เสื่อมทราม?

[เสื่อม]

แม่ชีผู้มีชื่อเสียงก็ต้องลดบทบาทอันน่าคลางแคลงใจลงแล้ว เพราะกระแสสังคมส่วนหนึ่ง ...ก็น่าเห็นใจลูกศิษย์ที่ศรัทธาที่อาจจะต้องขาดที่พึ่งทางจิตใจท่ามกลางสังคมอันบรมห่วยแห่งนี้ ณ เมืองสารขัณฑ์ ...(อย่านึกว่าเป็นผลงานรัฐมนตรีนะ เพราะถ้าสังคมไม่มีกระแส ก็ไม่มีทางเคลื่อนองค์มาเล่นลิเกออกสื่อหรอก)

จริง ๆ วิธีการของแม่ชีก็ไม่รุนแรงเท่าอีกสาขาหนึ่งหรอก ที่โปรโมทให้ทุกคนรีบเอาบุญสุมตัว ทำน้อยได้น้อย ทำมากได้มาก ... แต่สาวกในสาขาแต่ละคน หน้าตามีบุญบารมีกันทั้งนั้น แต่หาได้มี "ทานบารมี" ไม่ เพราะมีแต่กอบโกยเข้าตัว ไม่เคยมองคนรอบข้าง ไม่เคยมีน้ำใจให้คนรอบข้่าง จะว่าไปคือ "ดูเหมือนมีศีล แต่จริงแล้วหามีไม่" เอาแต่ข้อเบียดเบียนก็ตกแล้ว  วิธีการชักชวนทำบุญเหมือนการขายตรงอย่างไรอย่างนั้น สำนักงานใหญ่ก็พัฒนาแต่วัตถุจากปัจจัยที่ญาติโยมศรัทธา ... อันนี้จะว่าไปก็ว่าสำนักเขาก็ไม่ได้เต็มปาก ... "โง่เขลาเอง" .... เสื่อมเพราะไม่มีสติปัญญาไตร่ตรอง ... ยิ่งทำบุญ ยิ่งปัญญาต่ำ เพราะอะไรพิจารณากันเอง ... ที่อย่างนี้ไม่เห็นผู้ใหญ่ ผู้มีอำนาจในบ้านเมืองเข้ามาตรวจสอบ หนำซ้ำยังมีการส่งเสริมให้ท้ายกันเข้าไปอีก .... ไม่ต้องปกปิดหรอก ... เขารู้กันทั้งบ้านทั้งเมืองแล้ว ... ข้อที่น่าระวังมากที่สุดสำหรับสาขานี้ คือ การเมือง .... พิจารณากันให้ดีเถิด ... ตอนนี้เห็นเตรียมแคมเปญใหม่แล้ว อาจเปิดตัวตอนเลือกตั้งหรือตอนที่จะแก้พระธรรมคัมภีร์ก็ได้  .."ชิ ตัง เม" แปลว่า เราชนะแล้ว ... คนมีปัญญาน่าจะมองออก

ที่ว่ามาทั้งหมดทั้งสิ้นนี้ อยากจะบอกว่า ... ธรรมะ คือ การใช้ชีวิตและการทำให้ตัวเองและคนรอบข้างให้เป็น "ปกติสุข" ... การสวดมนต์ การบำเพ็ญเพียรภาวนา หรืออื่นใด เป็นเพียงเครื่องมือเข้าหาธรรมะ เป็นเครื่องมือบรรเทากิเลส ไม่ใช่เครื่องมือของการสั่งสมบุญบารมี ควรตั้งหลักให้ดีและใช้เครื่องมือนี้ให้เกิดคุณค่า... คนที่อยู่อย่างปกติสุขได้ย่อมอิ่มไปด้วยความสุข ความสงบ ...

เมื่อทุกคนมีธรรมะ สังคมก็จะไม่ "ทราม" เพราะความเป็นปกติสุขมันหดหายไปเหมือนเช่นทุกวันนี้

[gamezadvd]

หูย อยากจะกด like สัก 100 ที พระสมัยนี้ไม่ขลังเหมือนเกจิอาจารย์รุ่นเก่าๆจริงๆครับ แต่อย่างว่ายุคสมัยเปลี่ยนไป ความเป็นโลกาภิวัตมากขึ้น อะไรๆที่ไม่ดีก็มีตามมาเยอะ