ปัญหาของชาวพะตง

[ประชาสัมพันธ์ คณะวิทยาศาสตร์ ม.อ.]

ก่อนอื่น ต้องขออภัยนะครับ ถ้ากระทู้นี้ ผมอาจจะกระทบกระทั้ง ใครไปบ้าง จริง ๆ อยากให้บ้านผมตั้งเเต่กำเนิดพัฒนาไปมากกว่าที่เป็นอยู่ครับ ถ้าท่านเป็นนักพัมนา ผมคิดว่าท่านคงรับไปพัฒนาได้ ประเด็นที่ผมจะกล่าวถึงวันนี้ผมจะกล่าวโดยรวมเพื่อเป็นข้อเสนอเเนะในทุก ๆ ฝ่าย ไม่ว่าจะเป็นเทสบาล สถานีตำรวจ และหน่วยงานอื่น ๆ ที่รับผิดชอบ โดยผมขอออกตัวเลยว่า เป็นเป็นเยาวชนรุ่นใหม่ ที่มีจิตใจพัฒนา กว่าหลาย ๆ คน

ประเด็นเเรกที่ผมจะกล่าวนั้นคือ เทศกาลต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นช่วงงานเฉลิมพระเกียรติ หรืองานอื่น ๆ จะสังเกตุได้ว่า เทศบาลของเรา อ่อนเรื่องการประชาสัมพันธ์ครับ ทุกท่านในพะตงกล่าวอยู่เสมอว่าจงรักภักดี ถ้าผมเป็นนายก สิ่งที่ผมจะทำคือการติดไฟเฉลิมพระเกียรติให้เต็มถนน ผมขับรถจากหาดใหญ่ มี คอหงส์มี บ้านพรุ มี พอเข้าเขตพะตงไม่มี ประเด็นนี้น่าสนใจครับ จริงอยู่ที่เปลืองงบประมาณ เเต่นี้คือสิ่งที่เชิดหน้าชูตาเมืองเราได้มากที่สุด เทศบาลเคยประดับไฟให้ผมประทับใจหนึ่งครั้ง นั้นคือ ช่วงเทศกลาตรุษจีน กับไฟโคมสีเเดง ๆ สองเส้น ซึ่งนั้นคือผลงานล่าสุดที่ผมเห็นครับ ฝากเรื่องนี้ด้วยนะครับ บางทีงานไม่ต้องทำหรอกครับ เเค่ติดไฟประชาชนก็อุ่นใจเเล้วครับ ว่าเทศบาลของเราเจ๋ง

ประเด็นที่สอง การอบรมครับ สังเกตุได้ว่าที่เป็นประเด็นอยู่หลาย ๆ วันคือการปิดถนนบริเวฯเซพสกิน ซึ่งอ้างว่าเกิดอุบัติเหตุบ่อยครัง อบัติเหตุไม่ได้เป็นเพราะเเยกหรอกครับ เป็นเพราะคนมากกว่า เทศบาลคงได้เงินจากโรงงาน ถ้าผมเป็นตำรวจ ผมเป็นนายก สิ่งแรกที่ผมอยากจะทำคือ การอบรมคนงานพม่า ไม่มีใบผ่านอบรมจราจร ไม่ให้ทำงานครับ พม่าอย่าคิดว่าเค้าโง่ครับ ถ้ามีการอบรมจราจร ให้เค้า เค้าก็ไม่ย้อนศร หรือขับรถประมาทหรอกครับ เอาง่าย ๆ ประสานงานโรงงาน ติดต่อจราจร หาล่าม จัดอบรมใหญ่เลยครับ โดยกำหนดไปเลย เพราะไม่อย่างนั้นก็จะเกิดเหตุการณืแบบนี้ครับ อย่านิ่งนอนใจครับ พม่าตายหลายท่านอาจจะไม่เสียดาย เเต่ถ้าพม่ามาขงวางรถท่านทำให้ท่านหักหลบเเล้วเราตาย อันนี้สิน่าคิด ฝากผู้กำกับ นายกไปประสานงานด้วยครับ

ประเด็นที่ สาม เรื่องของตำรวจอาสา ดีครับที่มีตำรวจอาสาเข้ามาช่วย เเต่ประเด็นนี้สังเกตุได้จากชุทมชนหลบมุม ที่มีตำรวจอยู่ริวทางรถไฟ ถ้าท่านมีหูมีตา ท่านช่วยขับรถผ่านเวลาประมาณ สี่ห้าทุ่มครับ ไม่กินเหล้า ก็เล่นไพ่ ประชาชนต้องหวังพึ่งอะไร หรือจะทำให้เป็นโลโก้ไปเเล้วครับ ถ้าเรื่องนี้ไม่มีความคืบหน้า ผมว่าติดกล้องวงจรปิดครับ เเล้วนั่งดูความสุขของตำรวจชุมชน กินเเต่เหล้า อย่าให้เมืองพะตง ขึ้นชื่อว่า ตำรวจเราเก่งครับ จับได้อยู่สองอย่าง ไม่รถไม้ ก็พม่า ฝากตรวจสอบด้วยครับ หวังว่าภาพลักษณ์ของตำรวจชุมชนคงดีกว่านี้

ประเด็นต่อไปครับ เรื่องอาชญากรรม ผมฝันนะครับ ฝันมาตลอดว่าพะตงจขะมีการตั้งโต๊ะเเถลงข่าวจับโจรได้ จับยาบ้าได้ จับคนขโมยได้ ไม่ใช่ภาพที่ผมเห็นจับเเต่พม่า จอดรถตรวจร้านคาราโอเกะ หรือไม่ก็กินเหล้า ความฝันผมจะเป็นจริงไหมครับ ก็เหมือนที่หลายคนบอกครับ ถ้าอยากจะฆ่าใครซักคน พอขับรถมาทุ่งลุงให้ยิงเลยครับ จับไม่ได้เเน่นอน

สุดท้ายนี้ ฝากเรื่องทั้งหมดด้วยนะครับ อยากเป็นส่วนหนึ่งในการสะท้อนปัญหา จริงอยู่ครับ ทำให้ถูกใจเราทำไม่ได้ เเต่ท่านเชื่อเถอะครับ ไม่มีใครด่าเราถ้าเราทำให้บ้านเรามีการพัฒนา เด็กรุ่นใหม่มองพวกคุณอยู่ เด็กพวกนี้ไม่ใช่ไม่พรอ้มนะครับ พร้อมครับเเต่ยังไม่ถึงเวลา เหลือเรื่องดี ๆ ให้พวกผมโตมาได้พัฒนาบ้านของผมบ้าง อย่าให้รุ่นผมมีเเต่ความเลวร้ายที่ยากจะพัฒนา ขอบคุณครับ เยาวชน

[sank]

ท่านเจ้าของกระทู้ครับ ที่ท่านมาตั้งกระทู้ในเว็บกิมหยงนี้จำนวนหลายข้อนั้น ผมก็มีทั้งที่เห็นด้วยกับท่านและก็มีที่ต้องชี้แจงให้ท่านทราบนะครับ
ข้อ 1.ท่านพูดเรื่องการประดับไฟในเทศกาลต่างๆ ผมเป็นพนักงานเทศบาลในส่วนที่มีหน้าที่ ต้องเตรียมสถานที่ในเทศกาลและงานพระราชพิธีต่างๆครับ และเป็นคนที่ประดับไฟตรุษจีนที่ท่านประทับใจนะหละครับ  เรื่องการประดับไฟให้สวยงามไม่ใช่ว่าเทศบาลไม่อยากทำครับพนักงานทุกคนก็อยากให้บ้านเราเชิดหน้าชูตาแบบเมืองอื่นแต่มันมีข้อจำกัดเรื่องงบประมาณอย่างที่ท่านว่าจริงๆ ซึ่งปีงบประมาณนี้เทศบาลพะตงตั้งงบไว้สำหรับซื้อวัสดุไฟฟ้าทั้งปีงบประมาณ 200,000 บาท ซึ่งน้อยมากครับเมื่อเทียบกับเทศบาลอื่นๆเพราะในเขตเทศบาลมีโคมไฟถนน 925 ชุดที่ต้องดูแลรักษาและซ่อมบำรุงตลอดปี  งบประมาณที่เหลือไว้สำหรับประดับตกแต่งไฟในงานต่างๆจึงค่อนข้างจำกัด ต่างกับเทศบาลอื่นซึ่งตั้งจ่ายเฉพาะซื้อวัสดุไฟฟ้าหลายแสนบาทหรือบางที่เป็นสิบล้านครับ ซึ่งวันพ่อปีนี้เทศบาลได้กันเงินส่วนหนึ่งสำหรับประดับไฟเกาะกลางแต่อาจไม่อลังการเท่าที่อื่นหวังว่าเมื่อเห็นแล้วท่านคงเข้าใจถึงขอจำกัดของเรา
ข้อ 2.เรื่องการจราจร  ที่ท่านบอกว่าเทศบาลคงได้เงินจากโรงงาน  อันนี้เป็นข้อสังเกตุที่ค่อนข้างร้ายแรงนะครับ โรงงานไม่ยอมจ่ายเงินเพื่อให้เทศบาลปิดเกาะกลางหน้าเซฟฯ หรอกครับ เพราะโรงงานเองก็เดือดร้อนที่โดนปิดเกาะกลางและโรงงานก็เป็นกลุ่มคนอีกกลุ่มนอกเหนือจากชาวบ้านที่ประท้วงการปิดเกาะกลางครับ  จริงๆเทศบาลประชุมร่วมกับแขวงการทาง โรงพักและโรงงานเรื่องการปิดเกาะกลางเพื่อลดอุบัติเหตุบริเวณนั้น แต่ในที่ประชุมนั้นมีมติให้ไปเปิดเกาะกลางตรงสามแยกบ้านคลองประตูก่อนจึงค่อยปิดเกาะกลางที่โสสะ แต่จากการไม่เข้าใจในการประสานงานจึงมีการปิดเกาะกลางก่อน เมื่อทราบว่าชาวบ้านเดือดร้อนเทศบาลจึงไม่นิ่งนอนใจได้ประชุมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและแก้ไขความเดือดร้อนให้ประชาชนในทันทีครับ ส่วนเรื่องการอบรมจราจรให้คนงานต่างชาติได้ประสานโรงงานให้ทำความเข้าใจแล้วครับ
ข้อ 3.และ ข้อ 4. ท่านต้องไปถามตำรวจเอาเองตามที่ท่านเห็นนะครับ
หวังว่าคำชี้แจงคงทำให้ท่านเข้าใจได้บ้างและขอน้อมรับข้อติติงของท่านนะครับ  ขอขอบคุณที่ท่านช่วยเป็นหูเป็นตาให้เทศบาลเพื่อจะได้พัฒนามากขึ้นไปกว่านี้ ผู้ปฏิบัติแบบพวกผมชอบที่จะทำงานอยู่แล้ว หากท่านมีข้อสงสัยอะไรสามารถไปโพสแสดงความคิดเห็นได้ที่ เว็บไซด์เทศบาลตำบลพะตง http://patong.go.th/index.php หรือ โทร 0-7429-1776 ต่อ 205
พงษ์สิน สืบวงศ์พฤกษ์ หัวหน้างานสถานที่และไฟฟ้าสาธารณะ เทศบาลตำบลพะตง

[ประชาสัมพันธ์ คณะวิทยาศาสตร์ ม.อ.]

ขอบคุณในส่วนของการชึ้เเจงนะครับ

ประเด็นเรื่องการติดตั้งไฟ อันนี้ต้องขอบคุณที่ให้ข้อมูลครับ

สำหรับประเด็นที่ สองเรื่องการปิดเกาะกลางนั้น ผมไม่ติงอะไรครับ เเต่อยากจะให้เทศบาลทำโครงการเรื่องการอบรมจราจรของคนงานต่างชาติ ไม่ก็เเสดงเจตนารมที่ดี ทำไวนิลเลยครับ

ส่วนเรื่องตำรวจนั้น ผมคิดว่าถ้ารอการพัฒนาคงยาก รอให้เป็นโลโก้ประจำตัวของตำรวจชุมชนดีกว่าครับ วัน ๆ ไม่ทำอะไร ไม่จับรถไม้ ก็กินเหล้า ขอบคุณหัวหน้างานไฟฟ้าครับ จากเยาวชนพะตง

[ประชาสัมพันธ์ คณะวิทยาศาสตร์ ม.อ.]

http://www.facebook.com/pages/เยาวชนตำบลพะตง/126441764180135?skip_nax_wizard=true#

ฝากเพจด้วยครับ มารวมตัวกันชาวพะตง เพื่อความพัฒนาบ้านเกิด

[Probass]

ผมว่าปิดเกาะกลางหน้า เซฟ ละดีแล้วครับ  ลดปัญหาอุบัติเหตุ

จุดกลับรถที่ใดตรงกับซอย ปิดให้หมดครับ บังคับให้ไปยูเทิร์น ปลอดภัยกว่า  ลดปัญหาการขับรถ วิ่ง ปั่นจักรยาน ตัดหน้ารถทางตรง

กลางวันไม่เท่าไหร่ครับ  กลางคืนสิครับ บางทีไม่ใช่พม่า แต่คนไทยแท้ๆนี่แหละ

เช่นตรงบ้านไร่ มีการเอาแท่งปูนมากั้นไว้ พอจะไม่ต้องกังวลระดับนึง

ผมผ่านเส้นนั้นประจำ รู้สึกถึงได้ครับ

[nda]

     ก็เห็นด้วยนะคะ กับการปิดเกาะกลางที่ตรงทางแยก แต่ในกรณีของหน้าโรงงานเซฟฯ แยกที่จะไปยูเทิร์นรวมไป-กลับจากจุดเดิมแล้วเกือบ 5 กม. นะคะ สำหรับคนที่ต้องไปจ่ายตลาดที่ติดกับโรงงานถือว่าไกลมากนะคะ ซึ่งส่วนใหญ่ก็ไปกับรถ จยย. เพราะไม่ค่อยจะมีที่จอด ไปตอนที่ฟ้ายังสว่าง ยูเทิร์นกลับมากว่าจะถึงตลาดค่ำเลยค่ะ  (แต่ตอนนี้ที่กั้นได้ถูกรื้อออกไปแล้วค่ะ เพราะชาวบ้านรวมตัวกันประท้วง) ถ้าทำเป็นไฟแดงน่าจะดีกว่านะคะ ถ้าปิดแล้วไปทำยูเทิร์นตรงจุดอื่นก็ไม่เห็นด้วยค่ะ เพราะชาวบ้านที่ใช้จักรยานในการมาทำงานเยอะมากนะคะ เค้าก็อาศัยยกข้ามเกาะกลางกัน เพราะไม่หนักมาก ถ้าเคยผ่านหน้าตลาดเซฟฯ จะเห็นตรงจุดนึงที่รถ จยย. ขับข้ามเกาะกลางเลย จนเกาะกลางเป็นดินไม่มีหญ้าแล้วค่ะ
     ในส่วนของการขับขี่ คิดว่าเป็นวินัยของแต่ละบุคคลมากกว่าค่ะ ที่จะพึงปฏิบัติรึป่าว คนไทยที่มีใบขับขี่บางคน ขับรถเหมือนกับซื้อใบขับขี่มาก็เยอะนะคะ ถ้าทุกคนไม่ประมาท เพิ่มความระมัดระวังให้มากขึ้น อุบัติเหตุก็จะลดลงค่ะ
     จากประสบการณ์นะคะ คนไทยบางคนนี่แหละค่ะสุดยอดแล้ว ฝ่าทุกไฟแดง อย่างเช่น ไฟแดงควนเนียง รถทางเอกจะฝ่าไฟแดงตลอด ขนาดแดงตั้งนานแล้วยังจะฝ่าอีก รถเครื่องรถยนต์ที่ขับมาจากทางวงแหวนหรือจะเลี้ยวขวาเข้าควนเนียง ต้องสังเกตุดีๆ วัดใจกันว่ามันจะมาไม่มา ทั้งๆ ที่เป็นไฟเรา บุ่มบ่ามออกไปถือว่าเป็นไฟเราก็เจ็บตัว พิการ หรืออาจถึงตายได้ ยิ่งรถขนของหนีภาษีไม่ต้องพูดถึงค่ะ ไฟเราก็จริงเค้าไม่เบรคหรอกค่ะ ชาวบ้านสายนั้นทราบดีค่ะ
     แล้วบางกรณี รถยนต์มาจากสายคลองแงะ เจอไฟแดงนี้แหละค่ะ เพื่อนเค้าติดไฟแดงกันยาว เค้าก็อุตส่าห์เลาะไหล่ทางเลนซ้ายมา ฝ่าไฟแดง ชนเข้ากับรถเครื่องที่ออกจากแยกควนเนียงจะตรงเข้าไปทางวงแหวน คนขับรถเครื่องเจ็บค่ะ ถึงฝ่ายผิดจะยอมจ่ายก็จริง แต่มันก็ไม่คุ้มหรอกค่ะ ทั้งร่างกาย ทั้งเวลา
     ไฟแดงหลบมุมก็ด้วยค่ะ ต้องมีเจ้าหน้าที่มาคอยโบกให้รถที่มาจากสายคลองแงะหยุด ทั้งๆ ที่เป็นไฟเขียวให้รถที่ออกมาจากโรงงานได้ข้ามไปอีกฝั่ง  รถที่ติดไฟแดงไม่ยอมหยุด คนที่ออกมาส่วนใหญ่ก็จะเป็นจักรยาน ความรวดเร็วก็จะไม่เท่ากับรถ จยย. ถ้าไม่มีเจ้าหน้าคอยโบกคอยห้ามรถ ก็กว่าจะได้ข้าม
    การประชาสัมพันธ์ ก็ไม่ใช่ว่าจะไม่มีเลยนะคะ อาจจะไม่มีแสงสีเท่าตำบลอื่น แต่ก็มีกิจกรรมทุกเทศกาลนะคะ มีรถขยายเสียงประกาศกิจกรรมให้ทราบด้วยค่ะ แต่บางทีก็คิดว่าก็ดีเหมือนกัน ถ้าเทศบาลประดับไฟในช่วงเทศกาลไม่ต้องให้อลังการมาก แล้วนำงบประมาณตรงนั้นไปเพิ่มตรงจุดเสี่ยงจุดอื่นอย่างถาวรดีกว่า อย่างเช่น ทางโค้ง จุดยูเทิร์น น่าจะเพิ่มประโยชน์ให้ชาวบ้านมากกว่าค่ะ

[คนข้างบ้าน]

ขออนุญาตแสดงความเห็นนะครับ
  ถ้าบริเวณแยกโสสะ นั้น ทำเป็นสัญญานไฟ จะดีกว่านะครับ เพราะบริเวณนั้นเป็นแยกใหญ่ และช่องกลับรถที่ไฟแดงหลบมุมกับหน้าสยามแซม นั้นซะ แล้วเกาะกลางก็ติดตั้งรั่วสูงๆ บังคับให้คนข้ามสพานลอยโดยอัตโนมัติครับ ทนช่วงแรกหน่อยแล้วจะชินไปเองครับ กับกฏระเบียบที่ต้องปฏิบัติ  ไม่อย่างนั้นก็ชนตายกันอยู่อย่างนั้นแหละครับ
ที่ให้ปิดที่กลับรถหน้าสยามทั้ง สองด้านเพราะ จะได้เท่ากันทั้งสองบริษัทและความปรอดภ้ยของผุ้ใช้ถนนด้วยครับ แยกไฟไม่มากเกิน จะมาอ้างรถเข้าออกบริษัทไม่สด้วยไม่ได้หรอกครับ เห็นแก่ตัวกันเกินไป หากเราทำตามกฏจราจร อุบัติเหตุก็ไม่เกิดหรอกครับ นี่อะไรก็ฝ่ามันหมดทุกอย่าง  เห็นแก่ตัวกันไปหมด ไม่ยอมกันเลย ประชาธิปไตย เสรีภาพ นั้นควรมีครับ แต่ให้พอดีและยอมรับในสิทธิของผุ้อื่นด้วย เพราะฉะนั้นจึงมีกฏหมายมาบอกว่า คุณควรมีเสรีภาพขนาดนี้ เพราะถ้ามีไม่สิ้นสุด คนอื่นจะเหลืออะไรให้เป็นเสีรีภาพของเขา ละครับ