ข่าว:

ทดลองใช้งานบอร์ดตะลุง ที่อยู่ในขั้นตอนการกู้คืนข้อมูล เบื้องต้นมีแต่กระทู้ (ข้อความ) กำลังกู้รูปภาพ ไฟล์แนบต่าง ๆ คาดว่าจะทยอยสมบูรณ์ภายในไม่ช้า

Main Menu

วิเคราะห์ข่าว 3G ทำไมคนไทยงง? อยากรู้ความจริงเชิญอ่าน

เริ่มโดย siwawut00, 21:29 น. 17 ก.พ 56

siwawut00

วิเคราะห์ข่าว 3G ทำไมคนไทยงง? อยากรู้ความจริงเชิญอ่าน

ลองอ่านให้จบดูเถิดพี่น้องชาวไทย เชื่อเถิดบทความนี้จะดังระดับชาติ คงจะเดือนนี้ทั้งเดือนข่าวเรื่องการประมูลคลื่นความถี่ 2.1 GHz หรือที่เรียกกันมั่วทั่วไปว่า 3G ซึ่งตกเป็นข่าวใหญ่กลบเรื่องเหลวไหลน่าเบื่อทางการเมืองจนหมดสิ้น นับตั้งแต่ลุ้นว่าจะได้เปิดประมูลหรือไม่ไปจนถึงจบสิ้นการประมูลและรับรองผลไปแล้วยังมีข่าวขึ้นทุกสื่อ หนังสือพิมพ์ทุกเล่ม โทรทัศน์ทุกช่อง แต่ว่า...ล้วนแล้วไม่มีสาระอะไรให้ประชาชนได้ฉลาดขึ้นเลย ไม่มีข้อเท็จจริงอันใดให้เป็นประโชน์กับสารธารณเลย มีแต่การเล่นเกมการเมืองเรียกร้องผลประโยชน์ โดยลวงใช้ประชาชนตาใสๆ เป็นคนร้องเย้ๆ ตามสื่อต่างๆ ไปวันๆ โต๊ะที่ปรึกษาข่าวโทรคมดอตคอมจึงจำเป็นต้องเบรนสตอร์มพร้อมจิบไวน์ ทำภารกิจเพื่อชาติเปิดคอลัมน์ชวนวิเคราะห์ข่าว 3G กันอย่างเป็นกลางดังต่อไปนี้

1.    3G แท้ 3G เทียมคืออะไร
         พ่อง งง  เป็น  Wording ที่เกิดมาราวสามปี กับคำว่า  "3G แท้  3G เทียมคืออะไร" ที่ปรึกษาอาวุโสท่านหนึ่งของทีมข่าวเราได้เท้าความว่า กาลครั้งหนึ่งซึ่งมี กทช. (คณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ) ได้โยนหินถามทางลงไปในวงการโทรคมนาคมถึงแนวทางการบริหารทรัพยากรคลื่นความถี่ของชาติให้เกิดประโยชน์สูงสุดนั้น 3G ควรพัฒนาบนความถี่เดิม (800 900 1800 MHz) เพราะมาตรฐาน 3G ในเทคโนโลยี WCDMA (หาเอกสารแจกฟรีอ่านได้ที่ www.umts-forum.org) จะใช้ย่านความถี่ไหนก็ได้ไม่ว่าจะเป็น 470 MHz 800 MHz 900 MHz หรือ 1800 MHz ย่านความถี่ไม่ได้ส่งผลต่อความเร็วในการรับส่งข้อมูลเลย ตัวมาตรฐานเทคโนโลยีต่างหากที่เป็นตัวกำหนดความเร็วในการรับส่งข้อมูล



ดูภาพประกอบ สมมติเอาอุปกรณ์ที่มีเทคโนโลยี 3G ไม่ว่าจะเป็น CDMA 2000 1x หรือ WCDMA ทั้งฟากส่งและฟากรับทำการทดลองโดยเชื่อมด้วยสายไฟหรือสายไฟเบอร์ก็แล้วแต่ ซึ่งมีแบนด์วิดท์พอสัก 15 MHz ลากสายไปยาวๆ มันจะคุยกันรู้เรื่องอย่างรวดเร็ว เจ้าสายนำสัญญาณนี่แหละเขาเรียกว่าตัวกลาง Medium ดังรูปที่ 1 เพียงแต่โทรศัพท์มันใช้คลื่นเป็นตัวกลางดังรูปที่ 2 เช่นกันถ้าแบนด์วิดท์ (Bandwidth) เพียงพอสัก 15 MHz หรือถนนกว้างพอที่จะให้รถหลายคันวิ่งไปพร้อมกันได้มันก็คุยกันรู้เรื่อง และมีความเร็วตามมาตรฐานกำหนด ย่านความถี่นั้นเปรียบได้แค่ชื่อถนนเท่านั้นเอง ในโลกของเทคโนโลยีวิศวกรรมโทรคมนาคมอุปกรณ์ต่างๆ เขาจะมีการกำหนดมาตรฐาน (Standard) กำหนดสเป็กการทำงานของอุปกรณ์และระบบ ทีมข่าวโทรคมดอตคอมมีวิศวกรอาวุโสยืนยันความถี่แต่ละย่านไม่ได้มีการระบุไว้เลยถึงความแตกต่างอะไรในมาตรฐานเทคโนโลยีทั้งสิ้น เพราะเรานำมาใช้ในระบบเซลลูล่าร์ (นึกภาพรวงผึ้ง) ที่ต้องซอยพื้นที่ครอบคลุมออกย่อยๆ เยอะๆ รัศมีไกลสุดไม่เกินสองกิโล และขึ้นกับพื้นที่นั้นมีจำนวนประชากรเยอะป่าว ถ้าเยอะก็ต้องมีสถานีเพิ่ม ดังนั้นกายภาพของคลื่นที่อ้างความแตกต่างแต่ละย่านในทางไกลๆนั้น ไม่มีผลกับระบบเซลลูล่าร์อย่างสิ้นเชิง
           คือเรื่อง 3G แท้  3G เทียมนี่คนไทยเราจะงงและมึนเพราะถูก  Information operation ไม่เชื่อเราลองพิสูจน์ด้วยการถามตัวเองดูสิว่า เราคิดว่ามี เรื่อง  3G แท้  3G เทียมหรือไม่? ถ้าตอบว่าเชื่อว่ามี แล้วใครกันที่เราเชื่อ? ชื่ออะไร เป็นใคร? ถ้าตอบไม่ได้ เราเคยถามตัวเองมั๊ยว่า ถึงเราค้นคว้าเองไม่เป็น เราพอจะมีพี่มีน้อง เพื่อนของพ่อ เพื่อนของพี่ที่เป็นผู้เชี่ยวชาญเทคโนโลยีจริงๆ ที่เรามั่นใจว่าเขาก็ไม่ตกเป็นเหยื่อการถูกปฏิบัติการทางข้อมูลข่าวสาร ถามเขาว่า เรื่อง 3G แท้ 3G เทียมมีจริงหรือป่าว?

           นับตั้งแต่ปี  2000 นู้นแน่ะ สหภาพโทรคมนาคมระหว่างประเทศหรือ  ITU ได้จัดทำมาตรฐานโทรศัพท์เคลื่อนที่ IMT-2000 หรือที่เราเรียกว่า 3G ซึ่งเป็นระบบโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่พัฒนาต่อจากระบบ GSM ที่เน้นแต่การสนทนา มาเป็นระบบที่รองรับการรับส่งข้อมูลความเร็วสูงด้วย แน่นอนในยุคนั้นคลื่นความถี่ถูกจับจองไปใช้กับความนิยมระบบโทรศัพท์เคลื่อนที่ตั้งแต่ระบบ NMT 470 MHz จนมา GSM ย่าน 800 MHz 900 MHz 1800 MHz 1900 MHz จนเหลือแค่ย่าน 2.1 GHz ที่ยังว่างอยู่ เพราะย่านความถี่ที่สูงกว่านี้ส่วนใหญ่ก็คือดาวเทียมแล้วละ

             มาตรฐาน IMT-2000 จึงกำหนดย่านความถี่แรกที่ 2.1 GHz เมื่อปี 2000 แต่ในโลกกว้างใหญ่ของเรานั้น ประเทศที่จัดสรรความถี่ 3G ย่าน 2.1 GHz ไปแล้ว ปรากฏว่าย่านความถี่ GSM เดิม 800 900 1800 ว่างสิ แล้วจะทำไงให้เกิดประโยชน์สูงสุดล่ะ? ประกอบกับประเทศที่ฉลาดๆ เขาเห็นว่า GSM เดิมในย่าน 800 900 1800 นั้น กว่าจะปักเสา ตั้งสถานีกันเป็นยี่สิบปีถึงจะมีโครงข่ายครอบคลุม อยากจะเปลี่ยนแค่ Core network ได้หรือไม่? แน่นอนบรรดาพ่อค้ารวมหัวกับวิศวกรก็บอกว่าสบายบรื๋อ ขอเพียงมีแบนด์วิดท์ที่กว้างพอ 15 MHz ก็วางโครงข่ายพัฒนา GSM เป็น 3G ได้ละ เท่านั้นแหละขายของกันสบึม เขาเรียกว่า In-band Migration ขายดิบขายดี แค่เปลี่ยนอุปกรณ์ Core network โครงข่าย 800 900 1800 เดิม เปลี่ยนการ์ดตู้ชุมสาย เซ็ต คอนฟิกซ์ ยิกๆ สิบนาทีเป็น 3G ละ ชีวิตฝรั่งก็ง่ายขึ้น

                แล้วประเทศสาระขันล่ะ? ย้อนไปสามหรือสี่ปีก่อนหรือกล่าวว่ายุค กทช. หลังจากท่านได้ศึกษาดูงานมานานมาก ท่านได้โยนหินถามทางดังตุ้บว่า "ทรัพยากรของชาติถูกจัดสรรไปแล้วยังใช้ไม่เต็มที่เลย จะจัดสรรความถี่ใหม่คงไม่ใช่หนทางที่ดีที่สุด ควรจะพัฒนาโครงข่ายเดิมเป็น 3G" เท่านั้นแหละ กลยุทธ์การใช้สื่อโจมตีอย่างที่นักการตลาดโทรคมถนัดก็สอยบรรดาท่านๆ จ๋อยไปเลย ซึ่ง กทช. เก่าล้วนเป็นข้าราชการหัวโบราณทั้งหมด แม้บางท่านมาจากกรมประชาสัมพันธ์ แต่กรม ปชส. นั้นบริหารคลื่นความถี่ Broadcast ไม่ได้บริหารภาพลักษณ์ เพราะภาพลักษณ์ ปชส. เองก็ไม่ได้ถูกบริหาร คนก็ไม่รู้ว่าทำงานสำคัญมากมาย กทช. เลยโดน Key message ตั้งแต่ถ่วงความเจริญ ทำชาติล้าหลัง ลาว กัมพูชาเขามี 3G แล้ว ว่าไปนู่น สถานี 3G ลาวมี 1 สถานีในยุคนั้นก็เอามาอ้างละ เพื่อนกอง บก. ชื่อไอ้ป๊อปถึงกับดีใจใหญ่ที่ได้ย้ายไปอยู่ลาวและได้บัตรประชาชนลาวเพราะเขาบอกว่าเจริญกว่าไทยเพราะทุกวันนี้มีเบส LTE ถึงยี่สิบไซต์แล้ว
             
          แน่นอนเมื่อวิเคราะห์ตามทฤษฎีของ อดัม สมิธ มนุษย์เป็นสัตว์เศรษฐกิจ มันจะทำอะไรที่มันได้ประโยชน์จากเศรษฐกิจ ถ้ามันเป็นภาคธุรกิจ ส่วนคนที่อยู่ในภาครัฐประโยชน์ของพวกเขาว่ากันว่า คือการทำงานเอาหน้าหรือทำเพื่อแผ่นดินถ้าพูดสวยๆ (ไม่รวมผลประโยชน์อื่น) ดังนั้นถ้าวิเคราะห์รัฐ กทช. ตอนนั้นจะไม่จัดสรรคลื่นใหม่เพื่อเอาหน้าและทำเพื่อแผ่นดิน ส่วนคนที่ปล่อย key message ทำชาติล้าหลัง ถ่วงความเจริญ วิเคราะห์ได้ว่าผู้เสียประโยชน์อาจเป็นผู้รับสัมปทานให้บริการมือถือนั่นเอง เพราะพวกเขาทำสัญญาสัมปทานแบบ BTO (Build-Transfer-Operate) คือ เอกชนที่รับสัมปทาน ต้องสร้างโครงข่ายให้ สร้างเสร็จแล้วส่งมอบให้ ทีโอทีหรือแคทก็ว่าไป แล้วยังต้องทำงานให้อีก โดนเมื่อมีรายได้จากลูกค้าก็ต้องแบ่งส่วนแบ่งรายได้ให้อีก สุดจะช้ำกว่านี้ไม่มีอีกแล้ว

            เพราะฉะนั้น  In-band migration จะต้องไม่มีอีกแล้ว ศรีจะไม่ทนอีกต่อไป ฉันจะไม่พัฒนาโครงข่ายให้เธอ เงินก็เงินฉัน ลงทุนสร้างเสร็จยังต้องส่งมอบของให้เป็นทรัพย์สินเธออีก  แล้วนี่ฉันยังต้องมานั่งทำงานให้เธอ หาเงินได้ต้องจ่ายเธออีกยี่สิบสามสิบเปอร์เซ็นต์ แล้วฉันจะลงทุนทำไปเพื่ออะไรฮ๊า? ฉันจะรอ รอวันที่มีความถี่เป็นของตัวเอง จะไม่ต้องเป็นทาสเธออีก  ดังนั้นคำคมที่ว่าจะต้องพัฒนาโครงข่ายที่มีอยู่เดิมให้เกิดประสิทธิภาพเต็มที่ก่อน ด้วยการพัฒนา 3G In-band migration กทช. จึงต้องเผชิญกับมรสุมกลยุทธ์การสร้างข่าวดิสเครดิตจนย่อยยับไปแล้วในอดีต ถ้าประชาชนทั่วไปอ่านมาถึงตรงนี้คงสรุปเองได้ว่าเรื่องทั้งหมดสงสัยอยู่แค่ 3G แต่ละย่านความถี่มันแตกต่างกันหรือไม่? เท่านั้นเอง กอง บก. โทรคมดอตคอมก็ไม่ได้มีความรู้มากมาย แต่เท่าที่หามาได้มันเหมือนกันค่ะ ไม่มี 3G เทียม มีแต่ 3G แท้ทุกย่านเลยค่า ดังนั้นผู้อ่านและประชาชนต้องค้นคว้าเองว่ามันมี 3G แท้ 3G เทียมหรือไม่ หรือจะมีเพียงประเทศสาระขันของเราเท่านั้นที่มี 3G แท้ 3G เทียมแหล่งข้อมูลที่โทรคมดอตคอมแนะนำให้ค้นคว้ามี 2 เว็บ นั่นคือ www.itu.int แล้วลองเสิร์ชเช่น IMT-2000 (http://www.itu.int/osg/imt-project/docs/What_is_IMT2000-2.pdf)สหภาพโทรคมนาคมระหว่างประเทศนั้นจะเป็นการกำหนดแนวทางร่วมกันของทุกประเทศทั่วโลกเชิงว่า คุณสมบัติ 3G มันเร็วเท่าใด แทบไม่พูดถึงเลยว่าใช้ความถี่ย่านใด ส่วนรายละเอียดทางเทคนิคจริงๆ จะเป็นกลุ่มผู้ผลิตอุปกรณ์เขากำหนดมาตรฐานร่วมกันให้ไปดูที่เว็บ www.umts-forum.org หาโหลดพวก white paper อ่านดู หากเราจะตามความเคลื่อนไหวการพัฒนามาตรฐานเทคโนโลยีโทรศัพท์เคลื่อนที่อย่างละเอียด ในโลกของเราจะมีสองกลุ่มใหญ่คือ 3GPP จะพัฒนาเทคโนโลยี WCDMA และ 3GPP2 จะพัฒนาเทคโนโลยี CDMA บ้านเรานั้นมี WCDMA อย่างเดียวก็ตามไปดู 3GPP ครับ เช่น Link นี้เต็มอิ่มอยากดูว่าคลื่นมันเกี่ยวไรด้วยว้อย จัดเต็มที่ http://www.3gpp.org/ftp/Specs/html-info/25-series.htm ท่านผู้อ่านอย่างเพิ่งงงคำว่า เดี๋ยวก็ WCDMA เดี๋ยวก็ UMTS มันคือสิ่งเดียวกันครับ มันคือ 3G ที่พัฒนามาจาก GSM เพียงแต่ ยุโรปเขาเรียก WCDMA ว่า UMTS เอางั้นดีกว่า

                   เทคโนโลยี  3G นั้นมี 5 ชนิดคือ WCDMA, CDMA 2000 1x, EDGE, TD-SCDMA และ  DECT ขึ้นอยู่กับประเทศไหนพื้นเพใช้อะไรมาก่อน การมีเทคโนโลยีใดเทคโนโลยีหนึ่งให้บริการถือว่ามี 3G แล้ว เมื่อถกกันถึงตรงนี้กอง บก.โทรคมดอตคอมได้วิเคราะห์ข่าวเรื่อง วาทะกรรม "ไม่มี 3G ประเทศล้าหลัง กว่าลาว เขมร" ซึ่งล้วนไปจี้ใจดำลงไปถึงคนในสังคมสาระขันให้เสียเซลฟ์กันทั่วประเทศมาแล้ว นึกแล้วเจ็บใจบรรดาพี่น้องคนไทยที่เป็นผู้บริหาร เป็นวิศวกร เป็นนายช่าง ในวงการโทรคมไทย ทำไมไม่มีสักคนยกมือยืดอกบอกว่า ประเทศไทยนั้นได้จัดสรรคลื่นความถี่ 3G ย่าน 2.1 GHz ครั้งแรกให้ ทีโอที ตั้งแต่ปี 2001 หลังญี่ปุ่นประเทศเดียวในเอเชีย และมีบริการ 3G ให้บริการมา 11 ปีแล้ว!!!!! นับตั้งแต่อดีตเรามี กสท โดย Hutch ให้บริการ 3G ระบบ CDMA 2000 1x จนมาถึง  CDMA 2000 1x EVDo ด้วยซ้ำ และแน่นอนบ้านเราก็มีบริการ 3G ด้วยเทคโนโลยี EDGE ถึงบางคนจะเถียงว่าไม่ใช่ 3G ก็ได้โปรดแหกตามดู Link ของ ITU เมื่อกี้ว่าเขาบอกว่าใช่ ก็เลือกเอาจะเชื่อไอ้ตูดนั่นหรือเชื่อ ITU ส่วนปัจจุบันที่เราทุกท่านใช้กันอยู่ทุกวันนี้คือ 3G ในระบบ WCDMA กันส่วนใหญ่ ซึ่งมีความเร็วเกินมาตรฐานที่ ITU กำหนดด้วยซ้ำไป แต่ที่น่าแปลกใจกับชาวบ้านสาระขันก็ตรงที่คำว่า  3G แท้  3G เทียม ก็คลื่น 3G ทีโอที นั่นไงเขาเรียก 2.1 GHz แท้พอหรือยัง ทำไมไม่ไปช่วยกันอุดหนุนเขาล่ะ สถานีฐานเขามีมากกว่าลาวทั้งประเทศอีก เราไม่ยอมรับแม้แต่คำว่าเราเจริญกว่าเขา เรายอมเชื่อว่าบ้านเราล้าหลัง ด้วยคนที่ควบคุมสื่อ  ย้ำอีกทีซิ คุณว่าเราพูดผิดมั๊ย?

             ไม่รู้จะด่าพวกเขายังไงดีกลัวเป็นคนไม่ดีแบบเขาไม่ด่าดีกว่าให้พวกเราคิดกันเอาเอง การที่ปล่อยข่าวใช้กลยุทธ์ดิสเครดิต กทช. เพื่อกดดันให้จัดสรรคลื่นความถี่ใหม่ โดยเอาความเสียใจความรู้สึกด้อยในใจของคนในประเทศเป็นเครื่องมือเพื่อประโยชน์ธุรกิจของตน  มันมีหนทางอื่นตั้งเยอะแยะ แต่พวกเขาเลือกมาทางที่แย่ในความรู้สึกคนไทย ลาว เขมร มีเบส WCDMA เราก็มี แถมมีเยอะกว่าอีก แล้วถามว่ามีแล้ว ลาว กับเขมร เจริญกว่าไทยหรือไม่?

แล้วพอถามไปไอ้ปื๊ดว่ามันไม่แท้ไม่เทียมยังไง มันบอกว่าไอ้จอห์นเงี๊ยว[xxx]ทีวี  ที่มันชอบอวดฉลาดด่าคนนั้นคนนี้ด้วยข้อจำกัดทางสติปัญญาของมันมันบอกว่า 3G แท้กับ 3G เทียม เหมือนรถเฟอรรารี่วิ่งบนถนนขุขระ เอ่อ ถนนที่ไม่เรียบร้อย เป็นหลุมเป็นบ่อถ้าจะเอามาเปรียบเทียบกับระบบเซลลูล่าร์ (กลับไปดูภาพเครือข่ายรวงผึ้ง) จะไม่มีการสะดุดเลย ราบรื่นไม่มีหลุมมีบ่อ ก็ต้องวิ่งในบริเวณที่เซลไซต์ครอบคลุมเทคโนโลยีถึงทำงานเต็มที่ ไม่ใช่เรื่องเทคโนโลยี เรื่องพื้นที่ครอบคุลม (ย้ำอีกที) เรื่องพื้นที่ครอบคุลม คือ ว่าปักเสา เดินสายเพิ่มครับ สร้างๆๆ สถานีฐานเพิ่ม แล้วรถเมิงก็วิ่งในพื้นที่ก็ไม่มีหลุมมีบ่อ ไม่เกี่ยวกับความถี่ใหม่



ช่าย GSM เดิมย่าน  800 900 1800 ที่เราใช้กันทุกวันนี้ ผู้ให้บริการเขายังวางโครงข่ายทุกวัน พัฒนาทุกวัน  บำรุงรักษาทุกวันมายี่สิบปีได้แล้ว ถ้าตัวเองได้เลยว่า คิดว่ายังเจอที่ไหนที่ไม่มีคลื่นมั๊ย? ถ้าตอบว่าไม่มีก็โปรดข้ามไปอ่านหัวข้ออื่นต่อเลย แต่ถ้าตอบว่ามี คุณก็โปรดเรียบเรียงความคิดให้เป็นตรรกะว่า นั่นเขาวางโครงข่ายทุกวันมายี่สิบปีมีสถานีฐานเป็นหมื่นเป็นแสนไซต์แล้วมันยังเป็นไปไม่ได้เลยที่จะครอบคลุมทุกที่ในชีวิตประจำวันแม้แต่ใน กทม. แล้วถ้ามีผู้ประกอบการรายใหม่ให้บริการ 3G ในความถี่ใหม่ 2.1 GHz ล่ะ? ปีหนึ่งๆ มี 365 วัน วันหนึ่งๆ เขาจะสร้างสถานีฐานได้กี่สถานีกัน? แล้วเมื่อไหร่มันจะครอบคลุมทั่วประเทศ หรือเราจะใช้เฉพาะที่ทำงานกับที่บ้าน สิ่งที่กอง บก.อยากรู้คือ จะมีสักกี่คนใช้ 3G ย่าน 2.1 GHz ในปีหน้า อ้อ คุณต้องดูมือถือคุณด้วยนะว่ามันรองรับย่าน 2.1 GHz หรือป่าว? ถ้ามันไม่รองรับคุณต้องซื้อใหม่ด้วยล่ะ


2.ในเมื่อกูอยู่ในภวังค์ว่ามี 3G แล้วประเทศนี้เจริญ มึงจะขัดกันทามมายวะ
          กอง บก. เริ่มเมาไวน์ เพราะเพิ่มกินยาแก้แพ้ยาแก้ไอไปด้วย สงสัยชีวิตนี้มันสั้นนักคงไม่ทันโดนใครทำร้ายก็ตายเอง พี่น้องมากมายล้วนหลงใหลอยู่ในภวังค์ว่าถ้ามี 3G แล้วประเทศจะเจริญ เป็นวลีที่ต้องยอมรับว่าใช้งบประมาณในการทำตลาดไปไม่ใช่น้อยกว่าจะสำเร็จ และต้องชมคนที่ทำว่าเก่งจริงๆ

          โอเคล่ะมี  3G เจริญ จะพัฒนา  GSM มาเป็น 3G บนความถี่เก่าก็ไม่ได้อีก มันมี 3G แท้กับ  3G เทียม ต่างกันยังไงกูไม่รู้หรอก มันไม่เต็มประสิทธิภาพมั้ง แล้วประสิทธิภาพที่เมิงอยากได้มันขนาดไหนวะ? จำแค่ไม่เต็มประสิทธิภาพก็พอ (ในใจร้องกูไม่อยากแบ่งรายได้ง่ะ แง้)

               ประเทศที่เป็นแต่ผู้ซื้ออย่างบ้านเราไม่มีเทคโนโลยีของตัวเอง ขายข้าว ขายผลไม้เป็นเศรษฐกิจหลัก ถ้ามีคนบอกว่าโง่กูก็โกรธว่ะ แต่ถ้าถามว่ามี 3G แล้วประเทศเจริญอย่างไร? ตอบได้ป่ะล่ะ? บ้านเรานั้นเครื่องมือถือที่ใช้กันอยู่รองรับแต่ย่าน 800 900 1800 เวลาซื้อมือถือบางคนจะเก็กหน้าถามว่า Triband หรือป่าว? นั่นแน่หล่อสัส อ้าวถ้าใช้ 2.1 GHz ต้องซื้อเครื่องใหม่สิ อีกสักหมื่นนึงละกันสมาร์ทโฟนนี่ ถ้ากลยุทธ์การตลาดมันเก่งจริงคนไทยใช้มือถือ 50 ล้านคน ต้องซื้อใหม่หมด คุณหมื่นนึงเข้าไปเป็นเงินเท่าไหร่ที่จะออกนอกประเทศไปนั่น แถมคนวางโครงข่ายอีกรายละแสนล้าน เอาสักสามรายละกัน นี่ถ้าเป็นต่างชาติมาให้บริการอีก มันก็เอาเงินออกนอกประเทศอีก โหยชะตากรรมบ้านกรู นั่นคือเงินที่ไหลออกนอกนประเทศ เป็นแสนๆ ล้านบาท เป็นล้านล้านบาทก็อาจจะถึง แล้วมันเจริญยังไง? หรือลาวกับกัมพูชามีเลยเรียกว่าเจริญ ลาวกับกัมพูชามีคนใช้มือถือรวมกันยังไม่ถึง 5 ล้านคนเลย คนไทย 50 ล้านคน 70 ล้านเลขหมาย มันเทียบกันยังไงหว่า ทุกวันนี้เรามี 3G In-band migration เป็นหมื่นไซต์ ลาวกับกัมพูชารวมกันยังไม่ถึงพันไซต์เลยมั้ง คนไทยพวกคุณเชื่ออะไร? พวกคุณเลือกที่จะเชื่อหรือเลือกที่จะค้นหาความจริง? หรือเราอ่านหนังสือกันน้อยเลยเป็นง่อยกันอย่างนี้ตามแต่คนควบคุมสื่อเขาจูง

                ไม่รู้ล่ะ เอ ว่าแต่เขาค้านทำไม เวลาคนพูดถึง กทช. ในอดีตคนจะถามว่า 3G ล่ะ? เจ้าหน้าที่ตัวเล็กๆ จะตัวลีบไปกว่าเดิม ไม่กล้าตอบไปว่าก็ในที่สุดก็ฝืนจนร่างหลักเกณฑ์เสร็จแล้วแต่มีคนฟ้องให้ศาลสั่งหยุด แต่มันไม่เคยมีใครจำได้ว่าใครค้าน? หนึ่งในทีมงานกอง บก. เคยถูกเจ้าหน้าที่รัฐวิสาหกิจชี้หน้าท้าทายจะทำร้ายร่างกายด้วยซ้ำ หากปล่อยให้มีการเปิดประมูล เพราะเขากลัวองค์กรเขาเสียรายได้
                กลับมาปัจจุบัน พ.ศ. 2555 ที่ประชาชนสาระขันงงไปตามๆ กัน ฟ้องไมวะ ขวางไมวะ ดูประโยชน์ที่เขาได้รับว่ามีอะไรบ้าง อย่างแรกคนบ้า อยากดัง? ไอ้ที่อยากฟ้อง อยากขวาง มีคนปกติบ้างหรือไม่?
                อย่างที่สอง ต้องเรียกมาเคลียร์ น้องเอ๊ย น้องจะได้คลื่นใหม่ไปโดยไม่ต้องแบ่งรายได้กับใคร ถ้าพี่งอแงขึ้นมา ศาลสั่งยกเลิก หรือเล่นซะ กสทช. เลิกล้มการประมูล น้องก็อด น๊า คิดดูดีๆ เคลียร์พี่ได้จบๆ
                คนไทยแปลกใจมั๊ยหลังการประมูล ออกข่าวเกือบทุกชั่วโมงไอ้นั่นจะร้องไอ้นี่ ไอ้นี่จะร้องไอ้นั่น แต่!!!! แต่ทำไมไม่มีคนฟ้องศาลให้มีคำสั่งยกเลิกผลการประมูล???? หรือฟ้อง กสทช. ไปเลยว่าปฏิบัติหน้าที่มิชอบ ประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 นั้น ให้โทษจำคุกด้วยซ้ำถ้าเจ้าพนักงานทำงานผิดพลาด เอาสิ ถ้า กสทช. ผิดจริงเอาติดคุกไปเลย ได้ไม่เป็นเยี่ยงอย่าง สะใจอีกต่างหาก...แล้วทำไมไม่ทำ? ทำไมตีข่าวออกแต่สื่อ???!!!       ตรงกันข้ามการออกมาสร้างข่าวมันก็คือการหมิ่นประมาทเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่ก็มีโทษอาญาเช่นกัน กฎหมายออกแบบไว้อย่างนั้นไม่ให้หลบกันได้เลย ในเมื่อคุณจุดกระแสกันแล้ว ต้องตรวจสอบ สืบสวน หาความจริง และความเป็นธรรมไม่งั้นประเทศอยู่ไม่ได้
                ไม่ว่าจะเป็นนักวิชาการจอมปลอมแหกตาประชาชนเห็นคนไทยเหมือนกันโง่กว่า แม่งก็หลอกอยู่นั่น ที่แย่ไปใหญ่ก็นักเคลื่อนไหวประชาธิปไตยที่คนไทยงงๆ กันอยู่ ว่าเขากับพี่ตู่เพื่อนรักทำมาหากินอะไรถึงรวยก็มาด้วยกันหรือแม้แต่ข้าราชการหงำเงือกแก่ๆ มากมายก็เคาะกะลาตีปี๊ปกับเขา พวกนี้มันไปรู้เรื่องโทรคมมาตั้งแต่เมื่อไหร่ ผู้เชี่ยวชาญโทรคมไทยนั้นเขาก็ไม่ได้บื้อหรอก  ออกจะหัวกะทิซะด้วยซ้ำเพราะธุรกิจมันมหาศาลคนเก่งๆ  ก็แย่งกันเข้ามา แล้วแต่ละเรื่องเขาถกเขาศึกษากันเป็นปีๆ ผู้เชี่ยวชาญการทำมาหากินกับระบบราชการไทย (นามสมมุติ) ให้คำแนะนำก็ถึงบางอ้อกับศัพท์ทางเทคนิคเขากล่าวว่า "เรียกมาเคลียร์ไง" ผู้เชี่ยวชาญการทำมาหากินกับระบบราชการไทยกล่าวต่อว่า คุณก็ลองดูไอ้คนที่ร้อง มันตัวจริงป่าวล่ะ? มันเป็นนักวิชาการจริงป่าว ถ้าเป็นจริงทำไมไม่มีใครจ้างมันมาทำงานล่ะ? หวังดีกับประเทศชาติจริงเขาเปิดรับฟังความคิดเห็นสาธารณะไม่รู้กี่ครั้งกี่ปีจัดแม่งทั่วประเทศเปิดออนไลน์อีกต่างหาก ทำไมมันไม่ออกความเห็นล่ะ? พ่อล่อมาวันช่วงประมูล ออกทีวีหล่อเลย คิดว่าไงล่ะ? คนอื่นๆ ก็เช่นกัน ดูซิเขาเป็นใครเสร์ชในเน็ตก็รู้แล้วพวกใคร ที่น่าสนใจก็คือถ้ารักชาติทำเพื่อประเทศจริง ต้องไปฟ้องศาลไม่ใช่ออกสื่อ ศาลเท่านั้นที่สามารถสั่งยกเลิกได้  ไม่ใช่ไปออกสื่อร้องนั่นร้องนี่ไม่ได้มีประโยชน์อันใดนอกจากรอคนมาเคลียร์



ส่วนพี่ยะใสนั้นแรกๆ ก็คนใน กสทช. เม้าท์กันสนุกปากว่ามาช่วยแฟนสาวที่เป็นกรรมการ กสทช. ที่ออกตัวคัดค้านแบบไม่มีเหตุผล จนเราแบบอึ้ม อ๋อเขาทำมาหากินกันแบบนี้เองเหรอ  แต่พี่ยะรีบไปหน่อยอ่านข้อมูลไม่ครบศาลเลยยกฟ้องราคาประมูลหกพันสี่ร้อยล้าน รายงานจุฬาเขาบอกที่สองบรรทัดสุดท้ายว่า ราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 67% ของราคาประเมิน หรือ 4,300 ล้านบาท กสทช. ตั้งเริ่มต้น 4,500 ล้านบาท สูงกว่าที่จุฬาฯ กำหนดแต่แกไม่ได้อ่านหรืออ่านไม่จบ อะไรก็แล้วแต่ ศาลเลยยกฟ้อง
               จริงๆ ประเด็นนี้สำคัญนะ กอง บก.เสนอความเห็นอย่างเป็นกลางเลยว่า การที่พี่ยะรีบฟ้องโดยมีความรู้เท่าหางอึ่งทำให้คนอื่นๆ  ในชาติที่มีความรู้จริงยื่นฟ้องต่อไม่ได้ ศาลจะไม่รับคดีที่เป็นเรื่องเดียวกัน  ชาติก็ขาดโอกาสพิสูจน์ความจริงว่ามันกำไรหรือขาดทุนแถมไม่ทันได้มีคนมาเคลียร์ด้วยซ้ำ  ภาพลักษณ์แฟนสาวก็ยิ่งช้ำไปใหญ่ อยู่เฉยๆ ภาพลักษณ์ก็แย่อยู่แล้ว  ยิ่งมาปูดตอนนี้ก็ไปกันใหญ่เราไม่พูดเรื่องไม่ดีดีกว่า อยากรู้ก็เสิร์ชชื่อพี่ยะกับแฟนในกูเกิลก็จะพบเอง


            อีกท่านต้องขอประทานโทษที่ไม่เอ่ยนามท่านเป็นถึงรองปลัดกระทรวงการคลัง เป็นข้าราชการชั้นผู้ใหญ่  ที่สังคมต้องยอมรับว่าท่านไม่มีความรู้ในงานที่ตัวเองทำด้วยซ้ำ แล้วยังกระโดดมาโชว์ความรู้ความสามารถตัวเองในประเด็นที่คนทั้งประเทศกำลังสนใจอีก เพื่อชาติหรือเพื่อใคร? ถ้าเพื่อนยุ หรือถูกใบสั่งก็น่าเห็นใจท่าน

       จากกรณีรองปลัดกระทรวงการคลังทำหนังสือถึง กสทช. และออกสื่อทุกชนิดว่า กสทช. จัดประมูล 3G ขัดระเบียบ อีอ๊อคชั่น ขัดระเบียบการพัสดุสำนักนายก ขัดระเบียบนู่นขัดนี่ฯลฯ เลขาธิการ กสทช. เลยทำหนังสือกลับไปตอกกระทรวงการคลังหน้าหงายไปว่าการประมูล 3G หรือการกำหนดหลักเกณฑ์การประมูลคลื่น พรบ.องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่ บัญญัติให้ กสทช. เป็นผู้กำหนดเอง ไม่ได้เกี่ยวข้องกับ อีอ๊อค หรือระเบียบพัสดุ คนละเรื่องครับพี่  แล้วไม่หารือกันให้ดีๆ ก่อน องค์กรที่น่าเชื่อถืออย่างกระทรวงการคลังเสียหายใครจะรับผิดชอบ? ผิดไม่รับหรอก อยากรับแต่ชอบถึงออกตัวเอี๊ยดขนาดนี้

          ท่านรองปลัด จบบัญชีและจบกฎหมายด้วย เพียงแต่ตลอดอายุราชการอันสำคัญของท่านหรือตอนเรียนกฏหมายท่านอาจไม่รู้ว่ากฎหมายเขามีศักดิ์กฎหมาย  เช่น รัฐธรรมนูญสูงกว่า พรบ. ๆ สูงกว่า พรฏ.ๆ สูงกว่า กฎกระทรวงๆ สูงกว่า เทศบัญญัติ....สูงกว่าประกาศๆ สูงกว่าระเบียบ ระเบียบมันคือกฎหมายที่มีศักดิ์น้อยสุดมั้งป้า กฎหมายที่มีศักดิ์น้อยสุดจะไปทำไรหรือไปขัดกฎหมายศักดิ์สูงกว่ามิได้   ระเบียบสำนักนายก ไม่สามารถมาขัดต่อ พรบ. ได้ พรบ.องค์กรจัดสรรความถี่ฯ ให้ กสทช. กำหนดวิธีเองค้าบป้า เอ้อ จบชีวิตราชการด้วยประการล่ะฉะนี้






3.กลยุทธ์ที่ กสทช. พูดไม่ได้
          ที่วันนี้เราต้องพูดเพื่อความเจริญของชาติ จะเห็นว่าเราเป็นกลางเพราะเราด่าทุกคนเลยเห็นเป่า ยังไม่เชียร์ใครเลย  แต่พอเราถกกันไปสักพักเรากลับเริ่มมาเฝ้าเชียร์ว่าถ้า กสทช. ทำผิดฟ้องศาลเลย ติดคุกไปเลย แต่ที่เบื่อก็เบื่อพวกอยากดัง พวกอยากรีดไถ คงอยากให้ผู้ให้บริการมาเคลียร์ ตีเกาะเคาะกะลา ที่ไม่ฟ้องศาลเพราะรู้สิ ว่า กสทช. ไม่ได้ทำไรผิด ฟ้องไปนอกจากหน้าแหก เจอศาลบอกรกศาล อาจจะโดนอาญาเอาอีกต่างหาก เอาเหอะช่างแม่ง เรามาวิเคราะห์กลยุทธ์ที่ กสทช. พูดไม่ได้ดีกว่า

           ในขณะที่ประชาชนตกเป็นเหยื่อของผู้ควบคุมสื่อต่างรู้สึกชิงชัง กสทช. เพื่อจะได้รีดไถคนที่มีโอกาสทางธุรกิจมหาศาล แน่นอนครับคนที่จะยกเลิกผลการประมูลได้มีศาลปกครอง และตัว กสทช. เอง การตีข่าวใช้กลยุทธ์สื่อถ่อยๆ อาจจะทำให้ กสทช. เป๋เอง ศัพท์วัยรุ่นเรียก ปอด ใจออก คนที่ได้คลื่นอยู่ตรงหน้ากับรายได้ธุรกิจที่ลางๆ ไม่รู้รวยมั๊ย อาจต้องส่งคนมาเคลียร์ เรามาชวนคุยเชิงชวนให้คิดเองนะครับอย่าเชื่อเราให้ท่านคิดว่าแต่ละประเด็น ประโยชน์ตกที่ใคร นี่วิธีคิดเรื่องแรงจูงใจ ประชาชนจะได้ตาสว่าง และช่วยกำจัดพวกเหล่านี้ไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่างว่าแต่เราจะทำได้มั๊ย?

       หัวข้อนี้เกมพลิกครับ จากคนที่ถูกกระหน่ำโจมตีจากสังคมรอบด้าน กลายมาเป็นฮีโร่ เรื่องมันมาปูดเมื่อ  ศาสตราจารย์ ดร.ถวิล พึ่งมา ให้สัมภาษณ์ออกสื่อแนวชื่นชม กสทช.  ว่าทำได้ดี (http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1350808744&grpid=&catid=05&subcatid=0504

          อาจารย์ถวิลบอกว่า ย่านความถี่  2.1 GHz มันล้าหลังแล้ว ใครจะเอา แหม่ อาจารย์พูดได้จับใจ กอง บก. โทรคม ดอตคอมจริงๆ อาจารย์พูดได้เป็นกลางจริงๆ และพูดแบบคนที่เชี่ยวชาญวงการโทรคมไทยตัวจริงเสียงจริง  ศ.ดร.ถวิล พึ่งมา ประเทศชาติพึ่งได้จริงๆ ครับ ความลึกซึ้งที่อาจารย์ถวิลให้ไว้บรรยายไม่หมดหรอกครับเรามาลองประเด็นนี้ดีกว่า
            ในวงการธุรกิจโทรคมนาคมนักวิเคราะห์ธุรกิจเทคโนโลยีทราบกันดีว่า ย่านความถี่ 2.1 GHz เขาเรียกกันว่า "ซากเทคโนโลยี" !!!! มันล้าหลังแล้วจริงๆ ครับ ถ้าพูดให้เข้าใจง่ายในตลาดโลกของเราเขาไป 4G LTE ที่จำหน่ายอุปกรณ์กันในย่าน 2.6 GHz กันอยู่ครับ การลงทุนโครงข่ายถึงเราไม่สันทัด แต่คนทั่วไปก็พอจะประมาณได้ว่า การเดินสาย ตั้งเสา ติดตั้งอุปกรณ์มันก็ราคาพอๆ กับย่าน 2.1 GHz ไงครับ ดังนั้นความคุ้มค่าทาธุรกิจควรไปลงทุนย่าน 2.6 GHz เพื่อเป็น 4G ไปเลย แต่...แต่ทำไมเหรอครับ? ก็ถ้า กทค. โดย กสทช. เปิดประมูล 2.6 GHz ไปเลย ย่านความถี่ 2.1 GHz ก็ตายซากไม่มีความต้องการทางธุรกิจ  ไม่เกิดประโยชน์ต่อประเทศชาติไปเลยสิครับ เรียกได้ว่าไม่บริหารทรัพยากรให้เกิดประโยชน์สูงสุดตามหน้าที่
           เอกชนทุกรายก็รู้เกมดีว่า ถ้า กทค. โดยท่านเศรษฐพงค์ ไม่ปล่อยย่าน 2.1 GHz ออกมาหารายได้เข้าประเทศชาติเสียก่อน ก็อย่าหวังย่าน 2.6 GHz เลย การประมูลถึงออกมาแนวผอืดผะอม ผู้ประกอบการจำใจต้องกดปุ่มประมูลแบบช้ำใจ เป็นกลยุทธ์ที่ กทค. พูดไม่ได้ แต่สร้างรายได้มหาศาลเข้าสู่ประเทศ และคนไทยก็คิดเองให้เข้าใจไม่ได้เช่นกัน



           ทำไมไม่ N-1?



          ผู้อ่านรู้มั๊ย เอกชนที่ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ไทยมี  3 ราย แต่ละรายต้องการแบนด์วิดท์อย่างน้อย 15 MHz จึงจะให้บริการได้ เรามีความถี่ว่างทั้งสิ้น 45 MHz แบ่งเป็น 15 MHz ได้ 3 ชุดพอดี

          เราลองมาช่วยกันจินตนาการว่ามีทางเลือกใดที่ดีที่สุดสำหรับประเทศไทยบ้าง? เผื่อจะเป็นประโยชน์ ถ้า กสทช. ร่างหลักเกณฑ์การประมูล เป็นชุดละ 15 MHz เหมือนในอดีต และใช้สูตร N-1 เพื่อให้เชื่อว่าจะมีการแข่งขัน และจะทำเงินจากการประมูลให้ได้มากที่สุด
              N-1 คือ  N=จำนวนผู้สมัครเข้าร่วมประมูลลบออก 1 ชุดความถี่ ถ้ามีผู้เข้าประมูล 3 ราย เราจะเปิดประมูลแค่ 2 ย่านความถี่ ที่ชุดความถี่ละ 15 MHz คำถามก็คือ ไอ้ 15 MHz ที่เหลือมันถือว่าทำประโยชน์สูงสุดให้กับประเทศแล้วหรือยัง? เอาล่ะเราไม่พูดประเด็นนี้ เอาเรื่องสถานการณ์ที่จะเกิดขึ้นมันคืออะไร

            ถ้ามีผู้ประกอบการเข้าร่วมประมูล 3 ราย กับ 3 ย่านความถี่

               คิดตื้นๆ ก่อนนะครับว่าเขาไม่คิดไรมากสมัครเข้าร่วมประมูลทั้ง 3 ราย  เมื่อใช้วิธี N-1 จะเท่ากับ 2 เราจะเปิดประมูล 2 ย่านความถี่
               สมมติเรียบง่ายไม่มีปัจจัยอะไรให้คิดมาก ประเทศเราเปิดให้บริการ 3G ย่าน 2.1 GHz จำนวน 2 รายเกิดอะไรขึ้นครับ? อย่างแรกคุณคิดว่ามีการแข่งขันหรือไม่? เข้าสู่ลักษณธตลาดแข่งขันเสรีหรือคุณคิดว่าเป็นการผูกขาด?
               สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือ ในทางเศรษฐศาสตร์เมื่อตลาดมีผู้ให้บริการ 2 ราย ผู้ประกอบการจะเป็นผู้กำหนดราคาค่าบริการ ไม่ใช่ผู้บริโภคจะมีทางเลือก
               ซึ่ง กทค. ทำไม่ได้เพราะขัดกฎหมายอันมาจากประกาศของ กทช. ในอดีต เรื่อง ผู้มีอำนาจเหนือตลาด (http://www.nbtc.go.th/wps/wcm/connect/4eaa70804a99de4daa15ffb1f5b6d48d/Law5_P163-168.pdf?MOD=AJPERES&CACHEID=4eaa70804a99de4daa15ffb1f5b6d48d&nbsp
                 สาระสำคัญของประกาศก็คือ การกำหนดวิธีวัดระดับการแข่งขันในตลาดและการกำหนดว่า ผู้ใดมีส่วนแบ่งตลาดเกินร้อยละ  40 ถือว่าเป็นผู้มีอำนาจเหนือตลาด ดังนั้นถ้ามีผู้ให้บริการ 2 รายในตลาด ย่อมเป็นไปได้ที่ตลาดจะไม่แข่งขัน และเป็นไม่ได้ที่จะไม่มีใครครองตลาดเกิร้อยละ 40 ถูกมั๊ยครับ? ท่านผู้อ่าน


หากใช้ Game theory ในการวิเคราะห์ มันจะได้ว่า


               แต่ในโลกความจริงประเทศเรามีเอกชน  3 ราย หากใช้  N-1 เราจะจัดสรรคลื่นได้ 2 ชุดความถี่ ความถี่ละ 15 MHz เราไม่สนใจเลยว่ารายใดจนที่สุด แต่ในโลกความจริงจะมีผู้แพ้ 1 คน ในโลกความจริงอีกอย่างก็คือเรามี 1 รายล่ะที่รวยมากครองตลาด และมีเงินทุนมหาศาล 2 รายนั้นสู้เขาไม่ได้แน่ๆ ความจริงก็คือ 2 รายสุดท้ายนั้นเขาจะแข่งกันเอง

วิเคราะห์สถานการณ์
       กรณีที่  1 เข้าประมูล 3 ราย


       คนที่ชนะ  2 ราย จะได้เปรียบเชิงธุรกิจ  (Business advantage) ลูกค้าจะเชื่อว่าบริการมีคุณภาพดีกว่า ลูกค้าจะพึงพอใจในแบรนด์มากกว่า  และอาจแย่งส่วนแบ่งตลาดที่ดำเนินธุรกิจในปัจจุบันไปได้ 2 คนสุดท้าย แม้ 2 คนสุดท้ายจะมั่นใจว่าตัวเองชนะ แต่เมื่อวิเคราะห์สถานการณ์แล้วจะเห็นว่า ไม่คุ้มให้ทั้ง 2 รายเสี่ยงลงสมัครเข้าประมูล เพราะ 2 รายนั้นมีความสูสีเชิงธุรกิจกันอยู่   หากแพ้ขึ้นมาย่อมไม่คุ้มเสี่ยง อยู่อย่างปัจจุบันคุ้มกว่า กรณีนี้นักธุรกิจทั้ง 2 รายต่างคนจะไม่สมัครเข้าร่วมประมูล เพื่อให้การประมูลล้ม และไม่มีใครได้เปรียบเชิงธุรกิจ



       กรณีที่  2 เข้าประมูล 2 ราย (จบเห่)

              N-1 ใช้ได้ทางทฤษฎีอันเดียวคือต้องมีคนเข้าร่วมประมูล 3 รายขึ้นไป เพราะถ้ามี 2 ราย N-1=1 เรียกว่าตลาดผูกขาดทันที ขัดกฎหมาย

         สมมติว่าตลาดมี  3 ราย อาจจะมีเพียง  1 รายที่มั่นใจว่า ประมูลแพ้แน่ๆ หรือในโลกความจริงมีรายที่อ่อนแอจริงๆ ถึงรายนั้นประมูลชนะเป็นที่ 2 แต่ก็ต้องบาดเจ็บจากเงินค่าประมูล อาจทำให้ธุรกิจสะดุดได้  เขามีทางเลือกเดียวที่จะทำให้คู่แข่งไม่ได้เปรียบเชิงธุรกิจ คือการไม่เข้าร่วมประมูล N-1 จะเท่ากับ 1 ทันที การประมูลโมฆะ เรียกว่าผูกขาดครับ ขัดตั้งแต่พันธะ WTO ขัดรัฐธรรมนูญ ขัด พรบ. องค์กรจัดสรรความถี่ เหตุผลอื่นๆ ไปค้นหาเอาเองว่าผูกขาดมันล้มเหลวต่อบ้านเมืองอย่างไร และทำไม กสทช  ถึงไม่ N-1 ก็เพราะมันปิดล็อคประเทศนี้ไงครับ

                ที่เขาถึงต้องออกแบบการประมูลเป็น  9 สล็อต โดยกระจายสล็อตละ  5 MHz วิธีการแค่นี้แหละที่คนไทยงง เพราะถ้าประมูล slot ละ 15 MHz ทุกรายก็หยุดนิ่งที่ราคาเริ่มต้นสิ ได้ขนาดนี้ถือว่าดีหรือยัง? ยังบอกไม่ได้ถ้าไม่อธิบายต่อว่า ประเด้นที่อาจารย์ถวิลให้ปัญญากับประชาชน กอง บก.โทรคมเ อามาดัดแปลงพูดเป็นภาษาชาวบ้านว่าเอาไปทำม้ายยมันล้าหลังแล้ว

            เรื่องจริงก็คือว่า คนวงในจริงๆ หรือคนที่ชนชนชั้นสมองของวงการโทรคมไทยนั้นไม่เชื่อว่า กสทช. จะขาย 2.1 GHz ได้ด้วยซ้ำ ไม่คิดว่าผู้ประกอบการจะลงทุนด้วยซ้ำ ไอ้บรรดาผู้บริหารของบริษัทผู้ให้บริการที่อยากได้ในยุคใช้กลยุทธ์สร้างข่าวเสื่อมเสียก็ออกกันไปหมดแล้ว เอาไปทำม้าย 2.1 GHz เพราะใครก็รู้ว่า 4G หรือ LTE มาเขาก็ไม่ใช้ 3G 2.1 GHz แน่ๆ โดยเฉพาะแหล่งข่าววงในรู้มาว่า ปีหน้า กทค. เขาจะเปิดประมูล LTE หรือ 4 G ที่ความถี่ 2.6 GHz ไง นี่ถ้าเอกชนทุกรายรู้ เขาจะประมูล 3G 2.1 GHz มั๊ยล่ะ เป็นเราก็ไม่ประมูลแน่นอน เก็บตังค์ไว้ลุยแน่นอน

           ในอดีต กทช. เรียกว่า  3.9 G จริงๆ มันไปแล้ว กสทช. จะเรียกว่าอะไรก็ได้แต่ก็ยังยืนยันใช้คำโบราณเดิมเรียกทับมันไปเลยว่า 3G เพราะอย่างไรเดี๋ยวพวกท่านก็ได้เป็นผู้นำการเปลี่ยนแปลงเทคโนโลยีโทรคมนาคมในการพัฒนาประเทศอยู่แล้ว คำว่า 3G เดิมมันยังแรง แรงเพราะไม่มีใครแก้ปัญหาได้  ต้องมีบารมีมากเลยล่ะถึงจะปราบพวกจิ้งเหลนเหล่านี้อยู่ กลยุทธ์ที่พูดไม่ได้คือเอาชนะด้วยการประมูล 3G ย่าน 2.1 GHz ให้สำเร็จนั่นเอง เป็นการทำลายกำแพงของเหล่าผู้หาผลประโยชน์เดิม  และการเปิดหน้ากากผู้หาประโยชน์ในรูปแบบต่างๆ

           แต่อีกกลยุทธ์ที่ กสทช. โดย กทค. พูดไม่ได้ก็คือ ถ้าไม่มีการประมูล 2.1 GHz ย่าน 2.6 GHz ย่อมไม่ปรากฏขึ้นแน่นอน ศัพท์วัยรุ่นเรียกว่ากำขี้ดีกว่ากำตด เราไม่รู้หรอกคนหวังดีกับชาติบ้านเมืองจะคัดค้านการเปิดประมูล LTE ย่าน 2.6 GHz อีกมากน้อยแค่ไหนในอนาคต แต่สิ่งที่การันตีต้องชูนิ้วให้  กทค. ที่มี เสธฯ หัวกะทิ อย่าง พ.อ.เศรษฐพงค์ มะลิสุวรรณ และยอดนักกฎหมายปกครองของไทยอย่าง  ดร.สุทธิพล ทวีชัยการ ทำให้เราเห็นประจักษ์ชัดว่าประเทศเราขายได้สองย่านความถี่ทั้ง 2.1 GHz และ 2.6 GHz แน่นอนในวันนี้ ยังไม่นับรวมย่านความถี่  800 900 ที่ต้องคืนในอนาคต จะเอามาขายต่ออีกครั้ง แต่อย่างไรก็ตามกลยุทธ์นี้ถือว่าวินทุกฝ่าย
             รัฐก็ถือว่าหาเงินได้จากการจัดสรรทรัพยากรมากที่สุดเท่าที่ทำได้จริงๆ แม้ดูอาการเอกชนเอือมๆ ไม่อยากเคาะ และไม่ได้มีกลยุทธ์กดดันข่าวเหมือนในอดีต ก็ด้วยเพราะนักวิเคราะห์หลักทรัพย์เขารู้ดีว่า การประมูลได้คลื่นมันทำให้หุ้นในตลาดหลักทรัพย์ของพวกเขาเป็นข่าวบวกส่งผลให้หุ้นขึ้นทำกำไรได้อยู่ดี เอกชนก็ไม่ขาดทุน
          ตรงกันข้ามกลายเป็นฝ้ายรัฐ  ที่ใช้กลยุทธ์บริหารสื่อเร้าให้ประชาชนสนใจการประมูลอย่างมีประสิทธิผลด้วยซ้ำ  เพราะเป็นอย่างที่อาจารย์ถวิลกล่าวไว้จริงๆ อย่างไรก็ตามเอกชนก็ไม่ได้สูญเงินเสียทีเดียว  หุ้นพวกเขาจะขึ้นเพียงพอที่จะทำกำไรได้ด้วยซ้ำ  (ขึ้นมาแล้วต่อเนื่องก็ประมูลด้วยซ้ำ) ประเทศก็จะได้มีโครงข่ายที่พัฒนาประสิทธิภาพขึ้นไปอีก




4.มีของ 3 ชิ้น ร่างวิธีการประมูล แล้วมีคนสมัครเช้าประมูล 3 ราย ผิดมั๊ย?

           เรื่องนี้มันงงเกินไปที่ปัญญาชนในชาติจะตีความเข้าใจได้ง่ายๆ ทั้งที่เหมือนเรื่องง่าย กสทช. มีของ 3 ชิ้น ร่างวิธีการประมูล รับฟังความคิดเห็น ปรับปรุงตามคำวิจารณ์มาจนทั่วประเทศไปแล้วว่าหลักเกณฑ์นี้โปร่งใสเป็นที่ยอมรับของทุกฝ่าย แล้วเปิดรับสมัครผู้เข้าประมูล ก็มีคนสนใจเข้าประมูล 3 รายพอดี นี่ถ้าไม่สับขาหลอกกระจายของไว้ก่อนคงได้เงินน้อยกว่านี้ ถามว่ามีวิธีออกแบบการประมูลที่ดีกว่านี้มั๊ย? คำถามนี้ไม่เคยมีสื่อไหนสอนคนไทยคิด มีแต่สอนคนไทยด่า ถ้าไม่พอใจ อ้าวลองช่วยกันคิดดูมีวิธีการประมูลดีกว่านี้หรือไม่ อย่างไร

            หน้าที่ของ กสทช. 1 ทำหลักเกณฑ์การประมูล 2.จัดประมูล 3. รับรองผล หน้าที่เขาทำครบถ้วนไปแล้ว ความผิดจะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อปฏิบัติหน้าที่นั้นๆ  มิชอบ ส่วนคำว่ามิชอบคืออะไรก็ไปไล่ดู ในวันนี้ กสทช. โดย กทค. ก็ยืนยันถึงการปฏิบัติหน้าที่ทุกขั้นตอนโดยชอบแล้วด้วยกฎหมาย ก็อย่างที่เห็นว่าไม่มีใครไปฟ้องศาลเลย แม้แต่คนบ้าในวงการ
มองกลับไปกรณีเลวร้ายสุด ถ้าจัดการประมูลของ 3 ชิ้น ไม่กระจายเลย แล้วมีผู้เข้าประมูล 3 ราย  ทุกรายอยู่ที่ราคาเริ่มต้นหมด ผู้อ่านลองวิเคราะห์สิครับว่าคนจัดประมูลทำผิดหรือไม่  ราคาเริ่มต้นจะมีไปทำไมถ้ามันผิด ราคาเริ่มต้นเป็นการรับประกันรายได้ขั้นต่ำที่รัฐได้รับ เลยโดนข้อหาว่าไม่แข่งขันกันอย่างที่ประชาชนฝัน  พวกเขาฝันเห็นว่าจะประมูลได้เป็นแสนๆ ล้าน แล้วคนไทยได้ใช้โทรศัพท์ที่ทันสมัย โอว ฝันหวานเลย การเคาะราคาไม่ดุเดือดนั้นสร้างความไม่พอใจให้คนไทยในสังคมเป็นประเด็นสำคัญที่ยังฝังในใจคนไทยอยู่ และที่สำคัญ กสทช. พูดไม่ได้ด้วยว่า หลอกขาย 2.1 GHz ที่ล้าหลังไปแล้วได้ราคาขนาดนี้กูโคตรแฮปปี้เลย ประชาชนไม่รู้หรอกว่ามันเป็นความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ กสทช. จะต้องอดทนเพื่อชาติต่อไปกับกลยุทธ์ที่พูดไม่ได้

           ไม่แข่งขันราคา? ก็ประเทศเรามีผู้ให้บริการ 3 ราย มีใครอีกล่ะ? ลองยกตัวอย่างซิ แล้วทำไมเขาไม่เข้าประมูลล่ะ? บางคนแย้งว่าน่าจะแก้กฎหมายให้ต่างชาติถือหุ้นได้ 100% เขาจะได้เข้ามาประมูล รัฐจะได้มีเงินเข้าเยอะๆ นักการเมืองได้ถอนทุนเร็วๆ พูดง่ายๆ ว่าประเด็นสุดท้าย อยากให้มีเงินเข้ารัฐเยอะๆ

           เราจะไม่พูดประเด็นอื่นของโทรคมต่างชาติไม่ว่าเรื่องความมั่นคงหรืออาชีพสงวนของไทย ฯลฯ พูดเรื่องตัวเงินอย่างเดียว เน้นเรื่องเงินลงทุนจากการประมูลจากต่างประเทศจะไหลเข้าไทย บางคนคิดได้แค่นั้นจริงๆ คิดไม่ถึงด้วยซ้ำว่ามีเรื่องหาเงินออกนอกประเทศด้วย

             คำว่า  "ลงทุน" กับ  "กำไร" เด็กอมมือก็ทราบว่าเม็ดเงินตัวไหนมีค่ามากกว่ากัน? ต่างชาติลงทุน คำว่า "ลงทุน" คือเงินที่ต่างชาตินำเงินเข้าประเทศ อาจจะรวมคำว่าประมูล ส่วนคำว่า "กำไร" คือสิ่งที่ต่างชาตินำออกนอกประเทศไทยครับ มันก็มหาศาลกว่าเงินที่นำเข้ามาครับสุดท้ายชาติก็ขาดทุน หรือเราจะหลอกฝรั่งมาลงทุนแล้ววางแผนให้มันเจ๊งดี เงินได้ไม่รั่วไหลกลับ ชั่วแต่ได้เงิน



5.สรุป คนไทยเลือกที่จะเชื่อหรือเลือกที่จะค้นหาความจริง
        หนึ่งในสาเหตุความวุ่นวายของบ้านเมืองอยู่ที่ตัวเราคนไทยทุกคนครับ คนไทยเลือกที่จะเชื่อหรือเลือกที่จะค้นหาความจริงคุณลองถามใจตัวเองดู คุณลองรับสื่อแล้ววิเคราะห์ข่าว ในกระบวนการดำเนินกลยุทธ์ในการใช้สื่อสู้รับ (Battle on people mind) วิธีการวิเคราะห์นั้นมีขั้นตอนเดียวเองครับ เขาจูงใจคุณอยู่ให้ไปในทิศทางที่เป็นประโยชน์กับเขา เราต้องวิเคราะห์ก่อนว่าทิศทางที่เราเชื่อนั้นใครได้ประโยชน์? เมื่อเรารู้แล้วว่าประโยชน์อยู่ที่ใคร ก็เลือกเองครับว่าจะเชื่อหรือไม่

            ข่าว  3G ในปีนี้ มันส์สนุก ยิ่งถ้าคุณได้รับรู้การดำเนินกลยุทธ์ของสามก๊ก คือฝ่าย รัฐ ผู้ประกอบการ และผู้หาแดก ต่างก็หาประโยชน์ให้ตัวอย่างมีทั้งชั้นเชิง มีทั้งเสียหมามั่ง สนุกกันดี ฝ่ายรัฐนั้นเชื่อว่างานประมูลนี้เป็นงานแรกของ กสทช. ค่อนข้างจะโปร่งใสทีเดียวเพราะไม่มีข่าวเรื่องผลประโยชน์เลย ข่าวว่าฮั๊วหรือไม่นั้นก็เป็นเรื่องผู้ประกอบการ และเชื่อว่าคงไม่กล้าเพราะสังคมจับตากันทั้งประเทศขนาดนี้ เก็บเนื้อเก็บตัวไว้กินนานๆ แน่นอนถ้าผ่านไปได้  ขอเพียงอย่าท้อเอาความจริงให้สังคมได้รับรู้ เอกชนนั้นก็ไม่มีอะไรเสียเช่นกัน ยกเว้นไปเคลียร์กับพวกเคาะกะลาขอข้าวหน่อย ประชาชนก้คงได้ใช้บริการดีๆ คุณไม่ต้องไปห่วงหรอกว่าเขาจะเก็บคุณแพง อย่าโง่ไปหน่อยเลย จะไปจ่ายมันทำไมล่ะเออ ก็บอกแล้วว่าวางโครงข่ายยี่สิบปียังไม่คลุมเลยจะใช้เหรอถามจริง? แล้วไอ้ที่ใช้อยู่ทุกวันมันแย่เหรอ อัพเฟสบุ๊ค คุยไลน์ ไม่ทันเหรอ ไอ้ของใหม่น่ะ  เข้าตึกก็คุยไม่ได้แล้ว ยิ่งสถานีฐานน้อย ความเร็วยิ่งแชร์เชื่อดิ  แล้วถ้าเก็บแพงแม่งก็เจ๊ง ไม่ได้ดีกว่าของเดิมหรอกเชื่อดิ

        แต่ที่สำคัญจะเกิดการจ้างงานใหม่มากมาย เกิดการลงทุนขยับ   GDP ของประเทศ สุดท้ายในอนาคตประเทศมีโครงข่ายโทรคมนาคมที่มีประสิทธิภาพสูงก็จะสันบสนุนกรพัฒนาเศรษฐกิจในทุกๆ ด้านต่อไป



ที่มา-http://www.torakom.com/article_index.php?sub=article_show&art=308