ข่าว:

ทดลองใช้งานบอร์ดตะลุง ที่อยู่ในขั้นตอนการกู้คืนข้อมูล เบื้องต้นมีแต่กระทู้ (ข้อความ) กำลังกู้รูปภาพ ไฟล์แนบต่าง ๆ คาดว่าจะทยอยสมบูรณ์ภายในไม่ช้า

Main Menu

พลิกโผ! CTH คว่ำทรูวิชั่นส์ ทุ่ม 9 พันล้าน คว้าลิขสิทธิ์พรีเมียร์ลีก

เริ่มโดย ทีมงานประชาสัมพันธ์, 15:13 น. 16 พ.ย 55

ทีมงานประชาสัมพันธ์

เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก premierleague.com

            กลุ่มซีทีเอช ของนายวิชัย ทองแตง และนายวัชร วัชรพล คว้าลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสดฟุตบอลพรีเมียร์ลีกของอังกฤษ แทนที่ บริษัททรูวิชั่นส์ ไปอย่างผิดคาด โดยมีข่าวว่า กลุ่มซีทีเอชอาจทุ่มงบเป็นจำนวนเงินถึง 9 พันล้านบาท

            ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อคืนวันที่ 14 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา เจ้าของสิทธิ์ฟุตบอลพรีเมียร์ลีกของอังกฤษได้แจ้งผลการประมูลลิขสิทธิ์ในเมืองไทยแก่ผู้เข้าประมูลทั้งหมด ซึ่งผลปรากฏว่าผู้ชนะการประมูล ได้แก่ กลุ่มซีทีเอช ของนายวิชัย ทองแตง อดีตทนายความของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร และนายวัชร วัชรพล ทายาทรุ่นที่ 3 ของหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ ซึ่งเป็นบุตรชายของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ วัชรพล ประธานกรรมการบริหาร บริษัท วัชรพล จำกัด โดยบริษัทซีทีเอชจะได้สิทธิ์การถ่ายทอดสด 3 ฤดูกาล ตั้งแต่ฤดูกาล 2013-2014 เป็นต้นไป ซึ่งถือว่าเป็นการพลิกล็อกครั้งใหญ่ เพราะในวงการคาดกันว่า ทรูวิชั่นส์ จะได้ครอบครองสิทธิ์ดังกล่าวต่อไป

            โดยในเบื้องต้น ทราบมาว่า ก่อนหน้านี้มีบริษัทใหญ่ 4 ราย ที่เข้าร่วมประมูลซื้อลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสดพรีเมียร์ลีก ได้แก่ ทรูวิชั่นส์ เจ้าของลิขสิทธิ์เดิม, จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่, อาร์เอส และ ซีทีเอช (CTH) ซึ่งได้ยื่นซองไปเมื่อปลายสัปดาห์ที่แล้ว และคาดว่ากลุ่มซีทีเอช ผู้ชนะประมูลจะต้องใช้เงินประมาณ 9,000 ล้านบาท ซึ่งเมื่อรวมภาษีและค่าใช้จ่ายทั้งหมดตัวเลขอาจสูงถึง 10,000 ล้านบาท สูงกว่าครั้งก่อนที่ ทรูวิชั่นส์ ได้ไปในราคาไม่ถึง 2,000 ล้านบาท

            สำหรับกติกาของการประมูลลิขสิทธิ์พรีเมียร์ลีกนั้น ผู้เสนอราคาสูงสุดจะต้องเสนอราคาห่างจากลำดับที่ 2 ไม่ต่ำกว่า 10% ไม่เช่นนั้นพรีเมียร์ลีกจะสามารถเรียกรายที่ 1 และ 2 มาเสนอราคาเพิ่มได้ แต่จากกระแสข่าวที่ออกมา พบว่า กลุ่มซีทีเอชเสนอราคาสูงกว่ารายที่ 2 เกิน 10% ซึ่งไม่แน่ชัดว่าเป็น ทรูวิชั่นส์ หรือ แกรมมี่ โดยขั้นตอนหลังจากนี้ ทางกลุ่มซีทีเอชจะต้องจ่ายค่ามัดจำ 3% ภายใน 5 วัน จากนั้นจะเจรจาระบบการจ่ายเงิน และวางแบงก์การันตี ส่วนเงินค่าประมูลนั้นจะแบ่งเป็น 3 งวด แต่ละงวดจะจ่ายก่อนเปิดฤดูกาลประมาณ 2-3 เดือน

            ด้านแหล่งข่าวจากวงการโทรทัศน์ เปิดเผยว่า ด้วยศักยภาพของซีทีเอช ทั้งเรื่องโครงข่ายและบุคลากรในขณะนี้ ไม่น่าจะรองรับโครงการใหญ่ขนาดนี้ได้ ดังนั้น เชื่อว่าจะต้องมีพันธมิตรอื่นที่ยังไม่เปิดตัวร่วมด้วย หรืออาจต้องเจรจากับรายอื่นที่มีโครงข่ายอยู่แล้ว นอกจากนี้ยังต้องจับตาว่า ทรูวิชั่นส์ จะแก้เกมอย่างไร เพราะลิขสิทธิ์พรีเมียร์ลีกถือเป็นหัวใจหลักของทรูวิชั่นส์ อย่างไรก็ตาม นายวิชัย ได้มีกำหนดแถลงข่าวอย่างเป็นทางการในวันนี้ (15 พฤศจิกายน) ที่โรงพยาบาลพญาไท 2 เวลา 15.00 น.

ทีมงานประชาสัมพันธ์

วิชัย ทองแตง เร่งระดมทุน 3 แบงก์ 2 หมื่นล้านหลังคว้าลิขสิทธิ์พรีเมียร์ลีก อังกฤษ

ที่มา มติชนออนไลน์ วันที่ 15 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555 เวลา 19:15:38 น.

"วิชัย ทองแตง" ทุ่ม 9 พันล้าน บาทนำ "ซีทีเอช" คว้าลิขสิทธิ์พรีเมียร์ ลีก อังกฤษ ระดม 2 หมื่นล้าน พัฒนาโครงข่ายถ่ายทอดต้นปีหน้า

นายวิชัย ทองแตง ประธาน กรรมการบริหาร บริษัท เคเบิล ไทย โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ ซีทีเอช เปิดเผยว่า ชัยชนะที่ซีทีเอชได้เป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ถ่านทอดสดการแข่งขันฟุตบอล พรีเมียร์ ลีก อังกฤษ 3 ปีซ้อน ในฤดูกาลปี 2556 ถึง 2559 ยังไม่ขอยืนยันราคาประมูล จะบอกได้เมื่ออีพีแอลเป็นผู้ประกาศ ซึ่งตอนนี้คาดกันไปถึง 9,000 ล้านบาท

ส่วนเงินกู้ธนาคารเสนอมา 3 แห่ง ตามแผน 3 ปีหน้าจะใช้กว่า 2 หมื่นล้านบาท พัฒนาเทคโนโลยี ต่อจากโครงข่ายที่ได้จากทีโอทีไปเรียบร้อยแล้ว

หลังจากเดือนมีนาคมปี 2556 เมื่อการประมูลดิจิตอลทีวีแล้วเสร็จได้ข้อสรุป ทางซีทีเอชเองก็จะขยายโครงข่ายเพื่อผู้ชมทุกกลุ่มทั่วไทยที่เป็นสมาชิกอยู่กว่า 3.5 ล้านครัวเรือน จากนั้นในอีก 3 ปีหน้า ตั้งเป้าจำนวนผู้ชมเคเบิลในเครือข่ายนี้จะเพิ่มเป็น 7 ล้านครัวเรือน โดยคงราคาการจัดเก็บค่าสมาชิกคงเดิมในกลุ่มที่ซื้อกล่องก็ไม่ต้องจ่าย ส่วนสมาชิกทั่วไปจ่าย 300-350 บาท/เดือน

ขณะที่เครือข่ายการถ่ายทอดจะดึงพันธมิตรทุกกลุ่มเข้ามาร่วม หรือแม้แต่ทรูเองก็อาจเข้ามาร่วมด้วยได้ หากเงื่อนไขของอีพีเอมีช่องทางให้ดำเนินการได้ เพราะการประมูลครั้งนี้ทางซีทีเอชไม่ได้คิดจะเอาชนะทรู เป้าหมายหลักอยู่ที่ความตั้งใจจะทำตามสัญญาที่ได้ให้ไว้กับอีพีแอล คือ ทำให้คนไทยทุกคนได้ชมฟุตบอล พรีเมียร์ ลีก อังกฤษ อย่างทั่วถึงทุกกลุ่มทุกอาชีพ และ ยังมีโครงการจะขายเนื้อหาให้ในพื้นที่ที่ได้รับอนุญาต คือ สปป.ลาว และ กัมพูชา

นายวิชัยยืนยันว่าการลงทุนที่มีอยู่ทั้งหมด นั้น โรงพยาบาลยังเป็นธุรกิจที่รักมาก ขณะนี้ถือหุ้นอยู่ในกลุ่ม บริษัท กรุงเทพดุสิตเวชการ จำกัด (มหาชน)  มีเงินทุนหมุนเวียนกว่า 1.6 แสนล้านบาท ส่วนการเข้ามาบุกเบิกธุรกิจเคเบิลทีวีเป็นเรื่องบังเอิญได้คุยกับเพื่อนพ้องให้เข้ามาช่วยแก้ปัญหาเคเบิลท้องถิ่นได้แจ้งเกิด และสามารถทำให้ประสบความสำเร็จภายในปีหน้า

ขณะที่ผลการดำเนินงานของซีทีเอชปี 2555 นายวิชัยกล่าวว่าอย่าถามถึง เพราะยังขาดทุนอยู่กว่า 100 ล้านบาท
แต่มั่นใจเมื่อได้ลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดฟุตบอล พรีเมียร์ ลีก อังกฤษ มาแล้ว 3 ฤดูกาล รวม 380 นัด ยังมีช่องทางขยายกิจกรรมการตลาดอีกมากมาย

นายวิชัยกล่าวว่านอกจากธุรกิจโรงพยาบาลที่อยู่ตัวแล้ว เคเบิลทีวีที่เพิ่งได้ลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสด พรีเมียร์ ลีก อังกฤษ แล้ว ก็ยังสนใจการลงทุนโลจิสติกส์ขนส่งน้ำมันทางท่อเพิ่มอีกธุรกิจ

Probass

TUF ลุ้น break new high   UVAN @80 บาท --> 106.50 บาท

นายไข่นุ้ย

DO YOU KNOW ME? I AM A CAT 28 YEARS. AND YOU?    แมวแท้สู (แมวยิ้ม)

attapong9

เครือข่าย ทักษิณ รวบกิน ประเทศไทย อีกแล้วครับ ท่าน เขาจะทำอะไรกับคนไทยเนี่ย โดนทั้งขึ้นทั้งล่อง โดนทรูเก็บค่าสมาชิกรายเดือนแพง พอทรู ยอมถอย เราก็ต้องเจอกับการซื้อกล่องรับดาวเทียมใหม่ สงสัยผลประโยชน์ตกอยู่ที่ประชาชนคนไทยจริง ๆ มั้ง ที่ได้ดูบอลพรีเมียร์ ตั้ง 3 ฤดูกาล

Figo


JATE_Gmail

ทามไมไม่ฮั้วกันอ่า เอามาแบ่งกัน ให้ต่างชาติมันทำไมเยอะๆ

ที 3G เงินเข้าประเทศ... กันซะน่าเกลียด  ส.โขกกำแพง ส.สั่งสอน