พาณิชย์ม้วนเสื่อ เลิกร้านถูกใจหลังมีนานี้ หมดงบสนับสนุนร้านค้า เร่งส่งไม้ต่อซัพพลายเออร์

[ทีมงานประชาสัมพันธ์]

updated: 18 ก.พ. 2556 เวลา 10:20:24 น.
ประชาชาติธุรกิจออนไลน์

พาณิชย์ม้วนเสื่อร้านถูกใจหลังสิ้นสุดมาตรการลดภาระค่าครองชีพประชาชนผ่านร้านค้าย่อย เผยผลสำรวจมีร้านค้าดำเนินการเกือบ 7 พันราย ใช้งบกว่า 1,300 ล้าน เปิดทางผู้ผลิตหรือค้าปลีกรับช่วงบริหาร พร้อมให้ อคส. จัดหาสินค้าบริโภคจำเป็นเหมือนเดิม

น.ส.วิบูลย์ลักษณ์ ร่วมรักษ์ อธิบดีกรมการค้าภายใน (คน.) เปิดเผยว่า ขณะนี้กรมกำลังพิจารณาว่าจะมอบหมายให้หน่วยงานใดเข้ามาดูแลโครงการร้านค้าถูกใจ หลังเดือนมีนาคม 2556 ซึ่งงบประมาณการดำเนินการโครงการเพื่อช่วยเหลือและลดภาระค่าครองชีพประชาชนผ่านร้านค้าย่อยหมดลง โดยขณะนี้ได้ประสานผู้ผลิตและค้าปลีกในการจัดทำแนวทางในการส่งเสริมและสร้างความเข้มแข็งให้ร้านค้าถูกใจ

ต่อ เพราะผู้ประกอบการร้านค้าถูกใจส่วนใหญ่ยังต้องการให้ใช้ชื่อร้านถูกใจต่อไป รวมถึงประชาชนก็รับทราบถึงการซื้อสินค้าร้านค้าถูกใจนั้นถูกกว่าปกติ 20-30%

น.ส.วิบูลย์ลักษณ์กล่าวว่า สำหรับรูปแบบร้านถูกใจใหม่ จะยังคงจำหน่ายสินค้าจำเป็นจากผู้ผลิตสินค้าที่เข้าร่วมโครงการ ส่วนกระทรวงพาณิชย์จะจัดหาสินค้าหลักให้วางจำหน่ายเหมือนเดิมโดยองค์การคลังสินค้า (อคส.) ได้แก่ ข้าวถุง ที่จะเพิ่มทั้งชนิดและขนาด น้ำตาลทราย น้ำมันปาล์ม เครื่องปรุงรส รวมถึงสินค้าโปรตีน อาทิ ไข่ไก่ ซึ่งเป็นสินค้าที่ประชาชนและผู้ประกอบการอาหารนิยมซื้อ ส่วนการกระจายสินค้าผู้ผลิตจะเป็นผู้รับผิดชอบ

"เชื่อว่าแม้รัฐจะไม่ได้สนับสนุนการเงินโดยตรงต่อการการบริหารงาน ร้านถูกใจก็สามารถดำเนินการได้ต่อและหลายแห่งมีความเข้มแข็ง เพราะมีลูกค้าที่ยังต้องการสินค้าราคาถูก ที่กระทรวงพาณิชย์จะยังจัดหาและจัดส่งเหมือนที่เคยดำเนินการมา เพียงแต่บางส่วนจะมีภาคเอกชนเข้ามาบริหารจัดการแทน" น.ส.วิบูลย์ลักษณ์กล่าว

แหล่งข่าวกระทรวงพาณิชย์กล่าวว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการสำรวจร้านค้าถูกใจว่าร้านค้าใดจะยังดำเนินการต่อหลังสิ้นสุดเดือนมีนาคมนี้ ซึ่งการสำรวจล่าสุดมีร้านค้าถูกใจดำเนินการอยู่ 6,800 ราย และมีร้านค้าส่วนที่เกินจากการยื่นสมัครในการเข้าร่วมโครงการ 1 หมื่นรายแรก ค้างบัญชี 4-5 พันราย สนใจเข้าโครงการ ซึ่งประโยชน์ของโครงการคือการได้สินค้าในราคาต่ำกว่าปกติ 20-30% และกระทรวงพาณิชย์นำรายชื่อบนเว็บไซต์

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สาเหตุที่ทำให้ร้านค้าบางส่วนเลิกเข้าโครงการร้านถูกใจ ตั้งแต่ปลายปี 2555 เนื่องจากรัฐบาลยุติการจ่ายเงินช่วยเหลือค่าจ้างแรงงานรายวัน 300 บาท และต่อมาลดเหลือ 200 บาท และเลิกจ่ายปลายปี อีกทั้งปัญหาการรับสั่งซื้อสินค้าและการจัดส่งสินค้าล่าช้าหรือได้ไม่ครบจำนวนตามที่สั่ง รวมทั้งต้นทุนเพิ่มตามค่าจ้าง ทำให้ร้านค้าย่อยเข้าโครงการลดลงต่อเนื่อง จากเดิมมีเกิน 1 หมื่นราย เหลือแค่ 6 พันกว่ารายในขณะนี้ เพราะยังมีสัญญาความร่วมมือกับกระทรวงพาณิชย์อยู่ ก็มีการประเมินว่าสุดท้ายแล้วไม่เกินกลางปีนี้ร้านค้าถูกใจก็น่ายุติบทบาทลง ซึ่งโครงการนี้ได้จัดสรรงบประมาณ 1,320 ล้านบาท มีเป้าหมายดึงร้านค้าโชห่วยทั่วประเทศไม่ต่ำกว่า 1 หมื่นรายเข้าโครงการขายสินค้าราคาถูกตามแหล่งชุมชน

ที่มา : นสพ.มติชน

[puiey]

อ้าว ไปไม่รอดซะงั้น

[๛๏uๅellwu llสulwลิu๏๛]

อ้าว ไปไม่รอดซะงั้น

อิอิ