ข่าว:

ทดลองใช้งานบอร์ดตะลุง ที่อยู่ในขั้นตอนการกู้คืนข้อมูล เบื้องต้นมีแต่กระทู้ (ข้อความ) กำลังกู้รูปภาพ ไฟล์แนบต่าง ๆ คาดว่าจะทยอยสมบูรณ์ภายในไม่ช้า

Main Menu

กิเลสมนุษย์ ตอน..อิจฉามาเลเซีย

เริ่มโดย คุณตุ้มเม้ง, 21:04 น. 25 พ.ย 52

คุณตุ้มเม้ง

ชีวิตเด็กบ้านนอกแถบอ.หนึ่งของจ.นราธิวาส สมัยเมื่อเกือบ50ปีก่อน ไม่มีไฟฟ้า คนฐานะดีก็ใช้ตะเกียง"เจ้าพายุ" คนฐานะล่างๆก็ตะเกียงป๋อง ค่ำแล้วไม่มีเหตุจูงใจให้ไปไหนได้เลย โทรทัศน์เป็นเรื่องเหนือจินตนาการ บรรยายยังไงก็นึกภาพไม่ออก ต่างก็พากันเข้านอน นอกจากนานๆจะมีหนังกลางแปลงมาฉาย จึงจะเป็นความสุขที่จับต้องได้สักครั้ง ฉะนั้น..เสียงจากวิทยุเป็นสื่อชนิดเดียวที่พอจะให้ศึกษาเรื่องราวของโลกอื่นได้ ส่วนนสพ.รายวัน จะมีสิทธิ์ได้อ่านก็โน่น...เจ้าของเขาขยำทิ้งหรือขายให้แม่ค้ากล้วยแขก  กินกล้วยแขกหมดแล้วเอามาคลี่อ่าน แต่มันก็ไม่อัพเดทเท่าวิทยุหรอกน่า
ตอน9ขวบ10ขวบ วันหยุดเรียนผมเคยแอบหนีเตี่ยขึ้นรถไฟไปเที่ยวสุไหงโกลค ไปเช้ากลับเย็น ที่ต้อง"หนีไปเที่ยว"เพราะว่าขอแกก็ไม่ให้ไปหรอก เรื่องค่ารถค่ากินก็ปัญหา เรื่องวัยวุฒิปัญหาใหญ่กว่า มีทางเดียวหาเพื่อนร่วมชะตากรรม ไปมันดื้อๆงั้นแหละ เหตุที่อยากไปนักหนา เพราะแว่วๆเสียงคุยโม้โอ้อวดของเพื่อนๆฐานะดี ที่พ่อแม่เขาพาไป แล้วเดินข้ามสะพานไปฝั่งรันตูปันยังของมาเลเซีย กลับมาโม้ซะ ใครได้ฟังแล้วร้อยทั้งร้อยต้องอยากไป และถ้าไปในนาทีนั้นได้จะไปทันที มันคงเหมือนเมืองสวรรค์ที่จับต้องได้ มันคงมีขนมและของเล่นทุกสิ่งทุกอย่างที่เราใฝ่หา เด็กๆเมืองมาเลย์คงจะหน้าตาแปลกไปจากเรา คงพูดไม่เหมือนเรา และเอ..จะเรียนเก่งเท่าเราไหมหนอ? แล้วโรงเรียนของเขาจะเป็นเรือนไม้มุงด้วยจากอย่างเราอีกไหม? คงไม่หรอก...ฟังจากคนที่ไปเห็นมาแล้ว บอกว่า เด็กนักเรียนที่นั่นเขาพูดภาษาอังกฤษเป็นด้วย มีครูฝรั่งมาสอนด้วย
เป็นครั้งแรกของชีวิต ที่ออกผจญภัยด้วยตัวเอง รู้ทั้งรู้ว่าถ้าเตี่ยจับได้ โทษคืออะไร? แต่กิเลสมันพาไป กิเลสมันคงจะช่วยให้หนักเป็นเบาได้ นั่งรถไฟชม.กว่าๆก็ถึงที่หมาย เดินตามคนหมู่มากข้ามสะพานไป พอถึงเมืองรันตูแล้วเห็นกะตาจริงๆ โอ้โห..ชาตินี้ไม่ตายฟรีแล้ว ได้เห็นสิ่งที่ไม่เคยคิดว่าจะได้เห็น ร้านรวงเต็มไปหมด ของกินของเล่นมีขายดาษดื่น ผู้คนไม่รู้มาจากไหนและจะไปไหน หน้าตาแปลกๆมีทั้งแขกทั้งจีนทั้งฝรั่ง ดูยั้วเยี้ยยังกะหนอนในส้วม นี่หรือรันตู..เกินจินตนาการจริงๆ
จำได้ว่าตอนนั้นมีเงินติดตัว15บาท ที่อุตส่าห์เก็บวันละ25สต.อยู่หลายเดือน อาศัยค่ารถไม่ต้องจ่าย มีแต่ค่าอาหาร2-3บาท ที่เหลือจึงไปซื้อ"ลูกเกด"ได้กล่องเล็ก1กล่อง แค่นี้ก็เกินพอที่จะเอาไปโม้ให้เพื่อนที่ด้อยโอกาสกว่า ได้เห็น และได้อิจฉาเหมือนที่เราเคยอิจฉาคนอื่นมาแล้ว สะใจจัง
จนพ.ศ.2515 ยุคจอมโจรชื่อดัง"มะอีซอ"และคนอื่นๆที่ระดับรองๆลงมา ออกอาละวาดจับคนเรียกค่าไถ่เป็นว่าเล่น โดยเฉพาะคนจีนจะเป็นตัวเลือกแรกๆที่โดนจับ ด้วยสายตาอันยาวไกลของเดี่ย "ถ้าพวกนั้นใส่กางเกงเป็น พวกเราจะอยู่ไม่ได้" ซึ่งก็จริงทุกประการ ดังที่เห็นและที่เป็นในทุกวันนี้ (เอ...เมน) ครอบครัวเราและคนอื่นๆจึงชวนกันอพยพมาเสี่ยงโชคในหาดใหญ่ และอยู่ยาวจนถึงวันนี้
จากที่ได้ไปรันตูของมาเลเซียคราวนั้น ก็ไม่มีโอกาสไปมาเลเซียอีกเลย แต่ในใจยังอยากไปอีก แต่ไกลกว่านี้ มากกว่านี้ โดยคิดตามประสาเด็กว่า ขนาดรันตูยังตระการตาเหลือเกิน แล้วเมืองอื่นๆล่ะ ไม่ใหญ่โตโอฬารกว่านี้หรือ? มีโอกาสจะต้องไปเที่ยวให้ได้
จนพ.ศ.2518 สมัยเรียนอยู่เทคนิคภาคใต้ ใจกล้าหน้าด้าน จัดทััวร์ไปปินังทั้งที่ไม่เคยไป อาศัยหาอ่านเอาจากวารสารในห้องสมุด แล้วหาข้อมูลตามคิวแท็กซี่และบริษัททัวร์ในหาดใหญ่ จนสามารถหลอกเพื่อนๆน.ศ.ให้จ่ายเงินซื้อทัวร์เราจนเต็ม44ที่นั่ง สมัยนั้นมาเลเซียยังไม่เข้มงวดรถที่จะเข้าประเทศ เลยใช้รถสายหาดใหญ่-สะเดา-ปาดังสีแดงแปร๊ด เลือกคันที่สภาพสวยที่สุด แล้วจ้างคนขับของโพธิ์ทองขับเข้าไป ทุกอย่างฉลุย ยอมรับว่าทั้งเราและลูกทัวร์ต่างประทับใจเมืองนี้มาก สัญญากันว่าถ้าจัดอีกจะมาอีก แต่ก็ไม่ได้ทำตามสัญญา เมื่อต่างก็แยกย้ายไปประกอบอาชีพตามถนัดคนละทิศละทาง จนมาระยะ2-3ปีมานี้เอง ที่ได้มีโอกาสขับรถเข้าไปเที่ยว แล้วก็ไปอีกหลายๆครั้ง หลายๆเมือง บางที่ไปแล้วไปอีกไม่มีเบื่อ เช่นปินัง ต้องไปอย่างน้อยปีละครั้ง มันบอกไม่ถูกว่ามีอะไรประทับใจนักหนา ถึงไปได้ไม่เบื่อ ทุกครั้งที่ขับรถเข้าเขตเมืองปินัง หัวใจมันจะเต้นแรง ตื่นเต้นเหมือนเพิ่งมาครั้งแรกทุกครั้ง อยากแนะนำคนที่ไม่เคยขับรถเข้าไป ลองดูนะรับรองได้อรรถรสมากมาย (น้ำมันเขาถูกกว่าเราครึ่งราคาด้วย อ๊อกเทนสูงกว่าด้วย)
สิ่งที่ประัทับใจมาเลเซียนั้นมีหลายประการ เอาตั้งบนสุดลงมา
1.ผู้คนส่วนใหญ่เคารพกฏหมาย แม้แต่กฏจราจรก็หาคนฝ่าไฟแดงยาก
2.รัฐบาลเขาอนุรักษ์อาคารเก่าได้ดีเยี่ยม สมควรแล้วที่ได้มรดกโลก
3.ผู้คนหลายเชื้อชาติแต่อยู่กันกลมเกลียวและกลมกลืนดี
4.ระบบขนส่งทุกประเภท...ยอมรับว่าเยี่ยมยอด จะไปไหนมาไหนสะดวกมาก
5.เขาทิ้งเราไปหลายช่วง ยากที่จะตามทัน  ฯลฯ (ยังมีอีกแต่จำไม่ได้)
ผมขอเสนอสโลแกนแปลกๆประหลาดๆแต่กินใจ
อยากพัฒนาชาติไทย ไปเที่ยวมาเลเซีย
 

August_hkt

ก็จริงนะ ไม่เข้าใจ ทำไมรถในมาเลเซียวิ่งกันเป็นระเบียบเรียบร้อยจัง ไม่เห็นเหมือนหาดใหญ่เลย
คนมาเลย์เคารพในกฎระเบียบ นี่ก็จริง แต่สงสัยอยู่บ้านเองคงเก็บกด ก็เลยมาระบายออกในหาดใหญ่
เห็นมาเลย์ในหาดใหญ่ไม่เห็นจะเป็นระเบียบเลย หรือเพราะกฎหมายไทยหลวมแฮะ
เค้าอนุรักษ์อาคารเก่าก็จริงอีก  สวยๆ ทั้งนั้น

แต่ ถ้าจะบอกว่ามาเลย์ทิ้งช่วงไทยไปเยอะก็ดูจะไม่ค่อยจริงเท่าไหร่ อิอิ คนไทยไม่แพ้ชาติใดในโลก
และ อาหารไทยอร่อยที่สุดในโลก  อาหารมาเลย์ไม่อร่อยเลยอ่ะ

superman000000

เมืองไทย อ่อนเรื่องการบังคับใช้กฎหมาย คนมีอำนาจก็พยายามเลี่ยงกฎหมาย (จนบางทีผู้มีอำนาจใช้กฎหมาย ก็ท้อแท้ เลือกใช้กฎหมายกับคนที่ดูไม่ค่อยมีอำนาจ)

ตุ้มเม้ง

เรื่องอาหารและคนมาเลย์ในเมืองไทย ใช่เลยครับ
อาหารมาเลย์ไม่ถูกปากคนไทยแน่นอน เพราะอะไร? เพราะเราคนไทย มีปมด้อยมาตั้งแต่เกิด ประเทศเรามีอาหารการกินสมบูรณ์พูนสุข หลากหลายรูปแบบทั้งคาวหวาน รสชาติจัดจ้าน เป็นทั้งอาหารและยา ผลไม้มี108ชนิด มีให้กินทั้งปีทั้งชาติ ทำให้เราได้รับแต่สิ่งดีๆเหล่านี้จนเป็นเรื่องปรกติ แต่พอคนไทยต้องออกไปต่างบ้านต่างเมือง ไปกินอาหารของเขาจะไม่ถูกปากไปหมด สู้อาหารไทยไม่ได้ นี่แหละปมด้อย
คนมาเลย์ประเภทนอกลู่นอกทางก็มี ไม่ใช่ไม่มี แต่ตอนอยู่ประเทศเขา ไม่สามารถจะทำอะไรที่ผิดกฏระเบียบได้เลย กฏหมายเขาเอาจริง ฉะนั้น...มาเลย์และสิงคโปร์พวกนี้เวลามาเมืองไทย เข้าทางเขาเลย ได้ปลดปล่อย จากประเทศที่เข้มงวด สตริ๊ก มาเจอประเทศที่อ่อนปวกเปียก หยวนๆ วิชามารที่เคยเรียนมา ก็ถือโอกาสมาใช้ที่นี่ซะเลย เช่นพวกปลอมบัตรเครดิต,พวกค้ายา,พวกค้าผู้หญิงและเด็กฯลฯ จะมีข่าวโดนตำรวจไทยจับได้(บางส่วน)บ่อยๆ
สำหรับผมเรื่องอาหารมาเลย์ ใหม่ๆก็อึดอัดบ้าง นานๆเข้าพยายามทำตัวให้กลมกลืนกะเขา ก็กินได้สบายๆ กินไปทำใจไป แต่ใช่ว่าจะขี้เหร่ไปซะหมด ที่อร่อยๆจริงๆก็มี บางชนิดอร่อยกว่าบ้านเราด้วยซ้ำ แต่ต้องขยันเวียนหาหน่อย

August_hkt

จริงค่ะ  เพราะเหตุนี้ประเทศไทยจึงได้รับการขนานนามว่าเป็นครัวโลก (ถึงจะมีปมด้อยก็เหอะ)  :)

ถึงอยู่แคว้นใด ไม่สุขสำราญ เหมือนอยู่บ้านเรา ชื่นฉ่ำค่ำเช้า สุขทวี

warodako

นั่นสิครับ พวกนี้(ส่วนใหญ่)ไร้วัฒนธรรมจริงๆเวลามาบ้านเรา