ข่าว:

ทดลองใช้งานบอร์ดตะลุง ที่อยู่ในขั้นตอนการกู้คืนข้อมูล เบื้องต้นมีแต่กระทู้ (ข้อความ) กำลังกู้รูปภาพ ไฟล์แนบต่าง ๆ คาดว่าจะทยอยสมบูรณ์ภายในไม่ช้า

Main Menu

บททดสอบ"มาตรฐานประเทศไทย"

เริ่มโดย คนปลายซอย, 10:25 น. 23 พ.ค 56

คนปลายซอย

ยุครัฐบาลระบอบทักษิณครองเมือง "อะไรมันก็เกิดขึ้นได้ทั้งนั้น" ฉะนั้น กรณีไฟฟ้าดับ "ทั่วภาคใต้" ๑๔ จังหวัด ร่วม ๕ ชั่วโมง จากหัวค่ำเกือบเที่ยงคืนเมื่อ ๒๑ พ.ค.๕๖ นั้น...ทำใจเถอะพี่น้อง ถึงรัฐมนตรีพลังงาน ผู้บริหาร กฟผ.-กฟภ.ยกเหตุแจงให้ทราบ แต่ถ้าถาม "นั่นใช่ความจริงไหม" ผมบอกได้เพียงว่า "มีหูก็ฟังไว้" ส่วนจะเชื่อ-จะใช่หรือไม่....

บอกตรงๆ...รัฐบาลนี้ มีอะไรที่พูดแล้วเชื่อได้บ้างล่ะ?

ไม่อยากโทษ ไม่อยากถาม กับฝ่ายไหนทั้งสิ้น ในความเป็นประชาชนที่ถูกปกครองและมอมเมาให้โง่เข้าไว้ ยังมีอะไรที่ไม่เคยเกิดในเมืองไทย รัฐบาลนี้ก็จะทำให้เกิด-ให้เห็นกันอีกหลายเรื่อง

ไม่ต้องรีบตกใจกันไปหรอก!

เสือกจะมีรถไฟความเร็วสูงวิ่ง โธ่...ไอ้เวร แค่บริหารไฟฟ้าไม่ให้ดับแบบไร้สาระนานครั้งละ ๔-๕ ชั่วโมงอย่างนี้ ยังไม่มีปัญญา แล้วสะเออะจะมีรถไฟความเร็วสูง ถามคนไทย ๖๔ ล้านคนดูซิ เอาแค่เคยนั่งรถไฟถึงก็ช่าง..ไม่ถึงก็ช่าง ดั้งเดิมนี่แหละ

ใน ๖๔ ล้าน มีถึง ๓๐ ล้านคนมั้ยที่เคยนั่ง?

สำมะหาอะไรที่จะต้องมีรถไฟความเร็วสูง อยากมีนั้นไม่เถียง แต่มีแล้วมันสนองตอบความจำเป็นต้องใช้สำหรับคนไทย-เมืองไทยมั้ย คำตอบคือ...แค่พัฒนารถไฟความเร็วระบบรางคู่ก็เหลือเฟือแล้ว ขืนมีรถไฟความเร็วสูงขนผักเมื่อไหร่

โละทั้ง ครม. ขายทั้งตัว ขายทั้งตูด ก็ยังไม่คุ้มทุน!

ผมไปทดสอบนั่งมาแล้ว ๔-๕ ประเทศ เร็วน่ะ..มันเร็ว แล้วมีคนใช้บริการคุ้มมั้ย...ไม่คุ้ม ขืนเชื่อชัชชาติ ฉิบหายทั้งชาติ บอกไม่เชื่อ เหมือนเห็นเขาใส่เสื้อนอกมันเท่ ก็ไปตัดตามเขา บางคนยันตายก็ไม่มีงานต้องใส่ไป แค่ใส่มาปากซอย หมาก็เห่าเกรียวแล้ว

"รถไฟความเร็วสูง" ก็ประมาณนี้ ถ้าอยากทำจริงๆ ต้องทำสาย "ตะวันออก-มาเลเซีย" เริ่มจาก พัทยา-โคราช-สุวรรณภูมิ-กรุงเทพฯ-ชะอำ-หัวหิน-ประจวบฯ-ภูเก็ต-สุราษฎร์ฯ ลงใต้เรื่อยไปจนถึง นครศรีฯ-ปัตตานี-หาดใหญ่ บรรจบมาเลเซียโน่น

นี่...แบบนี้ ดูจะตอบโจทย์การท่องเที่ยว มีลูกค้าต่างชาติพอจ่ายค่าโดยสารเที่ยวละราคาน้องๆ เครื่องบินราคาประหยัดมาใช้บริการแออัดเหมือน BTS ส่วนสายอื่นๆ ที่ประกาศทำ ผมดูแล้ว ถ้าไม่ให้จีนหรือใครลงทุนเอง ขืนทำเอง "เจ๊ง" ลูกเดียว

ยกเว้นต้องการทำเพื่อ "อั้ม..." อย่างเดียว!

นี่ยังไม่เกี่ยว "ไฟดับ" โดยประเทศไม่มีแผนสำรองฉุกเฉิน ที่ต้องขอแรงคนโดยสารลงมาช่วยกันเข็นรถไฟความเร็วสูงของชัชชาติเขา เพราะจอดแช่รอไฟไม่ได้

เดี๋ยวผัก "นางสาวยิ่งลักษณ์" เน่าหมด!

ประเทศที่ลงทุนพัฒนาทีละ ๒.๒ ล้านล้าน แต่ไฟฟ้าระดับพื้นฐานประเทศ "ดับทั้งภาค" ร่วมครึ่งคืน ดับท่ามกลางความมะงุมมะงาหราระบบรัฐ ร่วม ๒๔ ชั่วโมง ยังตอบประชาชนเป็นเสียงเดียวกันไม่ได้ว่า "ดับด้วยสาเหตุใด" ปล่อยให้พูดกันไปส่งเดชทั้งวัน

แบบนี้ มันสะท้อนวิสัยทัศน์ และภาวะแห่งคณะบริหาร "ระดับประเทศ" ลองปล่อยให้ไฟดับเป็นวงกว้างและยาวนานขนาดนี้ แต่ไม่มีปัญญารับมือเฉพาะหน้า มันก็ฟ้องถึงว่า

ตลอดมา...บริหารกันแบบหาเช้า-กินค่ำ กระทั่งแผนไฟสำรองยามประเทศสู่ภาวะฉุกเฉินก็ไม่มี ไม่ต้องพูดด้านธุรกิจ-เศรษฐกิจอันเห็นอยู่

ด้าน "ความมั่นคง-ปลอดภัย" เป็นมาตรฐานประเทศ อยู่ตรงไหน?

ตอบซิ...นางสาวยิ่งลักษณ์ แต๊ดแต๋ไปนอกอีกแล้วหรือ กระทรวงพลังงานที่มี รัฐมนตรีก็น้ำลายหยด-น้ำลายย้อยบริหารกันแต่ด้านธุรกิจการค้ารัฐวิสาหกิจ ส่วนพลังงานเพื่อความมั่นคงพื้นฐานประเทศ ไฟขาด-ไฟดับกันที ก็จะมีแผนธุรกิจเป็นลำไพ่เฉพาะกาลกันที

ทางจอทีวี....ลอยหน้าสั่งการ!

"ทดสอบ" ปิดซ่อมท่อส่งก๊าซจากพม่า ประเทศไทย-โดยรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ยังพล่านเหมือนสติแตกเพ้อพกตั้งหวอรูม เป็น "สถานการณ์สร้างวีรบุรุษ" เพื่อเป็นจุดเชื่อมโยงไปสู่เป้าหมายของใครบางคนหรือเปล่า จนถึงวันนี้ สุภาพบุรุษจุฑาเทพยังสงสัย

ปีหน้าคงฉายอีก...หนังม้วนเก่า!

ดับ "ทดสอบ" ความพร้อม ๑๔ จังหวัดใต้ ปรากฏว่าศักยภาพรับมือระบบรัฐ "บ่มิไก๊" ถ้าต่อไปมีการทดสอบ "ดับกรุงเทพฯ-ภาคกลาง" ถามว่า...วันนี้ รัฐบาลมีความพร้อมรับสถานการณ์ขนาดไหน อย่าเอาแต่ลอกหน้าหาความหล่อกันอยู่ คิดหาช่องทางรับมือ-รับสถานการณ์ไว้เถอะ

น้ำก็ท่วมแล้ว ก๊าซก็ตัดแล้ว ไฟก็ดับแล้ว สำหรับรัฐบาลพรรค์อย่างนี้ เหตุอัปรีย์ไม่คาดฝัน มันปุบปับ-ฉับพลัน เกิดให้ประเทศชาติ-ประชาชน เผชิญได้เสมอ!

ถ้าเกิด "ทดสอบ" ดับทั้งประเทศซัก ๔-๕ ชั่วโมงล่ะ รัฐบาล-พลังงาน-กฟผ.-กฟภ.-กฟน.รวมถึงหน่วยความมั่นคงรัฐ เคยคิดประเด็นนี้กันบ้างหรือยัง ?

อย่าตั้งสมมุติฐานเฉพาะด้านบวกอย่างเดียว ลองตั้งด้านลบดูบ้าง จะได้เกิดคำถามบนความรับผิดชอบจากหน่วยงานตัวเองว่า

"ถ้าอย่างนี้ แล้วจะยังไง?"

ระบบบริหารไทย สบายกันมานาน สบายจนหลังขึ้นขน ไม่เคยคิดนำปัญหา คอยแต่รอให้ปัญหาเกิดแล้วค่อยมาออกทีวีแก้ตัวกับประชาชน ทั้งรัฐ ทั้งหน่วยงานรัฐ ถนัด "ซื้อ" อย่างเดียว

ไม่คิดแก้-คิดเผชิญปัญหาจริงจัง คิดแต่ "ซื้อเวลา" เป็นอาชีพ อย่างการจัดหาพลังงาน สร้างโรงไฟฟ้าถ่านหิน-นิวเคลียร์ อ้างแต่ประชาชนต่อต้าน แล้วก็ซื้อเวลาชนิดเวิ้งว้างเหมือนขอบฟ้า ไม่มีภาวะผู้บริหารที่ต้องรับผิดชอบงาน

เวลามีปัญหาถึงตัวก็อ้าง...ประชาชนไม่เอา...คนพื้นที่ต่อต้าน!

งานอะไรบ้างล่ะที่ไม่มีปัญหา เมื่อรู้ว่ามีปัญหาและแก้ไม่ได้...อยู่ทำไมล่ะ หลีกให้คนที่เขามีศิลปบริหารคน-บริหารปัญหามาแก้ไม่ดีกว่าหรือ จะได้ไม่จนจ่อกระดอจู๋อยู่กันแบบไฟดับวันไหน ได้แต่ชี้หน้าเอาตัวรอดว่า...ก็ไอ้พวกนั้นมันไม่ให้สร้าง

ประชาชนไม่ได้มีเอาไว้เพื่อโทษ ชาวบ้านแต่ละพื้นที่ เขามีสิทธิ์สงสัยในเมื่อมี "สิ่งแปลกปลอม" เช่นโรงไฟฟ้าเข้ามาตั้งอยู่ในพื้นที่ทำมาหากิน และที่ดำรงชีวิตประจำวันพวกเขา

รัฐบาล รวมถึงการไฟฟ้าฝ่ายผลิต ไม่มีสิทธิ์อ้างปัญหา อ้างการต่อต้านชาวบ้าน เพื่อที่จะไม่รับผิดชอบในการจัดหาพลังงานให้เพียงพอทั้งปัจจุบันและอนาคต

การต่อต้านของประชาชนเป็นเพียง "สัญชาตญาณป้องกันตัว" ไม่ใช่ปัญหา

การที่รัฐบาลและ กฟผ.ไม่ให้ความรู้ "เป็นความเข้าใจ" ที่ถูกต้องกับประชาชน นั่นแหละคือปัญหา!
ต้นตอมาจากไหน....?

ดูตัวอย่างที่เห็น จากนโยบาย "บริหารให้ประชาชนโง่เข้าไว้ ง่ายต่อการปกครอง" นั่นแหละ ตัวอย่างที่คาตา "ยุบโรงเรียนเล็ก" อ้างเด็กน้อย เปลืองครู-เปลืองงบ

แต่เสือกจะให้ซื้อรถตู้เป็นร้อย-เป็นพันคันรับส่งนักเรียน ซึ่งใครๆ ก็รู้ว่า รถ ๑ คัน มันกี่ล้าน แล้วน้ำมัน คนขับ ค่าซ่อม ค่ารักษา ค่าอะไหล่ หนึ่งปี-หนึ่งพันคัน...ฉิบหายเกลี้ยง

ลงทุนพัฒนาคน ให้คนที่พัฒนาแล้วไปลงทุนกับวัตถุ มีแต่ผลเป็นกำไรชาติ แต่การลงทุนกับวัตถุก่อนพัฒนาคน ความกลัว-ความจนอยู่กับชาวบ้าน แต่พวกรัฐบาลมันรวย!

"โรงไฟฟ้า" มันต้องสร้างได้ ไม่ใช่เตะหมูเข้าปากหมา อ้างประชาชนต่อต้าน ก็ขนความมั่นคงด้านพลังงานไปเป็นอาหารเสริมกันที่ทวาย ตามแผนไอ้วายร้ายตัวนั้น

ทุกวันนี้ เราใช้ภาพเก่าๆ จากโรงไฟฟ้าถ่านหินแม่เมาะ ลำปาง มาพูด-มาย้ำ จนเป็นความเชื่อ "ฝังใจ" ว่ามันสร้างมลพิษภาวะสุดๆ ผมเห็นพากันไปดูงานโรงไฟฟ้าต่างประเทศกันมากมาย แล้วทำไมกระทรวงพลังงาน-กฟผ.ไม่ลองใช้แผน "สิบปากว่า ไม่เท่าตาเห็น" กับประชาชนคนไทย จาก "ของจริง-ของไทย" เราเองบ้างล่ะ?

๗๗ จังหวัด คัด-จัดเป็นคิวให้ครบทุกจังหวัด ตั้งแต่ระดับนักเรียน ถึงระดับผู้ใหญ่ พามาดู-มาสัมผัส "โรงไฟฟ้าแม่เมาะ" ให้เห็นของจริงกับตาว่า สมัยก่อนนั้นจริง..สร้างมลพิษภาวะ

แต่ทุกวันนี้ การพัฒนาด้วยเทคโนโลยีทันสมัย และด้วยความรับผิดชอบของ กฟผ.

อากาศในรัศมีโรงไฟฟ้าแม่เมาะเป็นร้อยๆ กิโลฯ บริสุทธิ์-สดชื่น ปราศจากมลพิษภาวะ กว่าอากาศในตัวเมืองทั้งหลาย กระทั่งในกรุงเทพฯเป็นร้อยเท่า-พันเท่า ซึ่งทดสอบได้ด้วยเครื่องวัดมาตรฐานโลก!

ใช้ "โรงไฟฟ้าแม่เมาะ" นั่นแหละเป็นโมเดล เปิดให้ประชาชนทุกคนที่ "สงสัย-ต้องการพิสูจน์" เข้าไปพิสูจน์ถึงความปลอดภัย ไม่สร้างมลพิษภาวะเกินค่ามาตรฐานให้เป็นที่ประจักษ์

ไปให้เห็นกับตา ไปทดสอบอากาศบริสุทธิ์ด้วยจมูกตัวเอง แล้วค่อยตัดสินใจว่า "โรงไฟฟ้าถ่านหิน" ยุคใหม่ สมควรให้ กฟผ.สร้างหรือไม่ให้สร้าง.

http://www.thaipost.net/news/230513/73957

หมีเห็น

เกิดเป็นคนไทยยุคนี้(ภาษีอาน)ต้องทำใจ จำใจ ที่สำคัญต้องอดทนกับสันดานของเหล่านักการเมืองโหล้ยโท้ยเส็งเคร็ง และ ทน-อด ในยุคน้ำมันแพง เพราะบวกสารพัดภาษีสิบกว่าบาทต่อลิตร แต่ไม่ได้พัฒนาประเทศให้เจริญก้าวหน้าตามยอดเงินภาษีที่ปล้นสดมภ์ไปจากประเป๋าของประชาชนทั้งประเทศ เก่งแต่สร้างโปรเจกค์กินค่าหัวคิวร้อยละ 30 เป็นอย่างต่ำ ล็อคสเปคฮั้วงานผลาญงบฯเป็นแบบนี้ทุกยุคทุกสมัย ส่วนภาคประชาชนก็มั่วแต่เสือกเรื่องชาวบ้าน(ไม่สนใจปัญหาปากท้อง ค่าครองชีพ)มัวแต่บ้าก่อม็อบประท้วงเรื่องการเมืองที่ไร้สาระ โดยนักการเมืองเป็นผู้ได้รับผลประโยชน์จากการใช้ม็อบมาเป็นเครื่องมือต่อรอง ทุกวันนี้ประเทศไทยย่ำอยู่กับที่ในขณะที่เพื่อนบ้านอาเซียนอย่างมาเลย์และอินโดฯที่เคยล้ำหลังเดินแซงหน้าทั้งด้านเศรษฐกิจ การเมืองและสังคม ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แม้แต่เวียตนาม ลาว เขมรและพม่า ซึ่งล้าหลังเราก็เริ่มเดินมาจนจ่อใกล้เรามากแล้ว และคิดว่าอาจจะเดินแซงหน้าไทยเราไปไม่เกินสิบปีข้างหน้า ถ้าเรายังย่ำอยู่กับที่เพราะคนไทยไร้สติ ไร้รักสามัคคี และไม่ปฏิรูประบบการเมืองไทยให้เหมือนนานาอารยะประเทศอื่น ที่สามารถป้องกันและลงโทษ นักการเมืองและข้าราชการที่คดโกงแผ่นดิน ฉ้อฉนประชาชน ให้เข็ดขลาบและสูญพันธ์ ส.โอ้โห ส.โกรธอย่างแรง ส.สั่งสอน