ข่าว:

ทดลองใช้งานบอร์ดตะลุง ที่อยู่ในขั้นตอนการกู้คืนข้อมูล เบื้องต้นมีแต่กระทู้ (ข้อความ) กำลังกู้รูปภาพ ไฟล์แนบต่าง ๆ คาดว่าจะทยอยสมบูรณ์ภายในไม่ช้า

Main Menu

•••• ตักบาตรด้วยของดีของแพง ได้บาปมากกว่าบุญหรือเปล่า ? ••••

เริ่มโดย คนใกล้วัด, 10:11 น. 15 ม.ค 56

คนใกล้วัด



คนวัยไม้ใกล้ฝั่ง มักจะทำบุญเข้าวัดเพื่อสงบจิตใจและเตรียมเสบียงไว้สำหรับ "ชาติหน้า"

จนบางทีก็ถึงขั้นเบียดเบียนตนเองและคนรอบตัวในปัจจุบันขณะ

ซื้อของดีของแพงใส่บาตรหมด คนในบ้านห้ามกิน

ถือได้ว่าเป็นการสวนทางคำสอนของพระพุทธเจ้าที่ให้พระฉันเพียงแค่กันตาย

ของทุกอย่างให้ใส่รวมในบาตร ให้เห็นว่าเวลาอยู่ในท้องก็มีสภาพอย่างนั้น

เพื่อให้พระตัดกิเลสด้านอาหารการกิน และทำให้ตัดกิเลสด้านอื่นได้ง่ายขึ้นด้วย


...  ตักบาตรด้วยของดีของแพง ทำให้พระนิสัยเสีย น่าจะได้บาปมากกว่าบุญ หรือเปล่า ???  ...


นายไข่นุ้ย

อ้างจาก: คนใกล้วัด เมื่อ 10:11 น.  15 ม.ค 56

คนวัยไม้ใกล้ฝั่ง มักจะทำบุญเข้าวัดเพื่อสงบจิตใจและเตรียมเสบียงไว้สำหรับ "ชาติหน้า"

จนบางทีก็ถึงขั้นเบียดเบียนตนเองและคนรอบตัวในปัจจุบันขณะ

ซื้อของดีของแพงใส่บาตรหมด คนในบ้านห้ามกิน

ถือได้ว่าเป็นการสวนทางคำสอนของพระพุทธเจ้าที่ให้พระฉันเพียงแค่กันตาย

ของทุกอย่างให้ใส่รวมในบาตร ให้เห็นว่าเวลาอยู่ในท้องก็มีสภาพอย่างนั้น

เพื่อให้พระตัดกิเลสด้านอาหารการกิน และทำให้ตัดกิเลสด้านอื่นได้ง่ายขึ้นด้วย


...  ตักบาตรด้วยของดีของแพง ทำให้พระนิสัยเสีย น่าจะได้บาปมากกว่าบุญ หรือเปล่า ???  ...
แล้วคิดว่าอย่างไรละ บอกที   ส.อืม
DO YOU KNOW ME? I AM A CAT 28 YEARS. AND YOU?    แมวแท้สู (แมวยิ้ม)

คุณหลวง

...  ตักบาตรด้วยของดีของแพง ทำให้พระนิสัยเสีย น่าจะได้บาปมากกว่าบุญ หรือเปล่า ???  ...

    การให้ทานนั้นจะได้บุญมากหรือน้อย นั้นมีปัจจัย ๓ ครับ
๑. ผู้ให้ บริสุทธิ์ใจที่ให้เพียงใด
๒. ของที่ให้ ได้มาด้วยความบริสุทธิ์เพียงใด
๓. ผู้รับ มีความบริสุทธิ์เพียงใด

    และการให้
๑. ก่อนให้ จิตผ่องใสเพียงใด เสียดายหรือไม่
๒. ขณะให้ จิตผ่องใสเพียงใด เสียดายหรือไม่
๓. หลังให้ จิตผ่องใสเพียงใด เสียดายหรือไม่

    การให้ด้วยของดีราคาแพง จึงไม่เกี่ยวกับบาปบุญที่จะได้ แต่การให้ของปราณีต(ตั้งใจทำด้วยความสะอาด เรียบร้อย สวยงาม ย่อมแสดงถึงความผ่องใสในการให้ระดับหนึ่งเช่นกัน)

    ส่วนเรื่องพระนิสัยเสียนั้น โทษผู้ให้มิได้(นอกจากผู้ให้บางคนที่ปรนเปรอเพื่อลาภผลของตน) พระเองจะต้องทำใจของตนว่าตนบวชเพื่อสิ่งใด และต้องฝึกตนเองครับ ดังนั้น พระพุทธองค์จึงทรงสรรเสริญหมอชีวกว่าเลิศในด้านพิจารณาแล้วจึงศรัทธา พิจารณาแล้วให้

    ส่วนผู้เฒ่าผู้แก่นั้น ท่านใกล้ฝั่ง สิ่งที่จะเป็นเครื่องชูใจของท่านได้นอกจากลูกหลานเป็นคนดี ได้ดีแล้ว ก็เห็นจะเป็นเรื่องบุญกุศลนี่ล่ะครับ ท่านจึงพยายามทำไว้เพื่อความสบายใจว่าตนมีบุญมีกุศลเป็นเครื่องนำทางเวลาตายไป ชาติหน้าก็จะได้ไม่ลำบาก ฯลฯ

    หากไม่เป็นเรื่องหนักหนาเกินไป ก็ให้ท่านทำไปเถิดครับ อนุโมทนากับท่านไป ถือว่าเลี้ยงใจท่านในเวลาก่อนที่ท่านจะไปในวันใดไม่รู้ได้ บางท่านยอมอดสิ่งดีๆที่ลูกหลานซื้อมาให้เพื่อถวายพระ อันนั้น มองให้ดีก็เห็นว่าท่านได้ละความอยากส่วนตัวด้วยศรัทธาแรงกล้า จิตเข้มแข็ง และจิตเข้มแข็งนั้นจะนำพาท่านไปในสุคติได้ดีกว่าบุญในงานศพที่ลูกหลานจัดให้เสียอีกครับ

    แต่หากเห็นว่าเบียดเบียนครอบครัวเกินไป ก็คุยกับท่านดีๆ ยกคำของพระพุทธองค์มาบอกกล่าวเพื่อมีน้ำหนักว่าพระองค์ทรงสรรเสริญการให้ทานอย่างไรๆ ให้ทานอย่างไรจึงได้บุญมาก ของถูกๆแต่หากทำด้วยใจประณีตก็มีค่ายิ่งกว่าของแพงมหาแพงได้เช่นกัน อย่างอาหารของนายจุนทะที่ไม่ได้เลิศเลออย่างของนางสุชาดา(มื้อสุดท้ายและมื้อก่อนตรัสรู้)แต่พระองค์ตรัสว่ามีผลมากเสมอกัน เป็นต้น

    พระองค์ทรงสอนให้รู้จักใช้ทรัพย์ รู้ว่าส่วนไหนใช้เพื่อครอบครัว ส่วนไหนใช้เพื่อพ่อแม่ญาติมิตร ลูกหลาน ส่วนไหนใช้เพื่อบุญกุศล ก็แบ่งปันไปตามส่วนตามสมควรแก่ฐานะ ก็หาเวลาคุยกัน บอกกล่าวกัน เพื่อมิต้องหมางใจกัน อย่าให้ท่านหมางใจในการทาน

    เลี้ยงใจท่านเถิดครับ เราอาจต้องลำบากตัวเราบ้าง แต่ความสุขบั้นปลายของท่านแล้ว ความตายจะมาพรากไปวันใดเราไม่รู้ได้เลย ขอมอบเพลงนี้เป็นกำลังใจครับผม    สะบายดี...

http://youtu.be/e7dIK_J7864
สิ่งที่ไม่เหลือคือ  ความสงสัยในวิถีตน
สิ่งที่เหลือคือ  เดินทางต่อไป และต่อไป

puiey

อย่างน้อยก็อยู่ที่จิตใจของผู้ให้ทานเป็นอันดับแรก ว่าหวังอะไร
โกธรกับแฟน ขึ้นสเตตัส "โสด" ถ้าวันนึง แม่มึงโกธร มึงไม่ขึ้นสเตตัส "กำพร้า" เลยเหรอ

คุณหลวง

อ้างจาก: puiey เมื่อ 11:50 น.  20 ม.ค 56
อย่างน้อยก็อยู่ที่จิตใจของผู้ให้ทานเป็นอันดับแรก ว่าหวังอะไร

    ครับ เพราะว่าการให้ทานนั้นมิใช่สักแต่ว่าให้ แต่ความมุ่งหมายนั้นสูงสุดถึงการขัดเกลาความเห็นแก่ตัวให้มากที่สุด พูดง่ายๆว่ายิ่งให้ด้วยความเห็นแก่ตัวน้อยเท่าไหร่ยิ่งได้บุญมากตามไป อย่างท่านพี่นับถือคริสต์ หากเคยผ่านตาพระประวัติตอนหนึ่งของพระเยซู ตอนที่ลูกศิษย์ท่านเห็นคนผู้หนึ่งบริจาคด้วยเงินร้อยเหรียญ และหญิงชรานางหนึ่งบริจาคเหรียญเดียว ลูกศิษย์จึงชื่นชมผู้บริจาคร้อยเหรียญว่าต้องได้บุญมาก แต่พระเยซูตรัสว่า หญิงชรานางนั้นได้บุญมากกว่า เพราะนางให้ด้วยความเสียสละและศรัทธาจริงๆตามกำลังของนางทำได้

    ว่าจะคุยต่อไป แต่แค่นี้ก่อนนะครับ  มีความสุขในวันแดดผ่าวๆครับผม            สะบายดี...
สิ่งที่ไม่เหลือคือ  ความสงสัยในวิถีตน
สิ่งที่เหลือคือ  เดินทางต่อไป และต่อไป