ข่าว:

ทดลองใช้งานบอร์ดตะลุง ที่อยู่ในขั้นตอนการกู้คืนข้อมูล เบื้องต้นมีแต่กระทู้ (ข้อความ) กำลังกู้รูปภาพ ไฟล์แนบต่าง ๆ คาดว่าจะทยอยสมบูรณ์ภายในไม่ช้า

Main Menu

ใครนิ..โร้จักม่าย?

เริ่มโดย Singoraman, 12:33 น. 06 ก.พ 56

Singoraman

โร้จักม่ายนิว่าใคร?

ไก่ฟักด้าม

ถ้าจำไม่ผิด  เกี่ยวกับตำนานเก้าเส้ง  หรือนายแรง  ใช้หรือเปล่าครับ

ส.อ่านหลังสือ ส.อ่านหลังสือ ส.อ่านหลังสือ

แฟนเก่าชื่อส้ม

ก่อนตายคุณอยากอยู่กับใครเป็นคนสุดท้าย

Singoraman

ไม่ใช่ให้แลไข?
"นายแรง" นิ  โร้จักม่าย

นายไข่นุ้ย

DO YOU KNOW ME? I AM A CAT 28 YEARS. AND YOU?    แมวแท้สู (แมวยิ้ม)

ซัมเบ้ Note 7 Jr.

เคยได้ยินเรื่องเล่ากันมาเกี่ยวกับ"หัวนายแรงและเก้าเส้ง"   แต่รูปที่เห็นผมไม่แน่ใจครับ
ขอเป็นข้ารองพระบาททุกชาติไป

บอกกันติ

นายแรง แล้วแรงไอไหร แรงเย่อ แรงโยก แรงยัด แรงแยง หรือว่าแรงดัน   ส.ดุดุขำขำ

หนุ่มนครนอก

อ้างจาก: บอกกันติ เมื่อ 19:18 น.  06 ก.พ 56
นายแรง แล้วแรงไอไหร แรงเย่อ แรงโยก แรงยัด แรงแยง หรือว่าแรงดัน   ส.ดุดุขำขำ

พี่หลวงเค้างงหรือผมงงกันแน่เนี่ย
เธอจงระวังความคิดของเธอ
เพราะความคิดของเธอจะกลายเป็นความประพฤติของเธอ
เธอจงระวังความประพฤติของเธอ
เพราะความประพฤติของเธอจะกลายเป็นความเคยชินของเธอ
เธอจงระวังความเคยชินของเธอ
เพราะความเคยชินของเธอจะกลายเป็นอุปนิสัยของเธอ
เธอจงระวังอุปนิสัยของเธอ
เพราะอุปนิสัยของเธอจะกำหนดชะตากรรมของเธอชั่วชี

PSN

รูปข้างบนนั้นไม่ทราบจริงๆครับ รอคำเฉลยอยู่ด้วยครับ
แต่พูดถึงเรื่องนายแรงผมไปหาข้อมูลดู ก็ได้เจอเรื่องราวนิทาน ภูมิปัญญาชาวบ้าน เลยเอามาแบ่งกันอ่านครับ
นายแรง : นิทาน

      นายแรง เป็นนิทานประเภทอธิบายสถานที่ที่ปรากฏอยู่ในจังหวัดพัทลุง จังหวัดสงขลา โดยเฉพาะภูเขาต่าง ๆ เช่น เขารุน เขาหัวหมา เขาแดง เขาเก้าแสนหรือเขาเก้าเส้ง เป็นต้น มีเรื่องเล่าว่า
       
    กาลครั้งหนึ่งในเมืองพัทลุง มีสามีภรรยาคู่หนึ่งอยู่ด้วยกันมาเป็นเวลาช้านาน แต่ยังไม่มีลูก ทั้งสองพยายามบนบานสิ่งศักดิ์สิทธิ์เพื่อให้มีลูก แต่ทำอย่างไรก็ไม่สามารถมีลูกได้ จึงพากันไปหาท่านสมภารที่วัด ท่านสมภารจึงแนะนำให้ไปไปหยิบก้อนกรวดที่ริมบ่อน้ำมาก้อนหนึ่ง ให้นำไปห่อผ้าขาวไว้ใต้หมอนแล้วตั้งจิตอธิษฐานขอลูก ไม่ช้าภรรยาก็ตั้งครรภ์ กินอาหารได้มากผิดปกติ ยิ่งท้องแก่ยิ่งต้องเพิ่มอาหารมากขึ้น เมื่อคลอดทารกเป็นผู้ชายชาวบ้านแตกตื่นกันมาดู เพราะทารกโตเกือบเท่าเด็ก 1 ขวบ กินนมแม่อยู่ตลอดเวลา เด็กคนนี้โตวันโตคืนกินอาหารจุ น้ำนมของแม่ไม่พอเลี้ยงต้องต้มข้าวให้กินมื้อละ 1 กระทะ กินกล้วยครั้งละ 10 หวี ในที่สุดพ่อแม่ต้องยากจนลง จึงคิดที่จะฆ่าลูกชายเพราะไม่สามารถจะเลี้ยงต่อไปได้

    เช้าวันหนึ่งพ่อจึงชวนลูกชายไปตัดฟืนในป่า พ่อลงมือโค่นต้นยางขนาดใหญ่ พอต้นยางใกล้จะล้มก็เรียกลูกให้เข้ามารับ จึงถูกต้นยางล้มทับจมลงในดิน พ่อคิดว่าลูกคงตายแล้วจึงกลับบ้าน ตกตอนเย็นลูกชายกลับแบกต้นยางกลับมาวางไว้ที่หน้าบ้าน ชาวบ้านแตกตื่นกันมาดู ต่างเรียกชื่อเด็กชายคนนี้ว่า "นายแรง" ครั้งหนึ่งมีเรือสำเภาเข้ามาขาย พ่อแม่คิดจะฆ่านายแรงอีกจึงได้ฝากนายแรงไปกับเรือสินค้า เรือแล่นออกสู่ทะเลเป็นเวลาหลายวัน อาหารที่มีอยู่ไม่พอกิน พ่อค้าจึงหลอกให้นายแรงลงจับปลาโลมาแล้วแล่นเรือหนีไป แต่นายแรงยังโชคดีได้พบเรือที่จมอยู่ใต้ท้องน้ำ จึงกู้เรือนั้นขึ้นแล้วนั่งเรือกลับบ้าน พ่อแม่ของนายแรงเกิดสำนึกผิดที่คิดจะฆ่าลูก ก็เลยเต็มใจเลี้ยงลูกถึงจะประสบกับความยากจน นายแรงสงสารพ่อแม่ที่ตนเองเป็นต้นเหตุให้พ่อแม่ยากจน จึงรับอาสาทำงานทุกอย่างไม่ว่าชาวบ้านจะขอความช่วยเหลือในเรื่องอะไร เพื่อแลกกับอาหารมาเลี้ยงพ่อแม่

    วันหนึ่งนายแรงจับโจรที่เข้ามาปล้นวัวควายในหมู่บ้านได้ถึง 4 คน ทำให้โจรกลุ่มอื่น ๆ หวาดกลัวไม่กล้าเข้ามาปล้นในหมู่บ้านนี้อีก นายแรงจึงเป็นที่รักของชาวบ้านทั่วไป ได้นำวัวควายมาให้นายแรงนำไปเลี้ยง นายแรงนำวัวไปเลี้ยงไว้ที่เชิงเขาลูกหนึ่ง ปัจจุบันเรียกว่า "เขาหลักโค" (อำเภอกงหรา จังหวัดพัทลุง) ได้นำไปไปเลี้ยงไว้ที่เขาลูกหนึ่ง เรียกว่า "เขาหลักไก่" (อำเภอกงหรา จังหวัดพัทลุง) นำควายไปเลี้ยงไว้ที่เกาะใหญ่ เรียกสถานที่นั้นว่า "คอกควายนายแรง" (ตำบลนาโหนด อำเภอเมืองพัทลุง) หมู่บ้านที่นายแรงอยู่มักมีช้างป่าออกมาอาละวาดทำลายเรือกสวนไร่นาชาวบ้าน มีจ่าโขลงตัวหนึ่งมีความดุร้ายมาก ออกมาถอนต้นไม้ พังบ้านเรือนราษฎรอยู่เสมอ นายแรงรับอาสาจับช้างตัวนั้นแล้วโยนไปตกที่จังหวัดสงขลา กลายเป็นเขาลูกหนึ่ง เรียกว่า "เขาลูกช้าง" (ปัจจุบันเรียกเขารูปช้าง)

    เมื่อพ่อแม่นายแรงเสียชีวิตแล้ว นายแรงได้ย้ายไปอยู่ที่ "เขาหลักโค" (ตำบลนาโหนด อำเภอเมืองพัทลุง) นายแรงเป็นคนที่ชอบกินเนื้อแลน (ตะกวด) วันหนึ่ง ๆ กินไม่ต่ำกว่า 10 ตัว วันหนึ่งนายแรงไปหาแลนที่ตะแพนเขาปู่-เขาย่า ได้พบแลนยักษ์ตัวหนึ่ง นายแลนจึงขว้างด้วยมีดอีโต้ เรียกที่นั้นว่า "ทุ่งอ้ายโต้" แลนแล่นผ่านบ้านลานแยะ บ้านพังดาน บ้านปากเลน เขาโต๊ะบุญ บ้านพังโย ทางที่แลนวิ่งผ่านกลายเป็นคลอง ชาวบ้านเรียกว่า "คลองห้วยแลน" แลนยักษ์แล่นลอดเข้าไปทางใต้เขาพนมวังก์ ไปซ่อนตัวอยู่ในโพรงหินทางด้านทิศตะวันตกของเขาเมือง นายแรงขุดด้วยจอบโดยมีหมาช่วยขุดคุ้ยหิน ชาวบ้านเรียกตรงนั้นว่า "หินรอยหมากัด" จนถึงเวลาเที่ยงวันนายแรงยังจับแลนยักษ์ตัวนั้นไม่ได้ จึงใช้ให้หมาไปเอาข้าวห่อที่บ้านเขาหลักโค ตนเองขุดต่อไปมีก้อนหินมหึมากีดขวางด้ามจอบ นายแรงจึงดันหินนั้นให้ออกห่างไปทางด้านทิศตะวันตก กลายเป็นเขาอีกลูกหนึ่ง ชาวบ้านเรียกว่า "เขารุน" ส่วนหินที่เกิดจากการขุดคุ้ย ชาวบ้านเรียกว่า "ขี้จอบนายแรง" เมื่อนายแรงจับแลนยักษ์ได้ก็ฟาดกับเขาอีกลูกหนึ่งเลือดแลนยักษ์ไหลอาบหน้าผาเป็นสีแดงฉาน จึงเรียกเขาลูกนั้นว่า "เขาแดง" (อำเภอเมืองพัทลุง) นายแรงนำมีดอีโต้ที่ชำแหละแลนไปล้างเลือดที่คลองแห่งหนึ่ง คลองนี้จึงเรียกว่า "คลองอ้ายโต้" นำหนังแลนไปตากที่กลางทุ่งนาทางทิศตะวันตกของเขาพนมวังก์ ที่นั้นจึงเรียกว่า "ทุ่งขึงหนัง" (อำเภอควนขนุน จังหวัดพัทลุง) ไปเอาตระไคร้ที่เขาอีกลูกหนึ่ง ชาวบ้านเรียกเขานี้ว่า "เขาไคร" (อำเภอกงหรา จังหวัดพัทลุง)

    นายแรงมักจะเดินทางไปเอาสิ่งของที่ตนต้องการในที่ไกล ๆ เพราะเขาไปมารวดเร็ว จึงไปตำน้ำพริกที่อำเภอปากพะยูน ที่ตรงนั้นจึงเรียกว่า "บางน้ำชุบ" นำเนื้อแลนไปจิ้มกินที่เขาอีกลูกหนึ่ง ชาวบ้านเรียกว่า "เขาจุ้มโจ้" นายแรงนำเนื้อแลนที่เหลือไปฝากหมาตัวเอง แต่พบว่าหมาขาดใจตายเสียแล้วที่คอยังมีข้าวห่อแขวนอยู่ ภายหลังกลายเป็นหิน ชาวบ้านเรียกว่า "เขาหัวหมา" (อำเภอเมืองพัทลุง) ต่อมานายแรงเป็นห่วงควายที่นำไปเลี้ยงไว้ที่เกาะใหญ่ จึงออกเดินทางไปเกาะใหญ่ได้หุงข้าวต้มไก่ที่แหลมแห่งหนึ่ง ต่อมาเรียกว่า "แหลมไก่ฟู่" (อำเภอปากพะยูน จังหวัดพัทลุง) ลมพัดจัดไม่สามารถหุงข้าวต้มไก่ได้ จึงเลื่อนไปหุงที่ริมเนิน เมื่อกินอาหารเสร็จแล้วก็ทิ้งหม้อข้าวหม้อแกงไว้ที่นั่น เรียกที่นั้นว่า "ควนตั้งหม้อ" (อำเภอปากพะยูน จังหวัดพัทลุง)

    ต่อมาเมืองขึ้นของไทยทางมลายูเกิดดแข็งเมือง นายแรงอาสาไปรบศึกครั้งนี้ด้วย นายแรงเป็นกองหน้าบุกตะลุยข้าศึกจนได้รับชัยชนะ นายทัพฝ่ายไทยเห็นว่านายแรงมีฝีมือยอดเยี่ยม จึงแต่งตั้งให้เป็นเจ้าเมือง ครั้งนั้นทางเมืองนครศรีธรรมราชกำหนดบรรจุพระบรมสาริกธาตุในเจดีย์ และจัดงานเฉลิมฉลองใหญ่โต บรรดา 12 หัวเมืองปักษ์ใต้ต่างก็นำเงินทองไปบรรจุในพระบรมธาตุ เมืองที่นายแรงเป็นเจ้าเมืองก็เป็นเมืองขึ้นนครศรีธรรมราชด้วย ประกอบกับนายแรงมีความศรัทธาในพุทธศาสนา จึงขนเงินทองเป็นจำนวนมากถึงเก้าแสนบรรทุกเรือสำเภา พร้อมด้วยไพร่พลออกเดินทางไปเมืองนครศรีธรรมราช ขณะกำลังเดินทางเรือสำเภาถูกคลื่นลมชำรุด จึงเข้าจอดเรือที่ชายฝั่งหาดทรายแห่งหนึ่งเพื่อซ่อมแซมเรือ พอได้ทราบข่าวว่าทางเมืองนครศรีธรรมราชได้บรรจุพระบรมสาริกธาตุเสร็จแล้ว นายแรงเสียใจมาก จึงให้ไพร่พลขนเงินทองบรรจุไว้บนยอดเขาลูกหนึ่ง สั่งให้ลูกเรือตัวหัวของตนไปวางไว้ที่ยอดเขา นายแรงกลั้นใจตาย ลูกเรือต้องจำใจตัดหัวเจ้านายไปวางไว้บนยอดเขาตามคำสั่ง เขาลูกนี้ภายหลังเรียกว่า "เขาเก้าแสน" เสียงเพี้ยนไปเป็น "เก้าเส้ง" ก้อนหินที่ปิดทับอยู่บนยอดเขาเรียกว่า "หัวนายแรง" ชาวบ้านเชื่อว่าดวงวิญญาณของนายแรงยังเป็นปู่โสมเฝ้าทรัพย์อยู่ที่เขาเก้าเส้ง (อำเภอเมืองสงขลา) มาจนทุกวันนี้

    แนวคิดของนิทานเรื่องนายแรงนั้น เป็นเรื่องที่บรรพบุรุษได้นำเอาลักษณะภูมิประเทศมาผูกแต่งเป็นเรื่องราว เพื่อให้ลูกหลานได้เรียนรู้อันจะก่อให้เกิดความรัก ความภูมิใจในท้องถิ่นของตน เน้นความเสียสละรู้จักการช่วยเหลือบุคคลอื่นที่อ่อนแอกว่า ดังเช่นนายแรงปลูกฝังความรักชาติแผ่นดิน มีความกล้าหาญ ทั้งให้ยึดมั่นและศรัทธาในพระพุทธศาสนาเยี่ยงบรรพบุรุษอย่างมั่นคงสืบไป

(พิทยา บุษรารักษ์)
อ้างอิงจาก phatlung.com ครับ

กิมหยง

ไม่มีนายขุ้ย นางหอม เข้ามาเกี่ยวข้องบ้างเหรอครับ
สร้าง & ฟื้นฟู

Singoraman

เรื่องของ "นายแรง" เป็นไปตามที่ tay_tay นำข้อเขียนของ "อ.พิทยา บุษรารัตน์" (อดีต ผอ.สถาบันทักษิณคดีศึกษา) มาเสนอไว้ ทุกประการ
ส่วนภาพเขียนนี้ "ครูกระจ่าง จันทร์สังข์" ศิลปินฝีมือฝีมืดชั้นครูของแผ่นดินนี้ เขียนไว้ประมาณ ปี พ.ศ. ๒๕๑๙ ที่ฝาผนังอาคารศูนย์ส่งเสริมภาษาและวัฒนธรรมภาคใต้ (ภายใน ม.ทักษิณ) โดยใช้เค้าเรื่องนิทานปรัมปรา "นายแรง" ที่เล่ากันทั่วลุ่มทะเลสาบสงขลา
ขอบคุณทุกท่านที่ช่วยกันขยายความ
ขอบคุณครับ

Ning Zaa

มีตำนานอื่นอีกมั้ย อยากรู้ สนุกดี

Singoraman

เชื่อว่ามีนะครับ แต่ละที่แต่ละถิ่นจะมีอนุภาคที่แตกต่างกัน ใครมีก็แบ่งกันรู้มั่งนะครับ
ขอบคุณครับ

puiey

ขอบคุณตำนานเรื่องนายแรง ชอบมากครับ
โกธรกับแฟน ขึ้นสเตตัส "โสด" ถ้าวันนึง แม่มึงโกธร มึงไม่ขึ้นสเตตัส "กำพร้า" เลยเหรอ

sirichot

ขอบคุณครับสำหรับความรู้ใหม่