ข่าว:

ทดลองใช้งานบอร์ดตะลุง ที่อยู่ในขั้นตอนการกู้คืนข้อมูล เบื้องต้นมีแต่กระทู้ (ข้อความ) กำลังกู้รูปภาพ ไฟล์แนบต่าง ๆ คาดว่าจะทยอยสมบูรณ์ภายในไม่ช้า

Main Menu

13 หนังสยองขวัญแห่งตำนานต้องห้ามตลอดกาล ภาค 5 / มิคสัญญีร่ำไห้ !!

เริ่มโดย คุณาพร., 17:01 น. 23 ม.ค 56

คุณาพร.

13 หนังสยองขวัญแห่งตำนานต้องห้ามตลอดกาล ภาค 5 / มิคสัญญีร่ำไห้ !!


เมื่อดวงตาวันลาลับจากขอบฟ้าเพื่อพักกายาสู่แดนดิน
บัดนั้นแลความสงัดเงียบเริ่มคืบคลานเข้ามาเยือนแขกแปลกหน้า
ดำมืดไร้แสง สี รส กลิ่น เย้ายวนชวนคะนึงค้นหา
พลันอสูรกายร้ายเดินย่างเข้ามา ดวงตาแดงก่ำกลืนกิน
หยาดหยดโลหิตแตกแดงฉาน เสียงหวีดร้องกึกก้องยาวนานขานรับ
เสียงลากตรวนโซ่เริ่มดังขึ้นแผ่วแผ่ว
ประตูเปิดแล้วกวักมือเพรียกเรียกหา
อะไรอยู่ข้างในให้ท่านผู้สงสัยได้เปิดเข้ามา
ใช้แสงเทียนส่อง จ้อง มองดู
มืด ดำ ลึก ดิ่ง อัปรีย์จัญไร อยู่ตรงเบื้องหน้า
เปิดตา มองมา...........ข้างนอก






เช้ามืดของคืนวันจันทร์ที่ 21 มกราคม 2556 (หน้าเมรุเผาศพของวัดแห่งหนึ่ง)......................................
ปีนี้ 2556 พวกเรานั่งจั่วอันดับหนังสยองขวัญต้องห้ามกัน 5 คน ภายในงานศพของญาติผู้ใหญ่ท่านหนึ่ง 
นานๆทีที่สมาชิกชมรมคนรักหนังสยองขวัญ / สงขลา จะมาเจอกันพร้อมหน้าพร้อมตาถึง 5 คน
และ....ปีนี้พิเศษหน่อยนะ  นั่งจั่วอันดับ +ให้คะแนนกันเกือบตี 2 หน้าเมรุเผาศพ !!
ได้อันดับหนัง  และคะแนน  เป็นดังนี้แล...................................

******ปล.  ปีละหนคนกันเอง......ชมรมคนรักหนังสยองขวัญ / สงขลา  :  อันดับและคะแนนเป็นความเห็นของเฉพาะกลุ่มบุคคลเท่านั้น(ชมรมคนรักหนังสยองขวัญ / สงขลา)



อันดับ 13. Elephant / 2003 (คะแนน 69.7 / 100 คะแนน)
สงสัยตั้งแต่ครั้งแรกๆที่เห็นใบปิดหนัง  ทำไมหนังสุดแรงเรื่องนี้จึงใช้ชื่อว่า "Elephant"   เพราะสงสัยจึงไปเปิดพจนานุกรมของพวกฝรั่งเขา ทำให้เข้าใจได้ในระดับหนึ่ง  คำว่า Elephant หรือแบบเต็มๆคือสำนวน An Elephant in a Room บางคนก็เรียกว่า An Elephant in a Dark Room ถ้าแปลตรงตามตัวอันแรกคงประมาณหมายถึง ช้างในห้อง ส่วนอันที่สองก็ประมาณ ช้างในห้องมืด / มุมมืด อะไรประมาณนี้ ซึ่งในชีวิตจริงเราคงจับเอาช้างเข้ามาแอบซ่อนไว้ในห้องเล็กๆแคบๆไม่ได้แน่  คำว่า An Elephant in a Room และ An Elephant in a Dark Room จึงมีความหมายเชิงเปรียบเทียบไปในแนวทางที่ว่า "มีปัญหาใหญ่ในสังคม" (เปรียบช้างว่าเป็นปัญหาใหญ่  เปรียบห้อง หรือมุมมืดว่า คือ สังคม ณ สถานที่นั้นๆ) ว่าแต่ใน Columbine High School มี Elephant ซ่อนอยู่ใน Dark Room ห้องไหนนะ?  ผลงานการเขียนบทและกำกับโดย Gus Van Sant  หนังนำเสนอเกี่ยวกับภาพเหตุการณ์ฆาตกรรมหมู่สุดสะเทือนขวัญใน Columbine High School (โรงเรียนคอลัมบายน์ไฮสคูล สหรัฐอเมริกา) ผ่านภาพของสองเด็กหนุ่ม อีริค แฮริส อายุ 18 ปี และ ไดเลน เคล็บโบลด์ อายุ 17 ปี(Eric Harris & Dylan Klebold)ที่กำลังสาดห่ากระสุนใส่เพื่อนร่วมโรงเรียนอย่างบ้าคลั่ง  Elephant / 2003 คือหนังสุดโหด-สร้างจากเรื่องจริงที่ชื่อ "Columbine High School massacre" หรือ "เหตุการณ์สังหารหมู่ที่โรงเรียนคอลัมบายน์ไฮสคูล" จากแฟ้มข้อมูลทางอาชญากรรมบ่งชี้ว่าเหตุเกิดในวันที่ 20 เมษายน ปี 1999 ระหว่างเวลา 11:19 am – 12:08 pm ใน Columbine High School / สหรัฐอเมริกา  ริค แฮริส และไดเลน เคล็บโบลด์ ได้เดินทางมายังโรงเรียนพร้อมชุดคลุมสีดำแบบในหนังแอ็คชั่น  สะพายเป้ที่ภายในบรรจุอาวุธร้ายแรงประเภทปืนชนิดต่างๆ และใส่ท๊อปบู๊ตแบบทหาร จากนั้นเด็กทั้งสองได้เดินไปยังชั้นเรียน และลงมือสังหารเพื่อนนักเรียนและครูอย่างโหดเหี้ยม  ทั้งสองบรรเลงเพลงแห่งมัจจุราชอยู่อย่างเชื่องช้า  เสียงหวีดร้องขอความช่วยเหลือดังก้อง Columbine เลือดหลั่งนองเต็มพื้น  หลังสิ้นเสียงปืนปรากฏมีผู้เสียชีวิต 15 ศพ  บาดเจ็บ 23 ราย และตามมาด้วยการฆ่าตัวตายของคู่หูนรกแตก อีริค แฮริส และไดเลน เคล็บโบลด์ ภาพเหตุการณ์อันเลวร้ายทั้งหมดนี้เองที่ Gus Van Sant ได้ใช้เป็นแรงบันดาลใจในการสร้าง Elephant / 2003 ขึ้นในอีก 4 ปีต่อมา หนังออกฉายครั้งแรกในวันที่ 3 ตุลาคม 2003 ในประเทศอิตาลี หนังยาวประมาณ 81 นาที ในหนังใช้ John Adams High School, 5135 NE Columbia Boulevard, Portland, Oregon, USA เป็นสถานที่ถ่ายทำ  โดยได้ดารานำแสดงอาทิ Elias McConnell, Alex Frost เเละ Eric Deulen  (******หมายเหตุ  :  เรื่องนี้หลุดเข้ารอบสุดท้ายมาได้เพราะได้รับอิทธิพลจากคดีฆาตกรรมสุดอื้อฉาว ซึ่งภายหลังกลายเป็นเหตุเลียนแบบไปทั่วโลก / หนังออกแนวเศร้าๆ หดหู่  จนขนพองสยองเกล้าว่ามันสามารถเกิดขึ้นได้จริงๆ  และภายในโรงเรียนทุกแห่งในโลกใบนี้)


อันดับ 12. Martyrs / 2008  (คะแนน 71.6 / 100 คะแนน)
ณ บ้านพักริมทางเปลี่ยวหลังหนึ่ง ฉันจ้องมองอย่างครุ่นคิดหลายตลบ บ้านหลังนี้เองที่เพียบพร้อมไปด้วยหัวหน้าครอบครัวที่แสนใจดี แม่ที่รักและเข้าใจลูกๆทั้งสอง พี่ชายคนโตจิตใจร่าเริง น้องสาวที่แสนวุ่นวาย ช่างเป็นครอบครัวที่แสนมีความสุขเสียจริงๆ เอาล่ะ ฉันคิดได้แล้ว......ฉันจะฆ่าพวกมันทั้งหมด!!!   เรื่องราวของ Lucie เด็กสาวที่ซึ่งหนีออกมาจากสถานที่คุมขังนรกใต้ดินแห่งหนึ่งได้อย่างเฉียดฉิว เธอได้รับการปฐมพยาบาลจนหายแต่ก็ต้องแลกกับการสูญเสียความทรงจำบางส่วนไป แพทย์ที่ทำการรักษาเธอลงความเห็นตรงกันว่าเธอไม่ได้ถูกข่มขืน หรือล่วงละเมิดทางเพศแต่อย่างใด แต่ถูกล้ามเอาไว้ด้วยโซ่ ถูกรุมทุบตี ทรมานจนแสนสาหัสอย่างไร้ที่มาที่ไป อยู่มาวันหนึ่งสาวน้อยอีกนางชื่อ Anna คนไข้ของโรงพยาบาลอีกคนได้เข้ามาเป็นเพื่อนสนิทของเธอ และได้เริ่มเห็นพฤติกรรมบางอย่างของ Lucie ที่เปลี่ยนไป เธอกำลังถูกฝันร้ายในอดีตตามหลอกหลอนอย่างบ้าคลั่ง ณ เวลาที่ Lucie เจอกับภาพเหตุการณ์หลอนนั่นเอง Anna คือคนๆเดียวที่เธอไว้ใจ รู้สึกปลอดภัยเมื่อได้อยู่ใกล้ จวบจนเวลาผันผ่านไปครบ 15 ปี ทั้งสองยังคงเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน จนกระทั่งอยู่มาวันหนึ่ง Lucie ได้ไปพบเข้ากับคนที่เคยลักพาตัวเธอเมื่อ 15 ปีก่อนโดยบังเอิญ เธอสืบหาจนรู้ถึงที่อยู่ของเขาและครอบครัว วินาทีนั้นเองความคิดที่จะสืบถึงที่มาที่ไปของตัวเอง และการล้างแค้นครอบครัววิปริตที่จับตัวเธอไปทรมานอย่างแสนสาหัสเมื่อ 15 ปีก่อนก็บังเกิดขึ้นในสมอง ปืนลูกซองและกระสุนถูกเตรียมไว้พร้อมแล้ว Lucie กำลังก้าวย่างไปข้างหน้ายังเคหะสถานหลังน้อยของครอบครัวนั้นอย่างแสนเจ็บปวด มันคือจุดจบ หรือจุดเริ่มต้นแห่งโซ่ตรวนเมื่อ 15 ปีก่อนกันแน่



อันดับ 11. Irreversible / 2002 (คะแนน 73.4 / 100 คะแนน)
หนังฝรั่งเศสผลงานการกำกับของ Gaspar Noé ในปี 2002 กับฉากที่คนดูในโรงหนังอึดอัดจนทนแทบไม่ไหวต้องลุกเดินออกจากโรงอย่างคนเสียสติ เล่าลือกันว่าในการฉายหนังเรื่อง Irreversible ในปี 2002 ในช่วงแรกๆของการฉาย ฉากที่คนดูหลายๆคนทนรับไม่ได้เลยก็คือ ฉากที่นางเอกของเรื่องถูกหนุ่มเกย์ตามมาฉุดกระชาก ลากไปข่มขืนอย่างสุดแสนวิปริต ทารุณ เรียกว่าข่มขืนไปกระทืบไปก็คงไม่ผิด และที่สำคัญเธอกำลังตั้งท้องอ่อนๆกับพระเอกของเรื่องอยู่ด้วย ยิ่งสร้างความสงสารและเวทนาให้บังเกิดแก่ผู้ชมเป็นทวีคูณ ผู้กำกับหนัง Gaspar Noé เล่นถ่ายฉากนี้แบบ Long Shot แช่กล้องยาวนานนับสิบนาที มันเป็นภาพที่ชวนทุกข์เวทนาอย่างถึงที่สุดมากกว่าที่จะปลุกเร้าให้เกิดอารมณ์ทางด้านเพศ จนนักวิจารณ์ชั้นแนวหน้าหลายคนในประเทศฝรั่งเศสถึงกับให้ความเห็นอย่างรุนแรงต่อหนังเรื่องนี้ว่า "ไอ้คนที่มันสามารถทนดูหนังเรื่องนี้จนจบเเล้วมีความสุขได้นี่ มันต้องเป็นคนวิปริต-บ้าเต็มขั้นอย่างแน่นอนที่สุด"



อันดับ 10. Cannibal Holocaust / 1980 (คะแนน 82.0 / 100 คะแนน)
ม้วนวีดีโอที่ใครคนหนึ่งพานพบเข้าโดยบังเอิญกลางป่าลึก เนื้อในมีคำเฉลยอันแสนวิปริตซ่อนอยู่ กับการเดินทางบนเส้นทางเดินอันหฤโหด ขวากหนามนานา สัตว์ร้าย และเหล่าคนกินคน มันจะแล่ มันจะหั่น ผู้มาเยือนออกเป็นชิ้นๆอย่างน่าสยดสยองพองขน มันจะกัด มันจะเคี้ยวกลืนกินกันอย่างเริงร่ารื่นเริง มาสิ มาสนุกกับพวกมัน!!!   เรื่องราวของนักศึกษาชาย 3 หญิง 1 นักถ่ายทำสารคดีชาวสหรัฐอเมริกาที่หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอยในการมาถ่ายทำสารคดีเรื่องสุดท้ายในป่าดงดิบแถบอเมริกาใต้ ทางสถานีโทรทัศน์แห่งหนึ่งจึงส่งตัว Dr.Harold Monroe(รับบทโดย Robert Kerman)ออกเดินทางไปค้นหาความจริง จนในที่สุดเขาก็ได้ค้นพบม้วนเทปวีดีโอที่เป็นการบันทึกเอาไว้ก่อนหายตัวไปของนักถ่ายทำสารคดีทั้ง 4 กับเรื่องราวการเดินทางอันแสนวิปริต พฤติกรรมชนเผ่ากินคนอันโหดเหี้ยม ประเพณีแปลกประหลาด เซ็กส์ การทรมานเหยื่อในรูปแบบต่างๆ คือสิ่งที่ทั้ง 4 จะได้พาลพบประสบเจอ



อันดับ 9. All Night long 3  :  The Final Chapter / 1996 (คะแนน 88.7 / 100 คะแนน)
มันคือการแสดงออกทางด้านมืดของมนุษย์อย่างน่าสะพรึง คือพลานุภาพแห่งความรุนแรงอย่างบ้าคลั่ง ฉากการทรมาน เซ็กส์และพฤติกรรมเบี่ยงเบนทางเพศ เก็บกด หวาดกลัว เพ้อฝัน ความทรงจำอันแสนแปลกประหลาด ประสาทหลอน ทรอมาในจิต ตาแดงก่ำ รอยยิ้มเปื้อนเลือด เสียงหวีดร้องเจ็บปวดอันแสนสุข โรคจิตแบบเต็มขั้น ทั้งหมดที่กล่าวมาแหล่ะนี้คือหนังในตระกูล All Night long  หนังในตระกูล All Night long หรือ Ooru naito rongu (ค่ำคืนที่แสนยาวนานและทรมาน) เป็นผลงานการกำกับและเขียนบทของ Katsuya Matsumura ผู้กำกับคุณภาพคับแก้วอีกคนในวงการหนังของประเทศญี่ปุ่น อันมีมุมมองเกี่ยวกับการสร้างภาพลักษณ์ของหนังสยองขวัญใต้ดินในแบบฉบับของตนอย่างโดดเด่น ค่ำคืนอันแสนยาวนานและทรมาน หรือ All Night long ในภาคแรก เปิดตัวขึ้นในวันที่ 14 พฤศจิกายน ปี ค.ศ.1992 ประเทศญี่ปุ่น พร้อมกับเสียงวิพากษ์วิจารณ์ตามมาอย่างรุนแรงถึงภาพแห่งความเจ็บป่วยทางจิตแบบเต็มขั้นของหนังเรื่องดังกล่าว แต่ก็สร้างชื่อเสียงให้แก่ Katsuya Matsumura เป็นอย่างมากเช่นกัน จนเป็นที่ยอมรับกันในวงการสร้างหนังสยองขวัญแนวโรคจิต(แบบเต็มขั้น)ว่า Katsuya Matsumura คือหนึ่งในผู้กำกับเพียงไม่กี่คนในโลกนี้ที่สามารถสร้างความอึดอัด ชวนอาเจียน หดหู่ทางจิต และสร้างฝันร้ายอันแสนวิปลาสนำเสนอแก่คนดูหนังได้อย่างสมบูรณ์ ด้วยเหตุนี้เองหนังเรื่อง All Night long จึงมีการสร้างภาคต่อตามมาถึง 6 ภาค  All Night long 3  :  The Final Chapter หรือ Ooru naito rongu 3 : Saishuu-shô (ค่ำคืนที่แสนยาวนานและทรมาน ภาค 3) ออกฉายครั้งแรกในประเทศญี่ปุ่นเมื่อปี ค.ศ.1996 นำแสดงโดย Yuujin Kitagawa(Kikuo Sawada), Ryoka Yuzuki(Hitomi Nomura), Tomorowo Taguchi, Meika Seri, Mitsuzo Ishii, Hideki Kawamata, Mitsuru Hosokawa, Herachonpe, Mitsuru Matsui, Yuka Nishitani, Aki Fukazawa, Chika Misaki, Yui Kawana, Yoko Tanaka และ Yuu Sasaki กำกับและเขียนบทหนังโดย Katsuya Matsumura ไตรภาคแห่งหนังในตระกูล All Night long กับ All Night long 3  :  The Final Chapter หรือ Ooru naito rongu 3 : Saishuu-shô ภาคที่ได้ชื่อว่าวิปริตและเจ็บป่วยทางจิตแบบสุดขั้วในระดับต้นๆของหนังในตระกูล All Night long ทั้ง 6 ภาค เรื่องราวเกี่ยวกับเด็กชายวัยแรกรุ่นชื่อ Kikuo Sawada เด็กเก็บกดที่หมกมุ่นอยู่กับการเรื่องราวทางชีววิทยา ธรรมชาติ ต้นไม้ และแมลง ทุกๆวัน Kikuo Sawada จะออกไปวางกับดักที่เสาไฟฟ้าแถวละแวกบ้านเพื่อดักจับแมลงมาให้ต้นหม้อข้าวหม้อแกงลิงที่เลี้ยงไว้กินเป็นประจำ จนวันหนึ่งเขาได้ไปเจอกับสาวที่แอบชอบชื่อ Hitomi Nomura ซึ่งกำลังนำขยะมาทิ้งลงถังขยะ  Kikuo Sawada ลุ่มหลงในการเก็บขยะของสาวที่แอบชอบนำมาทิ้งอย่างแปลกประหลาด  เขาเก็บสะสมขยะของหล่อนทุกๆวัน เริ่มตั้งแต่ ใบแจ้งหนี้ เศษเส้นผม เศษขนม ถุงน่องเก่า แปลงสีฟันเก่า ไปจนกระทั่งผ้าอนามัยที่ใช้แล้ว มาเก็บสะสมไว้เพื่อสูดดม สัมผัสพื้นผิว รวมถึงกินของเหลือจากถังขยะที่ Hitomi Nomura กินไม่หมดและนำมาทิ้งอย่างเป็นสุข สุดท้าย Kikuo Sawada ได้ขยายขอบเขตแห่งความวิปลาส-วิปริต ไปจนใกล้ตัว Hitomi Nomura จนเกิดตำนานแห่งความเจ็บป่วยทางจิตหน้าใหม่ในวงการหนังใต้ดินของโลก Hitomi Nomura จะรัก Kikuo Sawada ด้วยการหั่นเธอออกเป็นชิ้นๆ



อันดับ 8. Visitor Q / 2001 (คะแนน 91.8 / 100 คะแนน)
โรคจิตเต็มขั้น!!!   Visitor Q (ครอบครัวโรคจิต)ออกฉายครั้งแรกในปี 2001 ในประเทศญี่ปุ่น โดยได้ Rate ในการฉายในครั้งนั้นคือ Rate R ซึ่งบางแห่งให้เป็นหนัง Cult และอีกหลายสถาบันให้เป็นแนว Black-Comedy/Cult หนังเรื่องนี้มีความยาวทั้งสิ้นประมาณ 85 นาที มี Kōji Endō ทำดนตรีประกอบ และได้ Yasushi Shimamura ตัดต่อภาพ ตัวหนังใช้ภาษาญี่ปุ่นในการสื่อสารกับผู้ชม โดยต่อมามีการทำ Subtitle (คำบรรยาย)ออกมาอีกหลายภาษา ในไทยเท่าที่เห็นมี 2 Version คือ Subtitle  :  Japanese/Thai และ Subtitle  :  English/Thai    เรื่องราวใน Visitor Q หรือครอบครัวโรคจิต เกี่ยวกับการดำเนินชีวิตประจำวันแบบอปกติของครอบครัวๆหนึ่งในประเทศญี่ปุ่น ประกอบไปด้วย พ่อ-แม่-ลูกสาว-ลูกชาย ทั้ง 4 ดำเนินชีวิตที่แสนวิปริต-เจ็บป่วยทางจิต (เจ็บป่วยทางจิตเข้าขั้นรุนแรง) จนอยู่มาวันหนึ่งเหตุการณ์เปลี่ยนไปเมื่อมีผู้มาเยือนปริศนา ชายหนุ่มชื่อ Q ผู้มีเสน่ห์และแรงดึงดูดอย่างแปลกประหลาด  เป็นหนังที่มีดีกรีความจัญไรสูงมากๆ เสื่อมได้ใจ นำเข้าซึ่งวังวนแห่งอาการเจ็บป่วยทางจิต-โรคจิตแบบเต็มขั้น เปิดตัวหนังด้วยคำโปรย "คุณเคยร่วมหลับนอนกับพ่อของตัวเองไหม?" จากนั้นจึงเป็นฉากการร่วมรักกันระหว่าง พ่อ-ลูกสาวที่ขายบริการทางเพศแบบโจ๋งครึม  "คุณเคยกระทืบแม่ตัวเองบ้างไหม?" จากนั้นจึงเป็นฉากที่ลูกชายซ้อมแม่ของตัวเองเพื่อระบายแค้นอย่างบ้าคลั่ง  "คุณเคยถูกก้อนหินตีเข้าที่หัวจนเลือดอาบบ้างรึเปล่า?" หลังจากที่ชายนิรนาม Q ตีหัวผู้เป็นพ่อที่สถานีรถไฟ ทั้งสองก็กลายมาเป็นเพื่อนรักกันอย่างชวนแปลกประหลาดเป็นที่สุด หลังจากหนังเรื่องนี้ออกฉายตามเทศกาลหนังในประเทศต่างๆ รวมถึงจัดจำหน่ายในรูปแบบแผ่น DVD มีทั้งเสียงชื่นชมยกย่องตามมาว่าหนังเรื่องนี้เป็นหนังที่ดีมาก มีพล็อตเรื่องและการแสดงที่ดีเยี่ยมอบอุ่น มากพอๆกับเสียงด่าทอสาปแช่งตามมาว่า Visitor Q เป็นหนังจัญไร หนังระยำ หรือหนังจิตแตกแล้วแต่จะเรียกกัน ถึงจะมีกระแสชื่นชมและสาปแช่งหนังเรื่องนี้ออกเป็นสองฝ่าย โดยที่แต่ละฝ่ายต่างก็มีจุดยืนที่จะเชื่อในหลักการและเหตุผลของตนต่างกัน ถึงจะไม่รู้ว่าทั้งสองฝ่ายที่สนับสนุนแนวคิดเกี่ยวกับหนังเรื่องนี้กับฝ่ายที่ต่อต้านใครกันแน่คือฝ่ายที่ถูก แต่ที่รู้กันแน่ๆตอนนี้แล้วนั่นก็คือ Visitor Q คือหนังที่ควรเก็บให้พ้นมือเด็ก




อันดับ 7. Snuff 102 / 2007 (คะแนน 92.2 / 100 คะแนน)
เรื่องราวแห่งม้วนวีดีโอต้องห้ามที่นักแสดงตัวเด่นในเรื่องต้องแลกด้วยเลือดเนื้อและชีวิต คือการแสดงอันทรงพลานุภาพจากขุมนรก เผยสันดานดิบธาตุแท้ของมนุษย์ในด้านมืดอันบอดสนิท หยดโลหิต เสียงหวีดร้อง น้ำตา และคำสวดอ้อนวอนขอ พฤติกรรมลุ่มหลงอย่างประหลาดแปลกแยกแสนอันตราย นำมาซึ่งการเสาะแสวงหา สร้างบางสิ่งอันแสนบ้าคลั่ง มืดดำและดิ่งลึก สงัดเงียบประหนึ่งก้าวย่างสู่แดนรัตติกาลอเวจีชั่วกัปกาล   เรื่องราวในอเวจี 102 หนังที่ถ่ายแบบภาพขาว-ดำ สลับภาพสีเป็นระยะๆ เกี่ยวกับนักข่าวสาวตัวเอกของเรื่อง(Yamila Greco)ที่กำลังค้นคว้าและออกตามหาสนัฟฟ์ฟิล์ม(Snuff film1)ในแบบ Real Snuff film ถ่ายจริงฆ่าจริงตายจริงในประเทศอาร์เจนติน่า เรื่องราวเกี่ยวกับนักฆ่านิรนามที่สังหารเหยื่อไปมากถึง 99 ศพเพื่อสร้างหนังแห่งตำนาน จนเมื่อตัวเอกของเรื่องพยายามติดต่อหาข้อมูลจากผู้รู้ในเรื่องดังกล่าวหลายๆคน ปรากฏว่าเธอเกิดความลุ่มหลงอย่างประหลาดในแผ่นฟิล์มนรกดังกล่าว โดยไม่สามารถถอนตัวจากโลกแห่งสนัฟฟ์ฟิล์มได้  จนในที่สุดภัยร้าย นักฆ่านิรนาม ความตาย กำลังย่างกรายเข้ามาใกล้เธอจนแทบจะหายใจรดต้นคอ Andrea Alfonso รับบทสาวท้องแก่ใกล้คลอดเหยื่อหมายเลข 100 ที่ถูกกระทำย่ำยีอย่างป่าเถื่อน Silvia Paz รับบทเหยื่อหมายเลข 101 สาวสวยในค่ำคืนแห่งการลักพาตัว ถูกจับมัดเลาะซี่ฟันด้วยสิ่วอย่างสยดสยองพองขน และ Yamila Greco นักข่าวสาวสวยอันเป็นที่หมายตาของนักฆ่านิรนามที่ได้มอบหมายเลขมรณะ 102 ให้เป็นรางวัลในค่ำคืนอันแสนทรมานและสิ้นหวัง 



อันดับ 6. Grotesque / 2009 (คะแนน 96.1 / 100 คะแนน)
หนึ่งหญิงสาวใสซื่อประดุจกุหลาบขาวบานแรกแย้ม กับหนึ่งหนุ่มน้อยหน้าเกลาเกลี้ยงหล่อเหลาไม่เป็นสอง รวมถึงใครอีกบางผู้เร่งเดินย่างเข้ามาทายทักอยากประจักษ์แจ้งในรักแท้ของคนทั้งคู่ โซ่ตรวนแห่งพันธนาการ ของมีคม มีด เลื่อยไฟฟ้า และนรกอันเริงร่า   Grotesque เล่าเรื่องเกี่ยวกับชายวัยกลางคนๆหนึ่งกับพฤติกรรมสติแตกแบบสุดขั้ว ชายคนดังกล่าวคล้ายว่าจะเป็นนายแพทย์ผู้ไร้ศีลธรรม หรือชายโรคจิตได้จับคู่ชายหญิงคู่หนึ่งมาให้รักกันในเกมที่เขากำหนด ก่อนเจอบทลงโทษที่ดับความหวังแห่งการอยู่รอดของพวกเขาทีละน้อย หญิงสาวนางนั้นที่ถูกจับมาเธอมีชื่อว่า Aki(Tsugumi Nagasawa) กับชายคนรัก Kazuo(Hiroaki Kawatsure)ทั้งสองถูกชายโรคจิตโปะยาสลบ ณ ทางสายเปลี่ยนแห่งหนึ่ง จวบจนได้สติกลับคืนมา ทั้งคู่กำลังเผชิญอันตรายครั้งใหญ่ร่วมกัน ทั้งคู่ถูกพันธนาการด้วยเชือก-สายรัดข้อมือ ข้อเท้า และใส่ Mouth Gag(แก๊กปาก-อุปกรณ์สำหรับถ่างปากให้อ้าออก)ให้คนทั้งคู่ สิ่งที่ชายโรคจิตต้องการจากคนทั้งคู่ในเวลานี้ก็คือ เพื่อให้ทั้งสองมาเล่นเกมพิสูจน์รักแท้สนองตัณหาของตนเอง เกมอันแสนวิปริต ไม่ว่าจะเป็นการที่ชายโรคจิตช่วยสำเร็จความใคร่ให้ทั้งชายและหญิง(ต่อหน้าคนทั้งสอง) ต่อด้วยกระบวนการเหยียดหยามความเป็นมนุษย์ต่างๆนาๆ เริ่มจากตัดนิ้ว ตัดแขนด้วยเลื่อยไฟฟ้า เอาเข็มทิ่มลูกตาอย่างสยดสยอง ตอนอวัยวะสืบพันธุ์ หั่นร่างกายอีกหลายส่วน และควักอวัยวะภายในออกมาเชยชม ฯลฯ พร้อมกับถ้อยคำถามที่ตามมาจากปากชายโรคจิตว่า "คุณพร้อมหรือยอมตายแทน เพื่อคนที่คุณรักได้ไหม? "   เป็นหนังที่ได้รับเสียงด่าจากคนทั้งโลก หลายประเทศทั่วโลกสั่งแบนหนังเรื่องนี้ ห้ามฉาย ห้ามจัดจำหน่ายในรูป VCD หรือ DVD เด็ดขาด โดยเฉพาะในสหราชอาณาจักรจัดหนังเรื่อง Grotesque ในประเภท "หนังอันตราย" และถูกคณะกรรมการตรวจพิจารณาภาพยนตร์ของสหราชอาณาจักรสั่งแบนตลอดกาลพร้อมมี Comment กลับมาอย่างรุนเเรงหลังได้รับชมหนังเรื่อง Grotesque ว่า "Comment เป็นหนังที่โหดร้ายแบบสุดขั้ว ทารุณ ล่วงละเมิดทางเพศอย่างรุนแรง สร้างความวิบัติให้แก่คนดูหนังอย่างมหาศาล ซึ่งแน่นอนว่าหนังเรื่องนี้จะส่งผลกระทบต่อสภาพจิตใจของคนดูได้แน่ เป็นหนังรุนแรงที่ไม่สามารถยอมรับได้ ไม่สามารถออกใบอนุญาตให้ฉายหรือจัดจำหน่ายได้ แม้กระทั้งในเรตของผู้มีอายุเกิน 18 ปี ตลอด 75 นาทีเต็มของหนังเรื่องนี้อุดมไปด้วยภาพความรุนแรงแบบผิดมนุษย์ หนังมีส่วนของการเล่าเค้าโครงเรื่องน้อยมาก ตัวละครแทบไม่มีการพัฒนาใดๆทั้งสิ้น ทำลายศีลธรรม ความเป็นมนุษย์อย่างรุนแรง วิปริตทางเพศ หนังแบบนี้ไม่สมควรจะมีวางขาย ณ ที่ใดทั้งสิ้นในประเทศแห่งนี้"



อันดับ 5. Salo the 120 Days of Sodom / 1975 (คะแนน 98.9 / 100 คะแนน)
ศักดิ์ศรีความเป็นคน มีไว้...ให้เหยียบย่ำ!!!   หนึ่งร้อยยี่สิบวันอันแสนทรมาทรกรรมในเมืองซาโล นรกทั้ง 3 ขุม ซึ่งมันก็คือเกมที่ผู้ทรงอิทธิพลในสังคมคนชั้นสูง-นายทหารเขาเล่นกันเพื่อตอบสนองกิเลส-ตัณหาส่วนบุคคล เสียงเปียโนของโชแปงดังแว่วบรรเลงขานขับสอดประสาน เราจะมารับประทานอุจจาระกันอย่างเริงรื่น กลิ่นคาวเลือดช่างหอมกรุ่นแดงฉานสว่างไสว เสียงหวีดร้องที่ชวนสะเทือนใจ คือความบันเทิงเริงใจของพวกข้า   Salo the 120 Days of Sodom  (สุขนาฏกรรมอเวจี/120 วันในโซดอม) เล่าเรื่องเกี่ยวกับผู้ปกครองระบอบฟาสซิสต์นายทหารผู้เรืองอำนาจทั้ง 4 ได้ออกคำสั่งให้จับวัยรุ่นหญิง-ชาย ลูกชนชั้นกลางหน้าตาดี 18 คนมาคุมขังไว้ยังคฤหาสน์ใหญ่หลังหนึ่งที่เรียกชื่อว่า Salo ซึ่งมันก็คือโลกส่วนตัวของผู้ยิ่งใหญ่ทั้ง 4 ประหนึ่งวิมารหลังน้อยที่พวกเขาและเธอจะสามารถกระทำย่ำยีอย่างไรก็ได้กับบรรดาเหยื่อผู้เคราะห์ร้ายทั้งหลาย สร้างเป็นนรกในวงวนแห่งความหายนะทั้งสาม ดังนี้ 1. Circle of Manias (วงวนแห่งความเพ้อคลั่ง) นำเสนอวัยรุ่นหนุ่ม-สาว ที่ต้องกระทำการตามคำสั่งของผู้ปกครองระบอบฟาสซิสต์นายทหารผู้เรืองอำนาจทั้ง 4 อย่างสุดวิตถาร  การเปลื้องผ้า  การเล่าประสบการณ์ทางเพศที่แสนวิปริตร่วมกัน การดื่มน้ำปัสสาวะสด การมีเพศสัมพันธ์แบบหมู่ชาย-หญิง การมีเพศสัมพันธ์แบบขบวนรถไฟ(หญิง-ชาย-ชาย) เซ็กซ์วิปริต พิธีแต่งงานเปลือย และการดำรงชีพแบบสุนัข เป็นต้น  2. Circle of Shit (วงวนแห่งอุจจาระ) ฉากเด่นอันแสนชวนอาเจียนในตอนนี้ก็คือฉากกินอุจจาระของผู้ปกครองระบอบฟาสซิสต์นายทหารผู้เรืองอำนาจทั้ง 4 เหยื่อวัยรุ่นหนุ่ม-สาว และบรรดานายทหารน้อยใหญ่ทั้งหลาย อุจจาระ (ขี้) ของเหยื่อถูกตักมาจากภาชนะรองรับ นำเข้ามาในครัวเพื่อทำอาหารเลี้ยงรับรองชั้นเลิศ ซึ่งฉากนี้เองถือเป็นฉากในตำนานของหนังเรื่อง Salo the 120 Days of Sodom ที่กล่าวขานกันไปทั้งโลกในเรื่องของความวิปริตแบบสุดขั้ว  3. Circle of Blood (วงวนแห่งคาวโลหิต) ฉากจบอันแสนสะพรึงของหนังเรื่องนี้ นำเสนอกรรมวิธีการทรมานเหยื่อวัยรุ่นหนุ่ม-สาว อย่างโหดเหี้ยมอำมหิตผิดมนุษย์ ไล่ตั้งแต่จับมัด ตัดลิ้น ตัดอวัยวะบางส่วนของร่างกาย แขวนคอ ฯลฯ



อันดับ 4. Guinea Pig  :  Flower of Flesh and Blood / 1985 (คะแนน 99.0 / 100 คะแนน)
กรุณา...ฆ่าฉันที!!!   เจ้าดอกโลหิตเบ่งบานยามราตรีส่งกลิ่นโชยหอมคละคลุ้ง ซ่อนแอบซากวิญญาณทุกข์ทรมานในเงามืด คมมีดเชือดเฉือน สับ ฉีกเศษกายร่างแยกขาดหยาดเลือดไหลนองพื้นดิน เป็นบันทึกแห่งสิ้นลมหายใจสุดท้ายของใครเพียงบางผู้ จึ่งเชิญชวนให้ผู้เสาะแสวงแลค้นหาร่วมกันสบสายตาอ่านความอันปรากฏ ณ ซอกกลีบเจ้าดอกไม้แห่งราตรีขับขาน เบ่งบาน โลหิตนอง และเริงรื่น   Guinea Pig  :  Flower of Flesh and Blood ในชื่อภาคภาษาไทยว่า "ดอกไม้โลหิต" หรือ "ดอกไม้แห่งเลือด" คือหนังแนวใต้ดิน-นอกกระแสที่กล่าวขานกันว่ามีความรุนแรงเกินกว่าคนปกติจะสามารถทนดูให้จบได้(นัยว่าคนดูซีรีย์ภาคนี้ต้องใจแข็งเป็นพิเศษ)หนังเปิดประเด็นด้วยชายโรคจิตในชุดซามูไรสีดำ ฉีดยาให้แก่เหยื่อซึ่งเป็นหญิงสาวสวยนางหนึ่ง ทำให้เหยื่อมึนงง ไร้สติ หมดความรู้สึก จากนั้นจึงทำการชำแหละเหยื่ออย่างบ้าคลั่งวิปริต ไล่ตั้งแต่การสับ หั่น ผ่า ควักไส้ควักพุงเหยื่อจนเละไม่เป็นชิ้นดี ชิ้นส่วนเหล่านี้เองกลับกลายมาเป็น Collection ในห้องสะสมชิ้นส่วนมนุษย์ของซามูไรสติแตกดังกล่าว ในหนังชุดซีรีย์หนูตะเภาภาค 2 ด้วยความยาวของตัวหนังเพียงแค่ 42 นาทีแต่ดำเนินเรื่องในแบบ "สารคดีสั้นกึ่งกรรมวิธีฆ่าหั่นศพ" จึงทำให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ในวงกว้างถึงความสมจริงแบบสุดกู่ว่าสิ่งที่พวกเขาและเธอได้รับชมจากม้วนวีดีโอชุด Guinea Pig  :  Flower of Flesh and Blood เป็นเรื่องจริงหรือเป็นเพียงหนังจัดฉากที่สมจริงเพียงเรื่องหนึ่ง ความจริงคงปรากฏให้ท่านผู้อ่านทราบแล้วว่า Guinea Pig  :  Flower of Flesh and Blood เป็นเพียง Fake Snuff Film หรือหนังสนัฟฟ์ฟิลม์ในแบบปลอมๆที่สร้างโดยอิงเนื้อหามาจากการ์ตูนสยองของ Hideshi Hino ในช่วงทศวรรษ 1970 ในหนังสือการ์ตูนเรื่อง M Collection ตอน Akai Hana   Guinea Pig Series ที่ได้รับการกล่าวขานกันว่าสร้างออกมาได้อย่างสมจริงสะอิดสะเอียนเจ็บป่วยทางจิตชวนให้อ้วกแตกเป็นที่สุดคงหนีไม่พ้น 3 ตอนดังนี้คือ Devils Experiment, Flower of Flesh and Blood และ He Never Dies ซึ่งในรายของ Guinea Pig  :  Flower of Flesh and Blood นั้นเป็นที่โจทย์จันกล่าวขานในเรื่องของความสมจริงอย่างที่สุด จัดเป็น Snuff Film (สนัฟฟ์ฟิลม์)ที่เป็นที่อื้อฉาวและก่อให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างแพร่หลายทั่วเกาะญี่ปุ่น ถึงกับมีหลายคนเริ่มสงสัยว่า Guinea Pig  :  Flower of Flesh and Blood ที่ตนได้รับชมมานั้นเป็นเพียง Fake Snuff Film (สนัฟฟ์ฟิลม์แบบเทียม/ของปลอม)หรือ Real Snuff Film (สนัฟฟ์ฟิลม์แบบแท้/ของจริง)กันแน่ ความจริงยังไม่ทันกระจ่างแจ้งปรากฏมีดารา Hollywood คือ ชาร์ลี ชีน และผู้กำกับ อดัม ริฟคิน ได้ชม Guinea Pig  :  Flower of Flesh and Blood เข้าโดยบังเอิญ และเข้าใจว่าภาพที่ได้เห็นเป็นเรื่องจริง   ทั้งสองจึงติดต่อไปที่ MPAA (Motion Picture Association of America)ให้ติดต่อไปยัง FBI (Federal Bureau of Investigation) ให้มีการยื่นฟ้องและแจ้งจับทีมงานผู้สร้างหนังเรื่องดังกล่าวกันวุ่นวายไปหมด ด้านกรมศุลกากรก็เห็นดีเห็นงามร่วมฟ้องร้องด้วยว่าปล่อยให้หนังต้องห้ามผิดกฎหมายเหล่านี้หลุดเข้ามาในประเทศสหรัฐอเมริกาได้อย่างไร มีการลงข่าวพาดหัวกันอย่างอึกทึกครึกโครมตามหน้าหนังสือพิมพ์หลายฉบับนาน 3-4 วัน เดือดร้อนไปถึงผู้กำกับ Hideshi Hino และโปรดิวเซอร์ Satoru Ogura (ที่กำลังจะถูกจับขังคุก)ต้องวิ่งโร่หาหลักฐานมาพิสูจน์ว่า Guinea Pig  :  Flower of Flesh and Blood นั้นเป็นเพียงหนังเรื่องหนึ่งที่สร้างได้อย่างสมจริงมาก มิใช่เรื่องจริงหรือการถ่ายทำ Real Snuff Film แต่ประการใด พร้อมแสดงเบื้องหลังการถ่ายทำที่ได้ถ่ายเก็บไว้ต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทั้งคู่จึงรอดคุกไปแบบฉิวเฉียด 



อันดับ 3. August Underground's Mordum / 2003 (คะแนน 99.2 / 100 คะแนน)
เริ่มจากทำความรู้จักกัน หลอกให้ตายใจ จับมัดแล้วจ้วงแทงด้วยมีดสปาต้าไม่นับแผล ใช้ค้อนทุบ กรรไกรตัดเส้นเอ็นข้อเท้าจนเคลื่อนย้ายกายร่างไปไหนได้ไม่สะดวก มองด้วยแววตาที่เหยียดหยาม น้ำมันราด แล้วจุดไฟเผาซ้ำทั้งเป็น นี่แหล่ะคือนิยามสั้นๆของสิงหาใต้ดิน  หนังในตระกูล August Underground จัดเป็นหนังแนว Gore Indy-Underground หรือ "Gore Independence Film Underground" ซึ่งหมายถึง หนังแนวนอกกระแสประเภทเลือดสาด บ้างก็เรียกว่า "หนังใต้ดิน" เป็นหนังแบบที่ไม่ได้รับการยอมรับให้เผยแพร่ทั่วไป หาชมยาก มีรูปแบบการนำเสนอที่หลุดกรอบภาพยนตร์ทั่วๆไปในกระแสตลาดนิยม ยิ่งเป็น Gore Indy-Underground เข้าไปแล้วเป็นไปไม่ได้เลยที่จะสามารถนำหนังในลักษณะดังกล่าวมานี้ไปฉายตามโรงภาพยนตร์เพราะเป็นที่รับรู้กันในหมู่นักดูหนังแนวใต้ดินว่า หนังประเภทนี้มีดีกรีความดิบ-เถื่อนที่ไม่ธรรมดา  นอกจากหนังในตระกูล August Underground จะถูกจัดเป็นหนังแนว Gore Indy-Underground แล้ว หนังในตระกูลนี้ยังมีลักษณะการถ่ายทำในแบบฉบับของ Snuff Film อีกด้วย แต่เป็นในแบบ Fake Snuff film (สนัฟฟ์ฟิลม์แบบเทียม)ซึ่งมีความสมจริงมากในบทการแสดง ผู้กำกับถ่ายทำหนังได้ค่อนข้างแนบเนียนมากจนหากใครไม่รู้มาดูเข้าอาจเข้าใจผิดว่าสิ่งที่กำลังได้รับชมอยู่เป็น Real Snuff Film (สนัฟฟ์ฟิลม์แบบแท้)ก็เป็นได้ August Underground's Mordum/2003 (สิงหาคลั่ง) กำกับและเขียนบทหนังโดย Jerami Cruise,  Fred Vogel และทีมงาน เรื่องราวเกี่ยวกับการดำเนินชีวิตประจำวันของ 2 หนุ่มและ 1 สาวสติแตก(แบบสุดๆ)ซึ่งถูกบันทึกด้วยกล้องวีดีโอที่ทั้งสามช่วยกันถ่ายทำขึ้นเป็นไดอารี่ประจำวัน ในบ้านหลังหนึ่งที่ห่างไกลผู้คน กับการทำร้ายตนเองของหญิงสาวด้วยการเอาใบมีดเก่าๆคมๆมาเฉือนหน้าท้องจนเลือดทะลักอย่างมีความสุข ซากศพภาพในบ้านที่ต่างส่งกลิ่นเหม็นคละคลุ้ง เหยื่อหลายรายที่ถูกพันธนาการด้วยโซ่ตรวนและหน้ากาก การสังหารที่นองเลือดอย่างน่าเสียวไส้และแสนวิปริต คู่รักเลสเบี้ยนที่ถูกลักพาตัวมาสนองตัญหาของคนในบ้านหลังน้อย ด้วยกาบังคับให้กินบางสิ่งบางอย่าง ซึ่งตรงนี้เองคือฉากในตำนานกล่าวขานของหนังเรื่องนี้ "สาวสติแตกใช้มือล้วงเข้าไปในลำคอตนเองและลำคอของเหยื่อ ทั้งสามจึงอาเจียนออกมาและถูกบังคับให้กินอ้วกกันทั้งสามนางอย่างสนุกสนาน ก่อนนำตัวเหยื่อที่หมดสติไปแขวนและเชือดที่ลำคอเพื่อนำเลือดที่ไหลรินนั้นมาอาบให้แดงฉาน และฯลฯ"



อันดับ 2. A Serbian Film / 2010  (คะแนน 99.5 / 100 คะแนน)
A Serbian Film / 2010 (ฟิล์มวิปลาส) เรื่องราวต้องห้าม-หาชมยาก  หนังสัญชาติเซอร์เบีย ผลงานการกำกับของ Srdjan Spasojevic เขียนบทหนังโดย Aleksandar Radivojevic และ Srdjan Spasojevic หนังนำเสนอเรื่องราวการดำรงชีวิตของชายชื่อ Milos อดีตดาราหนังเรต x ซึ่งกำลังประสบกับปัญหาทางด้านการเงินอย่างรุนแรง กับการชักชวนของกลุ่มคนลึกลับให้มาเล่นหนังอาร์ตเพื่อเงินก้อนโต โดย Milos หารู้ไม่ว่าหนังเรื่องที่รับเล่นคือ Snuff Film สุดอันตราย  กระชากจิตทางด้านมืดแบบสุดกู่ เสื่อม จิตตก อันตราย ปลุกสัญชาตญาณดิบในตัวให้ลุกโชติช่วง  A Serbian Film (ฟิล์มวิปลาส) เป็นหนังสุดรุนแรงแห่งปี 2010 อย่างแท้จริง หนังแรงจนถูกสั่งแบนมาแล้วในหลายประเทศทั่วโลก  เป็นหนังที่ถ้าคุณสามารถรับชมมันจนจบได้....." คุณจะต้องจำไปจนวันตาย "  ( ณ ห้วงความคิดของผู้เขียน)  โดยเฉพาะฉากข่มขืนเด็กทารกแรกเกิดอย่างสุดวิตถาร ในหนังเรื่อง A Serbian Film (2010) เป็นฉากที่ Milos ตัวเอกในเรื่องเดินทางเพื่อเข้าไปเจรจาเกี่ยวกับการแสดงหนังใต้ดินเรื่องหนึ่งที่บ้านบิ๊กบอสผู้กำกับ ผู้กำกับจึงชวน Milos ดูหนังในแนวทางที่จะสร้าง เป็นฉากที่เคยถ่ายมาก่อนแล้ว ทั้ง 2 กำลังนั่งดูฉากๆหนึ่งที่กล่าวขานกันว่าเป็น "ฉากแห่งตำนาน" กล่าวคือ ชายร่างใหญ่ หัวล้าน กำลังทำคลอดให้หญิงสาวท้องแก่รายหนึ่ง  พอเอาตัวเอกทารกเพศหญิงออกมาจากครรภ์มารดาได้  ชายสติแตก (คนดังกล่าว) ก็จัดการสำเร็จโทษทารกน้อยอย่างสุดวิปริตท่างกลางเสียงเชียร์ของผู้เป็นมารดาอย่างบ้าคลั่ง  A Serbian Film (2010) หนังสัญชาติเซอร์เบีย  เกี่ยวกับคนชื่อ Milos ซึ่งกำลังประสบกับปัญหาทางด้านการเงินอย่างรุนแรง กับการชักชวนของกลุ่มคนลึกลับให้มาเล่นหนังอาร์ตเพื่อเงินก้อนโต โดย Milos หารู้ไม่ว่าหนังเรื่องที่รับเล่นคือ Snuff Film สุดอันตราย  กระชากจิตทางด้านมืดแบบสุดกู่ เสื่อม จิตตก อันตราย ปลุกสัญชาตญาณดิบในตัวให้ลุกโชตช่วง (หนังอันตราย : ไม่เหมาะสำหรับคนจิตอ่อนหรือเชื่อมั่นยึดมั่นทางศีลธรรมอย่างแรงกล้า)  *****หมายเหตุ***** A Serbian Film / 2010 (ฟิล์มวิปลาส) / Srdjan Spasojevic / หนังอันตราย : ไม่เหมาะสำหรับคนจิตอ่อนหรือเชื่อมั่นยึดมั่นทางศีลธรรม



อันดับ 1. Slow Torture Puke Chamber / 2010 (คะแนน 99.98 / 100 คะแนน)
นิยามสั้นๆ  :  โคตรหนังสยองขวัญจิตตกมหาประลัยสำหรับคนคอแข็ง !!  หลายคนเห็นแค่ภาพเจ้าตั๊กแตนน้อยแสนสวย วาดและระบายอย่างหยาบๆด้วยสีเทียน(หรือสีเทียนน้ำมัน)อาจนึกขบขัน-ตลก  และคิดว่าโปสเตอร์หนังที่วางอยู่ตรงเบื้องหน้า  ได้รับการแยกประเภทจากเว็บไซต์ IMDB ให้อยู่ในหมวดหมู่สยองขวัญ-น่ากลัว  อาจเป็นเพียงหนังสยองขวัญแบบอ่อนๆ หรืออาจเป็นหนังสยองแบบผสมตลกร้ายกิ๊กก๊อก  ขอย้ำ !!  ท่านกำลังคิดผิดอย่างมหันต์  เพราะเจ้าตั๊กแตนน้อยบนปก Slow Torture Puke Chamber / 2010  คือหนึ่งในหนังสยองขวัญสายวิปริต-จิตตก-อันตราย...ตัวจริงเสียงจริง !!  Slow Torture Puke Chamber ปี 2010  ทุ่มทุนสร้างโดย Kingdom Of Hell Productions นักแสดงตัวหลักได้แก่ Ameara Lavey เเละ Hope Likens ผลงานการกำกับของ Lucifer Valentine เจ้าพ่อหนังสยอง-จิตตก-วิปริตตัวจริงเสียงจริงอีกคนในวงการหนังใต้ดิน  Slow Torture Puke Chamber นำเสนอเรื่องราวของกลุ่มหนุ่มสาวรักสนุก ณ สถานที่ปิดตาย / ลึกลับแห่งหนึ่ง  ช่วงแรกๆของหนังจะเกี่ยวกับหญิงสาวผู้นิยมโชว์เรือนร่างอันเปล่าเปลือย(ภาพที่แสดงออกในช่วงแรกเข้าเรต X ได้เลย) ต่อมาหญิงสาวคนดังกล่าวเริ่มกระทำการนรกแตกต่างๆนาๆ  เริ่มจากการถูกสำเร็จโทษด้วยการตบหน้าอย่างแรกหลายครั้ง  ซึ่งเธอดูเหมือนจะชอบเอาเสียด้วย(S&M / Sadism-Masochism) จากนั้นสาวเจ้าเริ่มกระทำการดื่มบางสิ่งบ้างอย่างลงไป  และเริ่มล้วงคอเพื่อให้อาเจียนอย่างรุ่นแรง(กล้องถ่ายซูมซะชัดมาก...) ช่วงต่อมา  หญิงสาวอีกคนเริ่มนำแก้วเหล้าขนาดเล็ก เรียงกันเป็นแถวอย่างสวยงาม  เธอเริ่มล้วงคอ  เพื่อให้เลือดและบางสิ่งบางอย่างภายในหลั่งไหลออกมา  และเธอก็ดื่มสิ่งที่ปรากฏในภาชนะอันสวยงามตรงหน้าอย่างเบิกบาน  ทำซ้ำไปซ้ำมาอยู่อย่างนั้น  ประหนึ่งมันคือความสุขอันแสนหวานหอม

Slow Torture Puke Chamber ยังคงกล้าเป็นอย่างยิ่งที่จะเล่นกับประเด็นอันอ่อนไหว-ประเด็นทางศาสนา   หนังใส่ภาพและอากัปกิริยาของตัวละครสาวกับการหมิ่นเหม่ต่อศาสนาบางศาสนาอย่างไม่ไว้หน้า มีการนำสิ่งเคารพบูชาของศาสนานั้นมากระทำการสำเร็จโทษตนเองอย่างหฤหรรษ์  ยิ่งช่วงท้ายๆเรื่องมีฉากผ่าท้องผู้หญิงคนหนึ่งเพื่อนำเด็กทารกมากระทำการแยกชิ้นส่วน และปรุงเป็นเครื่องดื่มบางชนิดอย่างสุดสยดสยอง หนังยังคงตัดสลับภาพไปมาระหว่างเจ้าตั๊กแตนสวยงามที่กำลังกัดแทะอาหารของมัน-การปฏิสนธิของสัตว์บางชนิด และพฤติกรรมนรกแตกของตัวละครในหนัง  จนจบ....   จากที่ประมวลมาจึงไม่แปลกใจเลยที่ Slow Torture Puke Chamber / 2010 จะได้เรต "หนังต้องห้าม" ตลอด 76.21 นาทีในหนังเรื่องนี้จะนำพาท่านผู้ชมไปสู่วังวนแห่งความวิบัติอย่างแท้จริง  หนังยกความสยดสยอง-อ้วกแตก  นรกอันสะพรึงขุมที่อันตรายที่สุดมาไว้ตรงเบื้องหน้า  และมีน้อยคนนัก....ที่สามารถทนดูหนังเรื่องนี้ได้จนจบ !!

(****** หมายเหตุ ******  กว่าข้าพเจ้าและสมาชิกชมรมคนรักหนังสยองขวัญ / สงขลา  จะ(ทน)ดูหนังเรื่อง Slow Torture Puke Chamber จนจบ  หลายคนวิ่งไปอ้วกแตกจนเหนื่อย  หลายคนต้องพักการดูถึง 4 ครั้งกว่าจะทนดูจนจบ  บางคนดูไปเอามือปิดหน้าไป  บางคนดูจบแล้วนั่งเอาหัวโขกกำแพง  บางคนดูจบ...นั่งเครียด / ซึมไปหลายวัน  ใครใจไม่ถึง / คอไม่แข็ง.....งดรับชม Slow Torture Puke Chamber / 2010 โดยเด็ดขาดนะ (เราเตือนท่านแล้วนะ !! )

****** บทความโดย  :  samara17520 / วันพุธที่ 23 มกราคม พ.ศ. 2556 / หาดใหญ่ สงขลา ******

****** เปิดกรุหนังต้องห้าม (Prohibited Films) ******
http://www.siamsouth.com/smf/index.php?topic=19768.0

ส.อ่านหลังสือ

****** บทความพิเศษ : เปิดกรุหนังต้องห้าม (Prohibited Films) *******
http://www.siamsouth.com/smf/index.php?topic=19768.0

เว็บบอร์ดส่วนตัว  :  ห้องคุยกับคุณาพร
http://www.siamsouth.com/smf/index.php?board=11.0

คุณาพร.


****** บทความพิเศษ : เปิดกรุหนังต้องห้าม (Prohibited Films) *******
http://www.siamsouth.com/smf/index.php?topic=19768.0

เว็บบอร์ดส่วนตัว  :  ห้องคุยกับคุณาพร
http://www.siamsouth.com/smf/index.php?board=11.0