พิสูจน์ศพ “วาฬบลูด้าน้อย” พบคราบน้ำนมกินจากแม่ก่อนติดอวนตาย

[ทีมงานบ้านเรา]

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์    1 มิถุนายน 2554 18:21 น.

[attach=1]   
สาเหตุการตายของวาฬ น้อยเกิดจากการติดอวนแล้วไม่สามารถหลุดออกมาได้ โดยเกิดเหตุหลังจากเพิ่งอิ่มนมแม่ราวชั่วโมง และมั่นใจว่าแม่วาฬยังอยู่ในทะเลสาบสงขลา
       
ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - นักวิชาการประมงชำนาญการ ศูนย์วิจัยทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งอ่าวไทยตอนล่าง เผยผลการผ่าพิสูจน์ลูกวาฬบลูด้าที่เกยตื้นเสียชีวิตในพื้นที่ อ.สทิงพระ จ.สงขลา เมื่อวานนี้ (31 พ.ค.) พบมีคราบน้ำนมที่เพิ่งกินได้ไม่เกิน 1 ชั่วโมง อยู่ในกระเพาะอาหาร เชื่อว่า ยังมีแม่วาฬบลูด้าอีก 1 ตัว อาศัยอยู่ในทะเลพื้นที่ อ.สทิงพระ พร้อมประสานชาวประมงให้เลี้ยงวางอวนในบริเวณที่พบเพื่อป้องกันอันตรายที่อาจ จะเกิดขึ้นกับแม่วาฬ
       
       ความคืบหน้ากรณีพบซากลูกวาฬบลูด้า วัย 1 ปี เกยตื้นและชีวิตบริเวณริมชายหาดทะเลอ่าวไทย บ้านพังสาย ม.7 ต.กระดังงา อ.สทิงพระ จ.สงขลา เมื่อวานนี้ (31 พ.ค.)
       
       ล่าสุด ในวันนี้ (1 มิ.ย.) นายสันติ นิลวัตน์ นักวิชาการประมงชำนาญการ ศูนย์วิจัยทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งอ่าวไทยตอนล่าง ได้เปิดเผยถึงผลการผ่าพิสูจน์ซากลูกวาฬบลูด้าตัวนี้ พบว่าสาเหตุของการเสียชีวิตเนื่องจากติดอวนของชาวประมง ทำให้ไม่สามารถว่ายน้ำได้และจมน้ำเสียชีวิต
       
       แต่สิ่งสำคัญที่พบจากการผ่าพิสูจน์ คือ คราบน้ำนมที่อยู่ในกระเพาะอาหารของลูกวาฬ ซึ่งลูกวาฬตัวนี้เพิ่งกินนมแม่มาไม่เกิน1 ชั่วโมงก่อนที่จะเสียชีวิต จึงเชื่อว่า ขณะนี้น่าจะมีแม่วาฬบลูด้าอีก1 ตัว ที่ยังคงอาศัยอยู่ในทะเลอ่าวไทยบริเวณพื้นที่ อ.สทิงพระ ซึ่งเป็นจุดที่พบลูกวาฬบลูด้าเกยตื้นซึ่งอยู่ห่างฝั่งประมาณ 100 เมตร ซึ่งถือว่าวาฬบลูด้าเข้ามาหากินใกล้ฝั่งและพื้นที่ทำการประมงมากจึงเกรงว่า วาฬบลูด้าตัวแม่ อาจจะได้รับอันตรายจากการติดอวนชาวประมง จึงได้ประสานไปยังกลุ่มชาวประมงในพื้นที่ดังกล่าวให้เลี่ยงวางอวนหรือ เครื่องมือทำประมงในพื้นที่ที่พบวาฬบลูด้าเพื่อป้องกันอันตรายที่เกิดขึ้น
       
       อย่างไรก็ตาม การพบวาฬบลูด้าในพื้นที่อ่าวไทยตอนล่างนั้น สามารถเป็นตัวบ่งชี้ได้เป็นอย่างดีถึงความอุดมสมบูรณ์ของทะเลอ่าวไทย ทำให้วาฬบลูด้าซึ่งปกติจะพบมากในพื้นที่ทะเลอ่าวไทยตอนบนว่ายน้ำลงมาหากิน ซึ่งเจ้าหน้าที่จะลงพื้นที่ตรวจสอบวาฬบลูด้าตัวนี้ต่อไป