ข่าว:

ทดลองใช้งานบอร์ดตะลุง ที่อยู่ในขั้นตอนการกู้คืนข้อมูล เบื้องต้นมีแต่กระทู้ (ข้อความ) กำลังกู้รูปภาพ ไฟล์แนบต่าง ๆ คาดว่าจะทยอยสมบูรณ์ภายในไม่ช้า

Main Menu

หนี้ หลังตาย... ช่วยตอบทีครับ

เริ่มโดย อ่านแล้วทำไงต่อดี, 11:49 น. 23 พ.ค 54

อ่านแล้วทำไงต่อดี

นางแจ่มชัด เสียชีวิตไป เมื่อเดือน มกราคม ปีนี้เอง

ธนาคาร ซิตี้แบงค์ ได้ส่งใบเรียกเงิน
มาเก็บ ค่าธรรมเนียมประจำปี ของบัตรเครดิต
ซึ่ง มาถึงเธอ ในเดือนกุมภาพันธ์ และมีนาคม
พร้อมทั้งเรียกเก็บ ค่าปรับ ที่เธอชำระล่าช้า
พร้อมดอกเบี้ยของยอดที่ เรียกเก็บ
ซึ่งในความเป็นจริง เธอไม่ได้ใช้บัตรนั้น มาตั้งแต่ วันที่ตาย
แต่บัดนี้ ยอดทั้งหมดที่เรียกเก็บ
กลายเป็น จำนวน สองพันกว่าบาท เข้าไปแล้ว

ญาติของเธอ จึงโทรศัพท์ไปยังธนาคาร
ญาติผู้ตาย :
ดิฉันโทรมาแจ้งว่า คุณแจ่มชัด เสียชีวิตแล้วคะ ตั้งแต่เดือนมกราคม
เจ้า หน้าที่ธนาคาร :
ยังไม่มีการแจ้งปิดบัญชีนะคะ
ดังนั้น ค่าปรับ การชำระช้า จึงต้องเรียกเก็บคะ
ญาติ ผู้ตาย :
งั้น... ช่วยยกเลิกบัตรให้ ได้ไหมคะ
เจ้า หน้าที่ธนาคาร :
แต่มันช้ามาสองเดือนแล้วนะคะ ที่เรียกเก็บไม่ได้
และธนาคารได้ออกใบเรียก เก็บไปแล้วคะ
ญาติผู้ตาย :
ตามปกติ ถ้าลูกค้าเกิดตายไป ทางธนาคารจะจัดการอย่างไรต่อคะ
เจ้า หน้าที่ธนาคาร :
เราอาจต้องแจ้งหน่วยคดีฉ้อโกง หรือไม่ ก็แจ้งไปยังเครดิตบูโร
( ส่วนงานที่จะคอยเก็บประวัติการมีเครดิตของคนประเทศไทยก็มีคะ)
หรือไม่ ก็แจ้งไปทั้งสองที่คะ
ญาติผู้ตาย :
แล้วยมบาลจะโกรธเธอไหมคะ ? ( ฉันชอบ คำถามนี้ของตัวเองจริงๆ)
เจ้า หน้าที่ธนาคาร :
อะไรนะคะ ?
ญาติ ผู้ตาย :
คุณได้ยินหรือเปล่าคะ ที่ดิฉันบอกว่า เธอตายไปแล้วน่ะคะ
เจ้า หน้าที่ธนาคาร :
รอสักครู่คะ คุยกับหัวหน้าดีกว่าคะ

สักครู่... หัวหน้ารับโทรศัพท์ไปพูดต่อ...

ญาติ ผู้ตาย :
ดิฉันโทรมาแจ้งให้ทราบ ว่า
เจ้าของ บัตร เสียชีวิตไป ตั้งแต่เดือน มกราแล้วคะ
หัว หน้าธนาคาร :
ยังไม่มีการแจ้งปิดบัญชีนะครับ
ดังนั้น ค่าปรับ การชำระช้า จึงต้องเรียกเก็บครับ
( สงสัย เป็นประโยคที่ทางธนาคาร มีไว้ให้ใช้ ตอบกับลูกค้า)
ญาติ ผู้ตาย :
หมายความว่า จะต้องเรียกเก็บจากที่ดินของเธอหรือคะ
หัว หน้าธนาคาร :
(ชักเริ่มติดอ่าง) คุณเป็นทนายความของเธอ หรือครับ ?
ญาติ ผู้ตาย :
เปล่าคะ ดิฉันเป็นเหลนของเธอน่ะคะ (ทนายสอนให้บอกเช่นนี้)
หัวหน้าธนาคาร :
กรุณาช่วยแฟกซ์ ใบมรณบัตรของเธอ มาได้ไหมครับ
ญาติผู้ตาย :
ยินดีคะ (ทางธนาคารแจ้งเบอร์แฟกซ์)

หลังจากได้รับแฟกซ์เรียบร้อย...

หัว หน้าธนาคาร :
ทางระบบของเรา ไม่ได้บอกว่า
จะให้จัดการอย่างไร ในกรณีที่ลูกค้าเสียชีวิต
ผมก็ไม่ทราบว่า จะช่วยเหลือคุณ ได้อย่างไร
ญาติผู้ตาย :
อ๋อคะ คิดต่อไปนะคะ
ถ้ายังคิดไม่ออก ก็เรียกเก็บเงินเธอไปเรื่อยๆ ก็แล้วกัน
เธอคงไม่ว่าอะไรหรอกคะ
หัวหน้าธนาคาร :
ครับ ? ค่าปรับ การชำระช้า ก็ต้องเรียกเก็บต่อไปนะครับ
ญาติ ผู้ตาย :
ไม่ทราบต้องการที่อยู่ใหม่ของคุณยายทวดไหมคะ
หัว หน้าธนาคาร :
ดีเลยครับ
ญาติผู้ตาย :
บริเวณปากน้ำ แม่น้ำเจ้าพระยา สมุทรปราการคะ
หัวหน้าธนาคาร :
ขอประทานโทษครับ... นั่นมันเป็นแม่น้ำนี่ครับ
ญาติผู้ตาย :
อ้าว!! ... แล้วเวลาญาติพวกคุณตาย เอาอังคารไปลอยแถวไหนหรือคะ

gamezadvd

ที่เล่ามานี่เรื่องจริง หรือเรื่องสมมติครับ ถ้าเรื่องจริงอันนี้จะเป็นความผิดของธนาคารก็คงไม่ได้ เพราะตราบใด้ที่ยังไม่ปิดบัญชี หนี้สินต่างๆ มันก็จะยังอยู่(แถมเพิ่มด้วยเพราะดอกเบี้ย) หากจะแนะนำก็คงแนะนำให้จ่ายเงินแล้วปิดบัญชีจะเป็นทางออกที่ง่ายที่สุด แต่หากไม่อยากจ่ายเงินก็อาจจะรอดูทางธนาคารว่าเขาจะเอายังไง แต่โดยกระบวนการของเขาแล้วเบื้องต้นเขาก็จะ ทวงถามหนี้สินให้ถึงที่สุด เมื่อทวงถามจนถึงที่สุดแล้วไม่ได้ เขาอาจจะ 1.ส่งเรื่องต่อให้สำนักงานทนายความตามทวงหนี้ต่อ 2.ส่งเรื่องต่อให้หน่วยงานหรือบริษัทที่รับทวงหนี้ และเมื่อที่สุดแล้วยังไม่ได้รับการชำระก็ดูต่อว่าเขาจะเอาเรื่องฟ้องเป็นคดีทางแพ่งหรือไม่ หรือจะตัดเป็นหนี้สูญพร้อมแบล็กลิสต์ในเครดิตบูโร(แต่ยอดเงินแค่สองพันกว่าๆ ไม่แน่เขาอาจจะตัดเป็นหนี้สูญพร้อมแบล็กลิสต์ในเครดิตบูโร เพราะนางแจ่มก็เสียชีวิตไปแล้ว)