ข่าว:

ทดลองใช้งานบอร์ดตะลุง ที่อยู่ในขั้นตอนการกู้คืนข้อมูล เบื้องต้นมีแต่กระทู้ (ข้อความ) กำลังกู้รูปภาพ ไฟล์แนบต่าง ๆ คาดว่าจะทยอยสมบูรณ์ภายในไม่ช้า

Main Menu

เกือบครบเทอมพอดี

เริ่มโดย itplaza, 09:33 น. 14 ส.ค 56

itplaza


"สมีคำ" มา "เจนี่ เทียนโพธิ์สุวรรณ์–ชนม์สวัสดิ์ อัศวเหม" ล่าสุด "น้องเมย์"รัชนก อินทนนท์...

4 คนนี้คือคนที่นายกฯยิ่งลักษณ์ ชินวัตร และรัฐบาลพรรคเพื่อไทย น่าจะต้องส่งช่อดอกไม้หรือต่อสายตรงไปแสดงความขอบคุณในคุณูปการที่มีต่อรัฐบาล

ช่วยกลบกระแสข่าวม็อบต้าน "นิรโทษกรรม" หายไปจากกระดาน

ผ่านยกแรกไปแบบสบายๆ คืบหน้าเข้าสู่ชั้นการพิจารณาของกรรมาธิการฯ

แผนเปิดทางให้ "นายใหญ่" กลับบ้าน ลากไปถึง "กลางซอย" แล้ว

แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ว่ากันตามจังหวะบังเอิญที่เข้าทางรัฐบาลมีเรื่องใหญ่ๆของสมีฉาว ประเด็นของดารา หรือเรื่องน่าปลื้มของนักกีฬาสาวไทยมากลบกระแสในห้วงนาทีเดิมพัน

หรืออีกชั้นหนึ่งก็มีการมองว่า กระบวนการของกฎหมายนิรโทษกรรมยังแค่ยกแรก ต้องมียกสองยกสามให้ตามลุ้นกว่าจะออกมาเป็นกฎหมายมีผลบังคับใช้

อย่างที่พรรคประชาธิปัตย์ประกาศโหมโรงไว้ จะยื้อทุกวิถีทางในขั้นตอนการพิจารณาชั้นกรรมาธิการฯ และถึงจะผ่านวาระสามแล้วก็จะลากไปฟ้องศาลรัฐธรรมนูญ

มุกสุดท้ายอยู่ที่การปลุกม็อบต้านบนท้องถนน

ตามท้องเรื่องเดิมพันนิรโทษกรรมยังไม่ถึงจุดพีกสุด

อย่างไรก็ตาม ถ้ายอมรับความจริงกัน ฝ่ายต้าน "ทักษิณ" เองก็คงอยู่ในภาวะ "ใจแป้ว" จากปรากฏการณ์ต่อเนื่องที่ม็อบต้านรัฐบาล "ยิ่งลักษณ์" ถือฟืนเปียกจุดไฟไม่ติด ซ้ำแล้ว
ซ้ำเล่า จากม็อบแช่แข็งประเทศไทย เปลี่ยนตัวละครเปลี่ยนฉากใหม่มาในรูปกองกำลังเสนาธิการร่วมล้มระบอบ "ทักษิณ"

ก็ยังแป้กแล้วแป้กอีก "ทหารเฒ่า" เรียกแขกไม่ได้

และจริงๆไม่ต้องพูดถึงม็อบคนกลางๆ อารมณ์ของคนที่ไม่มีส่วนได้ส่วนเสียทางการเมือง ที่จะออกมาเป็นแนวร่วมม็อบไล่รัฐบาลโดยธรรมชาติ

ขนาดรอบนี้ตัวจริงเสียงจริงพรรคประชาธิปัตย์โดดออกจากฉากหลังมาฉากหน้า เปิดหน้าเปิดตาเกณฑ์ม็อบนอกสภากันอย่างโจ๋งครึ่ม

ตามศักยภาพที่มีฐานเสียงแน่นหนาในเมืองกรุง ภาคกลาง และปักษ์ใต้

แต่เอาเข้าจริงก็มาได้แค่เต็มลานใต้ทางด่วน

ชนวนระเบิดด้าน สังคมไทยเบื่อม็อบเต็มที

ที่สำคัญสถานการณ์ด้านทุนน้ำเลี้ยงม็อบยังมีจำกัด ประชาธิปัตย์ก็ไปไม่เป็นเหมือนกัน

หนทางตีบตัน "จนแต้ม" อย่างที่ปรมาจารย์ระดับ "ชวน หลีกภัย" ลงทุนนำม็อบมาจ่อได้แค่ถนนรอบนอกสภา ฝ่าด่านสกัดของเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ได้

สุดท้ายจำใจต้องเดินเท้าเข้ามาประชุมเฉพาะทีม ส.ส.

และสถานการณ์มาถึงตอนนี้กลายเป็นว่า "อภิสิทธิ์ เวชชา-ชีวะ" กับ "เทพเทือก" สุเทพ เทือกสุบรรณ และทีมงานยี่ห้อประชาธิปัตย์ถูกหลอกให้หลงอยู่ในภวังค์เกลียดกลัว
"ทักษิณ"

"ติดกับดัก" ก้าวข้ามเงา "นายใหญ่" ไม่พ้น

วนอยู่กับเงื่อนไขเก่าๆ ไม่เดินหน้าไปไหน และโดยสภาพยิ่งเหมือนถูกโดดเดี่ยวออกจากความพยายามในการร่วมกันหาทางออกให้ประเทศ

ปฏิเสธแนวทางสร้างความปรองดองอันจะนำไปสู่ความสงบสุขของสังคมโดยรวม

ในอารมณ์เฮี้ยวๆอย่างที่สังคมจับอาการได้ แม้แต่ผู้อาวุโสอย่าง "ปู่พิชัย" นายพิชัย รัตตกุล อดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ที่ตอบรับเข้าร่วมสภาปฏิรูปฯ ตามเทียบเชิญของนา
ยกฯยิ่งลักษณ์ ชินวัตร

ยังโดนคนประชาธิปัตย์รุมสกรัม เฉดหัวส่งไม่ใช่เนื้อแท้แต่อย่างใด

และก็เป็นอะไรที่แสบทรวง "ปู่พิชัย" ยืนยันเลยว่า ที่ขานรับสภาปฏิรูปฯนั้นไม่ใช่เพื่อประโยชน์ของตัวเอง ของพรรคประชาธิปัตย์ หรือของพรรคเพื่อไทย แต่เพื่อประโยชน์ของ
ประชาชน บ้านเมืองเรา ถ้าสามารถทำได้ ทำสำเร็จ บ้านเมืองจะได้สงบ

"ปู่" สอนหลานออกอากาศ ให้คิดถึงสังคมส่วนรวมมากกว่าประโยชน์ส่วนตัวของพรรคพวก

ประชาธิปัตย์ยังต้องสู้กับตัวเองเหนื่อย

ในขณะอีกด้าน ตามปฏิทินที่นายวราเทพ รัตนากร รมต.ประจำสำนักนายกฯ และ รมช.เกษตรฯ ในฐานะ "มือดีล" ในการประสานบุคคลสำคัญของบ้านเมือง เพื่อเข้าร่วมคณะ
ทำงานสภาปฏิรูปการเมือง ตามแนวคิดของนายกฯยิ่งลักษณ์ ระบุว่า จะใช้เวลา 1 ปีบวกลบในการดำเนินตามโรดแมป

นับไปนับมา ก็พอดี รัฐบาลเกือบครบเทอม 4 ปี.


ขอบคุึณเนื้อหา : ไทยรัฐ
ที่มา http://www.itplaza.co.th/update_details.php?type_id=1&news_id=28836&page=1