ข่าว:

ทดลองใช้งานบอร์ดตะลุง ที่อยู่ในขั้นตอนการกู้คืนข้อมูล เบื้องต้นมีแต่กระทู้ (ข้อความ) กำลังกู้รูปภาพ ไฟล์แนบต่าง ๆ คาดว่าจะทยอยสมบูรณ์ภายในไม่ช้า

Main Menu

อย่าเล่นกับอนาคตของชาติ

เริ่มโดย ขี้ข้าทักษิณ, 15:48 น. 07 ธ.ค 55

ขี้ข้าทักษิณ

..นักมวยที่ขึ้นต่อยบนเวทีนั้น ไม่รู้ว่าตัวเองต่อยดีหรือไม่อย่างไร คนที่รู้ว่านักมวยต่อยดีหรือไม่คือคนดูที่ข้างเวที ซึ่งเห็นได้ชัดเจน แต่มีเงื่อนไขว่าคนดูข้างเวทีต้องไม่เล่นพนันมุมแดงหรือน้ำเงิน จึงจะมีความเป็นกลาง วันนี้คนกลุ่มหนึ่งจะทำตัวเป็นคนดูข้างเวทีที่ไม่ได้ถือหางนักมวยฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง แต่เดิมพันของเขาคือชาติบ้านเมือง นัยหนึ่ง คนกลุ่มนี้ขอทำหน้าที่เป็นกระจกนอกสภาสะท้อนให้รัฐบาลนำไปปรับปรุงแก้ไข

เมื่อจะตรวจสอบการทำงานของรัฐบาล ก็ต้องเอานโยบายของรัฐบาลที่แถลงเมื่อวันที่ 20 ส.ค. 2554 เป็นตัวตั้ง ซึ่งประกอบด้วยนโยบายเร่งด่วนที่จะทำในปีแรก 16 เรื่อง และนโยบายที่จะทำในช่วง 4 ปี อีก 7 ข้อ ลองมาดูว่าประชาชนกลุ่มนี้ ซึ่งไม่ใช่กลุ่มทุนหรือกลุ่มการเมืองที่ถูกมองว่าเสียประโยชน์ พวกเขามองการบริหารงานของรัฐบาลที่ผ่านมา 1 ปีอย่างไร โดยจะสรุปให้สั้นและตรงประเด็นมากที่สุด

เริ่มจากนโยบายเร่งด่วนก่อน แทนที่จะสร้างความสามัคคีปรองดองอย่างที่คุย ดูเหมือนว่ารัฐบาลจะสร้างความแตกแยกมากขึ้น เมื่อมุ่งเยียวยาผู้เสียหายอย่างไม่เป็นธรรม กลั่นแกล้งกันทางการเมือง กดดันทหาร ไม่ยอมรับรายงาน คอป. เพราะไม่ถูกใจตัว เร่งรัดผลักดันให้มีสภาร่างรัฐธรรมนูญเพื่อยกร่างรัฐธรรมนูญขึ้นใหม่และออกเสียงประชามติ เหล่านี้จะเป็นประเด็นที่จะก่อให้เกิดความขัดแย้ง

รัฐบาลประสบความล้มเหลวในการป้องกันและปราบปรามการทุจริตคอร์รัปชันภาครัฐ ปรากฏข่าวเรื่องการทุจริตคอร์รัปชันเกิดขึ้นอย่างกว้างขวางและรุนแรงที่สุดครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์การเมืองไทย โดยเฉพาะโครงการจำนำข้าวและโครงการฟื้นฟูน้ำท่วม

รัฐบาลประสบความล้มเหลวอย่างสิ้นเชิงในการบริหารจัดการน้ำท่วม จนถือว่าเป็นภัยพิบัติที่มีความเสียหายรุนแรงมากที่สุดในโลก

รัฐบาลประสบความล้มเหลวในการฟื้นความสงบเรียบร้อยใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ รัฐบาลไม่สามารถคุ้มครองความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนได้

รัฐบาลประสบความล้มเหลวในการแก้ไขภาวะเงินเฟ้อและราคาน้ำมันเชื้อเพลิง ข้าวของอุปโภคบริโภคแพงขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ประชาชนเดือดร้อนทุกหย่อมหญ้าเพราะต้องจ่ายเพิ่มขึ้น รัฐบาลไม่สามารถทำให้ราคาน้ำมันลดลงมาตามที่หาเสียงไว้

แม้ในที่สุดรัฐบาลสามารถเพิ่ม ค่าจ้างขั้นต่ำวันละ 300 บาท และเงินเดือนขั้นต่ำ 1.5 หมื่นบาทได้ แต่ช่วงแรกที่นำร่องใน 7 จังหวัดนั้น สินค้าอุปโภคบริโภคมีราคาแพง พอขึ้นทั่วประเทศ สินค้าก็แพงขึ้นอีกเป็นรอบที่สอง ผู้ประกอบการปรับตัวและย้ายฐาน สุดท้ายคนงานและพนักงานรัฐที่มีรายได้สูงขึ้นแต่ไม่มีอะไรดีขึ้น

ยังไม่ชัดเจนว่า การที่รัฐบาลประกาศลดภาษีเงินได้นิติบุคคลเหลือ 23% และ 20% ในปี 2555 และ 2556 ตามลำดับ โดยหวังว่าบริษัทจะหลีกเลี่ยงการเสียภาษีน้อยลงนั้น เวลานี้ไม่รู้ว่าบริษัทพวกนี้หนีภาษีน้อยลงและจ่ายภาษีมากขึ้น จนสามารถชดเชยรายได้ที่รัฐขาดหายไปได้จริงหรือไม่อย่างไร

การเพิ่มเงินกองทุนประเภทต่างๆ เพื่อกระตุ้นให้คนมากู้ไปใช้จ่ายและลงทุนมากขึ้น แม้เป็นที่ชื่นชอบของคนทั่วไป แต่คนมีหนี้เพิ่มขึ้น

โครงการจำนำข้าวเปลือกและข้าวเจ้าหอมมะลิเกวียนละ 1.5 หมื่นบาท และ 2 หมื่นบาท ตามลำดับ ซึ่งเป็นที่ชื่นชอบของชาวนา แต่ความเสียหายได้เกิดขึ้นแล้ว คนที่ได้ประโยชน์จริงๆ คือ โรงสีและชาวนากลาง-รวย และนักการเมือง

รายได้จากการท่องเที่ยวดูเหมือนจะเป็นรายได้หลักที่จะเข้าประเทศ เพราะการส่งออกเหลือเพียงไม่เกิน 5% จากเป้าที่ตั้งไว้ 15% แต่เราเสียโอกาสด้านการท่องเที่ยวไปในช่วงน้ำท่วมใหญ่ปลายปี 2554 รายได้จากท่องเที่ยวไม่น่าห่วงนัก แต่รัฐบาลก็ต้องเร่งหาเงินจากการนี้ในปี 2555 ให้มากขึ้น

การพัฒนางานศิลปหัตถกรรมและผลิตภัณฑ์ชุมชน หรือ โอท็อป ไม่ค่อยมีผลงานชัดเจนเหมือนยุคแรก ส่วนระบบประกันสุขภาพ 30 บาทรักษาทุกโรค ถือว่าเป็นผลงานต่อเนื่องที่คนชอบ ส่วนเรื่องการจัดหาเครื่องคอมพิวเตอร์ให้เด็ก ป.1 นั้น ยังไม่อาจประเมินผลดี

สำหรับ ผลงานเด่น ของรัฐบาลตามนโยบายเร่งด่วนคือการปราบปรามยาเสพติด ซึ่งถือว่าเด่นที่สุดแม้ซัพพลายจากนอกประเทศยังมากอยู่ก็ตาม เช่นเดียวกับการฟื้นฟูความสัมพันธ์และร่วมมือกับประเทศเพื่อนบ้านโดยเฉพาะกัมพูชา

ส่วนนโยบายที่จะดำเนินการในช่วง 4 ปี ที่มี 7 ข้อนั้น แค่ปีแรก รัฐบาลก็ประสบความล้มเหลวในการปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ให้ดำรงไว้ซึ่งพระบรมเดชานุภาพ คนที่ดูถูกดูหมิ่นสถาบันสูงสุดยังวนเวียนอยู่ในแวดวงรัฐบาลอย่างใกล้ชิด เช่นเดียวกับล้มเหลวด้านคุณธรรม จริยธรรม หลักธรรมาภิบาล และความยุติธรรม

การบริหารงานปีแรกของรัฐบาลชุดนี้เป็นไปอย่างสะเปะสะปะ หลังจากเจอวิกฤตน้ำท่วมครั้งใหญ่ก็ชักไปไม่เป็น รัฐบาลบริหารประเทศแบบไม่ค่อยฟังเสียงของประชาชนที่เห็นต่าง จนจะเป็นแบบกึ่งเผด็จการประชาธิปไตยเข้าไปทุกทีข่าวการทุจริตคอร์รัปชัน ปรากฏอย่างกว้างขวางรุนแรง

รัฐบาลใช้ "นโยบายประชานิยม" มุ่งแก้ปัญหาระยะสั้นเพื่อหาเสียงเป็นสำคัญ ส่วนประเทศชาติจะเสียหายร้ายแรงในระยะยาวอย่างไรไม่สนใจ รัฐบาลแก้ปัญหาโดยเอา "การเมือง" เป็นตัวตั้ง ไม่ได้เอา "บ้านเมือง" เป็นตัวตั้ง

รัฐบาลกำลังเล่นกับ "อนาคตของชาติ" หลายฝ่ายออกมาเตือนเพราะมีตัวอย่างของประเทศที่พินาศฉิบหายเพราะโครงการประชานิยมมาแล้วก็ยังไม่ฟัง ทำให้คนไทยจำนวนไม่น้อยอึดอัดใจและชักจะทนไม่ไหวมากขึ้นทุกที ในขณะที่ "เดิมพัน" ของรัฐบาลคือ "การเมือง" แต่เดิมพันของประชาชนคือ "บ้านเมือง" ต่างฝ่ายต่างไม่ยอมกัน การต่อสู้ในปีหน้าจะเข้มข้นมากขึ้น..


โดย....ภุมรัตน์ ทักษาดิพงษ์ อดีตผู้อำนวยการ สำนักข่าวกรองแห่งชาติ


ท่านมุซาชิ

ผมว่าแก้ไขอะไรไม่ทันแล้วพี่หลวงเหอ ที่คนไทยไม่ยอมทำไรอาจเพราะโดนปิดกั้นไม่ให้รับรู้เรื่องที่นักการเมืองหลายคนทำชั่วๆ ออกเสนอข่าวแต่ในด้านที่ยกยอเพียงอย่างเดียว  ส.ร้อง