เตือนเกษตรกรสูบน้ำเค็มเข้าพื้นที่ทำการเกษตร อาจทำให้ดินเค็ม เร่งขอฝนหลวงช่วย

[ทีมงานประชาสัมพันธ์]

เตือนเกษตรกรและชาวนาสูบน้ำเค็มเข้าพื้นที่ทำการเกษตร และทำนา  อาจทำให้ดินเค็ม ผลผลิตต่ำ  เร่งขอฝนหลวงช่วยด่วน

วันนี้ (1 ก.พ.56) ที่ห้องประชุมผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ศาลากลางจังหวัดสงขลา นายกฤษฎา  บุญราช  ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา  ได้เรียกประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น หน่วยงานด้านชลประทาน ด้านการเกษตร ด้านการพัฒนาที่ดิน และหน่วยงานอื่น ๆ เข้าประชุมปรึกษาหารือ ในการช่วยเหลือชาวนา และเกษตรกร ที่ประสบภัยแล้งและถูกน้ำเค็มรุกล้ำบริเวณคาบสมุทรสทิงพระ ประกอบด้วย อำเภอระโนด  กระแสสินธุ์ สทิงพระ และอำเภอสิงหนคร ซึ่งจากการเก็บข้อมูลน้ำที่มีน้ำเค็มเข้าปะปน พบว่า ขณะนี้น้ำทำในทะเลสาบสงขลาบริเวณอำเภอระโนด มีค่าความเค็มสูงถึง 2 กรัมต่อลิตร ซึ่งสูงกว่ามาตรฐานจะส่งผลต่อความเสียหายของผลผลิต และมีแนวโน้มที่จะสูงขึ้นไปอีก  ซึ่งระดับค่าความเค็มค่าปกติที่สามารถใช้ทำการเกษตร และไม่เสียหายต่อผลผลิตหรือสภาพดินจะต้องมีค่าความเค็มไม่เกิน 1.5 กรัมต่อลิตรเท่านั้น

            ดังนั้นทางจังหวัดสงขลาจึงขอเตือนพี่น้องเกษตรกรที่ประสบภัยแล้งในพื้นที่คาบสมุทรสทิงพระ ได้ระมัดระวังการนำน้ำที่มีน้ำทะเลเจือปน และมีค่าความเค็มเกิน 1.5 กรัม/ลิตร มาใช้ด้านการเกษตรและทำนาเพราะจะทำให้ผลผลิตเสียหายและทำให้ดินเค็มซึ่งต้องใช้เวลาการแก้ปัญหาดินเค็มระยะยาวกว่าสภาพดินจะกลับมาปกติเช่นเดิม

            อย่างไรก็ตามขณะนี้ทางจังหวัดสงขลาได้ประสานกับศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงภาคใต้ เข้ามาสำรวจสภาพอากาศเพื่อจัดทำฝนหลวง ช่วยเหลือเกษตรกรและชาวนาในจังหวัดสงขลาแล้ว คาดว่าหากไม่มีอุปสรรคใด ๆ จะสามารถทำฝนหลวงได้ภายใน 7 – 10 วันข้างหน้า ....

ข้อมูลและที่มา จันจิรา  บัวน้อย//ภาพ ดำรง  เศวตพรหม// ข่าว1 ก.พ.56 สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดสงขลา