ม.หาดใหญ่เชิญ ดร.วิษณุ เครืองาม ให้ความรู้เศรษฐกิจอาเซียนแก่ชุมชน

[ทีมงานประชาสัมพันธ์]

ม.หาดใหญ่เชิญ ดร.วิษณุ เครืองาม

ให้ความรู้เศรษฐกิจอาเซียนแก่ชุมชน

คณะรัฐศาสตร์และนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยหาดใหญ่ จัดบรรยายพิเศษทางวิชาการเรื่อง"อำนาจรัฐกับการบริหารประเทศไทยภายใต้กระแสการเปลี่ยนแปลงสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน" โดยศาสตราจารย์กิตติคุณ ดร.วิษณุ  เครืองาม เมื่อวันที่ 23 พฤศจิกายน 2555 ณ ศูนย์กีฬาและกิจการนักศึกษา มหาวิทยาลัยหาดใหญ่

ศาสตราจารย์กิตติคุณ ดร.วิษณุ กล่าวว่า "ภาครัฐเป็นเจ้าของเรื่องที่ต้องมีส่วนในการผลักดันเรื่องนี้แน่นอน แต่คำว่ารัฐหรือรัฐบาลไม่มีความต่อเนื่อง  มาแล้วก็ไปในเวลาอันรวดเร็ว  กำลังคิดว่าจะทำอะไร ประชาสัมพันธ์อย่างไร สุดท้ายเมื่อหมดรัฐบาลชุดเก่าก็จบลงไป พอรัฐบาลชุดใหม่มาก็มีความคิดอีกแบบหนึ่งก็เลยเกิดการคิดใหม่ทำใหม่อยู่เรื่อยๆ เพราะฉะนั้นเมื่อเอ่ยถึงความตั้งใจของภาครัฐแล้ว ขอให้น้ำหนักกับราชการหรือหมายถึงหน่วยงานต่างๆมากกว่า อาทิเช่น กระทรวงการต่างประเทศ  กระทรวงพาณิชย์และกระทรวงศึกษาธิการ  ที่จะมาช่วยให้ความรู้และการศึกษา ในการผลักดันประเทศสู่อาเซียน นอกจากนี้ยังมีสำนักงานนายกรัฐมนตรีที่มีหน่วยงานประชาสัมพันธ์และสถานีโทรทัศน์ในการให้ความรู้ความเข้าใจแก่ประชาชน  ซึ่งจะทำให้ประชาชนเกิดความเข้าใจมากขึ้นโดยเฉพาะประชาชนในจังหวัดชายแดน"

นอกจากนี้ยังกล่าวเสริมเรื่องการศึกษาของประเทศไทยว่า "ประเทศไทยมีจุดเด่นในเรื่องของสุขภาพอนามัยและการศึกษา  โดยเฉพาะการศึกษาในระดับมหาวิทยาลัยแล้ว ย่อมมีบทบาทในด้านการศึกษาอย่างแน่นอน เพราะสามารถจัดหลักสูตรอาเซียนศึกษาเองได้  โดยมีการสอนและการสอบ หรือแม้กระทั่งการสมัครเข้าทำงาน จะต้องมีเรื่องราวเกี่ยวกับอาเซียนด้วย จะเห็นได้ว่าธนาคารหรือที่ทำงานหลายแห่งเริ่มมีการออกข้อสอบเกี่ยวกับอาเซียน แต่ในส่วนทางราชการยังไม่มี   ซึ่งการเปิดประชาคมอาเซียนนั้นก่อให้เกิดโอกาสทางด้านการศึกษาเพิ่มขึ้น คำว่า "Free Flow Education" จึงไม่ได้กล่าวถึงแค่โรงเรียนระดับปอเน๊าะเท่านั้นแต่ยังรวมไปถึงระดับมหาวิทยาลัยด้วย  หากใครอยากเรียนในสายเยอรมัน  ฝรั่งเศส  สามารถเรียนได้ในประเทศอาเซียนแต่ทางรัฐไม่รับรองเรื่องของหน่วยกิตหรือไม่อำนวยความสะดวกเท่าที่ควร  ดังนั้นคำว่า "เสรีภาพทางด้านการศึกษา" คือต้องให้ความสะดวกทางด้านการศึกษาทุกอย่างทั้งเด็กไทยและเด็กแลกเปลี่ยนด้วย  โดยในปัจจุบันนักศึกษาต่างชาติสนใจเข้ามาเรียนในเมืองไทยมากขึ้น อีกทั้งยังมีนักธุรกิจในประเทศอาเซียนเข้ามาลงทุนในด้านสุขภาพและการศึกษาเพิ่มมากขึ้นอีกด้วย ดังนั้นในอนาคตคาดว่าอาจเกิดโรงเรียนเอกชน  โรงเรียนพาณิชย์ และสถานพยาบาลเพิ่มขึ้นในประเทศไทยอีกหลายแห่งทีเดียว"