวของนายสรยุทธหากช่อง 3 ไม่ออกมาแสดงความชัดเจนถึงจุดยืนในการดำเนินธุรกิจ โดยมองว่า เป็นความไม่แน่นอนที่เป็นปัจจัยลบต่อหุ้น BEC ต่อกรณีดังกล่าว ทำให้เกิดความไม่แน่นอนของรายได้ค่าโฆษณาในรายการที่มีคุณสรยุทธเป็นผู้ดำเนินรายการ ปัจจุบัน สถานีโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3 (บริหารโดย บริษัท บางกอกเอ็นเตอร์เทนเม้นต์ จำกัด บริษัทย่อยของ BEC) มีรายการออกอากาศที่ดำเนินรายการโดยคุณสรยุทธ ทั้งสิ้น 3 รายการ (เรื่องเล่าเช้านี้, เรื่องเด่นเย็นนี้ และเรื่องเล่าเสาร์อาทิตย์) ซึ่งคาดว่าสร้างรายได้ให้แก่ BEC คิดเป็นสัดส่วนประมาณ 20% ของรายได้รวมต่อปี
       
       ทั้งนี้ สำหรับมุมมองการลงทุนในระยะยาวเรายังคงคำแนะนำ "ขาย" หุ้น BEC เนื่องจากราคาหุ้นสูงกว่ามูลค่าเหมาะสมที่เราประเมินที่ 47.60 บาท และแนวโน้มผลประกอบการระยะยาวมีความเสี่ยงจากการแข่งขันที่สูงขึ้นจากการขยายตัวของสื่อทีวีดาวเทียม เคเบิลทีวี และดิจิตอลทีวี (โดยวานนี้ ราคาหุ้น BEC ปิดที่ระดับ 58.50 บาท ลดลง 1 บาท หรือลดลง 1.7%)
       
       นอกเหนือจากประเด็นดังกล่าวแล้ว ยังคงมีการเดินทางขุดคุ้ยและแสวงหาข้อเท็จจริงเกี่ยวกับตัวนายสรยุทธ์และบริษัทของเขาอย่างต่อเนื่อง โดยเว็บไซต์สำนักข่าวอิศรา(www.isranews.org) ซึ่งเป็นเว็บไซต์ข่าวสังกัด "สถาบันอิศรา มูลนิธิพัฒนาสื่อมวลชนแห่งประเทศไทย" 2555ได้ตีพิมพ์รายงานพิเศษเมื่อวันที่ 11 ตุลาคม เรื่อง "เปิดตัว 2 บริษัท"สรยุทธ"ตึกแถว 4 ชั้นคูหาเดียวฟัน 2,600 ล้าน"
       
       โดยรายงานดังกล่าวระบุว่า ผู้สื่อข่าวของสำนักข่าวอิศราได้เดินทางไปยัง บริษัท ไร่ส้ม จำกัด และ บริษัท ชัดถ้อยชัดคำ จำกัด ตามที่อยู่ที่ระบุในการยื่นจดทะเบียนต่อกรมพัฒนาธุรกิจการค้าว่าตั้งอยู่เลขที่ 264 ซอยลาดพร้าว 130 ถนนลาดพร้าว แขวงคลองจั่น เขตบางกะปิ กรุงเทพมหานคร (2 บริษัทแจ้งที่อยู่เดียวกัน) เพื่อตรวจสอบข้อมูลบางประการ
       
       ทั้งนี้ เมื่อเดินทางไปถึงเลขที่ดังกล่าวพบเป็นตึกแถวหนึ่งคูหาจำนวน 4 ชั้น ด้านหน้าบริษัทมีป้ายเล็กๆ ติดไว้ว่า "ไร่ส้ม" เมื่อเปิดประตูเข้าไปข้างในพบพนักงานจำนวนหนึ่งกำลังปฏิบัติงานอยู่
       
       ผู้สื่อข่าวพยายามขอสัมภาษณ์พนักงานในบริษัทดังกล่าว เกี่ยวกับความรู้สึกและทัศนคติส่วนตัวของพนักงาน หลังจากคณะกรรมการ ป.ป.ช.ชี้มูลและถูกกระแสสังคมเรียกร้องให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ทางด้านสื่อมวลชน
       
       แต่ทว่าได้รับการปฏิเสธจากพนักงานในบริษัท ไร่ส้ม
       
       โดยพนักงานคนหนึ่งกล่าวว่า"ไม่มีใครสะดวกให้สัมภาษณ์"
       และก่อนหน้านั้นได้ขอดูบัตรนักข่าวและระบุว่า ช่วงนี้มีคนแปลกหน้ามาบ่อย
       
       อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบบัญชีงบดุล บริษัท ไร่ส้ม จำกัด ปี 2554 ระบุ สินทรัพย์ไม่หมุนเวียน ได้แก่ ที่ดิน อาคาร และอุปกรณ์-สุทธิ มูลค่า 3,123,054.32 บาท ปี 2553 แจ้งว่ามีมูลค่า 4,048,816.25 บาท
       
       ขณะที่ งบดุลบริษัท ชัดถ้อยชัดคำ จำกัด แจ้งสินทรัพย์ไม่หมุนเวียน ไม่มีที่ดิน อาคาร แต่ระบุอุปกรณ์-สิทธิ 14,908.1 บาท ปี 2553 แจ้งว่ามีมูลค่า 49,653.02 บาท
       
       แปลไทยเป็นไทยก็คือ สำนักข่าวอิศรากำลังจะบอกว่า ตึกแถว 4 ชั้น 1 คูหาซึ่งเป็นสถานที่ตั้งของบริษัท ไร่ส้ม จำกัดและบริษัท ชัดถ้อยชัดคำ จำกัด มีสภาพไม่สมฐานะบริษัทที่มีรายได้รวมในช่วง 5 ปีถึง 1,847,847,016.75 บาท และมีกำไรสุทธิรวม 742,071,704.64 บาท
       
       และนั่นคือความจริงที่ปรากฏและไม่ต้องการคำอธิบายใดๆ เพิ่มเติม

[wareerant]

นายสรยุทธ์คือตัวเงินตัวทอง

อ้าว ก็ตัว ..... น่ะสิ

[Destiny]

ทำอะไรจะได้ดีขนาดนั้น ที่แท้ก็คอร์รัปชั่นนั่นเอง

[นายไข่นุ้ย]

ดูสิ ช่อง3ว่าไง

[Probass]

ถ้าโตโยต้าถอน  แสดงว่าเลิกแจก พรีอุส แล้วล่ะสิ

[Premier]

ไม่มีบริษัทไหน หรือ ข่าวไหนแจ้งว่าบริษัทเอกชนขนาดใหญ่ 4 รายคือบริษัทอะไร
มีแต่ คอมเม้นท์ ว่า โตโยต้า SCB ซีเมนต์ไทย ซึ่งไม่น่าเชื่อถือเลย
ข่าวก็มาจากเอเอสทีวีทั้งนั้น ซึ่งมีปัญหากับ สรยุทธอยู่แล้ว นั่นแหละครับ ทำให้ สรยุทธ ช่อง 3 ยังคงทำตัวเป็นทองไม่รู้ร้อน
ก็ไม่รู้จะร้อนทำไม   

[puiey]

ถ้าถึงเวลาที่เค้าตัดสินว่าผิดจริง ๆ จะหนักกว่านี้นะ ถ้าไม่รีบแสดงจุดยืนให้ชัดเจนตอนนี้

[วสันตฤดู :)]

พักนี้รายการเค้าฉายแต่ตอน สรย้วย ไปช่วยน้ำท่วมปีที่แล้ว ฉาย ถี่ๆๆๆ
คงกะสร้างกระมวลชนให้ช่วยพยุงตัวเองไว้ ..
เมืองไทย กำลังก้าวไปทางไหนกันนี่ 

ปล. ส่วนตัวผมชอบ คุณกิตติ สิงหาปัด มากกว่า .. เป็นคนที่ยังเป็น "นักข่าวจริงๆ" อยู่คนนึงล่ะ 

[ผู้เฒ่าเต่า]

   ถ้าเป็นเรื่องที่ผิดจริงแล้วยังไม่ยอมรับอีก ถึงวันหนึ่งมันก็จะสายไปที่จะออกมายอมรับ

แต่ที่แน่ ๆ กำเงินไว้ขนาดนั้นถ้าทำไรเขาไม่ได้ อยู่เฉย ๆ ก็รวยกว่าเราๆท่านๆไม่รู้เท่าไร

ความจริงก็คือความจริงถ้าสายไปสังคมจะรับไม่ได้เช่นกัน เหมือนกับเรื่องของน้อง เบนโล

ซึ่งโดนแบนมาจนถึงทุกวันนี้ไม่ได้เกิดอีกเลย

[ยอดทอง]

โดย ASTVผู้จัดการรายวัน   13 ตุลาคม 2555 06:49 น.   

[attach=1]
1.ห้องแถวซึ่งเป็นสถานที่ตั้งของบริษัท ไร่ส้ม จำกัดและบริษัท ชัดถ้อยชัดคำ จำกัด(ภาพประกอบจากสำนักข่าวอิศรา)
   
ASTVผู้จัดการสุดสัปดาห์-แม้จะรู้ทั้งรู้ว่า "นายสรยุทธ์ สุทัศนะจินดา" นักเล่าข่าวคนดังแห่งสารพัดรายการเรื่องเล่าทางไทยทีวีสีช่อง 3 จะมีพฤติกรรมฉ้อโกงอย่างชัดแจ้งหลังคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) มีมติเมื่อวันที่ 20 กันยายน 2555 ที่ผ่านมาว่า บริษัท ไร่ส้ม จำกัด และตัวนายสรยุทธมีความผิดในฐานะ "ผู้สนับสนุน" ทำให้ บริษัท อสมท จำกัด(มหาชน) ได้รับความเสียหายจากค่าโฆษณาเป็นเงิน 138,790,000 บาท แต่ดูเหมือนสังคมก็มิได้สนใจใยดีต่อพฤติกรรมดังกล่าวเท่าใดนัก
       
      หลายคนยังคงติดตามรายการของนายสรยุทธ์ทางช่อง 3 เหมือนเดิม
       
       ขณะที่นายสรยุทธ์ก็ยังคงทำหน้าที่เป็นนักเล่าข่าวทางช่อง 3 เหมือนเดิมโดยไม่ยี่หระต่อการทำผิดจรรยาบรรณแห่งวิชาชีพ แถมยังทำแสบด้วยการยื่นใบลาออกจากสมาชิกสมาคมนักข่าวและนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย หลังถูกกดดันให้แสดงความรับผิดชอบ
       
      เกิดอะไรขึ้นกับสังคมไทย?
       
       หรือว่าสังคมไทยยอมรับการโกงหรือการฉ้อฉลว่าเป็นสิ่งที่ถูกที่ควรไปเสียแล้ว?
       
       กระนั้นก็ดี ท่ามกลางความมืดมนอนธการก็ปรากฏข่าวที่น่ายินดียิ่ง เมื่อ "นายประมนต์ สุธีวงศ์" อดีตประธานหอการค้าไทย ในฐานะประธานภาคีเครือข่ายต่อต้านคอร์รัปชันได้ส่งหนังสือถึงกรรมการผู้จัดการ บริษัท บางกอก เอ็นเตอร์เทนเมนต์ จำกัด หรือช่อง 3 โดยจดหมายมีเนื้อความว่า...
       
       "ตามที่สังคมได้มีการวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างกว้างขวางในกรณีของบริษัท ไร่ส้ม ถูกป.ป.ช. ชี้มูลความผิดว่า ได้ร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ของ อสมท ทำการทุจริตเป็นเหตุให้ อสมทได้รับความเสียหาย ภาคีเครือข่ายต่อต้านคอร์รัปชันมีความเห็นว่า บริษัท บางกอก เอ็นเตอร์เทนเมนต์ จำกัด (สถานีวิทยุโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3) ซึ่งเป็นบริษัทในกลุ่มของบริษัท บีอีซีเวิลด์ จำกัด (มหาชน) ในฐานะที่เป็นสื่อมวลชนที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างสูงและได้รับรางวัลช่อสะอาดประจำปี 2555 จาก ป.ป.ช. มีความจำเป็นที่ต้องแสดงความชัดเจนถึงจุดยืนในการดำเนินธุรกิจต่อกรณีข้างต้น ภาคีฯ ยังหวังเป็นอย่างยิ่งว่า ช่อง 3 ในฐานะองค์กรธุรกิจระดับชาติ จะเข้ามามีส่วนร่วมสำคัญในการต่อต้านคอร์รัปชัน และสร้างความน่าเชื่อถือขององค์กรธุรกิจไทย"
       
      เจ็บปวดและทิ่มแทงลึกเข้าไปในหัวใจของผู้บริหารช่อง 3 ชนิดที่คนธรรมดาย่อมต้องรู้สึกรู้สาบ้าง
       
       แต่ช่อง 3 ก็ยังคงนิ่งเฉยและมิได้มีปฏิกิริยาใดๆ ออกมา ซึ่งความจริงก็ไม่น่าแปลกใจอะไรเพราะต้องไม่ลืมว่านายสรยุทธ์คือตัวเงินตัวทองที่สร้างรายได้ให้กับช่อง 3 จำนวนมหาศาล
       
       เมื่อคนโกงยังคงลอยหน้าลอยตาอยู่ในสังคม และช่อง 3 ทำเป็นทองไม่รู้ร้อน ภาคีเครือข่ายต่อต้านคอร์รัปชัน และสมาชิก 40 องค์กรเอกชนจึงปฏิบัติการต่อเนื่องเป็นคำรบที่สอง โดยมีรายงานข่าวว่า ภาคีฯ เตรียมที่จะแสดงจุดยืนในการถอนโฆษณารายการเล่าข่าวของนายสรยุทธซึ่งออกอากาศทางช่อง 3 ในปีหน้า หากช่อง 3 ไม่ออกมาแสดงความชัดเจนถึงจุดยืนในการดำเนินธุรกิจต่อกรณีที่นายสรยุทธ ถูกคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ชี้มูลความผิดว่าร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ อสมท ทำการทุจริต เป็นเหตุให้ อสมท ได้รับความเสียหาย
       
       ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 7 ต.ค.2555 ที่ผ่านมา ผู้บริหารภาคเอกชน 40 องค์กรที่เป็นสมาชิกภาคีฯ ได้มีการหารือกัน และเห็นควรที่จะต้องดำเนินการอย่างใดอย่างหนึ่ง เพื่อให้เห็นว่าภาคีฯ เอาจริงกับการแก้ไขปัญหาทุจริตคอร์รัปชัน และได้มีการรวบรวมข้อมูลการซื้อโฆษณาในรายการของนายสรยุทธ โดยมีเอกชนขนาดใหญ่ 4 ราย ตัดสินใจยกเลิกการซื้อเวลาโฆษณาในรายการของนายสรยุทธตั้งแต่เดือนม.ค.2556 เป็นต้นไป
       
       ขณะเดียวกัน สมาชิกที่เป็นบริษัทจดทะเบียน (บจ.) ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ซึ่งตระหนักในเรื่องธรรมาภิบาล ก่อนเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) ในปี 2558 ได้แสดงเจตนารมณ์การต่อต้านปัญหาทุจริต โดยจะใช้มาตรการทางสังคม (โซเชียล แซงก์ชัน) เพื่อเป็นการสร้างบรรทัดฐานใหม่ทางสังคมด้วย
       
       4 บริษัทดังกล่าว ว่ากันว่าประกอบไปด้วยโตโยต้า โตชิบา ปูนซิเมนต์ไทยและธนาคารไทยพาณิชย์
       
       และถ้าเป็นเช่นนั้นจริง ย่อมต้องส่งผลกระเทือนต่อช่อง 3 และนายสรยุทธ์ไม่น้อย จนอาจเป็นปมที่บีบบังคับให้ผู้บริหารช่อง 3 ต้องตัดสินใจอย่างใดอย่างหนึ่งกับนายสรยุทธ์ก็เป็นได้
       
       ขณะเดียวกัน บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) เกียรตินาคิน จำกัด เผยแพร่บทวิเคราะห์หุ้นบริษัท บีอีซี เวิลด์ จำกัด (มหาชน) หรือ BEC หลังภาคีเครือข่ายต่อต้านคอร์รัปชั่น เตรียมถอนโฆษณารายการเล่าข่าวของนายสรยุทธหากช่อง 3 ไม่ออกมาแสดงความชัดเจนถึงจุดยืนในการดำเนินธุรกิจ โดยมองว่า เป็นความไม่แน่นอนที่เป็นปัจจัยลบต่อหุ้น BEC ต่อกรณีดังกล่าว ทำให้เกิดความไม่แน่นอนของรายได้ค่าโฆษณาในรายการที่มีคุณสรยุทธเป็นผู้ดำเนินรายการ ปัจจุบัน สถานีโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3 (บริหารโดย บริษัท บางกอกเอ็นเตอร์เทนเม้นต์ จำกัด บริษัทย่อยของ BEC) มีรายการออกอากาศที่ดำเนินรายการโดยคุณสรยุทธ ทั้งสิ้น 3 รายการ (เรื่องเล่าเช้านี้, เรื่องเด่นเย็นนี้ และเรื่องเล่าเสาร์อาทิตย์) ซึ่งคาดว่าสร้างรายได้ให้แก่ BEC คิดเป็นสัดส่วนประมาณ 20% ของรายได้รวมต่อปี
       
       ทั้งนี้ สำหรับมุมมองการลงทุนในระยะยาวเรายังคงคำแนะนำ "ขาย" หุ้น BEC เนื่องจากราคาหุ้นสูงกว่ามูลค่าเหมาะสมที่เราประเมินที่ 47.60 บาท และแนวโน้มผลประกอบการระยะยาวมีความเสี่ยงจากการแข่งขันที่สูงขึ้นจากการขยายตัวของสื่อทีวีดาวเทียม เคเบิลทีวี และดิจิตอลทีวี (โดยวานนี้ ราคาหุ้น BEC ปิดที่ระดับ 58.50 บาท ลดลง 1 บาท หรือลดลง 1.7%)
       
       นอกเหนือจากประเด็นดังกล่าวแล้ว ยังคงมีการเดินทางขุดคุ้ยและแสวงหาข้อเท็จจริงเกี่ยวกับตัวนายสรยุทธ์และบริษัทของเขาอย่างต่อเนื่อง โดยเว็บไซต์สำนักข่าวอิศรา(www.isranews.org) ซึ่งเป็นเว็บไซต์ข่าวสังกัด "สถาบันอิศรา มูลนิธิพัฒนาสื่อมวลชนแห่งประเทศไทย" 2555ได้ตีพิมพ์รายงานพิเศษเมื่อวันที่ 11 ตุลาคม เรื่อง "เปิดตัว 2 บริษัท"สรยุทธ"ตึกแถว 4 ชั้นคูหาเดียวฟัน 2,600 ล้าน"
       
       โดยรายงานดังกล่าวระบุว่า ผู้สื่อข่าวของสำนักข่าวอิศราได้เดินทางไปยัง บริษัท ไร่ส้ม จำกัด และ บริษัท ชัดถ้อยชัดคำ จำกัด ตามที่อยู่ที่ระบุในการยื่นจดทะเบียนต่อกรมพัฒนาธุรกิจการค้าว่าตั้งอยู่เลขที่ 264 ซอยลาดพร้าว 130 ถนนลาดพร้าว แขวงคลองจั่น เขตบางกะปิ กรุงเทพมหานคร (2 บริษัทแจ้งที่อยู่เดียวกัน) เพื่อตรวจสอบข้อมูลบางประการ
       
       ทั้งนี้ เมื่อเดินทางไปถึงเลขที่ดังกล่าวพบเป็นตึกแถวหนึ่งคูหาจำนวน 4 ชั้น ด้านหน้าบริษัทมีป้ายเล็กๆ ติดไว้ว่า "ไร่ส้ม" เมื่อเปิดประตูเข้าไปข้างในพบพนักงานจำนวนหนึ่งกำลังปฏิบัติงานอยู่
       
       ผู้สื่อข่าวพยายามขอสัมภาษณ์พนักงานในบริษัทดังกล่าว เกี่ยวกับความรู้สึกและทัศนคติส่วนตัวของพนักงาน หลังจากคณะกรรมการ ป.ป.ช.ชี้มูลและถูกกระแสสังคมเรียกร้องให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ทางด้านสื่อมวลชน
       
       แต่ทว่าได้รับการปฏิเสธจากพนักงานในบริษัท ไร่ส้ม
       
       โดยพนักงานคนหนึ่งกล่าวว่า"ไม่มีใครสะดวกให้สัมภาษณ์"
       และก่อนหน้านั้นได้ขอดูบัตรนักข่าวและระบุว่า ช่วงนี้มีคนแปลกหน้ามาบ่อย
       
       อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบบัญชีงบดุล บริษัท ไร่ส้ม จำกัด ปี 2554 ระบุ สินทรัพย์ไม่หมุนเวียน ได้แก่ ที่ดิน อาคาร และอุปกรณ์-สุทธิ มูลค่า 3,123,054.32 บาท ปี 2553 แจ้งว่ามีมูลค่า 4,048,816.25 บาท
       
       ขณะที่ งบดุลบริษัท ชัดถ้อยชัดคำ จำกัด แจ้งสินทรัพย์ไม่หมุนเวียน ไม่มีที่ดิน อาคาร แต่ระบุอุปกรณ์-สิทธิ 14,908.1 บาท ปี 2553 แจ้งว่ามีมูลค่า 49,653.02 บาท
       
       แปลไทยเป็นไทยก็คือ สำนักข่าวอิศรากำลังจะบอกว่า ตึกแถว 4 ชั้น 1 คูหาซึ่งเป็นสถานที่ตั้งของบริษัท ไร่ส้ม จำกัดและบริษัท ชัดถ้อยชัดคำ จำกัด มีสภาพไม่สมฐานะบริษัทที่มีรายได้รวมในช่วง 5 ปีถึง 1,847,847,016.75 บาท และมีกำไรสุทธิรวม 742,071,704.64 บาท
       
       และนั่นคือความจริงที่ปรากฏและไม่ต้องการคำอธิบายใดๆ เพิ่มเติม

เขาอ้างว่า ยังไม่มีคำสั่งศาลเขายังเป็นผู้บริสุทธิ์อยู่นะครับ ใช่ครับไม่เถียงแต่คำว่า"คุณธรรม,จริยธรรมและความถูกต้อง"ของความเป็นคนสือมวลชนมันอยู่ที่ไหนละครับท่าน ส. อย่าพยามยามบิดเบือนความจริงอยู่เลยนะครับ คนเราเมื่อทำความผิดแล้วยอมรับผิดสังคมย่อมให้อภัยนะครับ แล้วเขายังชมว่าเป็นคนดีมีสปิริต แล้วคนที่ทำตรงกันข้ามผลย่อมออกมาตรงกันข้ามเช่นกัน เอาเป็นข้าฯใหญ่มีอะไรไหม ไม่สนไม่แคร์ไม่รับรู้อะไรทั้งสิ้น ข้าฯเป็นของข้าฯแบบนี้ไม่สนหรอก ขอบอกนะครับว่าถ้าคุณ ส.ทำตัวอย่างที่ว่า คุณมันก็ไม่ต่างอะไรกับพวกโกงชาติขายแผ่นดินเช่นกัน ขอประณาม การชี้มูลความผิดชัดเจนแต่ทำเป็นไม่ทองไม่รู้ร้อน ไม่เป็นไรหรอกครับ่ท่าน แต่ขออ้างเอาคำสอนของพระพุทธเจ้ามาอ้างหน่อยนะครับว่า"กรรมใดใครก่อก็ต้องรับผลกรรมนั้นเป็นของคู่กัน" มันจะช้าหรือเร็วก็ค่อยดูกันต่อไป สาธุ สาธุ สาธุ เอวังฯด้วยประการฉะนี้




ได้แก้ไขคำผิดให้แล้ว คำว่า ยัง เขียน ขัง ขอบคุณมาก 

[ยอดทอง]

ไม่มีบริษัทไหน หรือ ข่าวไหนแจ้งว่าบริษัทเอกชนขนาดใหญ่ 4 รายคือบริษัทอะไร
มีแต่ คอมเม้นท์ ว่า โตโยต้า SCB ซีเมนต์ไทย ซึ่งไม่น่าเชื่อถือเลย
ข่าวก็มาจากเอเอสทีวีทั้งนั้น ซึ่งมีปัญหากับ สรยุทธอยู่แล้ว นั่นแหละครับ ทำให้ สรยุทธ ช่อง 3 ยังคงทำตัวเป็นทองไม่รู้ร้อน
ก็ไม่รู้จะร้อนทำไม   

ไปอยู่ไหนมาครับท่าน การที่เขาเอาข่าวมาลงแบบนี้ได้ มันต้องมีที่มาที่ไปนะครับท่านขืนนำข่าวมาลงมั่ว ๆ มันถูกฟ้องร้องเอาได้ง่าย ๆ นะครับท่าน อย่าบิดเบือนความจริงซิครับ หรือจะเหมือนกับภาพที่คนเขาเห็นกันเต็มบ้านเต็มเมืองว่ามีคนชุดดำยิงใส่ทหารในการชุมนุม แต่มีคนกลุ่มหนึ่งออกมาบอกว่าไม่มีไมรู้ไม่เห็นกับภาพที่ว่ามานี้ แล้วคุณคิดว่าไงครับท่าน

[ดูดีดี...]

...เค้ามีส่วนเลวบ้างช่างหัวเค้า จงเลือกเอาส่วนที่ดีเค้ามีอยู่ เป็นประโยชน์โลกบ้างยังน่าดู ส่วนที่เลวอย่าไปรู้ของเค้าเลย...

[ดูดีดี...]

...เค้ามีส่วนเลวบ้างช่างหัวเค้า จงเลือกเอาส่วนที่ดีเค้ามีอยู่ เป็นประโยชน์โลกบ้างยังน่าดู ส่วนที่เลวอย่าไปรู้ของเค้าเลย...

...คนเลวที่แสดงตัว ดีกว่าคนชั่วที่ปิดบัง...

[gamecyber]

เดี๋ยวนี้กลายเป็นคนเก่งๆ มักโกง ซะละ

[puiey]

เขาอ้างว่า ยังไม่มีคำสั่งศาลเขายังเป็นผู้บริสุทธิ์อยู่นะครับ ใช่ครับไม่เถียงแต่คำว่า"คุณธรรม,จริยธรรมและความถูกต้อง"ของความเป็นคนสือมวลชนมันอยู่ที่ไหนละครับท่าน ส. อย่าพยามยามบิดเบือนความจริงอยู่เลยนะครับ คนเราเมื่อทำความผิดแล้วยอมรับผิดสังคมย่อมให้อภัยนะครับ แล้วเขายังชมว่าเป็นคนดีมีสปิริต แล้วคนที่ทำตรงกันข้ามผลย่อมออกมาตรงกันข้ามเช่นกัน เอาเป็นข้าฯใหญ่มีอะไรไหม ไม่สนไม่แคร์ไม่รับรู้อะไรทั้งสิ้น ข้าฯเป็นของข้าฯแบบนี้ไม่สนหรอก ขอบอกนะครับว่าถ้าคุณ ส.ทำตัวอย่างที่ว่า คุณมันก็ไม่ต่างอะไรกับพวกโกงชาติขายแผ่นดินเช่นกัน ขอประณาม การชี้มูลความผิดชัดเจนแต่ทำเป็นไม่ทองไม่รู้ร้อน ไม่เป็นไรหรอกครับ่ท่าน แต่ขออ้างเอาคำสอนของพระพุทธเจ้ามาอ้างหน่อยนะครับว่า"กรรมใดใครก่อก็ต้องรับผลกรรมนั้นเป็นของคู่กัน" มันจะช้าหรือเร็วก็ค่อยดูกันต่อไป สาธุ สาธุ สาธุ เอวังฯด้วยประการฉะนี้




ได้แก้ไขคำผิดให้แล้ว คำว่า ยัง เขียน ขัง ขอบคุณมาก 

[Destiny]

โดย ASTVผู้จัดการรายวัน   13 ตุลาคม 2555 06:49 น.   
   
ASTVผู้จัดการสุดสัปดาห์-แม้จะรู้ทั้งรู้ว่า "นายสรยุทธ์ สุทัศนะจินดา" นักเล่าข่าวคนดังแห่งสารพัดรายการเรื่องเล่าทางไทยทีวีสีช่อง 3 จะมีพฤติกรรมฉ้อโกงอย่างชัดแจ้งหลังคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) มีมติเมื่อวันที่ 20 กันยายน 2555 ที่ผ่านมาว่า บริษัท ไร่ส้ม จำกัด และตัวนายสรยุทธมีความผิดในฐานะ "ผู้สนับสนุน" ทำให้ บริษัท อสมท จำกัด(มหาชน) ได้รับความเสียหายจากค่าโฆษณาเป็นเงิน 138,790,000 บาท แต่ดูเหมือนสังคมก็มิได้สนใจใยดีต่อพฤติกรรมดังกล่าวเท่าใดนัก

.............

นี่คือ ป.ป.ช. ตรวจสอบสำเร็จแล้วถึงความผิด ทุจริต

[ควน]

ทำอะไรได้ไม่มาก  แต่ไม่ดูข่าวช่อง 3 หลายวันแล้ว  รู้สึกว่าดูไปก็เหมือนสนับสนุนคนชั่ว

รายการอื่นของช่อง 3 ไม่ผิด แต่ชอ่ง 3 ผิดที่ไม่คิดจะทำอะไรเลย มีกำไรก็ไม่สนอะไรแล้ว

ทำอะไรได้แค่ไหนก็ทำไปแค่นั้น มันอาจไม่ได้ผลแต่ได้ทำและแสดงความรังเกียจต่อคนเลวแล้ว

[Destiny]

ทำอะไรได้ไม่มาก  แต่ไม่ดูข่าวช่อง 3 หลายวันแล้ว  รู้สึกว่าดูไปก็เหมือนสนับสนุนคนชั่ว

รายการอื่นของช่อง 3 ไม่ผิด แต่ชอ่ง 3 ผิดที่ไม่คิดจะทำอะไรเลย มีกำไรก็ไม่สนอะไรแล้ว

ทำอะไรได้แค่ไหนก็ทำไปแค่นั้น มันอาจไม่ได้ผลแต่ได้ทำและแสดงความรังเกียจต่อคนเลวแล้ว

[city]

ป.ป.ช.แค่ชี้มูลความผิดในเบื้องต้น..ให้โอกาสเขาสู้ในชั้นศาลจะเป็นไรไป..สำนักพิมพ์ผู้จัดการเขียนบทความหมิ่นประมาทผู้อื่น..ศาลตัดสินว่าผิดจริง..หลายครั้งหลายคราว..ซ้ำซาก(ทั้งทั้งเป็นอาชีพของตัว)..ก็ไม่เห็นว่ามีสมาคมนักข่าวที่ไหนออกมาตำหนิ..ทั้งทั้งที่เป็นหน้าที่โดยตรง..เฮ้ออ..thailand only..(หรือว่านายเด่น..จนเกินงามแล้ว..สรยุทธ์)

[คนเมืองสงขลา]

คุกอ่วม85ปี "สนธิ ลิ้มทองกุล"....
เมื่อเทียบกับกรณีนี้    คุณสรยุทธ์  ดูดีกว่าเยอะครับ..... เว็บนี้ชอบเอาข่าวจากเครือ ผู้จัดการมาอ้างอิงอยู่ด้วย  อ่านข่าวนี้แล้ว  อธิบายให้ผมดูหน่อยนะครับ...

http://www.dailynews.co.th/politics/14834

[ช่างสังเกตุ]

คุกอ่วม85ปี "สนธิ ลิ้มทองกุล"....
เมื่อเทียบกับกรณีนี้    คุณสรยุทธ์  ดูดีกว่าเยอะครับ..... เว็บนี้ชอบเอาข่าวจากเครือ ผู้จัดการมาอ้างอิงอยู่ด้วย  อ่านข่าวนี้แล้ว  อธิบายให้ผมดูหน่อยนะครับ...

http://www.dailynews.co.th/politics/14834

ผมมองว่าคุณกำลังบอกว่าถ้ามีคนกินขี้ คนกินขี้ผสมข้าวนั่นดีกว่าเหรอครับ แบบไหนถ้ามันผิดก็ต้องว่าไปตามความผิดครับ ผมว่าคุณก็เลือกกินข้าว มากกว่ากว่ากินขี้ผสมข้าวนะคับ

[ควน]

ประเทศเราไปไม่ถึงไหน เพราะคนในชาติต่างเมินเฉยต่อความไม่ถูกต้อง ต่อสิ่งที่ไม่ชอบธรรม

ต่างคิดได้ว่าใครควรทำอะไร แต่ไม่รู้ว่าตัวเองควรทำอะไร ไม่เห็นพลังอำนาจของตัวเอง

เห็นสิ่งผิดแล้วได้แต่คิดว่าตัวเองทำอะไรไม่ได้ บ้างก็บอกไม่สามารถทำอะไรได้

แต่กลับคิดได้ว่าใคร หน่วยงานไหนน่าจะทำอะไร หรือตอบโต้ต่อสิ่งผิดนั้นอย่างไร


ทำไมเราไม่ลองวัดพลังอำนาจของตัวเอง  ตอบโต้เท่าที่ทำได้ เชิญชวนคนที่ชวนได้ร่วมตอบโต้

กรณีนี้ ถ้าคิดว่าเขาทำผิดจริง ลองไม่ดูรายการนี้หันไปรับข่าวทางอื่นหรือช่องอื่นก็ได้

หรือถ้าให้แข็งขึ้น พยายามไม่เปิดช่องนี้ไปเลย(แต่ถ้าติดตามรายการไหนอยู่ก็ดูได้)

ถ้าเป็นไปได้ เลิกใช้สินค้าของผู้ให้การสนับสนุนรายการ เท่าที่สามารถเลิกใช้ได้


หลายคน(ส่วนใหญ่) คิดว่าการกระทำเช่นนี้ไม่ได้ผลอะไร เพราะเราทำอยู่คนเดียว  "ก็คงจริง"

แม้ไม่ได้ผลอะไร แต่ก็น่าจะภูมิใจได้ที่ได้ทำ ไม่ใช่คอยแต่คิดว่าใครควรทำอะไร