ข่าว:

ทดลองใช้งานบอร์ดตะลุง ที่อยู่ในขั้นตอนการกู้คืนข้อมูล เบื้องต้นมีแต่กระทู้ (ข้อความ) กำลังกู้รูปภาพ ไฟล์แนบต่าง ๆ คาดว่าจะทยอยสมบูรณ์ภายในไม่ช้า

Main Menu

อาคารโรงหมอไคเซ วันวาน-วันนี้

เริ่มโดย หม่องวิน มอไซ, 01:13 น. 01 มี.ค 53

หม่องวิน มอไซ

ในหนังสือชีวิตของมาซาโอะ เซโตะ ผู้ถูกพ่อและญี่ปุ่นทอดทิ้ง เล่ม 1 มีภาพนี้อยู่ครับ


หม่องวิน มอไซ

เรื่องราวเกี่ยวกับหมอไคเซและคุณมาซาโอะ เซโตะนี้ อ.วุฒิชัย เพ็ชรสุวรรณได้เรียบเรียงไว้ในนิตยสาร อบจ.สงขลา คอลัมน์สงขลา_สารคดี ตั้งแต่ปลายปี ๒๕๕๑ ถึงต้นปี ๒๕๕๒ สามารถอ่านได้ที่นี่ครับ
http://www.abjsongkhla.go.th/th/v2/tbl_warasarnlist.php?

โดยขอนำตอนสุดท้ายที่ลงในฉบับเดือนกุมภาพันธ์ ๒๕๕๒ มาลงไว้ที่นี่ เพื่อเป็นข้อมูลประกอบครับ




หม่องวิน มอไซ


หม่องวิน มอไซ

ด้านหน้าครับ
ห้องซ้ายมือบ้านเลขที่ ๔๒ ห้องขวามือบ้านเลขที่ ๔๔


หม่องวิน มอไซ

ภาพถ่ายปี พ.ศ. ๒๕๕๑ ลงตีพิมพ์ในนิตยสาร อบจ.สงขลา ฉบับเดือนพฤศจิกายน ๒๕๕๑ คอลัมน์สงขลา_สารคดี โดย อ.วุฒิชัย เพ็ชรสุวรรณ
จะเห็นว่าอาคารปิดอยู่ แต่เริ่มทาสีแล้ว ยังไม่เสร็จเรียบร้อย


หม่องวิน มอไซ

ในแผนที่แนบท้ายพระราชกฤษฎีกาจัดตั้งเทศบาลเมืองสงขลา พ.ศ.๒๔๗๘
มองเห็นอาคารโรงหมอไคเซ ตั้งอยู่โดดเดี่ยวที่หัวมุมถนนเพชรคีรีตัดกับถนนไทรบุรี ด้านตะวันออกเฉียงใต้ครับ

หม่องวิน มอไซ

ภาพถ่ายทางอากาศจากเครื่องบินปีก ๒ ชั้น เม.ย. ๒๔๗๘ ของคุณพรเลิศ ละออสุวรรณ

๑ โรงหมอไคเซ
๒ วัดดอนรักษ์ (วัดดอนรัก)
๓ เรือนจำ
๔ ที่ทำการเกษตร
๕ บ้านพักรถไฟสงขลา
๖ โรงรถจักรและถังน้ำ
๗ วัดโรงวาส

หม่องวิน มอไซ

ตำแหน่งที่ตั้งของโรงหมอไคเซ
ดอกจันสีม่วงในภาพ
ภาพถ่ายทางอากาศ วันที่ ๕ ส.ค. ๒๕๕๑ โดยพี่ณัฏฐ์ กาญจนโชติ


หม่องวิน มอไซ


หม่องวิน มอไซ

ข้อความบางตอนในหนังสือ ชีวิตของมาโอะ เซโตะ ผู้ถูกพ่อและญี่ปุ่นทอดทิ้ง เล่ม 1
(หน้า 20-23)

ไปสงขลาด้วยเรือบรรทุกสินค้า

เมื่อผมอายุได้ 4 ขวบ คุณพ่อลาออกจากร้านขายยาฮิโนะเดะ แล้ว
ตัดสินใจไปสงขลาทางตอนใต้ของไทย พ่อแม่ลูก 3 คนรวบรวมข้าวของไป
ขึ้นเรือบรรทุกสินค้าซึ่งจอดอยู่ใกล้ ๆ โรงแรมโอเรียนเต็ล ล่องแม่น้ำเจ้าพระยา
ที่คดเคี้ยวออกเดินทางสู่สงขลา เมื่อพ้นปากน้ำออกสู่ทะเลสีคราม เรือก็เริ่ม
กระเพื่อมขึ้นลงและขวาซ้ายมากขึ้น คุณแม่เมาเรืออาเจียนโอ้กอ้าก ทานอะไร
แทบไม่ลง นอนเหยียดยาวอยู่บนเตียง ผมเดินตามหลังคุณพ่อไปที่ต่าง ๆ บนเรือ
คุณพ่อบางครั้งก็เดินไปคุยเล่นกับลูกเรือในห้องบังคับเรือ บางครั้งก็มองไปยัง
ท้องทะเลข้างหน้าจากดาดฟ้าเรืออย่างหงอยเหงา คิดว่าคงเป็นเพราะคิดถึง
บ้านเกิดที่ชิโอะโนะมิซากิ

ในเรือแมวสามสีน่ารักที่ลูกเรือเลี้ยงไว้ ผมเอาเจ้าเหมียวมาไว้ในห้อง
พูดอะไรอยู่คนเดียวและเล่นกับเจ้าเหมียว กลางคืนก็นอนกอดเจ้าเหมียวจน
หลับไปด้วยกัน กลางคืนตื่นขึ้นมา เรือเหมือนกำลังเทียบท่ากลางทางที่ไหน
สักแห่ง มีแสงสว่างจ้าและเสียงเครนดัง "กึงกัง กึงกัง" สั่นสะเทือนเลื่อนลั่น
ขนถ่ายสินค้าอยู่

หม่องวิน มอไซ

เช้าวันที่ 3 หลังออกจากพระนคร ผ่านเกาะใหญ่ เล็ก 2 เกาะที่เรียง
กันเป็นสัญลักษณ์ของสงขลา คือ เกาะแมว และเกาะหนู ตัดผ่านหาดสมิหลา
เทียบท่าสะพานเล็ก ๆ ในทะเลสาบสงขลา เมื่อขึ้นจากเรือก็ได้กลิ่นปลาขึ้นจมูก
เป็นจุดที่ใกล้ตลาดสงขลาที่สกปรกและสับสนวุ่นวาย

คุณพ่อเช่าบ้านหลังใหญ่เป็นตึกฝรั่งสีขาวอยู่ที่มุมถนน ใกล้ ๆ กับวัด
ดอนรัก
เปิดกิจการ "โรงหมอไคเซ" คุณพ่อรักษาคนยากจนโดยไม่เก็บเงิน
จึงเป็นที่รักใคร่ คนไทยเรียกกันว่า "หมอไคเซ" ส่วนคนอิสลามเชื้อสายมลายู
เรียกกันว่า "ด็อกเตอร์จารันจารัน" เป็นที่เคารพยกย่องและรักใคร่ของทุกคน

บ้านของเราหันหน้าไปทางทิศเหนือ แต่ชั้น 2 มีหน้าต่างทั้งสี่ด้าน ลม
ถ่ายเทได้ดี จึงเย็นและอยู่สบาย
ตรงมุมซ้ายกลางติดกับวัดดอนรัก ล้อมรอบ
ด้วยกำแพงที่เต็มไปด้วยตะไคร่ นอกกำแพงนั้นมีต้นโพธิ์ต้นใหญ่ จากตรงนั้น
ห่างออกไปประมาณ 500 เมตรในแนวเดียวกัน  เป็นเรือนจำสงขลาที่อยู่ใน
กำแพงสูงล้อมรอบด้วยอิฐแดง
ด้านขวามือเดินไปตามถนนเพชรคีรีไม่ถึง 10
นาที ก็จะเป็นสถานีรถไฟสงขลาซึ่งเงียบเหงา ข้างสถานีมีโรงแรมรถไฟเก่า ๆ
มุมด้านทิศตะวันตกมีโรงแรมไม้สกปรก แต่มีสาว ๆ แต่งตัวสวยงามมาออกัน
ริมหน้าต่าง ทานอะไรบางอย่างบ้าง คุยกันบ้าง ตกกลางคืนจะเห็นแสงไฟ
จากประภาคารบนเขาตังกวนใกล้หาดสมิหลา

หม่องวิน มอไซ

จากข้อความดังกล่าว
ทำให้ทราบว่าภาพถ่ายภาพนี้ ซึ่งพี่เอนก นาวิกมูลนำมาลงในหนังสือสมุดภาพสงขลา มหาวชิราวุธ ปกสีส้ม พ.ศ. ๒๕๓๖
เป็นภาพที่ถ่ายในปี พ.ศ. ๒๔๗๘ ซึ่งคุณมาซาโอะ เซโตะ (เด็กในภาพ) อายุได้ 4 ขวบครับ


Singoraman

ผมและ อ.วุฒิชัย มีโอกาสโทรศัพท์ ไปพูดคุยกับคุณมาซาโอะ อยู่บ้าง
ท่านขอบคุณสำหรับการรำลึกถึงท่านอยู่ ท่านบอกว่าคิดถึงสงขลาและบ้านหลังนี้มาก

ArChuRa

เรื่องของหมอไคเซเคยลงในหนังสือ ของ อบต. ด้วยใช่มั้ยครับ

หม่องวิน มอไซ

ลงในนิตยสาร อบจ.สงขลาครับ  :D

พี่

รบกวน อ.Singoraman

อยากอ่าน นิตยสาร อบจ.สงขลา ฉบับเดือน กุมภาพันธ์ 2553
โดยเฉพาะคอลัมน์ สงขลา_สารคดี ของ อ.วุฒิชัย เพ็ชรสุวรรณ
จะมาขอรับหนังสือที่ อบจ. ก็ไม่สะดวก

ฉบับเดือน มกราคม 2553 ได้รับแจกที่ท่าแพขนานยนต์สงขลา
พอเดือนกุมภาพันธ์ แวะไปดูที่ท่าแพหลายครั้ง ก็ไร้วี่แวว

ขอความอนุเคราะห์ช่วยประสานกับคนทำเว็บ อบจ.สงขลา
เอานิตยสารฉบับเดือนกุมภาพันธ์ 2553 และ ฉบับต่อไปขึ้นเว็บด้วย

ขอขอบพระคุณล่วงหน้า

หม่องวิน มอไซ

นิตยสาร อบจ.สงขลา ฉบับเดือนกุมภาพันธ์ออกช้าจริง ๆ ด้วยครับ
สงสัยท่านบรรณาธิการภารกิจรัดตัว
รออ่านอยู่เช่นกันครับ  8)

Singoraman

ผมบอกให้ อ.ก้อย ดูกระทู้นี้แล้ว ท่านบอกว่า
ฉบับ เดือน กพ. เสนอเรื่อง "จีนบ่อยาง"
วางตลาดไปเรียบร้อยแล้วแต่ต้นเดือน ตอนนี้คงถึงมือสมาชิกแล้ว
ส่วนการลงในเวปไซด์ มีปัญหาเล็กน้อยเพราะ จนท.ดูแลเวปสอบบรรจุได้เป็นข้าราชการที่ จ.นราธิวาส
ตั้งคนแทนไม่ทัน กำลังหาตัวแทนกันอยู่
สำหรับนิตยสาร อบจ.สงขลา กำหนดออกทุกวันที่ ๑๐ ของเดือน
ท่านที่สนใจรับได้ฟรีที่
๑. อบจ.สงขลา ต.พะวง
๒. อบจ.สงขลา ส่วนหน้า อ.หาดใหญ่ (หน้าวิทยาลัยเทคนิคหาดใหญ่)
๓. ท่านแพขนานยนต์ฝั่ง อ.เมือง
๔. ศูนย์บริการนักท่องเที่ยวเทศบาลนครสงขลา (พิพิธภัณฑ์พะทำมะรง)
๕. หอจดหมายเหตุแห่งชาติฯ (ในสวนสาธาณะหาดใหญ่)
๖. พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติสงขลา
ขออภัยในความไม่สะดวกมา ณ ที่นี้ด้วย

พี่

ขอบคุณ อ.Singoraman

ได้เบาะแสแบบนี้แล้ว จะต้องตามล่าหานิตยสาร มาสะสมไว้เป็นของตนเองโดยด่วนแล้ว
ติดคอลัมน์ สงขลา_สารคดี ของ อ.ก้อย งอมแงม เลย

หม่องวิน มอไซ

สายจากทางสงขลา รายงานมาว่า นิตยสาร อบจ.สงขลา ฉบับเดือนกุมภาพันธ์ ๕๓ ขาดตลาดอย่างรวดเร็ว
ไม่สามารถตามหาจากแหล่งต่าง ๆ ได้ โดยมีสถานภาพสำรวจ ณ ๖ มี.ค. ๕๓ ดังนี้
๑. ท่าแพขนานยนต์ หมดลงอย่างรวดเร็ว
๒. พิพิธภัณฑ์พะทำมะรง มีแต่เล่มเก่า ๆ ๒-๓ ฉบับ
๓. พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ สงขลา ขณะนี้ปิดปรับปรุง

อาจจะมีเหลือที่พะวง และที่หาดใหญ่ ซึ่งไม่ค่อยสะดวกในการเข้าถึงข้อมูลสำหรับชาวเมืองสงขลาครับ  >:(

Singoraman


ฉบับเดือน มีนาคม วางตลาดวันที่ ๑๒ มีนาคม ๒๕๕๓
อย่าลืมติดตามนะครับ

หม่องวิน มอไซ

รบกวน อ. Singoraman ครับ
สายรายงานมาจากสงขลาว่า นิตยสาร อบจ.สงขลา ฉบับเดือนมีนาคม ขาดตลาดอย่างรวดเร็ว ไม่สามารถเข้าถึงข้อมูลได้อีกแล้วครับท่าน  ;D

ในเว็บไซต์ของ อบจ. อ่านได้เพียง ๔ หน้าเท่านั้น  )123456