ม.อ.เผยเป้าหมาย 10 ปี แผนวิจัยแก้ปัญหาชายแดนใต้

[ทีมงานบ้านเรา]

ม.อ.เผยเป้าหมาย 10 ปี แผนวิจัยแก้ปัญหาชายแดนใต้ หวังการพัฒนาสังคมอย่างยั่งยืน มีภูมิคุ้มกัน

มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ เผยโครงการวิจัยเพื่อแก้ปัญหาความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ วางเป้าหมายระยะ 10 ปี นับจากเหตุการณ์เริ่มส่อเค้ารุนแรงขึ้น โดยตั้งเป้ามีงานวิจัยและวิทยานิพนธ์ 883 ชิ้นงาน ซึ่งเกินกว่าครึ่งเน้นหนัก ด้านการศึกษา สังคม การบริหารจัดการ ผลงานส่วนใหญ่เป็นลักษณะการทดสอบและรวบรวมองค์ความรู้ การอธิบายปรากฏการณ์ ใช้วิธีวิจัยเชิงปริมาณ ที่มุ่งเสนอทางออกในการแก้ไขปัญหาความไม่สงบเพิ่มขึ้น และเป็นผลงานในเชิงคุณภาพ โดยนักวิชาการผู้เชี่ยวชาญ

รองศาสตราจารย์พีระพงศ์ ฑีฆสกุล ผู้อำนวยการสำนักวิจัยและพัฒนา ได้แจ้งต่อสภามหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ถึงโครงการวิจัยเพื่อแก้ปัญหาความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ของมหาวิทยาลัย ซึ่งได้วางเป้าหมายในช่วงระยะเวลา 10 ปี ว่า ใน 3 ปีแรก นับจากเริ่มเหตุการณ์รุนแรง มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ เริ่มทำการวิจัยเพื่อลดสถานการณ์ความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ หลายชุดโครงการ เช่น โครงการวิจัยสถาบันครอบครัวใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ชุดโครงการมิติเศรษฐกิจในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ โครงการฐานทรัพยากรและความมั่นคงทางอาหาร โครงการฟื้นฟูและสัมฤทธิผลของการฟื้นฟูเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากปัญหา 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ โครงการรูปแบบการจัดการศึกษาใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และ ชุดโครงการศึกษา มิติเชิงสถาบันว่าด้วย ธรรมาภิบาลในการบริหารจัดการแก้ปัญหาพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้

จากการทำวิจัยในระยะเริ่มต้น สามารถได้หลายแนวทางในการพัฒนาพื้นที่ เช่น แนวทางการลดสถานการณ์ความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ การลดปัญหาในกลุ่มเด็กและเยาวชน ได้ตัวแบบการพัฒนาสถาบันครอบครัวใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ตัวแบบเศรษฐกิจที่เหมาะสมกับพื้นที่สามจังหวัดชายแดนใต้ ได้รูปแบบที่มีประสิทธิภาพและเหมาะสมในการฟื้นฟูเยียวยา และ ได้ข้อเสนอแนะเชิงนโยบายในการจัดการฐานทรัพยากร และ ความมั่น คงทางอาหารที่เหมาะสม

หลังจากนั้น มีการจัดทำแผนต่อเนื่อง โดยนำองค์ความรู้ที่ได้ใน 3 ปี ไปสู่การวิจัยเชิงปฏิบัติการ เพื่อหาแนวทางในการฟื้นฟูเศรษฐกิจ สังคม และวัฒนธรรม ใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และนำสู่การวิจัยแนวเฝ้าระวัง และเตือนภัยทางนโยบาย เศรษฐกิจ สังคม วัฒนธรรม และระบาดวิทยา โดยคาดว่า ใน 10 ปีหลังจากการเริ่มต้นโครงการ จะสามารถได้แนวทางในการพัฒนา3 จังหวัดชายแดนภาคใต้อย่างยั่งยืนเข้มแข็ง มีภูมิคุ้มกัน และมีสังคมที่พัฒนามีความเป็นอยู่ที่ดี

กรรมการสภามหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ได้ให้ความสนใจ โดยเห็นว่ามหาวิทยาลัย ซึ่งเป็นสถาบันอุดมศึกษาในพื้นที่ควรถือเป็นเรื่องใหญ่ และควรช่วยกันผลักดันเพราะมีแนวโน้มว่าเหตุการณ์จะเพิ่มความรุนแรงยิ่งขึ้น แต่ควรเป็นแผนการวิจัยที่เป็นระยะสั้นโดยมีการตั้งสมมุติฐานเอาไว้ว่า อะไรคือสิ่งที่จะนำความสงบให้กลับคืนมา

มีหลายแนวทางที่ได้มีผู้เสนอเอาไว้และน่าสนใจ เช่น การกระจายอำนาจให้ท้องถิ่นได้มีการจัดการตนเอง การลดปัญหาความยากจน ปัญหาปากท้อง โดยส่งเสริมอุตสาหกรรมอาหารฮาลาล การทำประมง และส่งเสริมด้านกิจกรรมที่เป็นที่สนใจและเป็นความถนัดของคนในท้องถิ่น เช่น ศิลป ดนตรี การเล่นกีฬา

ภาคใต้เป็นพื้นที่ที่มีความอุดมสมบูรณ์เรื่องทรัพยากรธรรมชาติ ทั้งในส่วนที่นำมาผลิตเป็นอาหารและพลังงาน เช่น ดิน ลม น้ำ ป่าไม้ จนในบางครั้งพืชที่ใช้เป็นอาหารและพืชพลังงาน จะแยกกันไม่ได้ ดังนั้น ในการพัฒนาควรคำนึงถึงลำดับความสำคัญเป็นหลัก บางประเทศในยุโรปจะมีการห้ามนำพืชอาหารมาแปรเป็นพลังงาน เนื่องจากให้ความสำคัญกับปากท้องมากกว่า การแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นในพื้นที่บริเวณชายแดนเป็นเรื่องที่มีความซับซ้อน เนื่องจากเป็นจุดกึ่งกลางระหว่างส่วนที่มีความแตกต่างกัน เช่นเดียวกับความซับซ้อนของระบบนิเวศป่าชายเลน ซึ่งตั้งอยู่กลางระหว่างบกกับทะเล เป็นสิ่งที่มหาวิทยาลัยซึ่งเป็นสถาบันการศึกษาในพื้นที่ สามารถนำมาเป็นโจทย์วิจัยเพื่อแก้ปัญหาได้

[Ooh..NO]

โครงการนี้ ดีมากๆๆๆๆ แต่สุดท้าย ก็ตายกับเจ้าหน้าที่ลงปฏิบัติงาน....ทำงานไม่ได้เรื่อง.....คอรัปชันกันระบบ..