ระบำปลายมีดพรรคประชาธิปัติย์...

[ฟานดี้]

สังเกตมั้ย ที่ว่า "หนัก" นั้น ทักษิณไม่ได้วางน้ำหนักคู่สัประยุทธ์ชิงเมือง-ชิงประเทศ "ขั้นแตกหัก" ไว้ที่กองทัพประชาชนโค่นล้มระบอบทักษิณ แต่กลับวางไว้ที่ "อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ"
ประมุขหน้าหยกประชาธิปัตย์!?
ทักษิณออกทำศึกรอบนี้เอง โดยใช้ตำแหน่ง "นายกฯ กระสือ" สอยไส้-ลอยหัว เลาะไปรอบๆ ประเทศสั่งการและออกอาวุธเอง ส่วนอาวุธที่ใช้หนักไปทางทวิตเตอร์ ด้วยข้อความถี่ยิบ...เป็นรายวัน
ทวีตวันที่ ๔ สิงหา. ให้ราคากองทัพประชาชนฯ เป็นม็อบตังค์ทอน ม็อบอกหัก ม็อบพวกว่างงาน นอกนั้น ทั้งวันที่ ๔ และ ๕ ทวีตเทน้ำหนักทั้งหมดไปฟัดกับอภิสิทธิ์ ด้วยประเมินว่า
การแพ้ถาวร หรือ การชนะเด็ดขาด ของเขา เพื่อประกาศว่า...ระบอบทักษิณครอบครองประเทศนี้ได้เสร็จสมบูรณ์แล้ว อยู่ที่ต้อง "น็อกประชาธิปัตย์" ให้สลบเหมือดคาสภาฯ
ผ่าน พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ในวันที่ ๗ สิงหานี้ให้ได้!
เพราะการกลืนประเทศให้เป็น "แดงทั้งแผ่นดิน" ทักษิณสถาปนา จะเบ็ดเสร็จเด็ดขาดไม่ได้ ตราบใดที่ยังมี "ประชาธิปัตย์-อภิสิทธิ์" เหลือเป็นหนามผงาดเงี่ยงตำตีนอยู่อีกชิ้นในแผ่นดินนี้!
การทำให้ประชาชน "หมดหวัง-หมดศรัทธา" ในตัวอภิสิทธิ์และพรรคประชาธิปัตย์ได้ นั่นเท่ากับสิ้นขวากหนามในการสถาปนาอำนาจครองประเทศ บนเส้นทางการเมืองระบบรัฐสภา
-------
ผมว่าในศึกรอบปิดฉาก "เทวาสุรสงคราม" ครั้งนี้ ไอ้ตัวพี่ชายออกอาการ "เต้น" มากกว่าตัวน้องสาว เห็นชัดตั้งแต่ ๔ สิงหา ๕๖ พอ "กองทัพประชาชนโค่นล้มระบอบทักษิณ" สั่นกระดิ่งเท่านั้นแหละ โดดออกฉาก "ร้องเอง-รำเอง" โดยไม่ต้องเข้าสิงร่างให้ยิ่งลักษณ์ร้องและรำ
แสดงว่า "ศึกนี้หนักนัก"!
แต่สังเกตมั้ย ที่ว่า "หนัก" นั้น ทักษิณไม่ได้วางน้ำหนักคู่สัประยุทธ์ชิงเมือง-ชิงประเทศ "ขั้นแตกหัก" ไว้ที่กองทัพประชาชนโค่นล้มระบอบทักษิณ แต่กลับวางไว้ที่ "อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ"
ประมุขหน้าหยกประชาธิปัตย์!?
ทักษิณออกทำศึกรอบนี้เอง โดยใช้ตำแหน่ง "นายกฯ กระสือ" สอยไส้-ลอยหัว เลาะไปรอบๆ ประเทศสั่งการและออกอาวุธเอง ส่วนอาวุธที่ใช้หนักไปทางทวิตเตอร์ ด้วยข้อความถี่ยิบ...เป็นรายวัน
ทวีตวันที่ ๔ สิงหา. ให้ราคากองทัพประชาชนฯ เป็นม็อบตังค์ทอน ม็อบอกหัก ม็อบพวกว่างงาน นอกนั้น ทั้งวันที่ ๔ และ ๕ ทวีตเทน้ำหนักทั้งหมดไปฟัดกับอภิสิทธิ์ ด้วยประเมินว่า
การแพ้ถาวร หรือ การชนะเด็ดขาด ของเขา เพื่อประกาศว่า...ระบอบทักษิณครอบครองประเทศนี้ได้เสร็จสมบูรณ์แล้ว อยู่ที่ต้อง "น็อกประชาธิปัตย์" ให้สลบเหมือดคาสภาฯ
ผ่าน พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ในวันที่ ๗ สิงหานี้ให้ได้!
เพราะการกลืนประเทศให้เป็น "แดงทั้งแผ่นดิน" ทักษิณสถาปนา จะเบ็ดเสร็จเด็ดขาดไม่ได้ ตราบใดที่ยังมี "ประชาธิปัตย์-อภิสิทธิ์" เหลือเป็นหนามผงาดเงี่ยงตำตีนอยู่อีกชิ้นในแผ่นดินนี้!
การทำให้ประชาชน "หมดหวัง-หมดศรัทธา" ในตัวอภิสิทธิ์และพรรคประชาธิปัตย์ได้ นั่นเท่ากับสิ้นขวากหนามในการสถาปนาอำนาจครองประเทศ บนเส้นทางการเมืองระบบรัฐสภา
ดังนั้น เมื่อประชาธิปัตย์-อภิสิทธิ์ ประกาศใช้การผ่าน-ไม่ผ่าน พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ฉบับวรชัย วางเป็นเดิมพันในการทำศึกทั้งในและนอกสภาฯ ทักษิณจึงไม่รอช้า...สั่ง
ไอ้หน้าริ้วปลาแห้ง...มึงเดินหน้าลุย ห้ามถอน!
เกมนี้ ประชาชนเชื่อ และเทความหวังทั้งหมดในการต้าน พ.ร.บ.ล้างโทษโจรไว้ที่อภิสิทธิ์ ดังนั้น พรุ่งนี้ (๗ ส.ค.) ถ้าอภิสิทธิ์คือประชาธิปัตย์ รบไม่ชนะรัฐบาลทักษิณ ปล่อยให้ นปช.เพื่อไทยออกกฎหมายล้างโทษตัวเองได้สำเร็จ
อภิสิทธิ์ ก็แปลว่า "ไม่สำเร็จ" คือ ล้มเหลว!
และล้มเหลวนั้น จะเป็น "แพ้ถาวร" ของประชาธิปัตย์ ถ้าไม่สามารถทำตามแนวทางที่ประกาศไว้บนเวทีผ่าความจริง "ต่อสู้-ขัดขวางทุกวิถีทาง" มิให้โจรออกกฎหมายล้างโทษโจร ถึงขั้นมีผลบังคับใช้
แต่ถ้าประชาธิปัตย์ โดยอภิสิทธิ์ ทำตามคำสัญญาที่ให้กับประชาชนไว้บนเวทีผ่าความจริงได้ครบถ้วนทุกขั้นตอน ถึงต้านไม่สำเร็จตามกรอบกฎหมายที่พึงทำได้
แพ้นั้น...ยังพออภัย
แต่อภิสิทธิ์จะต้องแปลว่า "ไม่สำเร็จ" ตลอดไป!
ถ้าประเมิน กำลัง-โอกาส-สถานการณ์-มวลชน แล้ว ระหว่าง นปช.เพื่อไทยกับประชาธิปัตย์เวลานี้ ด้านกำลัง-โอกาส และมวลชนส่วนหนึ่ง จะเป็นของรัฐบาล
ส่วนของประชาธิปัตย์จะมี สถานการณ์ และมวลชนอีกส่วนหนึ่ง!
เรียกว่าฝ่ายรัฐบาลเหนือกว่าเกือบครึ่ง แต่ก็นั่นแหละ ในความเหนือ-ความด้อยนั้น ผลสุดท้ายว่าฝ่ายใดจะชนะ เงื่อนไข "สถานการณ์" เป็นแฟ็กเตอร์สำคัญ
ในเมื่อตัวสถานการณ์อยู่ทางด้านประชาธิปัตย์ ถึงจะแพ้ด้านกำลัง-โอกาส แต่เมื่อสถานการณ์เหนือกว่า แถมมีมวลชนอยู่อีกส่วน จากเสียเปรียบ กลายเป็นก้ำกึ่งทันที!
รัฐบาลเสียด้านเงื่อนไขสถานการณ์ นอกจาก "ขุยตัวเอง" ปิดทางเดินสะดวกตัวเอง จนทำให้กำลังและโอกาสมีกรอบจำกัดแล้ว ด้วยสถานการณ์ที่ไม่เอื้อนั้น เท่ากับเป็นตัวทอนขวัญกำลังใจ เป็นตัวดึงการเดินหน้าของรัฐบาล
อีกทั้งการจัดลำดับความสำคัญของเรื่องจะนำเข้าสภาฯ ก่อน-หลัง แทนที่จะกำขี้ นำเรื่อง ๒ ล้านล้านกับเรื่องงบประมาณเข้าก่อน กลับไปกำตด ด้วยการเอา พ.ร.บ.นิรโทษเผือกร้อนมาเผาตัวเอง
สรุปแล้ว ที่รัฐบาลดูเหมือนได้เปรียบ แต่...กลับแพ้เชิงกล!
- โครงการประชานิยมหลายๆ โครงการกำลังพาเศรษฐกิจประเทศพัง จำนำข้าวทำทั้งประเทศสูญเงินนับล้านล้านบาท ทั้งตลาดข้าวพินาศยับเยิน
- การยกโขยงโจรเผาบ้าน-เผาเมืองเข้ามากินเงินเดือนหลวงผ่านตำแหน่งข้าราชการการเมือง ชนิดตั้งกันไม่จบ-ไม่สิ้นเกือบทุกนัด ครม.เป็นโบนัสที่ทำร้ายประเทศ ฆ่าทหารก็ดี
- การกู้เงินโครงการน้ำ ๓.๕ แสนล้าน โครงการราง ๒ ล้านล้าน โดยไม่มีการศึกษาความเป็นไปได้ ไม่มีแบบแปลนและราคากลางในการประมูล เท่ากับเปิดช่องทุจริต-คอรัปชั่นก็ดี
- การเผาบ้าน-เผาเมืองกันเอง ทุจริตเชิงนโยบายกันเอง ต้องโทษ ต้องคดีอาญากันเอง แล้วใช้พวกมากระบบรัฐสภาออกกฎหมายหวังล้างโทษให้กันเองก็ดี
- การเป็นนายกฯ ของยิ่งลักษณ์ ถามอะไรก็ตอบแต่ว่าไม่รู้ แล้วบอกปัด "มีอะไรให้เอาไปพูดกันในสภาฯ" แต่ตัวเองหนีประชุมสภาฯ ตลอด ไม่อ้างงานภายในก็เดินสายต่างประเทศ ไปปาฐกถาขายหน้า-ขายประเทศ ด้วยเรื่อง "ด้วยความเจ็บปวดของครอบครัวดิฉัน" ก็ดี
เหล่านี้ ผลของมันล้วนเป็น "สถานการณ์" ทำลายศรัทธาที่ตัวเอง-ทำเอง บวกกับขณะนี้-เวลานี้ การแก้ปัญหา ๓ จังหวัดใต้สไตล์คุณหนูลองงาน ตูมมมม...ทหารตาย ตูมมม...ครูตาย ตูมมม...ชาวบ้านตาย
รัฐบาล โดยภราดรก็บอก...เดี๋ยวไปถามมาเลย์ กับนายตอยิบก่อน!?
ล่าสุดเย็นวาน ผู้นำศาสนาอิสลามประจำมัสยิดกลางปัตตานี ซึ่งเป็นที่เคารพนับถือของคนอิสลามและคนพุทธ ตลอดไปถึง ๓ จังหวัดใต้ ถูกขบวนการโจร ๓ จว.ใต้ จ่อยิงศีรษะเสียชีวิตกลางตลาด
การเจรจาสันติภาพที่ทักษิณยืมมือมาเลย์ร่วมสร้างภาพผ่านโต๊ะเจรจา โดยให้น้องสาวผู้เป็นนายกฯ ไปเซ็นรับรู้ หวังรางวัลสันติภาพโนเบล
จบสนิทด้วย "โนเบรน" แค่นี้!
หรือยิ่งลักษณ์ยังประสงค์ทำหน้าที่ประชาสัมพันธ์แก้ต่างให้ BRN ด้วยการให้ "พล.ท.ภราดร" ไปถามมาเลย์กับนายตอยิบ เพื่อตอบว่า...เป็นมือที่สามสร้างสถานการณ์ สวมรอยเป็น BRN เทียม มายิง!?
นี่ก็เป็นสถานการณ์ล่าสุด ทอนกำลังและโอกาสในการ "อยู่ต่อ" ของรัฐบาลที่ทักษิณซึ่งบ้าอยู่แล้ว ยิ่งบ้าหนักขึ้น และยิ่งใกล้ตุลาที่ศาลโลกจะมีคำตัดสินคดีตีความคำพิพากษาศาลโลก ปี ๐๕ เรื่องขอบเขตปราสาทพระวิหาร
สถานการณ์ที่ไม่เอื้อความมั่นคงรัฐบาลขณะนี้อยู่แล้ว มีความเป็นไปได้สูงที่ "คำชี้ขาดศาลโลก" เมื่อออกมา จะมีผลเท่ากับคำชี้ขาด
"รัฐบาลระบอบทักษิณเป็นพิษ"!
ส่วนด้านกำลัง ถึงรัฐบาลจะมีกองทัพตำรวจ มีกองทัพ นปช. มีกองทัพชายชุดดำ แต่วันนี้ด้วยโกงแล้วแบ่งปันไม่ลงตัว หลายๆ อย่าง ทำให้ไม่เหมือนเดิมแล้ว
โดยเฉพาะแนวรบด้านกองทัพ รอยต่ออำนาจระหว่างรัฐบาลกับทหารที่เคยมีระยะถี่ห่างอยู่ช่วงหนึ่ง ถึงยิ่งลักษณ์จะนั่ง กห.ให้เห็นก็เถอะ แต่เมื่อวาน (๕ ส.ค.) พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ.บอก..."อยากยืนยันว่า ทหารมีหน้าที่ในการปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมาย เราเป็นทหารของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว...........
ผมยืนยัน ทหารอยู่ในบทบาทของทหาร เหตุการณ์ในประเทศคนไทยต้องร่วมมือแก้ปัญหา โดยไม่ให้เสียทั้งกฎหมายและการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข การที่คนลือกัน ทำให้ต่างประเทศขาดความเชื่อมั่นและประชาชนตื่นตระหนกเสียขวัญ กลายเป็นผลประโยชน์ให้คนปล่อยข่าว การไปพูดจาให้ร้ายกล่าวอ้างถึงสถาบัน คนเหล่านี้แย่มาก
ผมเคยบอกเสมอว่า พระองค์ท่านไม่เคยลงมาเกี่ยวข้องกับความขัดแย้ง ดังนั้น จะไปลือว่า ท่านเสด็จฯ ไปประทับที่หัวหิน เพื่อโน่น-เพื่อนี่ ผมว่าไม่เป็นธรรมกับพระองค์ท่าน
.............ตราบใดที่เราเป็นองค์กรของรัฐและเจ้าหน้าที่ ถ้าทำผิดกฎหมายเสียเองจะแก้ปัญหาไม่ได้ แต่ถ้าประชาชนเดือดร้อน บาดเจ็บสูญเสีย ทหารพร้อมจะดูแล แต่ไม่อยากให้ไปถึงจุดนั้น การที่บอกว่าจะเกิดเหตุการณ์ แล้วทหารจะออกไปทำอะไร ขอบอกว่า ถ้าทหารจะออกมา ก็ออกมาดูแลประชาชน
ขอให้ทุกคนสบายใจ ทหารยังอยู่กับท่านเสมอ อย่ากันทหารออกไปโน่น-ไปนี่ ขอให้ทหารอยู่ในจุดที่อยู่ได้ดีที่สุดดีกว่า เมื่อถึงเวลาบ้านเมืองเดือดร้อน ถ้าท่านทำลายเครดิตทหาร แล้วทหารจะไปอยู่ตรงไหน?"
ครับ...ขอเราทั้งหลาย จงเดินไปบนเส้นทางปัจจุบัน ด้วยมีสติรู้อยู่กับปัจจุบัน อนาคตยังมาไม่ถึง ไม่ต้องไปคิดอยากดู-อยากรู้ รู้ไว้แต่เพียงว่า "สภาปฏิรูปการเมืองแห่งชาติ" ที่พูดกันมานาน-แสนนาน
นั่นคือสัญญาณปัจจุบัน "สู่อนาคตการเมือง" ว่าด้วยเรื่อง "ระบบบริหารประเทศ" ช่วงเช็ดเลือดให้แผ่นดินสะอาด.

โดย..เปลวสีเงิน