ข่าว:

ทดลองใช้งานบอร์ดตะลุง ที่อยู่ในขั้นตอนการกู้คืนข้อมูล เบื้องต้นมีแต่กระทู้ (ข้อความ) กำลังกู้รูปภาพ ไฟล์แนบต่าง ๆ คาดว่าจะทยอยสมบูรณ์ภายในไม่ช้า

Main Menu

สมจิตต์ โพสต์เฟซบุ๊ค น้อมรับคำตัดสินศาล ยกฟ้องคดีแดงอีเมล์ขู

เริ่มโดย itplaza, 11:00 น. 09 ม.ค 56

itplaza




สมจิตต์ นวเครือสุนทร

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า น.ส.สมจิตต์ นวเครือสุนทร ผู้สื่อข่าวสถานีโทรทัศน์สีกองทัพบกช่อง 7 ได้โพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊ค ถึงความคืบหน้าคดีที่ถูก น.ส.พรทิพย์ ปักษานนท์ แกนนำกลุ่มเสื้อแดงเพชรบุรี ส่งอีเมลข่มขู่ โดยระบุว่า

ความถูกผิดยุติที่กระบวนการยุติธรรม เคารพคำตัดสินของศาลค่ะ ถือว่าคดีนี้จบแล้ว

คดีแดงอีเมล์ขู่นักข่าวช่อง 7 ยุติแล้ว หลังผู้พิพากษาชั้นต้น ไม่เซ็นรับรองยื่นอุทธรณ์ ระบุ ข้อเท็จจริงไม่ใช่ปัญหาสำคัญอันควรที่จะให้ศาลอุทธรณ์พิจารณาต่อไป

รายงานความคืบหน้าหลังจากที่ดิฉันได้มอบหมายให้คุณกิตติวัฒน์ นิติอัครพัฒน์ ทนายความจากสภาทนายความ ยื่นอุทธรณ์คัดค้านคำพิพากษาศาลชั้นต้น เมื่อวันที่ 7 มกราคม ที่ผ่านมา หลังจากที่ นายพิษณุ ทิพย์รอด ผู้พิพากษาศาลแขวงดุสิต มีความเห็นยกฟ้องคดีที่นางสาวพรทิพย์ ปักษานนท์ ประธานนปช.เพชรบุรี ส่งอีเมล์ข่มขุ่ผ่านเครือข่ายคนเสื้อแดงจำนวน 47 คน โดยวินิจฉัยเมื่อวันที่ 6 ธันวาคมที่ผ่านมาว่า

คดีดังกล่าวนางสาวพรทิพย์มิได้ส่งข้อความ "จำหน้าหล่อนไว้นาครับ เห็นที่ไหนก็จัดให้หน่อยแล้วกันครับ" ไปถึงนางสาวสมจิตต์โดยตรง แต่เป็นการส่งข้อความผ่านบุคคลต่าง ๆ รวม 47 คน จึงไม่เข้าองค์ประกอบกฎหมายอาญามาตรา 392 ที่บัญญัติว่า

"ผู้ใดทำให้ผู้อื่นเกิดความกลัวหรือความตกใจ โดยการขู่เข็ญต้องระวางโทษ...ซึ่งองค์ประกอบของความผิดนี้ผู้กระทำผิดจะต้องมีเจตนาขู่เข็ญต่อผู้เสียหายโดยตรง และประสงค์ต่อผลโดยทำให้ผู้เสียหายเกิดความกลัวหรือความตกใจ"

ดังนั้น การที่จำเลยส่งข้อความไปยังบุคคลจำนวน 47 คนดังกล่าว โดยไม่ได้ส่งถึงนางสาวสมจิตต์โดยตรง จึงมิใช่เป็นการขู่เข็ญแต่เป็นเพียงการส่งข้อความภายในของกลุ่มนางสาวพรทิพย์เท่านั้น คดีจึงไม่ครบองค์ประกอบความผิดตามกฎหมายมาตรา 392

โดยในวันนี้ ( 8 มกราคม 56) ทนายความได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่ศาลว่า นายพิษณุ ทิพย์รอด ผู้พิพากษาชั้นต้นได้วินิจฉัยคำอุทธรณ์คัดค้านคำพิพากษาในคดีนี้แล้ว มีคำสั่งไม่เซ็นรับรองให้ยืนอุทธรณ์ต่อศาลอุทธรณ์ด้วยเหตุผลว่า "ข้อเท็จจริงไม่ใช่ปัญหาสำคัญอันควรที่จะให้ศาลอุทธรณ์พิจารณาต่อไป"
จึงถือว่าคดีนี้สิ้นสุดแล้วไม่สามารถดำเนินการอย่างใดได้อีก

กราบขอบพระคุณสภาทนายความและคุณกิตติวัฒน์ นิติอัครพัฒน์ ทนายความจากสภาทนายความ ที่สละเวลาช่วยทำคดีนี้ให้ ไม่ว่าผลเป็นอย่างไรพร้อมน้อมรับ เพราะนี่คือกติกาที่จะทำให้สังคมไทยอยู่ร่วมกันอย่างสงบสุข คือ ถูกผิดให้ตุลาการตัดสินไม่ใช่ความรู้สึกหรือใช้เสียงข้างมากมาชี้ถูก ชี้ผิด เพราะเสียงข้างมากบอกได้แค่ความต้องการเท่านั้น

จบซะทีก็ดีค่ะ ชีวิตมีเรื่องให้ทำอีกเยอะ ^^

อ้างอิง  : MThai
ที่มา  http://itplaza.co.th/update_details.php?type_id=1&news_id=23933&page=1