ดร.มหาเธร์ หนุนท่องเที่ยววันเดย์ทริปไทย-มาเลย์ เชื่อมลังกาวี-ตะรุเตา-หลีเป๊ะ

[ทีมงานบ้านเรา]

โดย  ASTVผู้จัดการภาคใต้ www.ASTVsouth.com

[attach=1]

สตูล - "ดร.มหาเธร์"เยือนสตูลอย่างเป็นทางการ เผยเห็นศักยภาพของ จ.สตูล เตรียมพัฒนาความร่วมมือชายแดน หนุน"ท่องเที่ยววันเดย์ทริป" เชื่อมโยง ลังกาวี-ตะรุเตา-หลีเป๊ะ โดยไม่ใช่พาสปอร์ต
       
       วันนี้ (5 ม.ค.) นายเหนือชาย จิระอภิรักษ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสตูล นำคณะหัวหน้าส่วนราชการ และภาคธุรกิจ และ เอกชน ให้การต้อนรับ อดีตนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ดร.มหาเธร์ บินมูฮัมหมัด และคณะ ที่เดินทางมาเยือนจวนผู้ว่าราชการจังหวัดสตูลเป็นครั้งแรกในรอบประวัติศาสตร์ พร้อมบรรยายพิเศษ เรื่องการประสานความร่วมมือชายแดนด้านการท่องเที่ยวจังหวัดสตูลและลังกาวี
       
       โดย ดร.มหาเธร์ บินมูฮัมหมัด เปิดเผยว่า รู้สึกประทับใจกับการต้อนรับของชาวสตูล ซึ่งเห็นถึงความตั้งใจจริง และพร้อมสนับสนุนในการนำไปสู่ความร่วมมือกันระหว่างลังกาวีกับสตูล หลายโครงการมีประโยชน์และเห็นโอกาสของเมืองนี้ พร้อมเห็นตลาดขนาดใหญ่ที่สตูลจะเติบโต สำหรับตลาดการท่องเที่ยวในเกาะลังกาวีนั้นจะทำสนามบินเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวจากเกาะลังกาวี - ตะรุเตา - หลีเป๊ะ ที่พร้อมจะระบายคนออกมาทางจังหวัดสตูลแบบวันเดย์ทริป (ท่องเที่ยวใน 1 วัน) โดยไม่ต้องใช้ พาสปอร์ต 
       
       ทั้งนี้ เกาะลังกาวียินดีให้ จ.สตูล นำสินค้าเข้าไปจำหน่าย ส่วนเรื่องการขอความร่วมมือในการลงทุนร่วมในการติดตั้งกระแสไฟฟ้าบนเกาะหลีเป๊ะ เรื่องนี้ยินดีรับไปพิจารณา และเห็นว่าตลาดการท่องเทียวสตูลและลังกาวีมีแนวโน้มจะดีขึ้น และการมาในครั้งนี้นับเป็นก้าวแรกของความร่วมมือกันที่จะพัฒนาประสานความร่วมมือด้านการท่องเที่ยวชายแดนระหว่างกันด้วย
       
       จากนั้น ดร.มหาเธร์ บินมูฮัมหมัด อดีตนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ได้เดินทางไปร่วมละหมาดกับพี่น้องมุสลิมที่มัสยิดกลางมำบัง มัสยิดประจำจังหวัด ก่อนเดินทางไปชมทัศนียภาพ เกาะตะรุเตา และเกาะลังกาวี ที่ ต. ตันหยงโป อ.เมืองสตูล และร่วมกิจกรรม " 2013 ปันน้ำใจสู่ชุมชน " ก่อนเดินทางกลับเกาะลังกาวี ประเทศมาเลเซีย
       
       ด้าน พลเอก ชวลิต ยงใจยุทธ นายกรัฐมนตรีไทย ที่มีกำหนดการจะเดินทางมาพบปะกับ ดร.มหาเธร์ บินมูฮัมหมัด ได้ส่งผู้ช่วยเลขา รมต.คมนาคม ลงมาพบปะแทนเนื่องจากติดภารกิจสำคัญ
       
       สำหรับ ดร.มหาเธร์ บินมูฮัมหมัด อดีตนายก รมต.มาเลเซีย ที่ดำรงตำแหน่งยาวนานที่สุดถึง 22 ปี ได้พัฒนาประเทศมาเลเซียจนเป็นระดับแกนนำในอาเซียน จนเป็นที่ยอมรับของโลกเกี่ยวกับการจัดวางระบบ โดยเฉพาะการวมศูนย์ราชการไว้ที่ตึกเดียวเพื่อบริการประชาชน

[Samson-delilah]

วาทะสำคัญของท่านตอนเป็นนายกฯมาเลเซียใหม่ๆ
"ผมจะพัฒนามาเลเซียให้เท่าเทียมประเทศไทยให้ได้" ปรากฏว่าท่าน"ผิดคำพูด" ท่านเล่นทำมาเลเซียเจริญเกินหน้าเราไปนับ10ปี(บางคนบอก20ปีโน่น)
หมายฟามว่าระยะ10ปีนี้มาเลย์หยุดไว้แค่นี้ไม่ต้องพัฒนาอะไรเลย แล้วรอให้ไทยวิ่งตาม ต้องใช้เวลาถึง10ปี(หรือ20ปี) เช่น
การศึกษา
เศรษฐกิจ
การเมือง
สังคม(ความสะดวกในการไช้ชีวิต ความปลอดภัย สวัสดิการ ความเสมอภาค การเคารพกฏหมายและฯลฯ)
ในฐานะที่ไปมาเลย์บ่อย ผมว่า100ปีก็ไล่ไม่ทัน ถ้าวันๆยังมีข่าวความขัดแย้ง ยาเสพติด ปล้นฆ่าข่มขืนและคอรัปชั่น