ประจำเดือนมาผิดปรกติ กับ10คำถามแห่งชีวิต

[pa_เฟี๊ยว]

   ประจำเดือนมาผิดปรกติ กับ10คำถามแห่งชีวิต

   สตรีดีกว่าบุรุษเรื่องหนึ่ง คือมื "ประจำเดือน" แต่บางท่านอาจท้วงว่า เป็นปรากฎการณ์ธรรมชาติที่แสนลำบากและยุ่งยาก(จะตายไป) ไหนจะต้องเตรียมตัว เตรียมเสื้อผ้าและทำกิจกรรมสนุกๆก็ไม่ได้ ยิ่งเป็นนักกีฬายิ่งลำบากใหญ่

   แท้จริงแล้วนั่นเป็นเพียงเรื่องเล็กๆน้อยๆเท่านั้นค่ะ เมื่อเทียบกับหน้าที่อันยิ่งใหญ่ของประจำเดือน นั่นคือการช่วย "เตือนสุขภาพ" ให้เรา เราจะรู้ตัวก่อนว่ามีความผิดปรกติอะไรเกิดขึ้นกับตัวเราบ้าง ธรรมชาติสร้างประจำเดือนขึ้นมาด้วยเหตุนี้ค่ะ เป็นเสมือนไฟแดงและธงแดงที่เตือนว่า อย่านิ่งนอนใจจนเกินไป

สิ่งใดที่ประจำเดือนเตือนเราได้บ้าง!? กับ10คำถามตัวอย่าง หลักๆแห่งชีวิต

   1)   ร่างกายอ่อนแอ
   ไม่แข็งแรงเป็นจำเลยแรก ประจำเดือนหายแบบไม่ใช่เรื่องท้องเลยค่ะ ในท่านที่กำลังเจ็บไข้ไม่สบาย นอนดึก มีความเครียดสูง จะมีผลทำให้ฮอร์โมนผิดปรกติไป ส่งผลทำให้ประจำเดือนขาดหาย หรือไม่มาได้ ในกรณีนี้ แก้ไขได้โดยดื่มน้ำสะอาดให้เยอะๆ, นอนแต่หัวค่ำ, ออกกำลังกาย และงดใช้ร่างกายอย่างหักโหมไปก่อนค่ะ

   2)   ตกไข่ผิดปรกติหรือไข่ไม่ตก
   สิ่งที่น่าจับตาคู่กับประจำเดือนไม่มา นอกจากเรื่องท้อง คือ ความผิดปรกติของการ "ตกไข่" ในช่องท้องเรา เพราะปรกติแล้วไข่ต้องตกก่อน จากนั้นจึงมีประจำเดือนมา แต่ถ้าไข่ไม่ตก ประจำเดือนก็จะไม่มาได้ เหตุที่ไข่ไม่ตกนั้น ก็มีอยู่เช่น เป็นสาวน้อยเพิ่งเริ่มมีระดู และผลของไข่ที่ตกไม่สม่ำเสมอ นั่นก็อาจจะนำไปสู่เรื่องการมีลูกยากได้ด้วย

   3)   ถุงน้ำลามเต็มรังไข่
   เรื่องของถุงน้ำที่ฟังดูนุ่มนิ่มนี้ ถ้าไปเกิดที่รังไข่เต็มไปหมด ก็จะมีหน้าตาเหมือนพวกองุ่นห้อยอยู่ 2ปีกในช่องท้อง ถาวะนี้จะทำให้ประจำเดือนขาดหายไป เด็กสาวจะมีไรหนวดขึ้นมาได้ อีกทั้งร่างกายก็จะจ้ำม่ำ เกิดภาวะทางอารมณ์ขึ้นมาได้ ถ้าเห็นเด็กคนไหนประจำเดือนไม่มาเสียที แถมรูปร่างยังเจ้าเนื้อ ก็ให้นึกถึงภาวะนี้ไว้ด้วยค่ะ

   4)   เลือดจาง
   โลหิตจางนำไปสู่ภาวะของประจำเดือนที่ผิดปรกติได้ค่ะ ตั้งแต่ประจำเดือนมาน้อง, สีเข้ม, มาอยู่แค่1-2วันก็หายไป อันนี้แค่หาโอกาสไปเจาะเลือดตรวจดู "ความสมบูรณ์ของเม็ดเลือด" ก็พอจะบอกได้ หรือใครที่มีโรคเลือดจาง "ธาลัสซีเมีย" แฝงอยู่ ก็จะมีประจำเดือนผิดปรกติได้เช่นกันค่ะ

   5)   โรคไทรอยด์
   ความผิดปรกติของต่อมไทรอยด์ จะทำให้ประจำเดือนมาผิดปรกติไป บางครั้งทำให้มาขาดๆหายๆ บางครั้งทำให้หายไปเลยก็มี โรคไทรอยด์มีได้ทั้งแบบเป็นพิษและแบบไทรอยด์ต่ำ สาวๆอาจสังเกตได้ร่วมกับอาการหงุดหงิดง่าย, ใจสั่น, น้ำหนักลด และแน่นอนคือประจำเดือนที่มาเพี้ยนไปค่ะ

   6)   ฮอร์โมนเพศผิดปรกติ
   ความผิดปรกติของฮอร์โมนเพศเป็นต้นว่า รังไข่ทำงานผิดปรกติไป หรือต่อมใต้สมองที่เคยควบคุมมดลูกแล้รังไข่ผิดปรกไป จะส่งผลทำให้เกิดมหกรรมความผิดปรกติของประจำเดือนครั้งใหญ่ เกิดการผันผวนของการตกไข่ ซึ่งส่งผลต่อวงจรการหนาตัวของเยื่อบุมดลูก ภาวะฮอร์โมนผิดปรกตินี้มักทำให้มีอาการทางระบบอื่นร่วมด้วย เช่น ประจำเดือนมาผิดเวลา หรือว่ามีสิวเห่อขึ้นเต็มหน้า

   7)   เยื่อบุมดลูกโตผิดที่ และช็อกโกแลตชีสต์
   ซึ่งอาการประจำเดือนเพี้ยนในกรณีนี้มักร่วมกับ อาการปวดท้องน้อยที่มากมายได้ ท่านที่มีอาการปวดประจำเดือนรุนแรงอยู่ทุกเดือน ขอเตือนให้ลองตรวจ "อัลตร้าซาวน์" ดู เพราะถ้าเจอแล้วจะแก้ได้ค่ะ ทำให้ไม่ต้องทนปวดนรกอยู่ทุกๆเดือน หรือถ้าจะลองแก้วิธีง่ายๆดูก่อน โดยใช้วิธีออกกำลังกายวันละครึ่งชั่วโมง ร่วมกับการนอนก่อนสี่ทุ่มค่ะ

   8)   มดลูกและอุ้งเชิงกรานผิดปรกติ
   เช่น มีอุ้งเชิงกรานอักเสบ, ติดเชื้อภายใน, เนื้องอกมดลูก ที่มักเรียกกันว่า "ไมโอม่า" สารพัดโรคเหล่านี้มีผลทำให้ประจำเดือนผิดปรกติไปได้

   9)   เตือนวัยทอง
   วัยพิเศษก็มากับอาการพิเศษที่เฉพาะเจาะจงลงไปกับป้า น้า อา วัยนี้แหละค่ะ ช่วงเลือดจะไปลมจะมา ประจำเดือนเริ่มจะมาแบบติดๆดับๆ อาการมีระดูที่แตกต่างดังนี้เป็นวิธีเตือนของธรรมชาติว่า ประจำเดือนใกล้หยุดที่ป้ายหน้าแล้ว

   10)   ตั้งครรภ์
   อยากขอเตือนเรื่องตั้งครรภ์ไว้ว่า ถ้ามี "เลือดออกผิดปรกติ" อย่านิ่งนอนใจนะคะ เพราะมันอาจเสี่ยง "ท้องนอกมดลูก" หรือ "แท้งรกเกาะต่ำ" หรือ "ครรภ์ไข่ปลาอุก" ก็อาจเป็นได้ โดยผู้เขียนมีประสบการณ์ตรงตอนขณะตั้งครรภ์ คือเกิดภาวะ "ท้องคลืบแคลง" มาแล้วค่ะ

   และทั้งหมดก็คือสิ่งที่อาจเกิดขึ้นได้เมื่อผู้หญิงเรามีประจำเดือนผิดปรกติค่ะ ซึ่งเราจะละเลยไม่ได้ และไม่ใช่ว่าผู้ที่ไม่มีประจำเดือนแล้วจะไม่ต้องกังวลใดๆนะค๊ะ เพราะถ้าจู่ๆประจำเดือนที่หายไปกลับมาใหม่ ก็ให้ระวังให้ดี เพราะอาจเป็น "เนื้องอก" หรืออาจร้ายแรงถึงขั้นเป็น "มะเร็ง" ที่เกิดขึ้นภายในก็ได้ค่ะ

   ฝากไว้เทคนิคสำคัญอย่างสุดท้ายให้กับสาวๆที่มีปัญหาประจำเดือนอีกนิดว่า ถ้ามี "เลือด" ที่ไม่ใช่ประจำเดือนมา เราควรจะต้องหาสาเหตุให้เจอ และ "การตรวจภายใน" นั้น เป็นเพียงเรื่องจิบจ้อย เมื่อเทียบกับโรคภัยไข้เจ็บจากภายในมดลูกที่ไม่น้อยเลย การนิ่งเฉยไว้ คงไม่ใช่คำตอบที่ดีแน่นอนค่ะ


   ..............................................................
   อ่านและเรียบเรียงข้อมูลสุขภาพจาก ksks:ฉบับที่807  ขอขอบคุณค่ะ ...