ข่าว:

ทดลองใช้งานบอร์ดตะลุง ที่อยู่ในขั้นตอนการกู้คืนข้อมูล เบื้องต้นมีแต่กระทู้ (ข้อความ) กำลังกู้รูปภาพ ไฟล์แนบต่าง ๆ คาดว่าจะทยอยสมบูรณ์ภายในไม่ช้า

Main Menu

ไทยไม่เสียประโยชน์ มั่นใจไม่แพ้เขมรในศาลโลก เชื่อใต้ดีขึ้น ใ

เริ่มโดย itplaza, 10:53 น. 11 ม.ค 56

itplaza



หากเอ่ยถึงชื่อ พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รมว.กลาโหม ต้องยอมรับว่า ที่ผ่านมาถือว่าเป็นรัฐมนตรีที่มีภาพทำงานเด็ดขาดมากที่สุดคนหนึ่งของรัฐบาล ปู 3 โดยเฉพาะกรณีตามถอดยศ ร.ต. ของอดีตนายกรัฐมนตรีหน้าหล่อ อย่างนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งถือเป็นทอล์กออฟเดอะทาว์นข้ามปีจาก 2555 มาจนถึงปี 2556

ถึงแม้ถูกฝ่ายตรงข้ามค่อนแคะว่า ทำตามใบสั่งนายใหญ่ เพื่อดิสเครติดทั้ง "อภิสิทธิ์" และอาจมองเลยไปตั้งเป้าดิสเครดิตพรรค "พระแม่ธรณีบีบมวยผม" ในการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.ที่กำลังจะมีขึ้นในครั้งนี้  ซึ่งบิ๊กโอ๋ ก็ทำหน้าที่อย่างเต็มที่แบบไม่สะทกสะท้านแม้แต่น้อย


ขณะที่อีกกรณีหนึ่งที่กำลังร้อนแรงไม่แพ้กัน คือ กรณีกัมพูชาฟ้องศาลโลก ขอให้ตีความขอบเขตคำพิพากษาของศาลเมื่อปี 2505 คดี "ปราสาทเขาพระวิหาร" ซึึ่งถือเป็นเรื่องสำคัญมาก เพราะมันหมายถึงอธิปไตยและบูรณภาพของประเทศไทย ซึ่ง พล.อ.อ.สุกำพล ก็ถือเป็นอีกบุคคลหนึ่งที่ต้องเกี่ยวข้องโดยตรงอย่างไม่อาจหลีกเลี่ยงเพราะ มีหน้าที่ดูแลความมั่นคงโดยตรงนั่นเอง ทีมข่าวไทยรัฐออนไลน์ได้รับเกียรติจาก รมว.กลาโหม เปิดห้องทำงานที่กระทรวงกลาโหม พูดคุยเรื่องราวที่เกิดขึ้นทั้งหมด ทุกเรื่องแบบหมดเปลือก เราไปติดตามกันเลย...

-พี่โอ๋ เห็นเป็นอย่างไร ที่ตอนนี้ประชาชนเห็นว่า พี่เป็นคนมีลักษณะนิสัยที่เด็ดขาด และกล้าตัดสินใจ โดยเฉพาะเรื่องถอนคำสั่งรับราชการ และถอดยศทหาร คุณอภิสิทธิ์ หัวหน้าพรรค ปชป.?

มันก็ไม่ใช่บอกว่าเป็น ทหาร คนเราไม่ใช่บอกว่า มีนิสัยเด็ดขาดอย่างเดียว ในบางงานมันต้องเอานะ ประเด็นนี้มันต้องอย่างนี้ บางเรื่องก็ต้องนิ่มนวล ก็เป็นไปตามเกมของมัน ตามเพลงของมัน จะบอกว่าเราเด็ดขาดทุกเรื่อง ไม่ใช่หรอก บางเรื่องแล้วแต่สถานการณ์ ถ้ารู้กฎ กติกาก็ต้องทำไป


- แสดงว่าที่ผ่านมาที่ทำลงไปเพราะเราเห็นไม่ถูกต้อง แล้วคณะกรรมการแจ้งผลมาอย่างนั้น เราจึงต้องดำเนินการใช่ไหม?

อัน นี้ไม่ต้องถามมันก็เป็นอย่างนั้น สมัยนี้ข่าวสารมันถึงหมด เราจะไปทำแบบว่า อย่างที่เขาว่ากันอย่างนั้น มันไม่ได้หรอก เรื่องกลั่นแกล้งนะ ถ้าจะฟ้องศาลก็ฟ้องไป เราต้องมั่นใจ เราต้องรู้ว่าคนที่เรากำลังทำอยู่คือใคร เขาเป็นถึงอดีตนายกรัฐมนตรี เป็นหัวหน้าผู้นำฝ่ายค้าน แล้วเราไปสู้กับเขาว่า หนีทหาร ใช้เอกสารเท็จอย่างนี้ ถ้าไม่ชัดเจนทำได้ไง เรื่องนี้เป็นเรื่องสู่สาธารณชน ถ้าไม่ใช่เรื่องจริงแล้วจะทำได้อย่างไร เขาก็ว่าเรากลั่นแกล้งก็ว่าไป คนพรรคนี้ เขาพูดกันแบบนี้ก็ว่าไป สรุปเขาถูกหมด นี่ถูกทุกอย่าง 99 ศพก็ถูก มันก็เป็นไปไม่ได้ มันก็ต้องใช้เวลาพิสูจน์ เราอยู่ในภาพอย่างนี้ เป็นรัฐบาลก็ต้องทำตามมารยาท ส่วนเรื่องที่เขาจะฟ้องก็ฟ้องไป

ส่วน ที่บอกว่า ถ้าศาลรับเรื่องที่ฟ้องแล้ว อย่างศาลปกครอง ยิ่งถ้าศาลมีคำสั่งคุ้มครองออกมาจริง เป้าหมายพรรค ปชป. อาจเอาเรื่องนี้ไปฟ้องที่ศาลอาญาด้วยนั้น มันก็เป็นเรื่องของเขา อันนั้นเราก็รู้อยู่ แต่ถ้าเรามั่นใจ อย่าไปกลัว ถ้ามั่นใจว่าเอกสารหลักฐานเราถูกต้อง อย่าไปกลัว ถ้ามัวแต่กลัวเขาฟ้องก็ไม่ต้องทำอะไรเลย ถ้าย้อนกลับว่าประเทศไทยมีอดีตนายกรัฐมนตรีที่ใช้เอกสารสมัครรับราชการทหาร เท็จนี่ สง่างามไหม ถามมั่ง แล้วตัวเองเคยรับรึเปล่า เคยบอกไหมว่า ไม่หนี เคยรับไหมว่า ใช้เอกสารเท็จ แถมไปว่าสัสดีออกให้เองอีก ตัวเองรู้เต็มอก ลูกผู้ชาย รู้เต็มอก อย่าให้พูดต่อเลยอดีตนายกฯ ทำได้แค่นี้ ก็ไม่รู้จะว่าอะไร


-ที่แล้วมาแสดงว่า มีกระบวนการช่วยอดีตนายกฯ ใช่หรือไม่?

ที่ ผ่านมาผมก็แปลกใจว่า หาเอกสารไม่เจอ ถามว่าช่วยไหม ผมเองก็ไม่ได้อยู่ในยุคนั้น หรือเกี่ยวข้องกับยุคนั้น ก็อย่าไปพูดเลย แต่ผมยืนยันว่าผมทำแล้วมีเอกสารทั้งหมดละกัน อย่าไปพูดเลย วันนี้ผมหาเจอเป็นข้อจริงไม่มีเท็จ

-ที่ท่านดำเนินการ เรื่องคุณอภิสิทธิ์มาทั้งหมดรับคำสั่งใครมาไหม แล้วที่มีการกล่าวกันว่า เป้าหลักคือ ทำให้คุณอภิสิทธิ์หลุดจากตำแหน่ง ส.ส. ล่ะ จะอธิบายอย่างไร?

ถามว่าวันนี้ "อภิสิทธิ์" มี คุณค่าขนาดไหน บางคนบอกว่า ท่านอภิสิทธิ์เป็นหัวหน้าฝ่ายค้านอยู่ ก็เป็นผลดีกับฝ่ายเรา (รัฐบาลพรรคเพื่อไทย) บางคนเขาพูดอย่างนี้ ผมก็ไม่ได้ว่าอะไรนะ ไปเปลี่ยนหัวหน้าใหม่มา เดี๋ยวคนใหม่เขาเข้มแข็ง เดี๋ยวก็ยุ่งอีก อันนี้ผมก็ไม่ทราบ แต่ผมว่าเรื่องนี้อยู่ที่ข้อเท็จจริง เหตุและผล

ผมถูกผู้ตรวจการแผ่นดินยื่นหนังสือมา ผมก็ต้องทำ ไม่มีทางเลือกเป็นทางอื่น แล้วเมื่อทำแล้วก็เจอความจริง ถามว่าเมื่อเจอแล้วจะต้องทำอย่างไร ก็ให้ตั้งกรรมการขึ้นมาชุดหนึ่งเพื่อหาความจริงว่า ใช้เอกสารเท็จสมัครรับราชการทหาร เมื่อดูแล้วก็เสนอเรื่องขึ้นมา ผมก็ต้องรอบคอบ เสนอว่าอย่างนี้เราก็ดูด้วยไม่ใช่รีบเซ็น ใช้เวลาดำเนินการถึง 136 วัน แล้วก็บอกรีบร้อนเซ็นคำสั่งในช่วงอภิปรายไม่ไว้วางใจ



ถาม ว่า อภิปรายฯ ผ่านมาแล้วมีปัญหาอะไรหรือไม่ แล้วมาขอโทษผมบ้างไหม ที่กล่าวหาผมแล้วเป็นอย่างไร ข้อเท็จจริงที่ผ่านมายืนยันว่า ไม่ได้ขัดขวางการอภิปรายฯ เลย เขาก็ทำได้หมด สุดท้ายผมถูกด่าฟรีหรือเปล่า ผมมีหน้าที่ "ตามล่าหาความจริง ไม่ใช่ตามล่าหาหน้าหล่อ" ตามล่าหาว่าความจริงเป็นยังไง ส่วนเมื่อความจริงออกมาแล้วก็เป็นเรื่องของผู้ที่เกี่ยวข้อง กระทรวงกลาโหมจบแล้วได้แค่นี้ กระทรวงไม่ได้ลงโทษเลยนะ แค่เอาสิ่งที่ถูกขโมยไปคืนมาเท่านั้น ยศตำแหน่งอะไรทั้งหลายเอาคืนมา เท่านั้นเอง ถามจริงๆ พรรคปชป. ไม่คิดส่งคนมาคุยกับผมบ้างเหรอ จะได้ทราบข้อเท็จจริง เขาก็ไม่เคยฟ้องผมนะ กล่าวหาว่าผมหมิ่นประมาทเขาหนีทหาร แต่เขาฟ้องผมในข้อหาอย่างอื่น

-แล้วเรื่องเงินตำแหน่งล่ะ จะเอาคืนรึเปล่า?

เรื่อง เงินนี่ 1. เราทราบดีว่าเขาไม่ได้รับบำเน็จบำนาญ 2. ตอนที่รับราชการทหาร เขาก็ทำงานไป ก็รับเงินเดือนไปก็จบ ซึ่งเอาคืนไม่ได้เพราะทำงานจริง มันมีคำพิพากษาศาลฎีกาเทียบเคียงอยู่ว่า เข้ามารับราชการไม่ถูกต้องแต่ทำงานให้ก็จ่ายเงินเดือน เพราะมีผลงาน เนื้องานถูกต้อง ถึงกรณีนี้จะทำงานจริงแค่ไม่กี่วัน แค่ 30 กว่าวันในการทำงานแล้วก็ลาซะ 100 กว่าวันก็ต้องอย่างนั้นล่ะ เรื่องนี้ถ้าเป็นผมนะผมอายแย่แล้ว หลักฐานทั้งหลายแถมในสภาฯ ยังเคยโชว์หลักฐาน สด.20 ใบยกเว้นนะ กับผมไม่เห็นจะเอามาให้เลย เอามาสิ หรือมีก็เอามาโชว์ ผมไม่กลัวฟ้องอยู่แล้ว ฟ้องก็ฟ้องมา ก็เหมือนบอกผมเป็นผู้ชายจะไปอายทำไม

ส่วนจะขู่แรงๆ ว่าระวังจะติดคุกก็ถือเป็นเรื่องของเขา คุณจะฟ้องผมก็สู้ ผมเคยโวยวายไหม ไม่เคย คือแน่ใจอย่าไปกลัว มันชัดเจนยิ่งกว่าอะไร ผมทำด้วยความรอบคอบไม่ใช่ทำด้วยสิ่งที่เป็นโมหะ เขากับผมก็ไม่เคยเป็นศัตรูกันมา เมื่อเห็นชัดเจนอย่างนี้ก็ต้องทำ โดยเฉพาะคนที่ขึ้นมาเป็นระดับแนวหน้าประเทศอย่างนี้ ถ้าเป็นสหรัฐอเมริกาแค่รู้แค่นี้ใบสมัครเขายังไม่ขายให้เลย

"แต่ ส่วนตัวผม มีมารยาทพอที่จะไม่พูดถึงใคร เอาแค่คนๆ เดียว ความจริงผมรู้หมดนะ ว่าเรื่องเป็นอย่างไร ไปถึงคนไหน ไปขอใครยังไง ไปหาใครผมรู้หมด แต่เราก็พูดแค่นี้ นี่คือลูกผู้ชาย แต่อย่าให้สมุนลามผมมากไม่ดี แต่ผมก็หนักแน่นพอสมควร ไม่ตอบโต้หรือแก้แค้นอะไรหรอก เพราะเราเป็นผู้ใหญ่ ก็ทำไปตามหน้าที่ แล้วหนักแน่น เขาจะฟ้อง จะปลดก็ว่ากันไปก็แค่นั้น แต่ผมคิดว่ามีหลักฐานก็ทำไป หรือจะดีเบตก็ได้นะ คือเหตุเขาทำอย่างนั้น ผลผมก็เอาคืน ไม่ได้ไปลงโทษอะไรเขาเลย เอาคืนสิื่งที่กลาโหมเสียไป"

- กรณีเขาพระวิหาร ท่านในฐานะที่ต้องดูแลด้านความมั่นคง คิดอย่างไร ยิ่ง รมว.ต่างประเทศ ออกมาให้สัมภาษณ์ว่ามีโอกาสแพ้ด้วยแล้ว?

ผม บอกไว้เลยว่า สื่อฯ ไปตีความไม่ดี ตีความอย่างนี้ก็พังทั้งประเทศ สื่อฯ ดูสิ เขาบอกว่ามันมีโอกาส เมื่อศาลตัดสิน ขึ้นศาลก็มีโอกาสแพ้ชนะ อย่างผมขึ้นศาลก็มีโอกาสแพ้-ชนะ ใช่ไหม เราก็ต้องทำใจไว้บ้างว่าอาจจะเป็นอย่างนั้น ก็แค่นั้นเขาก็พูดแค่นั้น ท่าน รมว.ต่างประเทศ ท่านพูดตามหลักการง่ายๆ  แต่เราไม่ใช่เราพูดว่าบอกว่าแพ้แล้วไปตัดตอนมานี่ พอไปตัดตอนมา พอออกปั๊บก็แก้ไขยาก นี่เป็นความรับผิดชอบต่อสื่อฯ ถ้าลงกันอย่างนี้ประเทศพัง ที่อื่นเขาไม่ลงกันอย่างนี้หรอก ผมพูดอย่างนี้เป็นร้อยครั้งแต่ไม่เคยได้รับการตอบสนอง ต้องมานั่งแก้ข่าวกัน วันนี้เรื่องเขาพระวิหาร ไม่ว่าจะเป็นคนดี คนอยู่ในคุก คนที่อยู่ตรงไหน มีหัวใจดวงเดียวกันไม่อยากแพ้ ไม่อยากเสียดินแดน ที่เขาเดินขบวน หรืออะไรก็เหมือนกัน เหมือนผมนี่ล่ะ ตรงนี้เราไม่อยากหรอกอย่างนั้น แต่ในเมื่อเราอยู่ในกติกา เมื่อมันขึ้นศาลไปแล้วก็ต้องขึ้นกัน ทางกองทัพดูความมั่นคง เรื่องของศาลก็ว่าไป ในการสนับสนุน มีข้อมูลอะไรกองทัพก็ต้องทำเต็มที่ เรื่องการปกป้องอธิปไตยเราต้องว่าอีกทีหนึ่ง เมื่อศาลตัดสินวันสุดท้ายยังไงแล้วก็เป็นหน้าที่ของฝ่ายความมั่นคงต้องดูแล ให้เป็นอย่างนั้น

-พูดเหมือนกับว่า ถ้าตัดสินออกมาเป็นลบต่อประเทศแล้วประชาชนตัดสินแล้วบอกไม่เอา อย่างนี้เราต้องรักษาอธิปไตย ใช่หรือไม่?

ไม่ ใช่ อย่าสรุปอย่างนั้น สรุปอย่างนี้ไม่ดีเลย หมายความว่าเรื่องนี้เรื่องใหญ่ เรื่องกฎกติกา มารยาทของประเทศ ถ้าประชาชนลงมติฯ แล้วว่าไม่ให้ เราก็ต้องว่าตามนั้น คือเราเป็นคนกลางของรัฐบาลก็ว่ามา ความจริงวันนี้เราไม่ควรพูดเชิงแพ้ตลอด ไม่ควรพูดหรอก แล้วกรณีที่มีกระแสข่าวลือว่า กัมพูชาเตรียมกำลังทหารมาเสริมที่บริเวณชายแดนนั้น ผมยืนยันว่า ไม่มี ข่าวนี้ก็เป็นแค่ข่าว ไม่มีหรอกการจัดเตรียมกำลัง ไปลงแบบนี้ก็เสียหมด ไม่มีหรอกว่ากัมพูชาจัดเตรียมกำลัง ไม่ได้เตรียมอะไรเลย


-แสดงว่าผู้ใหญ่ทั้ง 2 ฝ่ายได้คุยกันอยู่แล้ว?

ก็ผมบอกไม่มี ก็ไม่มีก็แล้วกัน เชื่อผมเถอะว่าไม่มี ก็เพราะมองในแง่ร้ายตลอดมันก็แย่ ข่าวนี้ลงก็ดี ขายดี แต่ผลเสียหายที่ตามมาไม่ได้ดูว่ามันคืออะไร บางที่เรื่องความมั่นคงมันพูดไม่ได้ ไม่ใช่รู้หมดทุกอย่าง ถ้ารู้หมดทุกอย่างจะมีรัฐมนตรีไปทำอะไร ไม่ใช่เรื่องของกระทรวงพาณิชย์ อย่างโครงการรถคันแรก เอ่อรู้เท่ากันได้ อันนี้มันไม่ได้

-แล้วกรณีวัดแก้วสิกขารามที่กัมพูชาไปตั้งวัดและชุมชนล่ะ ถ้าเอาจริงๆ แล้วถ้าศาลโลกตัดสิน ก็บอกกันว่าเราจะเสียเปรียบ?

ก็ ศาลโลกยังไม่ตัดสิน ยังไม่รู้อะไรเลย แล้วไปเดาได้ยังไงว่าเขาตัดสินแบบไหน ถ้าศาลตัดสินชนะแล้วไม่พูดบ้างล่ะ สำหรับผมเรามั่นใจว่าเราชนะ ผมมีเหตุผลของผม เพราะฉะนั้นผมไม่พูดในเชิงแพ้หรอกนะ มั่นใจว่าไม่แพ้หรอก

-มีข่าวว่าเราเสียเปรียบกัมพูชา เพราะมี MOU ของรัฐบาลชุดอดีตนั้นจริงหรือไม่?

ไม่ เกี่ยว เมื่อ MOU เขาบอกชัดเจนแล้วว่ารัฐบาลไทยไม่ได้รับรองแล้ว เมื่อไม่รับรองแล้วก็จบไปก็ถอนออกมาแล้ว ก็แค่นั้นแล้วทำไม ใครจะถือก็ถือไป เราไม่ใช้แล้วคือมันหาเรื่องกัน ถือว่าวันนี้เอาเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ เอาเรื่องความมั่นคงมาคุยกัน ไม่ใช่ทะเลาะกัน ดูง่ายๆ ถามว่าฟ้องคดีนี้ในสมัยไหนเอาใกล้ๆ นี่ล่ะก็ปี 2551 ท่านฮุน เซนยังบอกว่า ถ้าเป็นรัฐบาลชุดนี้เขาไม่ฟ้องหรอก นั่นคือภาพความสัมพันธ์ระหว่างรัฐบาลไทย-เขมร ใน 2 รัฐบาลที่แตกต่างกัน

-แล้วที่มีคนมาต่อว่าที่กัมพูชามาญาติดีกับเราเพราะมีผลประโยชน์ทางทะเล?

ตรง ไหนล่ะ ยังไงล่ะ พูดอย่างนี้พูดได้ พูดมาว่าตรงไหน ยังไง จะเสียตรงไหน ผมจะแลกทะเลตรงไหนล่ะ ถามว่าได้โจร 500 อยู่ในคุกจะยอมไหมล่ะเรื่องประเทศชาติ พูดอย่างนี้มันเป็นประเด็น พูดอย่างนี้ผมดูถูกคนพูด พูดแบบให้เป็นประเด็นขึ้นมา ประโยชน์ตรงไหนคุณว่ามาแล้วผมจะเสียตรงไหน เสียน้ำมันตรงไหนทะเลเป็นอย่างไร ตรงที่มีปัญหารู้เรื่องบ้างหรือเปล่า


- แล้วที่คนบอกว่า ถ้าเสียพื้นที่เขาพระวิหารและพื้นที่ 4.6 ตร.กม. จะมีผลต่อเขตแดน และพื้นที่ในทะเลถึงกว่า 1.8 ล้านไร่ล่ะ?

คุณจะบอกว่าเอาพื้นที่ 4.6 ตร.กม.มาบอกว่าถ้าเสียไปแล้วเราจะเสียพื้นที่เป็น 1.8 ล้านไร่ คนทำได้มันคงฉลาดน่าดู

- มีนักวิชาการบางคนเสนอว่า ถ้าเราแพ้คดีจริง อยากเสนอให้รัฐบาลดันเรื่องนี้เข้าสู่ที่ประชุมสหประชาชาติ แล้วให้ใช้ความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับชาติมหาอำนาจทั้ง 5 นั้น ให้วีโต้เรื่องตกไป ทุกอย่างก็จะกลับไปเหมือนเดิม จริงเท็จประการใด?

ผม ไม่รู้นะมันเป็นเรื่องข้อกฎหมาย ศาลโลกก็อยู่ภายใต้ยูเอ็นอยู่แล้ว แต่ทำไมไปทำอย่างนั้นได้ผมก็ไม่รู้นะ อาจทำได้ก็ได้ รู้แต่ว่าถ้ามันเป็นไปได้มันก็เป็นอีกวิธีการหนึ่ง แต่ส่วนตัวผมมั่นใจในข้อมูลผมว่าจะไม่แพ้ ผมคลุกคลีในปัญหานี้พอสมควร มันไม่ได้มีสิ่งใดที่น่าเป็นห่วง เหมือนมวยกำลังจะขึ้นชก แล้วบอกว่าเอ็งแพ้แน่ แล้วจะขึ้นชกทำไม เดินลงมาดีกว่าจะได้ไม่เจ็บตัว สื่อมวลชนก็สำคัญก็ต้องลงข่าวที่มันเป็นคุณบ้าง อย่างมาเลเซียอาชญากรรมเขาก็มีมาก แต่สื่อเขาไม่ลงข่าว แต่ลองเราลงทุกศพที่มี ก็ไม่รู้จะว่าไง อย่างเราเขาพระวิหารที่ รมว.ต่างประเทศ พูดมาเป็นประเด็นข่าวไปอีก 7 วัน ที่ต้องมาแก้ข่าว ซึ่งสื่อฯ ก็ได้ประโยชน์ ได้ลงข่าวขายดีไปอีก 7 วันเท่านั้นเอง แต่ประเทศชาติเสีย คนกัมพูชาก็ตีปีกว่า คนไทยจะแพ้แล้ว มันต้องดูเรื่องชาติด้วย คือมันต้องหนักแน่นบ้าง ถ้าเป็นอย่างนี้ก็แค่กัมพูชาชอบ เราตีกันเอง

- สุดท้ายทุกเรื่องมันก็โยงไปที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ทั้งหมดทุกเรื่อง เรื่องผลประโยชน์ในทะเล เรื่องถอดยศอภิสิทธิ์?

ไม่ มีใครโยงหรอก มีแต่สื่อมวลชนสิโยงไปคนนั้นคนนี้ อย่างเรื่องใต้ลองไม่ลงข่าวซักเดือน เรื่องก็เงียบเอง ท่านทักษิณจะไปรู้เรื่องอะไร ท่านอยู่ไกลขนาดนั้น ท่านก็รู้เรื่องแต่ไม่ใช่ทุกอย่าง ถ้าท่านทักษิณรู้ขนาดนั้น วันหลังผมจะสร้างบ้านอยู่ชายแดนจะได้ใกล้ไม่ต้องไปไกล เรื่องโยงไปถึง พ.ต.ท.ทักษิณ คิดว่ามาบ่อยๆ ก็ดีนะ คนจะได้รู้ว่ามันไม่จริง เขาพูดก็ห้ามยาก

- ช่วงก่อนที่ท่านมีโอกาสนำ ผบ.เหล่าทัพเข้าขอพรปีใหม่ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ มองได้ว่าบรรยากาศดูดีขึ้นหรือไม่ แล้ว พล.อ.เปรมเคยให้ไปพบไหม?

บรรยากาศดีขึ้น แต่ท่าน พล.อ.เปรมก็ไม่เคยเรียกพบ หรือผมจะไปพบเป็นเรื่องส่วนตัวก็ไม่เคย แต่วันนั้นท่านพูดดี มันก็เป็นสิ่งที่ดี ท่านก็พูดให้คนคิด คนที่มีสติหนักแน่น ไตร่ตรองก็คิดได้ แต่คนที่หนักมากๆ ไปแล้วก็อีกเรื่องหนึ่ง ก็เป็นสัญญาณที่ดีมันก็เป็นบวกทุกเชิง

-เรื่องรัฐบาลตั้งทีมโฆษกกรณีชี้แจงคดีเขาพระวิหารไปถึงไหนแล้ว ได้ตัวคนมาเป็นหรือยัง?

ก็ เตรียมไว้แล้ว ก็หลายคน เพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ทำงานร่วมกันระหว่างกลาโหมกับต่างประเทศ ซึ่งเป็นเจ้าภาพ เพราะรับผิดชอบเนื้องานเป็นส่วนมาก เรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ ถ้าผมตอบที รมว.ต่างประเทศตอบที มันจะไม่ไปด้วยกัน มันจะขัดกัน แถลงทีเดียวซะก็จบ ตอนนี้ก็ได้แต่งตั้งหัวหน้าทีมงานในส่วนกระทรวงกลาโหมไปพูดคุยกันแล้ว ก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร เดี๋ยวก็คงบอก ผมคิดไว้แล้วจะเอาใคร ข่าวจะได้ไปจากแหล่งเดียวจบ ไม่ใช่คนนั้นพูดทีคนนี้พูดที

-เรื่อง พ.ต.ท.ทักษิณ บอกว่ามี 2556 การเมืองสองขั่้ววัดกำลังกัน แล้วจะแพ้-ชนะ กันในปีนี้ ท่านมีความเห็นยังไง?


ผม ไม่ให้ความเห็นเรื่องนี้ ผมไม่เก่ง ผมอยู่นี่ผมทำให้ดีที่สุดนั่นเอง อันไหนไม่ดีก็ไม่พูด แล้วผมไม่เคยดูดวง และส่วนตัวก็ไม่เชื่อเรื่องพวกนี้ โดยเฉพาะเรื่องปฏิวัติ ที่บอกว่าคนที่จะทำได้ต้องเป็นทหาร อักษรย่อ ป.

-ที่ หลายฝ่ายโดยเฉพาะฝั่งตรงข้าม บอกว่าที่ท่านทำงานรับงานอย่างถอดยศอภิสิทธิ์ มา เพราะท่านกลัวว่าถ้าไม่มีผลงานปรากฏจะหลุดจากตำแหน่ง?

ใคร เป็นคนพูดล่ะ ไม่ใช่ ก็ไอ้พวกปากหมู ปากหมา ก็พูดไปนะ อย่างนี้นะผมพร้อมนะ ถ้าจะให้ออกวันนี้วันพรุ่งนี้ ผมก็ออก ไม่มียึกยัก ถ้านายกฯ บอกพี่ออกเถอะ ผมก็ออกแค่นั้นล่ะ ปีนี้ก็จะ 62 แล้ว ผมก็ไม่ได้ไปลงทุนเอาตำแหน่งมา ผมกำไร 100% ออกก่อนเกษียณแค่ 2 เดือนเอง ไม่ได้ไปลงทุนอะไรเลย แต่ก็ภูมิใจที่รัฐบาลเลือกมาให้มาเป็น รมต.ในชุดนี้ ผมก็ทำงานเต็มที่ ออกก็ออกไม่มีปัญหาอะไร ผมเป็นตัวของตัวเองพอสมควร แล้วก็จะไม่ถามเหตุผลด้วยว่าผมทำอะไรผิดถึงต้องออก ถามไปก็ไม่มีประโยชน์

-รัฐบาล ชุดนี้มีคนบอกมีจุดอ่อนตรงที่ไม่มีแม่งานคนดูแล 3 จังหวัดภาคใต้โดยตรง ที่ผ่านมาเหมือนโยนให้ รองนายกฯ เฉลิมดู ทั้งที่เหมือนท่านเองก็ไม่ค่อยเต็มใจรับ และไม่อยากลงพื้นที่สักเท่าไหร่?

ท่าน เฉลิมก็ดูแลภาพงาน 3 จังหวัดใต้ นโยบายข้างบนไป ผมก็ดูแลด้านงานปฏิบัติไป แล้วถึงท่านเฉลิมประกาศไม่ลงใต้ก็ไม่เป็นไร ไม่เห็นต้องลงเลย ท่านนายกฯ นานๆ ก็ลงที เป็นขวัญกำลังใจผู้ปฏิบัติงานในพื้นที่ ให้ลงทุกวันไม่ได้หรอก ผมก็ต้องลงมากหน่อยเพราะผมดูตรงนี้ ผู้ใหญ่ไม่ต้องลงทุกวัน อย่างคนที่โจมตีนะ อย่างนโยบาย 99 วันทำได้ ก็ไม่เห็นทำได้เลย ก็คุยไป อย่าพูดดีกว่า พวกนี้ไม่เคยมองตัวเอง ส.ส.ในภาคใต้ทำอะไรบ้าง ผมลงใต้ไปบอกทำอะไรบ้าง ไม่เคยทำอะไรเลย

เอาอย่างนี้ เรื่องภาคใต้รัฐบาลทำมาถูกทางแล้ว เรื่องนโยบายไม่เปลี่ยน จบ ก็เหลือการปฏิบัติ ผู้ปฏิบัติยุ่งยากนิดนึงเพราะมันละเอียด เหมือนสหรัฐอเมริกาบอกต้องไปดวงจันทร์ปีนั้น แล้วนาซาทำมากี่ปีละ รัฐบาลเรื่องนโยบายตอนนี้จบแล้ว ข้างล่างต้องหนักหน่อย เพราะเป็นเรื่องละเอียดอ่อน ทำไปก็ต้องให้กำลังใจไป มีอะไรที่ต้องช่วยเหลือ ติดขัดตรงไหนก็บอกจะได้ช่วยกันแก้ไข ไม่ใช่นโยบายเปลี่ยนไปเปลี่ยนมา

มัน ต้องเข้าใจปัญหา ต้องมีระยะเวลาในการปฏิบัติตามนโยบาย ช่วงปีใหม่ที่ผ่านมาเขาก็ทำดี จับปืนได้ 18 กระบอก ผมก็โทรไปชมเชยแม่ทัพภาค 4 ว่า ทำดีมาก ผมถึงกล้าบอกว่า ใกล้แล้ว ไม่นานนี้ ไม่นานมันก็จะถึงขั้นที่ว่าดีมากๆ อย่าไปบีบบังคับ กำหนดระยะเวลาเลย ของอย่างนี้ไม่เหมือนทำถนนไปกำหนดเวลาเสร็จได้ แต่พูดได้ว่าส่วนตัวเชื่อว่าอีกไม่นาน ปัญหา 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้จะดีขึ้น ไม่เกินอายุรัฐบาลชุดนี้ หมายความว่ากำลังจากข้างบนไม่ต้องช่วยข้างล่างแล้ว สามารถดูแลตัวเองได้ ปี 2556 จะต้องทำให้ดีขึ้น

อย่างเรื่องระเบิดที่ดูรุนแรงขึ้น นั้น ต้องสังเกตให้ดี ข่าวอาชญากรรมภาคใต้ 100% มีข่าวเรื่องความมั่นคงที่ตายแค่ 8% เท่านั้นเอง ลงข่าวอย่างนี้บ้างสิ 100 คน เสียชีวิตจากเหตุมั่นคงแค่ 8 คนเท่านั้น เรื่องครูที่เสียชีวิตผมพูดมากไม่ได้ แต่ทหารถูกต่อว่าหนัก แต่เราก็ไม่ขอพูด นี่คือทหาร


-ภาคใต้ส่วนใหญ่เรื่องความมั่นคง เป็นเรื่องแบ่งแยกดินแดนหรือไม่?

ไม่ มี ถามว่าผู้ก่อความไม่สงบวัตถุประสงค์คืออะไร ระเบิดตูม รับไหมว่าใครทำ วัตถุประสงค์เรื่องกิจการภายในประเทศไทยเอง เขาไม่ได้ประกาศว่า ผมคือโมโร บีอาร์เอ็น เขาไม่เคยประกาศ ถ้าเปรียบเทียบเหมือนโจรธรรมดาที่ไม่ประกาศตัวว่า ผมไปปล้นบ้านนี้ แต่เขามีเหตุผลของเขาอันหนึ่ง คือ ยกระดับความรุนแรงไปสู่สากล ซึ่งเราก็ค่อนข้างเดาออก แต่อย่าเพิ่งไปคิดแทนว่าถ้าคนกลุ่มนี้ทำได้ตามเป้าหมายเมื่อไหร่ และอาจจะประกาศตัวขึ้นมาก็ได้ อย่าไปเพิ่งคิดแทนเขา

นั่นคือสิ่งที่ เกิดขึ้นในภาคใต้ แล้วรัฐก็ไม่ใช้กฎหมายความมั่นคงเต็มที่ ทุกวันนี้ก็ยังเสรีตลอด หมายถึงกลางคืน กลับจากละหมาดก็ถูกยิงตายบ่อย พวกเราบอกเคอร์ฟิวนะ ถ้าไม่อยากพูดว่าเคอร์ฟิว ก็จะพูดเสรี แต่คุณต้องรับผิดชอบตัวเองนะ จะให้ทหาร ราชการไปดูแลรับผิดชอบทุกบ้านมันไม่ได้หรอก ก็ต้องอย่างนั้น ก็เป็นภาพนั้นออกมา เราใช้กฎหมายปราบปรามน้อยที่สุด มันก็เลยต้องใช้เวลานานหน่อย สถานการณ์ 3 จังหวัดเป็นอย่างไรเราก็รู้และกำลังแก้ไข...


ไทยรัฐออนไลน์[/img]

หากเอ่ยถึงชื่อ พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รมว.กลาโหม ต้องยอมรับว่า ที่ผ่านมาถือว่าเป็นรัฐมนตรีที่มีภาพทำงานเด็ดขาดมากที่สุดคนหนึ่งของรัฐบาล ปู 3 โดยเฉพาะกรณีตามถอดยศ ร.ต. ของอดีตนายกรัฐมนตรีหน้าหล่อ อย่างนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งถือเป็นทอล์กออฟเดอะทาว์นข้ามปีจาก 2555 มาจนถึงปี 2556

ถึงแม้ถูกฝ่ายตรงข้ามค่อนแคะว่า ทำตามใบสั่งนายใหญ่ เพื่อดิสเครติดทั้ง "อภิสิทธิ์" และอาจมองเลยไปตั้งเป้าดิสเครดิตพรรค "พระแม่ธรณีบีบมวยผม" ในการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.ที่กำลังจะมีขึ้นในครั้งนี้  ซึ่งบิ๊กโอ๋ ก็ทำหน้าที่อย่างเต็มที่แบบไม่สะทกสะท้านแม้แต่น้อย


ขณะที่อีกกรณีหนึ่งที่กำลังร้อนแรงไม่แพ้กัน คือ กรณีกัมพูชาฟ้องศาลโลก ขอให้ตีความขอบเขตคำพิพากษาของศาลเมื่อปี 2505 คดี "ปราสาทเขาพระวิหาร" ซึึ่งถือเป็นเรื่องสำคัญมาก เพราะมันหมายถึงอธิปไตยและบูรณภาพของประเทศไทย ซึ่ง พล.อ.อ.สุกำพล ก็ถือเป็นอีกบุคคลหนึ่งที่ต้องเกี่ยวข้องโดยตรงอย่างไม่อาจหลีกเลี่ยงเพราะ มีหน้าที่ดูแลความมั่นคงโดยตรงนั่นเอง ทีมข่าวไทยรัฐออนไลน์ได้รับเกียรติจาก รมว.กลาโหม เปิดห้องทำงานที่กระทรวงกลาโหม พูดคุยเรื่องราวที่เกิดขึ้นทั้งหมด ทุกเรื่องแบบหมดเปลือก เราไปติดตามกันเลย...

-พี่โอ๋ เห็นเป็นอย่างไร ที่ตอนนี้ประชาชนเห็นว่า พี่เป็นคนมีลักษณะนิสัยที่เด็ดขาด และกล้าตัดสินใจ โดยเฉพาะเรื่องถอนคำสั่งรับราชการ และถอดยศทหาร คุณอภิสิทธิ์ หัวหน้าพรรค ปชป.?

มันก็ไม่ใช่บอกว่าเป็น ทหาร คนเราไม่ใช่บอกว่า มีนิสัยเด็ดขาดอย่างเดียว ในบางงานมันต้องเอานะ ประเด็นนี้มันต้องอย่างนี้ บางเรื่องก็ต้องนิ่มนวล ก็เป็นไปตามเกมของมัน ตามเพลงของมัน จะบอกว่าเราเด็ดขาดทุกเรื่อง ไม่ใช่หรอก บางเรื่องแล้วแต่สถานการณ์ ถ้ารู้กฎ กติกาก็ต้องทำไป


- แสดงว่าที่ผ่านมาที่ทำลงไปเพราะเราเห็นไม่ถูกต้อง แล้วคณะกรรมการแจ้งผลมาอย่างนั้น เราจึงต้องดำเนินการใช่ไหม?

อัน นี้ไม่ต้องถามมันก็เป็นอย่างนั้น สมัยนี้ข่าวสารมันถึงหมด เราจะไปทำแบบว่า อย่างที่เขาว่ากันอย่างนั้น มันไม่ได้หรอก เรื่องกลั่นแกล้งนะ ถ้าจะฟ้องศาลก็ฟ้องไป เราต้องมั่นใจ เราต้องรู้ว่าคนที่เรากำลังทำอยู่คือใคร เขาเป็นถึงอดีตนายกรัฐมนตรี เป็นหัวหน้าผู้นำฝ่ายค้าน แล้วเราไปสู้กับเขาว่า หนีทหาร ใช้เอกสารเท็จอย่างนี้ ถ้าไม่ชัดเจนทำได้ไง เรื่องนี้เป็นเรื่องสู่สาธารณชน ถ้าไม่ใช่เรื่องจริงแล้วจะทำได้อย่างไร เขาก็ว่าเรากลั่นแกล้งก็ว่าไป คนพรรคนี้ เขาพูดกันแบบนี้ก็ว่าไป สรุปเขาถูกหมด นี่ถูกทุกอย่าง 99 ศพก็ถูก มันก็เป็นไปไม่ได้ มันก็ต้องใช้เวลาพิสูจน์ เราอยู่ในภาพอย่างนี้ เป็นรัฐบาลก็ต้องทำตามมารยาท ส่วนเรื่องที่เขาจะฟ้องก็ฟ้องไป

ส่วน ที่บอกว่า ถ้าศาลรับเรื่องที่ฟ้องแล้ว อย่างศาลปกครอง ยิ่งถ้าศาลมีคำสั่งคุ้มครองออกมาจริง เป้าหมายพรรค ปชป. อาจเอาเรื่องนี้ไปฟ้องที่ศาลอาญาด้วยนั้น มันก็เป็นเรื่องของเขา อันนั้นเราก็รู้อยู่ แต่ถ้าเรามั่นใจ อย่าไปกลัว ถ้ามั่นใจว่าเอกสารหลักฐานเราถูกต้อง อย่าไปกลัว ถ้ามัวแต่กลัวเขาฟ้องก็ไม่ต้องทำอะไรเลย ถ้าย้อนกลับว่าประเทศไทยมีอดีตนายกรัฐมนตรีที่ใช้เอกสารสมัครรับราชการทหาร เท็จนี่ สง่างามไหม ถามมั่ง แล้วตัวเองเคยรับรึเปล่า เคยบอกไหมว่า ไม่หนี เคยรับไหมว่า ใช้เอกสารเท็จ แถมไปว่าสัสดีออกให้เองอีก ตัวเองรู้เต็มอก ลูกผู้ชาย รู้เต็มอก อย่าให้พูดต่อเลยอดีตนายกฯ ทำได้แค่นี้ ก็ไม่รู้จะว่าอะไร


-ที่แล้วมาแสดงว่า มีกระบวนการช่วยอดีตนายกฯ ใช่หรือไม่?

ที่ ผ่านมาผมก็แปลกใจว่า หาเอกสารไม่เจอ ถามว่าช่วยไหม ผมเองก็ไม่ได้อยู่ในยุคนั้น หรือเกี่ยวข้องกับยุคนั้น ก็อย่าไปพูดเลย แต่ผมยืนยันว่าผมทำแล้วมีเอกสารทั้งหมดละกัน อย่าไปพูดเลย วันนี้ผมหาเจอเป็นข้อจริงไม่มีเท็จ

-ที่ท่านดำเนินการ เรื่องคุณอภิสิทธิ์มาทั้งหมดรับคำสั่งใครมาไหม แล้วที่มีการกล่าวกันว่า เป้าหลักคือ ทำให้คุณอภิสิทธิ์หลุดจากตำแหน่ง ส.ส. ล่ะ จะอธิบายอย่างไร?

ถามว่าวันนี้ "อภิสิทธิ์" มี คุณค่าขนาดไหน บางคนบอกว่า ท่านอภิสิทธิ์เป็นหัวหน้าฝ่ายค้านอยู่ ก็เป็นผลดีกับฝ่ายเรา (รัฐบาลพรรคเพื่อไทย) บางคนเขาพูดอย่างนี้ ผมก็ไม่ได้ว่าอะไรนะ ไปเปลี่ยนหัวหน้าใหม่มา เดี๋ยวคนใหม่เขาเข้มแข็ง เดี๋ยวก็ยุ่งอีก อันนี้ผมก็ไม่ทราบ แต่ผมว่าเรื่องนี้อยู่ที่ข้อเท็จจริง เหตุและผล

ผมถูกผู้ตรวจการแผ่นดินยื่นหนังสือมา ผมก็ต้องทำ ไม่มีทางเลือกเป็นทางอื่น แล้วเมื่อทำแล้วก็เจอความจริง ถามว่าเมื่อเจอแล้วจะต้องทำอย่างไร ก็ให้ตั้งกรรมการขึ้นมาชุดหนึ่งเพื่อหาความจริงว่า ใช้เอกสารเท็จสมัครรับราชการทหาร เมื่อดูแล้วก็เสนอเรื่องขึ้นมา ผมก็ต้องรอบคอบ เสนอว่าอย่างนี้เราก็ดูด้วยไม่ใช่รีบเซ็น ใช้เวลาดำเนินการถึง 136 วัน แล้วก็บอกรีบร้อนเซ็นคำสั่งในช่วงอภิปรายไม่ไว้วางใจ



ถาม ว่า อภิปรายฯ ผ่านมาแล้วมีปัญหาอะไรหรือไม่ แล้วมาขอโทษผมบ้างไหม ที่กล่าวหาผมแล้วเป็นอย่างไร ข้อเท็จจริงที่ผ่านมายืนยันว่า ไม่ได้ขัดขวางการอภิปรายฯ เลย เขาก็ทำได้หมด สุดท้ายผมถูกด่าฟรีหรือเปล่า ผมมีหน้าที่ "ตามล่าหาความจริง ไม่ใช่ตามล่าหาหน้าหล่อ" ตามล่าหาว่าความจริงเป็นยังไง ส่วนเมื่อความจริงออกมาแล้วก็เป็นเรื่องของผู้ที่เกี่ยวข้อง กระทรวงกลาโหมจบแล้วได้แค่นี้ กระทรวงไม่ได้ลงโทษเลยนะ แค่เอาสิ่งที่ถูกขโมยไปคืนมาเท่านั้น ยศตำแหน่งอะไรทั้งหลายเอาคืนมา เท่านั้นเอง ถามจริงๆ พรรคปชป. ไม่คิดส่งคนมาคุยกับผมบ้างเหรอ จะได้ทราบข้อเท็จจริง เขาก็ไม่เคยฟ้องผมนะ กล่าวหาว่าผมหมิ่นประมาทเขาหนีทหาร แต่เขาฟ้องผมในข้อหาอย่างอื่น

-แล้วเรื่องเงินตำแหน่งล่ะ จะเอาคืนรึเปล่า?

เรื่อง เงินนี่ 1. เราทราบดีว่าเขาไม่ได้รับบำเน็จบำนาญ 2. ตอนที่รับราชการทหาร เขาก็ทำงานไป ก็รับเงินเดือนไปก็จบ ซึ่งเอาคืนไม่ได้เพราะทำงานจริง มันมีคำพิพากษาศาลฎีกาเทียบเคียงอยู่ว่า เข้ามารับราชการไม่ถูกต้องแต่ทำงานให้ก็จ่ายเงินเดือน เพราะมีผลงาน เนื้องานถูกต้อง ถึงกรณีนี้จะทำงานจริงแค่ไม่กี่วัน แค่ 30 กว่าวันในการทำงานแล้วก็ลาซะ 100 กว่าวันก็ต้องอย่างนั้นล่ะ เรื่องนี้ถ้าเป็นผมนะผมอายแย่แล้ว หลักฐานทั้งหลายแถมในสภาฯ ยังเคยโชว์หลักฐาน สด.20 ใบยกเว้นนะ กับผมไม่เห็นจะเอามาให้เลย เอามาสิ หรือมีก็เอามาโชว์ ผมไม่กลัวฟ้องอยู่แล้ว ฟ้องก็ฟ้องมา ก็เหมือนบอกผมเป็นผู้ชายจะไปอายทำไม

ส่วนจะขู่แรงๆ ว่าระวังจะติดคุกก็ถือเป็นเรื่องของเขา คุณจะฟ้องผมก็สู้ ผมเคยโวยวายไหม ไม่เคย คือแน่ใจอย่าไปกลัว มันชัดเจนยิ่งกว่าอะไร ผมทำด้วยความรอบคอบไม่ใช่ทำด้วยสิ่งที่เป็นโมหะ เขากับผมก็ไม่เคยเป็นศัตรูกันมา เมื่อเห็นชัดเจนอย่างนี้ก็ต้องทำ โดยเฉพาะคนที่ขึ้นมาเป็นระดับแนวหน้าประเทศอย่างนี้ ถ้าเป็นสหรัฐอเมริกาแค่รู้แค่นี้ใบสมัครเขายังไม่ขายให้เลย

"แต่ ส่วนตัวผม มีมารยาทพอที่จะไม่พูดถึงใคร เอาแค่คนๆ เดียว ความจริงผมรู้หมดนะ ว่าเรื่องเป็นอย่างไร ไปถึงคนไหน ไปขอใครยังไง ไปหาใครผมรู้หมด แต่เราก็พูดแค่นี้ นี่คือลูกผู้ชาย แต่อย่าให้สมุนลามผมมากไม่ดี แต่ผมก็หนักแน่นพอสมควร ไม่ตอบโต้หรือแก้แค้นอะไรหรอก เพราะเราเป็นผู้ใหญ่ ก็ทำไปตามหน้าที่ แล้วหนักแน่น เขาจะฟ้อง จะปลดก็ว่ากันไปก็แค่นั้น แต่ผมคิดว่ามีหลักฐานก็ทำไป หรือจะดีเบตก็ได้นะ คือเหตุเขาทำอย่างนั้น ผลผมก็เอาคืน ไม่ได้ไปลงโทษอะไรเขาเลย เอาคืนสิื่งที่กลาโหมเสียไป"

- กรณีเขาพระวิหาร ท่านในฐานะที่ต้องดูแลด้านความมั่นคง คิดอย่างไร ยิ่ง รมว.ต่างประเทศ ออกมาให้สัมภาษณ์ว่ามีโอกาสแพ้ด้วยแล้ว?

ผม บอกไว้เลยว่า สื่อฯ ไปตีความไม่ดี ตีความอย่างนี้ก็พังทั้งประเทศ สื่อฯ ดูสิ เขาบอกว่ามันมีโอกาส เมื่อศาลตัดสิน ขึ้นศาลก็มีโอกาสแพ้ชนะ อย่างผมขึ้นศาลก็มีโอกาสแพ้-ชนะ ใช่ไหม เราก็ต้องทำใจไว้บ้างว่าอาจจะเป็นอย่างนั้น ก็แค่นั้นเขาก็พูดแค่นั้น ท่าน รมว.ต่างประเทศ ท่านพูดตามหลักการง่ายๆ  แต่เราไม่ใช่เราพูดว่าบอกว่าแพ้แล้วไปตัดตอนมานี่ พอไปตัดตอนมา พอออกปั๊บก็แก้ไขยาก นี่เป็นความรับผิดชอบต่อสื่อฯ ถ้าลงกันอย่างนี้ประเทศพัง ที่อื่นเขาไม่ลงกันอย่างนี้หรอก ผมพูดอย่างนี้เป็นร้อยครั้งแต่ไม่เคยได้รับการตอบสนอง ต้องมานั่งแก้ข่าวกัน วันนี้เรื่องเขาพระวิหาร ไม่ว่าจะเป็นคนดี คนอยู่ในคุก คนที่อยู่ตรงไหน มีหัวใจดวงเดียวกันไม่อยากแพ้ ไม่อยากเสียดินแดน ที่เขาเดินขบวน หรืออะไรก็เหมือนกัน เหมือนผมนี่ล่ะ ตรงนี้เราไม่อยากหรอกอย่างนั้น แต่ในเมื่อเราอยู่ในกติกา เมื่อมันขึ้นศาลไปแล้วก็ต้องขึ้นกัน ทางกองทัพดูความมั่นคง เรื่องของศาลก็ว่าไป ในการสนับสนุน มีข้อมูลอะไรกองทัพก็ต้องทำเต็มที่ เรื่องการปกป้องอธิปไตยเราต้องว่าอีกทีหนึ่ง เมื่อศาลตัดสินวันสุดท้ายยังไงแล้วก็เป็นหน้าที่ของฝ่ายความมั่นคงต้องดูแล ให้เป็นอย่างนั้น

-พูดเหมือนกับว่า ถ้าตัดสินออกมาเป็นลบต่อประเทศแล้วประชาชนตัดสินแล้วบอกไม่เอา อย่างนี้เราต้องรักษาอธิปไตย ใช่หรือไม่?

ไม่ ใช่ อย่าสรุปอย่างนั้น สรุปอย่างนี้ไม่ดีเลย หมายความว่าเรื่องนี้เรื่องใหญ่ เรื่องกฎกติกา มารยาทของประเทศ ถ้าประชาชนลงมติฯ แล้วว่าไม่ให้ เราก็ต้องว่าตามนั้น คือเราเป็นคนกลางของรัฐบาลก็ว่ามา ความจริงวันนี้เราไม่ควรพูดเชิงแพ้ตลอด ไม่ควรพูดหรอก แล้วกรณีที่มีกระแสข่าวลือว่า กัมพูชาเตรียมกำลังทหารมาเสริมที่บริเวณชายแดนนั้น ผมยืนยันว่า ไม่มี ข่าวนี้ก็เป็นแค่ข่าว ไม่มีหรอกการจัดเตรียมกำลัง ไปลงแบบนี้ก็เสียหมด ไม่มีหรอกว่ากัมพูชาจัดเตรียมกำลัง ไม่ได้เตรียมอะไรเลย


-แสดงว่าผู้ใหญ่ทั้ง 2 ฝ่ายได้คุยกันอยู่แล้ว?

ก็ผมบอกไม่มี ก็ไม่มีก็แล้วกัน เชื่อผมเถอะว่าไม่มี ก็เพราะมองในแง่ร้ายตลอดมันก็แย่ ข่าวนี้ลงก็ดี ขายดี แต่ผลเสียหายที่ตามมาไม่ได้ดูว่ามันคืออะไร บางที่เรื่องความมั่นคงมันพูดไม่ได้ ไม่ใช่รู้หมดทุกอย่าง ถ้ารู้หมดทุกอย่างจะมีรัฐมนตรีไปทำอะไร ไม่ใช่เรื่องของกระทรวงพาณิชย์ อย่างโครงการรถคันแรก เอ่อรู้เท่ากันได้ อันนี้มันไม่ได้

-แล้วกรณีวัดแก้วสิกขารามที่กัมพูชาไปตั้งวัดและชุมชนล่ะ ถ้าเอาจริงๆ แล้วถ้าศาลโลกตัดสิน ก็บอกกันว่าเราจะเสียเปรียบ?

ก็ ศาลโลกยังไม่ตัดสิน ยังไม่รู้อะไรเลย แล้วไปเดาได้ยังไงว่าเขาตัดสินแบบไหน ถ้าศาลตัดสินชนะแล้วไม่พูดบ้างล่ะ สำหรับผมเรามั่นใจว่าเราชนะ ผมมีเหตุผลของผม เพราะฉะนั้นผมไม่พูดในเชิงแพ้หรอกนะ มั่นใจว่าไม่แพ้หรอก

-มีข่าวว่าเราเสียเปรียบกัมพูชา เพราะมี MOU ของรัฐบาลชุดอดีตนั้นจริงหรือไม่?

ไม่ เกี่ยว เมื่อ MOU เขาบอกชัดเจนแล้วว่ารัฐบาลไทยไม่ได้รับรองแล้ว เมื่อไม่รับรองแล้วก็จบไปก็ถอนออกมาแล้ว ก็แค่นั้นแล้วทำไม ใครจะถือก็ถือไป เราไม่ใช้แล้วคือมันหาเรื่องกัน ถือว่าวันนี้เอาเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ เอาเรื่องความมั่นคงมาคุยกัน ไม่ใช่ทะเลาะกัน ดูง่ายๆ ถามว่าฟ้องคดีนี้ในสมัยไหนเอาใกล้ๆ นี่ล่ะก็ปี 2551 ท่านฮุน เซนยังบอกว่า ถ้าเป็นรัฐบาลชุดนี้เขาไม่ฟ้องหรอก นั่นคือภาพความสัมพันธ์ระหว่างรัฐบาลไทย-เขมร ใน 2 รัฐบาลที่แตกต่างกัน

-แล้วที่มีคนมาต่อว่าที่กัมพูชามาญาติดีกับเราเพราะมีผลประโยชน์ทางทะเล?

ตรง ไหนล่ะ ยังไงล่ะ พูดอย่างนี้พูดได้ พูดมาว่าตรงไหน ยังไง จะเสียตรงไหน ผมจะแลกทะเลตรงไหนล่ะ ถามว่าได้โจร 500 อยู่ในคุกจะยอมไหมล่ะเรื่องประเทศชาติ พูดอย่างนี้มันเป็นประเด็น พูดอย่างนี้ผมดูถูกคนพูด พูดแบบให้เป็นประเด็นขึ้นมา ประโยชน์ตรงไหนคุณว่ามาแล้วผมจะเสียตรงไหน เสียน้ำมันตรงไหนทะเลเป็นอย่างไร ตรงที่มีปัญหารู้เรื่องบ้างหรือเปล่า


- แล้วที่คนบอกว่า ถ้าเสียพื้นที่เขาพระวิหารและพื้นที่ 4.6 ตร.กม. จะมีผลต่อเขตแดน และพื้นที่ในทะเลถึงกว่า 1.8 ล้านไร่ล่ะ?

คุณจะบอกว่าเอาพื้นที่ 4.6 ตร.กม.มาบอกว่าถ้าเสียไปแล้วเราจะเสียพื้นที่เป็น 1.8 ล้านไร่ คนทำได้มันคงฉลาดน่าดู

- มีนักวิชาการบางคนเสนอว่า ถ้าเราแพ้คดีจริง อยากเสนอให้รัฐบาลดันเรื่องนี้เข้าสู่ที่ประชุมสหประชาชาติ แล้วให้ใช้ความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับชาติมหาอำนาจทั้ง 5 นั้น ให้วีโต้เรื่องตกไป ทุกอย่างก็จะกลับไปเหมือนเดิม จริงเท็จประการใด?

ผม ไม่รู้นะมันเป็นเรื่องข้อกฎหมาย ศาลโลกก็อยู่ภายใต้ยูเอ็นอยู่แล้ว แต่ทำไมไปทำอย่างนั้นได้ผมก็ไม่รู้นะ อาจทำได้ก็ได้ รู้แต่ว่าถ้ามันเป็นไปได้มันก็เป็นอีกวิธีการหนึ่ง แต่ส่วนตัวผมมั่นใจในข้อมูลผมว่าจะไม่แพ้ ผมคลุกคลีในปัญหานี้พอสมควร มันไม่ได้มีสิ่งใดที่น่าเป็นห่วง เหมือนมวยกำลังจะขึ้นชก แล้วบอกว่าเอ็งแพ้แน่ แล้วจะขึ้นชกทำไม เดินลงมาดีกว่าจะได้ไม่เจ็บตัว สื่อมวลชนก็สำคัญก็ต้องลงข่าวที่มันเป็นคุณบ้าง อย่างมาเลเซียอาชญากรรมเขาก็มีมาก แต่สื่อเขาไม่ลงข่าว แต่ลองเราลงทุกศพที่มี ก็ไม่รู้จะว่าไง อย่างเราเขาพระวิหารที่ รมว.ต่างประเทศ พูดมาเป็นประเด็นข่าวไปอีก 7 วัน ที่ต้องมาแก้ข่าว ซึ่งสื่อฯ ก็ได้ประโยชน์ ได้ลงข่าวขายดีไปอีก 7 วันเท่านั้นเอง แต่ประเทศชาติเสีย คนกัมพูชาก็ตีปีกว่า คนไทยจะแพ้แล้ว มันต้องดูเรื่องชาติด้วย คือมันต้องหนักแน่นบ้าง ถ้าเป็นอย่างนี้ก็แค่กัมพูชาชอบ เราตีกันเอง

- สุดท้ายทุกเรื่องมันก็โยงไปที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ทั้งหมดทุกเรื่อง เรื่องผลประโยชน์ในทะเล เรื่องถอดยศอภิสิทธิ์?

ไม่ มีใครโยงหรอก มีแต่สื่อมวลชนสิโยงไปคนนั้นคนนี้ อย่างเรื่องใต้ลองไม่ลงข่าวซักเดือน เรื่องก็เงียบเอง ท่านทักษิณจะไปรู้เรื่องอะไร ท่านอยู่ไกลขนาดนั้น ท่านก็รู้เรื่องแต่ไม่ใช่ทุกอย่าง ถ้าท่านทักษิณรู้ขนาดนั้น วันหลังผมจะสร้างบ้านอยู่ชายแดนจะได้ใกล้ไม่ต้องไปไกล เรื่องโยงไปถึง พ.ต.ท.ทักษิณ คิดว่ามาบ่อยๆ ก็ดีนะ คนจะได้รู้ว่ามันไม่จริง เขาพูดก็ห้ามยาก

- ช่วงก่อนที่ท่านมีโอกาสนำ ผบ.เหล่าทัพเข้าขอพรปีใหม่ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ มองได้ว่าบรรยากาศดูดีขึ้นหรือไม่ แล้ว พล.อ.เปรมเคยให้ไปพบไหม?

บรรยากาศดีขึ้น แต่ท่าน พล.อ.เปรมก็ไม่เคยเรียกพบ หรือผมจะไปพบเป็นเรื่องส่วนตัวก็ไม่เคย แต่วันนั้นท่านพูดดี มันก็เป็นสิ่งที่ดี ท่านก็พูดให้คนคิด คนที่มีสติหนักแน่น ไตร่ตรองก็คิดได้ แต่คนที่หนักมากๆ ไปแล้วก็อีกเรื่องหนึ่ง ก็เป็นสัญญาณที่ดีมันก็เป็นบวกทุกเชิง

-เรื่องรัฐบาลตั้งทีมโฆษกกรณีชี้แจงคดีเขาพระวิหารไปถึงไหนแล้ว ได้ตัวคนมาเป็นหรือยัง?

ก็ เตรียมไว้แล้ว ก็หลายคน เพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ทำงานร่วมกันระหว่างกลาโหมกับต่างประเทศ ซึ่งเป็นเจ้าภาพ เพราะรับผิดชอบเนื้องานเป็นส่วนมาก เรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ ถ้าผมตอบที รมว.ต่างประเทศตอบที มันจะไม่ไปด้วยกัน มันจะขัดกัน แถลงทีเดียวซะก็จบ ตอนนี้ก็ได้แต่งตั้งหัวหน้าทีมงานในส่วนกระทรวงกลาโหมไปพูดคุยกันแล้ว ก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร เดี๋ยวก็คงบอก ผมคิดไว้แล้วจะเอาใคร ข่าวจะได้ไปจากแหล่งเดียวจบ ไม่ใช่คนนั้นพูดทีคนนี้พูดที

-เรื่อง พ.ต.ท.ทักษิณ บอกว่ามี 2556 การเมืองสองขั่้ววัดกำลังกัน แล้วจะแพ้-ชนะ กันในปีนี้ ท่านมีความเห็นยังไง?


ผม ไม่ให้ความเห็นเรื่องนี้ ผมไม่เก่ง ผมอยู่นี่ผมทำให้ดีที่สุดนั่นเอง อันไหนไม่ดีก็ไม่พูด แล้วผมไม่เคยดูดวง และส่วนตัวก็ไม่เชื่อเรื่องพวกนี้ โดยเฉพาะเรื่องปฏิวัติ ที่บอกว่าคนที่จะทำได้ต้องเป็นทหาร อักษรย่อ ป.

-ที่ หลายฝ่ายโดยเฉพาะฝั่งตรงข้าม บอกว่าที่ท่านทำงานรับงานอย่างถอดยศอภิสิทธิ์ มา เพราะท่านกลัวว่าถ้าไม่มีผลงานปรากฏจะหลุดจากตำแหน่ง?

ใคร เป็นคนพูดล่ะ ไม่ใช่ ก็ไอ้พวกปากหมู ปากหมา ก็พูดไปนะ อย่างนี้นะผมพร้อมนะ ถ้าจะให้ออกวันนี้วันพรุ่งนี้ ผมก็ออก ไม่มียึกยัก ถ้านายกฯ บอกพี่ออกเถอะ ผมก็ออกแค่นั้นล่ะ ปีนี้ก็จะ 62 แล้ว ผมก็ไม่ได้ไปลงทุนเอาตำแหน่งมา ผมกำไร 100% ออกก่อนเกษียณแค่ 2 เดือนเอง ไม่ได้ไปลงทุนอะไรเลย แต่ก็ภูมิใจที่รัฐบาลเลือกมาให้มาเป็น รมต.ในชุดนี้ ผมก็ทำงานเต็มที่ ออกก็ออกไม่มีปัญหาอะไร ผมเป็นตัวของตัวเองพอสมควร แล้วก็จะไม่ถามเหตุผลด้วยว่าผมทำอะไรผิดถึงต้องออก ถามไปก็ไม่มีประโยชน์

-รัฐบาล ชุดนี้มีคนบอกมีจุดอ่อนตรงที่ไม่มีแม่งานคนดูแล 3 จังหวัดภาคใต้โดยตรง ที่ผ่านมาเหมือนโยนให้ รองนายกฯ เฉลิมดู ทั้งที่เหมือนท่านเองก็ไม่ค่อยเต็มใจรับ และไม่อยากลงพื้นที่สักเท่าไหร่?

ท่าน เฉลิมก็ดูแลภาพงาน 3 จังหวัดใต้ นโยบายข้างบนไป ผมก็ดูแลด้านงานปฏิบัติไป แล้วถึงท่านเฉลิมประกาศไม่ลงใต้ก็ไม่เป็นไร ไม่เห็นต้องลงเลย ท่านนายกฯ นานๆ ก็ลงที เป็นขวัญกำลังใจผู้ปฏิบัติงานในพื้นที่ ให้ลงทุกวันไม่ได้หรอก ผมก็ต้องลงมากหน่อยเพราะผมดูตรงนี้ ผู้ใหญ่ไม่ต้องลงทุกวัน อย่างคนที่โจมตีนะ อย่างนโยบาย 99 วันทำได้ ก็ไม่เห็นทำได้เลย ก็คุยไป อย่าพูดดีกว่า พวกนี้ไม่เคยมองตัวเอง ส.ส.ในภาคใต้ทำอะไรบ้าง ผมลงใต้ไปบอกทำอะไรบ้าง ไม่เคยทำอะไรเลย

เอาอย่างนี้ เรื่องภาคใต้รัฐบาลทำมาถูกทางแล้ว เรื่องนโยบายไม่เปลี่ยน จบ ก็เหลือการปฏิบัติ ผู้ปฏิบัติยุ่งยากนิดนึงเพราะมันละเอียด เหมือนสหรัฐอเมริกาบอกต้องไปดวงจันทร์ปีนั้น แล้วนาซาทำมากี่ปีละ รัฐบาลเรื่องนโยบายตอนนี้จบแล้ว ข้างล่างต้องหนักหน่อย เพราะเป็นเรื่องละเอียดอ่อน ทำไปก็ต้องให้กำลังใจไป มีอะไรที่ต้องช่วยเหลือ ติดขัดตรงไหนก็บอกจะได้ช่วยกันแก้ไข ไม่ใช่นโยบายเปลี่ยนไปเปลี่ยนมา

มัน ต้องเข้าใจปัญหา ต้องมีระยะเวลาในการปฏิบัติตามนโยบาย ช่วงปีใหม่ที่ผ่านมาเขาก็ทำดี จับปืนได้ 18 กระบอก ผมก็โทรไปชมเชยแม่ทัพภาค 4 ว่า ทำดีมาก ผมถึงกล้าบอกว่า ใกล้แล้ว ไม่นานนี้ ไม่นานมันก็จะถึงขั้นที่ว่าดีมากๆ อย่าไปบีบบังคับ กำหนดระยะเวลาเลย ของอย่างนี้ไม่เหมือนทำถนนไปกำหนดเวลาเสร็จได้ แต่พูดได้ว่าส่วนตัวเชื่อว่าอีกไม่นาน ปัญหา 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้จะดีขึ้น ไม่เกินอายุรัฐบาลชุดนี้ หมายความว่ากำลังจากข้างบนไม่ต้องช่วยข้างล่างแล้ว สามารถดูแลตัวเองได้ ปี 2556 จะต้องทำให้ดีขึ้น

อย่างเรื่องระเบิดที่ดูรุนแรงขึ้น นั้น ต้องสังเกตให้ดี ข่าวอาชญากรรมภาคใต้ 100% มีข่าวเรื่องความมั่นคงที่ตายแค่ 8% เท่านั้นเอง ลงข่าวอย่างนี้บ้างสิ 100 คน เสียชีวิตจากเหตุมั่นคงแค่ 8 คนเท่านั้น เรื่องครูที่เสียชีวิตผมพูดมากไม่ได้ แต่ทหารถูกต่อว่าหนัก แต่เราก็ไม่ขอพูด นี่คือทหาร


-ภาคใต้ส่วนใหญ่เรื่องความมั่นคง เป็นเรื่องแบ่งแยกดินแดนหรือไม่?

ไม่ มี ถามว่าผู้ก่อความไม่สงบวัตถุประสงค์คืออะไร ระเบิดตูม รับไหมว่าใครทำ วัตถุประสงค์เรื่องกิจการภายในประเทศไทยเอง เขาไม่ได้ประกาศว่า ผมคือโมโร บีอาร์เอ็น เขาไม่เคยประกาศ ถ้าเปรียบเทียบเหมือนโจรธรรมดาที่ไม่ประกาศตัวว่า ผมไปปล้นบ้านนี้ แต่เขามีเหตุผลของเขาอันหนึ่ง คือ ยกระดับความรุนแรงไปสู่สากล ซึ่งเราก็ค่อนข้างเดาออก แต่อย่าเพิ่งไปคิดแทนว่าถ้าคนกลุ่มนี้ทำได้ตามเป้าหมายเมื่อไหร่ และอาจจะประกาศตัวขึ้นมาก็ได้ อย่าไปเพิ่งคิดแทนเขา

นั่นคือสิ่งที่ เกิดขึ้นในภาคใต้ แล้วรัฐก็ไม่ใช้กฎหมายความมั่นคงเต็มที่ ทุกวันนี้ก็ยังเสรีตลอด หมายถึงกลางคืน กลับจากละหมาดก็ถูกยิงตายบ่อย พวกเราบอกเคอร์ฟิวนะ ถ้าไม่อยากพูดว่าเคอร์ฟิว ก็จะพูดเสรี แต่คุณต้องรับผิดชอบตัวเองนะ จะให้ทหาร ราชการไปดูแลรับผิดชอบทุกบ้านมันไม่ได้หรอก ก็ต้องอย่างนั้น ก็เป็นภาพนั้นออกมา เราใช้กฎหมายปราบปรามน้อยที่สุด มันก็เลยต้องใช้เวลานานหน่อย สถานการณ์ 3 จังหวัดเป็นอย่างไรเราก็รู้และกำลังแก้ไข...


ไทยรัฐออนไลน์
ที่มา  http://itplaza.co.th/update_details.php?type_id=1&news_id=24029&page=1