กลั้นฉี่มีผลร้ายกว่าที่คิด!!!

[ทีมงานประชาสัมพันธ์]

updated: 25 ม.ค. 2556 เวลา 15:18:22 น.
โดย พญ.พิณนภางค์ ศรีพหล ที่มา ประชาชาติธุรกิจออนไลน์

เคยรึเปล่าคะเวลานั่งรถนาน ๆ รถก็ติด จนรู้สึกปวดปัสสาวะ อยากจะเก็บดอกไม้ แต่ไม่รู้จะแวะที่ไหน เห็นปั๊มน้ำมัน (ที่ไม่ได้รางวัลส้วมดีเด่น) ก็ไม่อยากจะเข้าขอเก็บปัสสาวะไปปล่อยที่บ้านดีกว่า ถ้ากลั้นบ่อย ๆ เข้า อาจเกิดภาวะติดเชื้อในระบบทางเดินปัสสาวะได้

ระบบทางดินปัสสาวะที่ว่า มีอวัยวะใดบ้าง

เริ่มจาก "ไต" ผลิตปัสสาวะ ส่งผ่าน "ท่อไต" ลงมา เก็บไว้ที่ "กระเพาะปัสสาวะ" จนน้ำในกระเพาะปัสสาวะเยอะถึงระดับหนึ่ง ร่างกายก็จะบอกให้เรารู้สึกปวดปัสสาวะขึ้นมาแล้วปัสสาวะก็จะเดินทางจากกระเพาะปัสสาวะ ผ่าน "ท่อปัสสาวะ" สู่โลกภายนอก

เชื้อโรคมาจากไหน

เนื่องจากท่อปัสสาวะอยู่ใกล้กับช่องคลอดและรูทวาร (อยู่เรียงกันจากหน้ามาหลัง) เชื้อโรคบริเวณดังกล่าวก็สามารถเดินทางมาท่อปัสสาวะได้ง่ายซึ่งเปรียบเหมือนประตูด่านแรกเข้าสู่ระบบทางเดินปัสสาวะ โดยเฉพาะผู้หญิงที่ท่อทางเดินปัสสาวะสั้นกว่าผู้ชาย

การที่เชื้อโรคจะเดินทางเข้าสู่กระเพาะปัสสาวะจึงง่ายกว่า เกิดเป็น "กระเพาะปัสสาวะอักเสบ"

ถ้าเชื้อโรคไม่หยุดที่ด่านที่สอง เชื้อโรคก็จะเดินทางผ่านท่อไต จนถึงด่านสุดท้ายได้แก่ "ไต" ซึ่งทำให้เกิดภาวะกรวยไตอักเสบได้

ติดเชื้อในระบบทางเดินปัสสาวะมีอาการอย่างไรบ้าง จะมีอาการเหมือนกลั้นปัสสาวะไม่อยู่ เวลาปัสสาวะแต่ละทีจะรู้สึกแสบร้อน เจ็บที่ปลายท่อปัสสาวะ รู้สึกแสบขัด

ปัสสาวะบ่อย แป๊บ ๆ ก็ปวดอีกแล้ว มีอาการปวดท้องน้อย บางคนปวดหลัง บริเวณบั้นเอวบางรายอาจสังเกตเห็นปัสสาวะขุ่น มีกลิ่นเหม็น (ผิดปกติ) หรือมีเลือดปน อาการดังกล่าวควรรีบพบแพทย์ เพื่อตรวจรักษานะคะ

ป้องกันอย่างไรดี

ถ้ารู้สึกปวดปัสสาวะก็ให้ไปปัสสาวะ อย่ากลั้นปัสสาวะบ่อย ๆ ดื่มน้ำให้พอเพียง อย่างน้อยวันละ 8 แก้ว หรือ 2 ลิตรหลังจากปัสสาวะหรืออุจจาระให้ทำความสะอาดโดยการเช็ดจากด้านหน้ามาด้านหลัง (การเช็ดจากหลังมาหน้า จะพาเชื้อโรคจากรูทวารมาหาท่อปัสสาวะได้ง่ายขึ้น)

ไม่ควรสวนล้างช่องคลอด หรือใช้แป้งใช้น้ำหอมในบริเวณอวัยวะสืบพันธุ์ปัสสาวะก่อนและหลังการมีเพศสัมพันธ์