เตือนภัยการรูดบัตรเครดิตเพื่อเช่ารถในสนามบิน

[เจมาร์]

ได้ใช้บริการเช่ารถมาหลายบริษัทจากสนามบินไม่มีปัญหาอะไร แต่ได้ไปเช่ารถกับบริษัทหนึ่งเพื่อนบอกมีโปรโมชั่นแจกแสตมป์รับส่วนลดก็เลยไปเช่าดู มีพนักงานต้อนรับ2คน   ทำการเช่ากันมา2-3คร้งก็ไม่มีอะไรผิดปกติ จนครั้งสุดท้ายคืนรถไปแล้วแต่บริษัทยังทำการรูดบัตรเครดิตตามอีก(พวกบริษัทรถเช่าสามารถรูดบัตรเราได้ถึงแม้จะไม่เอาบัตรไปให้ค่ะเพราะได้บันทึกไว้วันทำสัญญา) สอบถามไปทางบัตรเครดิตเค้าขอเวลาตรวจสอบ45วันแล้วจะแจ้งเรากลับ ซึ่งตอนนี้ได้รับเงินคืนแล้วเพราะบริษัทตรวจสอบแล้วว่าเค้าแอบรูดจริง จึงอยากเตือนผู้ที่จำเป็นต้องเช่ารถค่ะต้องตรวจสอบสลิปให้ดีนะคะ

[นายไข่นุ้ย]

ได้ใช้บริการเช่ารถมาหลายบริษัทจากสนามบินไม่มีปัญหาอะไร แต่ได้ไปเช่ารถกับบริษัทหนึ่งเพื่อนบอกมีโปรโมชั่นแจกแสตมป์รับส่วนลดก็เลยไปเช่าดู มีพนักงานต้อนรับ2คน   ทำการเช่ากันมา2-3คร้งก็ไม่มีอะไรผิดปกติ จนครั้งสุดท้ายคืนรถไปแล้วแต่บริษัทยังทำการรูดบัตรเครดิตตามอีก(พวกบริษัทรถเช่าสามารถรูดบัตรเราได้ถึงแม้จะไม่เอาบัตรไปให้ค่ะเพราะได้บันทึกไว้วันทำสัญญา) สอบถามไปทางบัตรเครดิตเค้าขอเวลาตรวจสอบ45วันแล้วจะแจ้งเรากลับ ซึ่งตอนนี้ได้รับเงินคืนแล้วเพราะบริษัทตรวจสอบแล้วว่าเค้าแอบรูดจริง จึงอยากเตือนผู้ที่จำเป็นต้องเช่ารถค่ะต้องตรวจสอบสลิปให้ดีนะคะ

  แสบจริงๆ ขอบคุณครับท่าน

[108Tour.com]

เป็นอุทาหรณ์  ท่านที่ใช้บัตรเครดิต  ทุกๆ ครั้ง ที่ใบแจ้งหนี้ ส่งมาถึง ต้องรีบตรวจสอบ และทักท้วง เพราะถ้าปล่อยทิ้งไว้ถือว่าเรายอมรับไปโดยอัตโนมัติ.

[ขุนศึก]

จริงๆแล้วถ้าเป็นไปได้ ทุกครั้งที่จ่ายด้วยบัตรเครดิต เจ้าของบัตรควรจะต้องเห็นการรูดบัตรทุกครั้ง เพราะเวลาท่านส่งบัตรให้พนักงานนำไปรูดนั้น ไม่มีใครจะยืนยันได้ว่าพนักงานได้รูดไปกี่ครั้ง กว่าจะทราบเรื่องก็ต้องรอใบแจ้งออก เวลามีปัญหาเรายังคงต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายจนกว่าบ.ผู้ออกบัตรจะทำการตรวจสอบแล้วเสร็จ ในหลายๆประเทศแก้ปัญหาด้วยการเชิญเจ้าของบัตรไปทำรายการที่เครื่องรูด หรือใช้เครื่องรูดพกพามารูดต่อหน้าลูกค้า นั่นสามารถแก้ปัญหาเรื่องการรูดซ้ำได้

การตรวจสอบยอดค่าใช้จ่ายในใบแจ้งก็สำคัญ เพราะลายเซ็นบนสลิปเป็นแค่เครื่องยืนยันในกรณีมีปัญหาเท่านั้น ปกติยอดตัดเงินจากบัตรเป็นออนไลน์ ยอดเงินเข้าบัญชีก็เป็นออนไลน์เช่นกัน ยิ่งเจ้าของบัตรไม่ตรวจสอบยอดให้ละเอียด ไม่เก็บสลิปที่ใช้จ่ายไว้ตรวจสอบ อาจทำให้กลายเป็นเหยื่อได้ง่ายๆ

แล้วคนโกงจะได้เงินอย่างไร อย่างวันนี้ขายของได้ 4000 บาท เป็นเงินสด 3500 บาท และ สลิปที่ลูกค้ารูดบัตรเครดิต 500 บาท แต่ถ้าพนักงานคนนี้ทุจริต เค้าก็แอบรูดบัตรลุกค้าอีกครั้ง อาจใส่ยอด 1000 บาท เวลาปิดรอบส่งเงิน เค้าก็ดึงเงินสดออก 1000 บาท แล้วส่งสลิปที่รูดซ้ำไปแทน ทำแบบนี้ทุกวันกว่าเจ้าของบัตรจะทราบเรื่อง กว่าแบงค์จะตามตัวก็ลาออกหนีหายไปกับเงินก้อนนึงแล้ว จริงอยู่ที่มีชื่อ สกุล แต่นั่นก็ไม่ได้รับประกันว่าจะตามตัวกันได้ง่ายๆหรือได้เงินคืนครบตามที่เค้าเอาไป ดังนั้นบริษัทร้านค้าก็ควรจะวางกฎให้เข้มงวดนอกจากลดความสูญเสียของตัวเองแล้ว ยังเป็นการเพิ่มความเชื่อมั่นให้ลูกค้าอีกด้วย

[เจมาร์]

จริงๆแล้วถ้าเป็นไปได้ ทุกครั้งที่จ่ายด้วยบัตรเครดิต เจ้าของบัตรควรจะต้องเห็นการรูดบัตรทุกครั้ง เพราะเวลาท่านส่งบัตรให้พนักงานนำไปรูดนั้น ไม่มีใครจะยืนยันได้ว่าพนักงานได้รูดไปกี่ครั้ง กว่าจะทราบเรื่องก็ต้องรอใบแจ้งออก เวลามีปัญหาเรายังคงต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายจนกว่าบ.ผู้ออกบัตรจะทำการตรวจสอบแล้วเสร็จ ในหลายๆประเทศแก้ปัญหาด้วยการเชิญเจ้าของบัตรไปทำรายการที่เครื่องรูด หรือใช้เครื่องรูดพกพามารูดต่อหน้าลูกค้า นั่นสามารถแก้ปัญหาเรื่องการรูดซ้ำได้

การตรวจสอบยอดค่าใช้จ่ายในใบแจ้งก็สำคัญ เพราะลายเซ็นบนสลิปเป็นแค่เครื่องยืนยันในกรณีมีปัญหาเท่านั้น ปกติยอดตัดเงินจากบัตรเป็นออนไลน์ ยอดเงินเข้าบัญชีก็เป็นออนไลน์เช่นกัน ยิ่งเจ้าของบัตรไม่ตรวจสอบยอดให้ละเอียด ไม่เก็บสลิปที่ใช้จ่ายไว้ตรวจสอบ อาจทำให้กลายเป็นเหยื่อได้ง่ายๆ

แล้วคนโกงจะได้เงินอย่างไร อย่างวันนี้ขายของได้ 4000 บาท เป็นเงินสด 3500 บาท และ สลิปที่ลูกค้ารูดบัตรเครดิต 500 บาท แต่ถ้าพนักงานคนนี้ทุจริต เค้าก็แอบรูดบัตรลุกค้าอีกครั้ง อาจใส่ยอด 1000 บาท เวลาปิดรอบส่งเงิน เค้าก็ดึงเงินสดออก 1000 บาท แล้วส่งสลิปที่รูดซ้ำไปแทน ทำแบบนี้ทุกวันกว่าเจ้าของบัตรจะทราบเรื่อง กว่าแบงค์จะตามตัวก็ลาออกหนีหายไปกับเงินก้อนนึงแล้ว จริงอยู่ที่มีชื่อ สกุล แต่นั่นก็ไม่ได้รับประกันว่าจะตามตัวกันได้ง่ายๆหรือได้เงินคืนครบตามที่เค้าเอาไป ดังนั้นบริษัทร้านค้าก็ควรจะวางกฎให้เข้มงวดนอกจากลดความสูญเสียของตัวเองแล้ว ยังเป็นการเพิ่มความเชื่อมั่นให้ลูกค้าอีกด้วย

ขอบคุณท่านขุนศึกที่ได้ให้ความรู้เพิ่มเติมค่ะ แต่ในกรณีนี้ไม่ได้มีปัญหาที่ตอนเค้ารูด แต่มีปัญหาที่บริษัทรถเช่าสามารถบันทึกบัตรของเราไว้รูดเอง ได้ กรณีที่มีการเช่ารถต่อ แต่บริษัทที่มีปัญหานี้เขาได้รูดตอนเราคืนรถไปแล้วค่ะและอยากขอย้ำการตรวจสอบใบแจ้งหนี้ให้ดีนะคะเพราะถ้ารู้ตัวช้าไปก็แก้ไขไม่ได้ค่ะและที่สงสัยคือบริษัทเจ้าของบัตรเครดิตยอมหักเงินให้เค้าได้ยังไงในเมื่อในสลิปไม่มีลายเซ็นต์ลูกค้า