บันทึกพิเศษ : บินลัดฟ้า….ตามหาโอโทโร่ (เนื้อปลาดิบส่วนที่ดีที่สุด)

[คุณาพร.]

บันทึกพิเศษ  :  บินลัดฟ้า....ตามหาโอโทโร่ (เนื้อปลาดิบส่วนที่ดีที่สุด)



บันทึกพิเศษ  :  บินลัดฟ้า....ตามหาโอโทโร่ (เนื้อปลาดิบส่วนที่ดีที่สุด)

เคยได้ยินมาว่า  หากคุณเป็นนักชิมอาหารญี่ปุ่น (โดยเฉพาะพวกปลาดิบ  ซาซิมิ  และซูชิ) คุณห้ามพลาดส่วน "โอโทโร่" โดยเด็ดขาด  เพราะถือกันว่าเป็นปลาดิบส่วนที่ดีที่สุด  อร่อยที่สุด  หายากที่สุด  มีราคาแพงที่สุดในบรรดาเนื้อปลาดิบทั้งหลายมวล   โห.....พวกนักชิมอาหารญี่ปุ่นเขาพูดกันแบบนี้จริงๆครับ  เขาว่ากันอีกว่า "เนื้อส่วนโอโทโร่....เวลาเข้าปาก  ทั้งหอม  หวาน  มัน  ละลายในปาก  หากคุณเป็นแฟนพันธุ์แท้ปลาดิบ  จงเสาะแสวงหามาชิมให้ได้สักครั้งก่อนตาย !! " 

ปลายเดือนสิงหาคมที่ผ่านมานี้  ผู้เขียนได้มีโอกาสเดินทางไปร่วมประชุมงานวิจัยแห่งชาติ  เลยขอเอาเวลาว่างจากการประชุม ตามหาเจ้าปลาดิบ-ซาซิมิโอโทโร่นี่เสียสักหน่อย (เนื้อส่วน โอโทโร่ นี้หาดใหญ่ไม่มีขายนะครับ  อิอิ)

(ภาพประกอบจากอินเทอร์เน็ต  :  ซูชิโอโทโร่ / ชิ้นละประมาณ 200 – 400 บาท)


มาทำความรู้จัก "โอโทโร่" กันดีกว่า !!

โอโทโร่ ราชันย์แห่งซูชิ เเละซาซิมิ
"ปลามากุโร่ " หรือปลาทูน่าซึ่งเป็นสายพันธ์ขนาดใหญ่ของปลาทูน่า ปลาชนิดนี้จะมีเนื้ออยู่ส่วนหนึ่งที่เรียกว่า "โอโทโร่" โอโทโร่คือ เนื้อส่วนท้องของปลาทูน่า ความพิเศษของโอโทโร่ที่ได้รับการยกย่องให้เป็นราชันย์แห่งซูชิจึงอยู่ที่ไขมันที่แทรกตัวอยู่ตลอดชิ้นปลานี้เอง เพราะไขมันดังกล่าวจะแตกตัวออกแทบจะทันทีที่นำเนื้อปลาเข้าปาก และละลายหายไป ทิ้งไว้เพียงความหวานชุ่มฉ่ำที่คุณสัมผัสได้ทั่วทั้งปาก อีกทั้งการจะได้เนื้อปลาทูน่าที่มีคุณภาพจำเป็นจะต้องพ่อครัวที่มีความชำนาญมากในการแล่ และความหายากของเนื้อปลา เหตุเพราะไม่ใช่ปลาทูน่าทุกตัวจะมีเนื้อส่วนพิเศษนี้ โอโทโร่นั้นจะมีเฉพาะในปลาทูน่าที่มีน้ำหนัก 100 กิโลกรัมขึ้นไป ซึ่งปลาทูน่าขนาดยักษ์เช่นนี้พบได้เพียงบริเวณกระแสน้ำอุ่นในทะเลลึก อย่างมหาสมุทรแปซิฟิกหรือแถบทะเลเมดิเตอเรเนียนเท่านั้น จึงทำให้สนนราคาของโอโทโร่นั้นสูงลิบลิ่ว พูดง่ายๆ ซูชิโอโทโร่ มันคือซูชิที่ดีที่สุดนั่นเอง !!

เครดิต : http://th.openrice.com/Bangkok/restaurant/article/detail.htm?article_id=12





โอโทโร่ (Otoro) คือเนื้อปลาส่วนไหน?

โอโทโร่ (Otoro) คือ เนื้อส่วนท้องของปลาทูน่า หรือ Maguro ซึ่งถือว่าเป็นปลาที่ชาวญี่ปุ่นนิยมรับประทานในแบบปลาดิบมากที่สุด เนื้อปลาทูน่าที่เราเห็นและรับประทานโดยส่วนใหญ่นั้นจะเป็นเนื้อแดงส่วนที่เรียกว่า อะคามิ (Akami) ซึ่งเป็นเนื้อส่วนกลางลำตัว ที่มีจำนวนมากและหาได้ง่าย แต่สำหรับส่วนที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นเนื้อที่อร่อยที่สุดของทูน่า คือเนื้อส่วนที่เรียกว่า โทโร่ (Toro) แบ่งเป็น 2 ชนิด คือ ชูโทโร่ (Chutoro) และโอโทโร่ (Otoro) ชูโทโร่ คือ เนื้อส่วนที่อยู่ใกล้กับครีบของปลาทั้งด้านบนและท้องส่วนหลัง เนื้อส่วนนี้มีรสสัมผัสที่หวานนุ่มกว่าอะคามิเพราะมีไขมันคั่นสลับเนื้อปลาอยู่ตลอดทั้งชิ้น ส่วนเนื้อท้องส่วนหน้าที่เรียกกันว่าโอโทโร่นั้น จะเป็นเนื้อที่มีไขมันแทรกซึมอยู่แทบทุกอณูของเนื้อปลาจนกลายเป็นลายหินอ่อนสวยงาม

(เครดิต : http://th.openrice.com/Bangkok/restaurant/article/detail.htm?article_id=12)




(ภาพประกอบ  :  ซาซิมิส่วน โอโทโร่ ที่ร้าน ZEN / กรุงเทพฯ)

[คุณาพร.]

วันพฤหัสบดีที่ 23 สิงหาคม 2556
ตื่นแต่เช้ามืด.....



ออกเดินทางไปนครศรีธรรมรราช (ไปนั่งเรือบินไปกรุงเทพฯแล.....)  ^^

ปล. ช่วงนี้มีปัญหากะโหมปิดถนน(ชาวสวนยาง) เดินทางข้ามจังหวัดค่อนข้างไม่สะดวกเท่าที่ควร.....

[คุณาพร.]

เดินทางมาเรื่อยๆ  ช่วงสายๆก็ถึงกองทัพภาคที่ 4 ค่ายวชิราวุธ ต.ปากพูน อ.เมือง  จ.นครศรีธรรมราช


เข้าพักใน.....เรือนรับรอง ปิ่น ธรรมศรี กองทัพภาคที่ 4 ค่ายวชิราวุธ (คุณน้องขวัญจัดการเรื่องที่พักให้จ้า) ห้องสะดวกสบายมากกกกก.......  ^^

[คุณาพร.]

 

ไม่ต้องรีบร้อนๆ  ยังไงก็ได้เจอกันแน่....โอโทโร่ !!
วันนี้เลยขอเติมพลังแบบชิวๆในห้างบิ๊กซี สาขานครศรีธรรมราชซะหน่อย (พรุ่งนี้บิน....)
สุกี้ MK เลยจ้า  จ่ายไม่แพง  อิ่มแบบสบายท้อง  ^___^


เป็ด MK กะสุกี้นี่....ของคู่กัน (ไม่สั่งไม่ได้ !! )

[คุณาพร.]

 

อิ่มจากสุกี้ MK ก็ไปนั่งผ่อนคลายกันนิดที่ร้านกาแฟและขนมเค้กชื่อดังระดับแถวหน้าของจังหวัดนครศรีธรรมราช.......ร้าน Coffee Bakeries  (ร้านนี้ตั้งอยู่ซ้ายมือก่อนถึงห้างโลตัส)


มีหน้าเค้กให้เลือกเยอะมากกกกกก (ลูกค้าแน่นร้านตลอด / เกือบไม่ได้ที่นั่ง)


คาปูชิโน่เย็น  กะเค้กอร่อยๆ (ราคาสูงพอสมควรนะครับร้านนี้ / ติดแพงไปนิด  แต่อร่อยมากกก)

[คุณาพร.]

    


กอนบินไปกรุงเทพฯ  ซักรูป  กะปืนใหญ่ในค่ายวชิราวุธ !!  ^^"

[คุณาพร.]

 

ช่วงเช้าของอีกวัน.....มานั่งรอเพื่อนที่สนามบินจังหวัดนครศรีธรรมราช



ไปกะน้องนก(แอร์)  ^____^




ถึงสนามบินดอนเมือง........


มื้อแรกที่สนามบินดอนเมือง (ห้องอาหารชั้นสอง / ฝั่งโซนอาหารไทย) เป็นเฟร้นฟราย – ป่อเปี๊ยะ  - หมี่เป็ดย่าง  และน้ำแตงโมปั่น (ไม่ค่อยไทยเท่าไหร่เลยนะ)  // ราคาสูงพอสมควร (อาหารสนามบิน / ทำใจเหอะ / อร่อยๆๆ)

[คุณาพร.]

 

แน่นอนล่ะว่า.....สิ่งที่คุณจะได้เจอเป็นอย่างแรกเลยในกรุงเทพฯก็คือ "รถที่ยาวกว่ารถไฟ" (รถติด)  ^^"


บางเส้น  รถก็ลื่นไหลดีนะ !!


อนุสาวรีย์ชัยฯ

[คุณาพร.]

 

เข้าพักที่โรงแรมฟลอริดา / แถวพญาไท (บอกรถแท็กซี่) ที่ตั้งโรงแรมตั้งอยู่ตรงข้ามสถานีรถไฟฟ้าเลยล่ะ  เดินทางไปไหนมาไหนสะดวกมากกกก......



ยืนถ่ายรูปโรงแรมฟลอริดา บนสถานีรถไฟฟ้า....



ห้องพักภายในโรงแรม  สบายๆเลย.....คืนละ 1,500 บาทครับ  ^^


นอนห้องนี้.....ใครจะเอาไปแทงหวยบ้างครับ  อิอิ  ^^"






เปิดผ้าม่านห้องนอนออกก็เป็นสถานีรถไฟฟ้าเลย....ชอบตรงนี้แหล่ะ !!  ^^

[คุณาพร.]

 

อันนี้หน้าตาอาหารส่วนหนึ่งที่เคยลองๆชิม  ในห้องอาหาร Tampa โรงเเรมฟลอริด้า (ชั้นล่างของโรงแรมที่เข้าพักครับ)  อาหารอร่อยใช้ได้เลย  ส่วนเรื่องราคาก็....พอสมควร(อาหารโรงแรม)  >___<



ข้าวผัดอเมริกัน ในห้องอาหาร Tampa โรงเเรมฟลอริด้า  ราคาจานละ 130 บาท  น้ำแตงโมปั่นไม่แน่ใจว่าแก้วละ เท่าไหร่?  / ความอร่อยสอบผ่านนะครับ  (คนที่เข้าพักโรงแรมนี้มีเลี้ยงมื้อเช้าด้วยนะครับ)


หมี่กรอบราดหน้า ราคาเท่าไหร่จำไม่ได้ (แต่ประมาณเอาว่าน่าจะ 120 บาท)  เห็นคนกินว่าอร่อยมากกกกก


ตบท้ายด้วยกาแฟดำ...... ^^

[คุณาพร.]

 

ว่ากันว่า โอโทโร่....อยู่ที่เซ็นทรัลเวิลด์  แต่ตอนนี้ผมขอชิมตามรายทางไล่ไปทีละร้านก่อน....อิอิ
เที่ยงนี้เพื่อนชวนไปทานก๋วยเตี๋ยวเรือป๋ายักษ์อนุสาวรีย์ชัยฯ  ได้ข่าวว่าอร่อยที่สุดในย่านนั้น.....

ไปรถไฟฟ้าสิครับพี่น้อง....สะดวกดีๆๆ  หนีรถติดๆ.....

[คุณาพร.]

 

ก๋วยเตี๋ยวเรือป๋ายักษ์อนุสาวรีย์ชัยฯ  ชามละ 10 บาท  ทานครบ 20 ชามฟรีน้ำโค้กลิตร 1 ขวด + น้ำแข็งเปล่า
ก๋วยเตี๋ยวเรือที่นี่ชามละ 10 บาทครับ  ( 1 ชามผมกิน 2 คำหมด) ไปกัน 3 คน 21 ชาม  คิคิคิ  อิ่มสบายๆๆ  อร่อยสมคำเล่าลือๆๆ......  ^^

[คุณาพร.]

 

วันรุ่งขึ้น........
วันนี้ประชุมก่อน  ช่วงบ่ายๆค่อยลุยร้านอร่อยๆ(รวมถึงตามหาโอโทโร่ต่อๆๆ) ^^"

(ยืนถ่ายภาพกรุงเทพฯ อยู่บนห้างเซ็นทรัลเวิลด์) 


ก่อนเข้าประชุม  ซักภาพ.....


คนเข้าประชุมวิจัยในห้างเซ็นทรัลเวิลด์ทุกคนจะได้กระเป๋าผ้าเป็นที่ระลึกครับ



หนังสือวิจัย  ให้แค่คนละ 1 เล่ม......


ของว่าง......แจกคนล่ะ 1 กล่อง



บรรยากาศในห้องประชุมวิจัยแห่งชาติ


ประชุมเสร็จ   ซักรูป....หน้าห้องประชุม (ลงทะเบียน

[คุณาพร.]

 

คุยกับเจ้าถิ่นที่มาเที่ยวห้างเซ็นทรัลเวิลด์ประจำว่า....ควรตามเก็บร้านอร่อยไปทีละร้านในห้าง  ให้ไล่ไปตั้งแต่ร้านยำแซบ, ร้านแบล็คแคนยอน, ร้านท่าสยามเอก, ร้านซูกิชิ  และร้าน ZEN (แหล่งขายซาซมิโอโทโร่อันโด่งดัง)  ผมเลย OK.  //// ความจริงร้านแบล็คแคนยอนที่หาดใหญ่ก็มีนะ แต่คุงน้องชายอยากชิมอาหารของที่นี่ดูบ้าง  ^____^

เริ่มจากร้านแรกกันเลยครับ  ร้าน YUM  SAAP (ร้านยำแซบ) ห้างเซ็นทรัลเวิลด์ ชั้น 6
อาหารก็พวกยำๆไรงี้แหล่ะครับ  สาวๆชอบนักแหล่ะ......  ^^
ร้านนี้ราคาต่อหัวต่อคนราว 150 – 200 บาท  อาหารแซบๆอร่อยดี  ไม่แพงจนเกินไป  คนแน่นร้านมากกก....




ไม่รู้จะสั่งอะไร  เลยสั่งข้าวคลุกกะปิ (555)  กินกะส้มตำ และ ฯลฯ
ร้านนี้ทั้งปริมาณ + ราคา  ไม่แพงจนเกินไปนักครับ (ในฐานะที่ตั้งอยู่บนห้างเซ็นทรัลเวิลด์)
ความอร่อยให้ผ่านครับ  //

[คุณาพร.]

 

ร้านที่สอง  :  ร้านแบล็คแคนยอน  สาขาเซ็นทรัลเวิรด์  ชั้น 6
ร้านนี้พี่ๆและน้องๆเขาอยากเข้ามากินกันครับ  ผมเลยตามน้ำ...... ^^



ระหว่างรอพี่ๆที่เข้าประชุมมาหาอะไรใส่ท้อง  เลยนั่งรอด้วยคาปูชิโน่เย็น + เฟร้นฟราย



คนมาครบก็จัดหนักกันต่อด้วย  ผัดไทย  และข้าวผัดอเมริกัน  (อร่อยดีครับ) ^^  ราคาและความอร่อยก็พอๆกะที่หาดใหญ่(โลตัสตรงข้าม มอออ)

[คุณาพร.]

 

เอาล่ะ....คราวนี้ก็มาถึงร้านอาหาร 3 ร้านสุดท้ายที่อยากลองชิมมากที่สุดล่ะ......  ^^"  (หาดใหญ่ไม่มี)

ร้านที่สาม  :  ร้านท่าสยามเอก  ในห้างเซ็นทรัลเวิลด์  ชั้น 6
เป็นร้านอาหารไทยๆผสมฝรั่งนิดๆครับ  ค่าทานต่อหัวต่อคนอยู่ในระดับพื้นๆ 100 – 150 บาทครับ (อาหารเผ็ดจัดจ้านลิ้นมากกกก......)  ร้านนี้คนแน่นร้านตลอด  ^^




ก๋วยเตี๋ยวเรือของร้านท่าสยามเอกที่แทบจะไม่ต้องปรุงอะไรเพิ่มลงไปเลย.....จัดจ้านสุดฤทธิ์ !!


ได้ยินคำเล่าลือกันมานานว่า "มะกะโรนีขี้เมาทะเล" ของร้านแห่งนี้  อร่อย  เผ็ดจัดจ้านถูกปากคนไทยเป็นที่สุด  (เลยลองสั่งมาซะ 1 จาน) ยอมรับเลยครับว่าร้านแห่งนี้จัดจานมะกะโรนีได้สวยงามมาก  และมะกะโรนีของที่นี่  เผ็ด....เข้ากับความเป็นคนไทยมาก(แบบไม่เคยพบเจอที่ไหนมาก่อน)  อร่อยมากๆเลยครับ  ///  แต่คนทานเผ็ดไม่ได้ควรงดเข้าร้านนี้นะครับ !!

[คุณาพร.]

 

ร้านที่สี่  :  ร้านซูกิชิ  เซ็นทรัลเวิลด์  ชั้น 6
ร้านอาหารผสมระหว่างเกาหลี + ญี่ปุ่น
ร้านนี้ผมได้รับคำแนะนำมาจากเพื่อนๆหลายคนว่า  ซาซิมิ และข้าวปั้นหน้าหอยโฮตาเตะ(หอยเชลล์ญี่ปุ่น)อร่อยมากกกก  /// ข้าวปั้นหน้าหอยโฮตาเตะ....หาทานที่หาดใหญ่ไม่มีนะครับ (วันนี้จะได้ลองล่ะ....^^ )

ปล. วันนี้ไม่ได้สั่งเนื้อปิ้งย่างนะครับ  กะจะสั่งแบบจัดหนักอาหารญี่ปุ่นอย่างเดียว !!  ^^"



ไปกินกัน 3 คนจ้า  ^____^



ทดสอบขั้นพื้นฐานๆ.....ข้าวหน้าแกงกระหรี่กุ้ง  OK.  ผ่านครับ  ข้าวนุ่มดี  กุ้งก็กรอบ-หวานๆ  แกงกระหรี่ก็ไม่ฉุนจนเกินไปนัก......




เนื้อวากิว (รึเปล่าหว่า ? ) // จานนี้ไม่รู้ใครสั่ง  เนื้อแน่นดี  นุ่มๆ  หอมๆ


แฮมพันเห็ด.....อร่อยแบบเค็มๆ มันๆ



หอยแมลงภู่นิวซีแลนด์อบ.....เต็มคำดีจ้า


ทาโกยากิ (ขนมครกญี่ปุ่น) ข้างในเจ้าลูกกลมๆจะเป็นน้องปลาหมึก  อร่อยแบบหนืดๆๆ


เทมปุระกุ้ง......กรอบๆดีครับ  ไม่อุ่มน้ำมัน

[คุณาพร.]

 

(ต่อ) ร้านซูกิชิ  เซ็นทรัลเวิลด์  ชั้น 6

คราวนี้ก็มาถึงเมนูปลาดิบของร้านซูกิชิกันบ้างล่ะ (ไฮไลท์ของวันนี้ / ร้านนี้)


เริ่มกันที่การทดสอบชุดซาซิมิ (ปลาดิบ) ของร้านซูกิชิ 
สีส้มๆหน้าสุด  แซลมอนส่วนโทโร่(ท้องปลา)....สด  หวาน  หอม  มัน  อร่อยสมราคาครับ
สีแดงสด  ปลาทูน่าส่วน Akami .......สดใช้ได้เลยครับ  รสสัมผัสเวลากระทบกับปลายลิ้นดีพอสมควร
สีชมพู (ปลาไรหว่า / ฮามาจิป่าววว).....สด  และอร่อยพอสมควรครับ  (จานนี้เรื่องความสดของปลาให้ผ่านครับ)





(ซ้าย) ข้าวหน้าปลาไหลย่างซีอิ้วอย่างดี.....ปลาไหลให้มาชิ้นใหญ่มาก  สมราคา  หอมๆ  อร่อยๆดีเน้อ.....
(ขวา) หอยโฮตาเตะย่างไฟ....หวานๆ  ชุ่มๆดีครับ  รสชาติเหมือนเนื้อเงาะ  // แต่ไม่ค่อยชอบ  มันหวานเลี่ยนไปนิด  ^^"


(หน้าสุด) หอยโฮตาเตะ (หอยเชลล์ญี่ปุ่น / แบบสด) ของหากินยากเลยแหล่ะ  ให้รสสัมผัสที่สด และชุ่มฉ่ำมาก  อร่อยกว่าแบบลนไฟครับ  ^^"



มาดูซูชิหน้าแซลมอนกันบ้าง.....สดดีครับ  ทานได้เรื่อยๆ  ^^
แซลมอนลายสวยดี  อิอิ (จำราคาแต่ละจานไม่ค่อยได้เลย  จำได้อย่างเดียวตอนเช็คบิล = 2,670 บาท) 
>___<"

[คุณาพร.]

 

ร้านปิดท้าย  :  Zen Japanese Restaurant สาขาเซ็นทรัลเวิลด์ ชั้น 6
กว่าจะเดินหาเจอ ร้านมันไปแอบอยู่เกือบสุดทางของชั้น 6 เลยล่ะ (ถามทางพนักงานห้างมาเรื่อย....)

" ว่ากันว่าหากคุณอยากกินอาหารญี่ปุ่นแบบสากล....ให้เข้าฟูจิ
แต่ถ้าคุณอยากกินอาหารญี่ปุ่นที่มีความเป็นญี่ปุ่นจริงๆ.....ให้เข้า ZEN "

วันนี้ขอลองชิมดูสักหน่อยล่ะว่า ZEN จะสมคำเล่าลือหรือเปล่า?


มาถึงก็สั่งกันก่อนเลย.....ไรมั่งหว่า  เริ่ม งง  >____<"



จานแรก(น่าจะเรียกว่าถ้วยมากกว่า....)  ข้าวหน้าปลาแซลมอน (ราคา 320 บาท / มั๊ง)  ใช้ปลาแซลมอนส่วนโทโร่(ส่วนท้องปลามาหั่นเป็นลูกเต๋าคำโตๆ  วางลงบนข้าวญี่ปุ่น  // ปลาสดมากกกกกกก....อร่อยสมราคา  แต่ข้าวญี่ปุ่นรู้สึกผสมน้ำสมสายชูมากเกินไปหน่อยนะ  เปรี้ยวไป  จานนี้ปลาผ่านฉลุย  /  แต่ข้าวญี่ปุ่น = สอบตกจ้า  ^^"




อาหารที่แพงที่สุดในร้าน Zen Japanese Restaurant (ซาซิมิโอโทโร่)
มาถึง.....ของที่ข้าพเจ้าอุตส่าข้ามน้ำข้ามทะเลมาเพื่อชิม......ซาซิมิโอโทโร่ !!
เป็นเนื้อปลามะกุโร่แบบดิบ  ส่วนของท้องปลามันที่เรียกกันว่า "โอโทโร่" คือส่วนที่มีน้อยที่สุดในปลา 1 ตัว  มีความหวานที่สุด  มันที่สุด  อร่อยที่สุด  สดที่สุด  และมีราคาแพงที่สุด !!  ( >___<" )
สนนราคาจานละ 1,090 บาทครับ (ตกชิ้น / คำละประมาณ 215 บาท)  // นานๆกินที...เอาน่า !!  ^^"

ทดสอบโอโทโร่ของร้าน  ZEN  :  ข้าพเจ้าเพิ่งเข้าใจวันนี้ล่ะ  ที่พวกนักชิมซาซิมิ-อาหารญี่ปุ่นชอบพูดกันว่า  "โอโทโร่...ละลายในปาก"  คือพอเนื้อปลาเข้าปาก  ลิ้นจะสัมผัสได้ถึงความสดของพุงปลา  ไขมันหวานๆ  ดๆ  จะแตก  และละลายในปาก  แถมมีเหยื้อใยบริเวณท้องปลาเหนียวๆ ชุ่มๆ พอให้ได้เคี้ยวเล่นอีกด้วย  ///  อร่อยครับ  อร่อยมาก.....สมแล้วที่คนรักอาหารญี่ปุ่นบอกต่อๆกันว่า..... "ต้องชิมให้ได้สักครั้งก่อนตาย"

ปอลิง.  ชิมแล้วครับ  โอโทโร่.....อร่อยดี  / แต่ผมกลับชอบแซลมอนส่วนโทโร่มากกว่า (ความชอบส่วนตัวครับ) โอโทโร่(ของโคตรแพง)นี่ขอแค่ชิมเป็นบุญปากนานๆครั้งก็พอ.....ชิมเสร็จแล้วก็.....ไปหาแซลมอนโทโร่กินต่อ คิคิคิ  ^____^"

[คุณาพร.]

นานๆได้เที่ยวซักที.....พักผ่อนคุ้มเลย  อิอิอิ 

[Everest Agency]

ปลื้ม!!!ครับพี่คุณาพร....น่ากินทั้งนั้นเลย...วันหลังไปกินที่ไหนอย่าลืมเอาลงอีกน่ะครับ...

[แม่ปีก]

ขอบคุณสำหรับรีวิวค่ะ  อยากชิมจัง แต่ตังไม่เอื้อ แฮ่ๆ
ได้แค่แซวม่อนร้านมะลิจัง ก็ฟินอยู่  นึกแล้วอยากกินขึ้นมาเลย

รีวิวบ่อยๆ นะคะ