ข่าว:

ทดลองใช้งานบอร์ดตะลุง ที่อยู่ในขั้นตอนการกู้คืนข้อมูล เบื้องต้นมีแต่กระทู้ (ข้อความ) กำลังกู้รูปภาพ ไฟล์แนบต่าง ๆ คาดว่าจะทยอยสมบูรณ์ภายในไม่ช้า

Main Menu

วาทะกรรมที่ไร้สจจะธรรม

เริ่มโดย เตือนความจำ, 16:16 น. 12 ธ.ค 55

เตือนความจำ

วาทกรรมจำแลงที่ผู้คนในบ้านเมืองไม่เคยลืมก็คือ "บกพร่องโดยสุจริต" หรือ "รวยแล้วไม่โกง" และ "โกงบ้างแต่ทำงานเก่ง" ซึ่งวาทกรรมดังกล่าวเป็นของใครคงไม่ต้องจาระไนกันอีก เพราะทุกคนรู้ดี

เป็นวาทกรรมที่สรรแต่งกันเพื่อเบี่ยงเบนความเป็นจริงให้ผู้คนทั้งหลายหลงเชื่อ ซึ่งใน "สัจจธรรม" แห่งความเป็นจริงแล้วไม่ใช่เพราะมันเป็นเพียงข้อแก้ตัวเท่านั้น

สร้างค่านิยมผิดๆให้กับสังคมคล้อยตาม

"ระบอบทักษิณ" สร้างค่านิยมที่เลวร้ายในการทำงานของระบบราชการ เพราะคิดว่าทำงานให้นายคนเดียวก็ข้ามหัวขึ้นไปเป็นผู้ใหญ่ได้ อาชีพของข้าราชการที่เคยภาคภูมิใจว่าการรับราชการก็เสมือนทำงานถวายให้ในหลวง เพราะที่ผ่านๆมาแต่ก่อนนั้น ข้าราชการในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวนั้นถือเป็นเรื่องน่าภาคภูมิใจ เพราะเป็นการทำงานให้กับองค์พระประมุขของชาติ ซึ่งทรงเป็นที่เคารพสักการะสูงสุด

"ระบอบทักษิณ" ปล่อยให้ญาติโกโหติกาเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับธุรกิจสัมปทานของรัฐ ผูกขาดสืบทอดต่อๆกันไปโดยไม่คำนึงถึงคนอื่นในการแข่งขัน แม้ขณะนี้ทักษิณไม่ได้อยู่ในประเทศเพราะหนีคุกอยู่นอกประเทศก็ตาม ผู้คนที่สืบทอดอำนาจกันมาใน "ระบอบทักษิณ" ก็ยังคงดำเนินการทุกอย่างแบบเดียวกันในการหลอกล่อผู้คนด้วยวาทกรรมหรูๆ แต่ไร้สัจจธรรมไม่เปลี่ยนแปลง

การลุกขึ้นสู้ของประชาชนคงทนไม่ไหวกับพฤติกรรมเลวๆของ "ระบอบทักษิณ" จึงเกิดขึ้นและขยายตัวออกไปอย่างรวดเร็ว เพราะรู้ว่าถ้าปล่อยให้เป็นอย่างนี้ต่อไปแล้ว ความล่มสลายหายนะย่อมเกิดขึ้นกับชาติบ้านเมืองแน่นอน โดยเฉพาะในเรื่องสำคัญๆดังต่อไปนี้

1. อำนาจบริหารและนิติบัญญัติของประเทศ จะตกอยู่ในอำนาจของ "ระบอบทักษิณ" ต่อไปและเด่นชัดขึ้น และจะเหิมเกริมยิ่งกว่าเก่า จะทำอย่างไรก็ทำได้ แม้การใช้อำนจรัฐไปรับใช้คนคนเดียวหรือคนกลุ่มเดียวก็ทำได้

2. อำนาจตุลาการของประเทศ จะตกอยู่ในภาวะอันตราย จะถูกครอบงำและแทรกแซงทุกรูปแบบ ศาลยุติธรรมที่ปฏิบัติหน้าที่ภายใต้พระปรมาภิไธยของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จะไม่สามารถทำหน้าที่ได้อย่างอิสระ ไม่สามารถให้ความเป็นธรรมแก่ส่วนรวมได้

3. องค์กรอิสระและกระบวนการยุติธรรมของประเทศไทย จะถูกครอบงำโดยระบอบทักษิณ ทำให้ไม่สามารถทำหน้าที่ตรวจสอบผดุงความยุติธรรมในสังคมได้อีกต่อไป และจะไม่สามารถดำเนินการบังคับใช้กฎหมายกับคนพวกนี้ได้เลย ผู้มีอำนาจใน "ระบอบทักษิณ" จะยิ่งใหญ่อยู่เหนือการถูกตรวจสอบ

4. กองทัพและข้าราชการจะถูกแบ่งแยก และยึดครอง คนเก่งคนดีจะไม่ได้รับผลแห่งการทำดี เพราะต้องให้โอกาสกับคนใน "ระบอบทักษิณ" ก่อน โดยไม่เป็นไปตามความสามารถในการทำงานและระบบอาวุโส

5. การเมืองภาคประชาชนจะอ่อนแอ และถูกทำลายให้แตกสลาย จนไร้พลังในการเคลื่อนไหว

เมื่อ "ระบอบทักษิณ" ยังคงอยู่ ย่อมต้องทำทุกวิถีทางในการกำจัดเสี้ยนหนามและศัตรูทางการเมืองของตน ด้วยการทำให้อำนาจส่วนอื่นๆอ่อนแออย่างถึงที่สุด จนไม่สามารถรวมกันหรือมีพลังเพียงพอในการต่อสู้

6. ชาวรากหญ้าทั้งหลายในพื้นที่ห่างไกลจะยังคงถูกปฏิบัติเสมือนเป็นแค่เครื่องมือในการเข้าสู่อำนาจรัฐของนักการเมืองพวกนี้ต่อไป

จะไม่ได้รับการปฏิบัติดังเป็นเจ้าของประเทศหรือเจ้าของอำนาจอธิปไตยที่แท้จริง ศักดิ์ศรีแห่งความเป็นมนุษย์จะถูกหลอกล่อ ถูกซื้อและนำนโยบายประชานิยมเข้ามอมเมาจนไม่สามารถจะยืนหยัดด้วยตัวเองได้ ทำให้ต้องตกอยู่ภายใต้ระบบอุปถัมภ์ของนักการเมืองพวกนี้ต่อไปไม่สิ้นสุด

7. ระบบเศรษฐกิจของประเทศจะถูกบ่อนทำลายความสามารถในการแข่งขัน การแข่งขันอย่างเสรีและเป็นธรรมจะถูกทำลายลงด้วยระบบวิ่งเต้นและเส้นสาย จะเกิดการแบ่งปันผลประโยชน์และแสวงหากำไรมาแบ่งปันกันของผู้คนใน "ระบอบทักษิณ" การเอารัดเอาเปรียบกันจะมีมากขึ้น

8. ระบบการเมืองไทยจะกลายเป็นระบบของคนไม่กี่ตระกูลใน "ระบอบทักษิณ" ผู้นำประเทศไม่ต่างอะไรกับบริษัทส่วนตัวที่จะเอาคนไหนในตระกูลมาเป็นก็ได้ โดยไม่สนใจว่าจะมีคุณสมบัติ มีความรู้ความสามารถหรือไม่

9. สถาบันสูงสุดหมิ่นเหม่ถูกล่วงละเมิดยิ่งขึ้นในรูปแบบต่างๆ ภายใต้การปล่อยปละละเลยไม่ใส่ใจในการป้องกันระงับยับยั้ง

ทั้งหลายทั้งปวงของการดำเนินการภายใต้วาทกรรมที่ไร้สัจจธรรมดังที่กล่าวมาทั้งหมด เป็นหน้าที่ของคนไทยทุกคนที่ต้องร่วมมือกันและต่อสู้ร่วมกันเพื่อขจัดสิ่งเลวร้ายต่างๆเหล่านี้ให้หมดไปให้ได้ตั้งแต่บัดนี้

ตาโป๋เป่าปี่