สตูลเตรียมจัดงานฟอสซิลเฟสติวัล ชูท่องเที่ยวแหล่งใหม่

[ฅนสองเล]

โดย  ASTVผู้จัดการภาคใต้ www.ASTVsouth.com

[attach=2]

สตูล - ผู้ว่าฯ สตูล ประชุมหารือเตรียมจัดงาน "สตูลฟอสซิลเฟสติวัล ครั้งที่ 1" เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ สร้างจิตนึกการอนุรักษ์ และชูแหล่งท่องเที่ยวแหล่งใหม่ทางด้านธรณีวิทยา และชีววิทยาของจังหวัดสตูล ยังสนับสนุนการจัดตั้งอุทยานธรณี หรือ Geopark ของจังหวัดสตูล
       
       วานนี้ (3 ก.ย.) นายเหนือชาย จิระอภิรักษ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสตูล เรียกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมประชุมเพื่อหารือเตรียมจัดงาน "สตูลฟอสซิลเฟสติวัล ครั้งที่ 1" ที่ห้องประชุม โต๊ะพญาวัง ศาลากลาง ต.พิมาน อ.เมือง จ.สตูล เพื่อเปิดแหล่งท่องเที่ยวให้เป็นที่รู้จัก โดยโครงการสตูลฟอสซิลเฟสติวัล ครั้งที่ 1 กำหนดจัดขึ้น ระหว่างวันที่ 6-15 ธ.ค.2556 ที่บริเวณสนามกีฬาหน้าที่ว่าการอำเภอทุ่งหว้า จ.สตูล
       
       ในการนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดสตูล กล่าวว่า สตูลเป็นจังหวัดที่พบซากฟอสซิล หรือซากดึกดำบรรพ์มากที่สุดจังหวัดหนึ่งของภาคใต้ โดยเฉพาะฟอสซิลในมหายุคของสิ่งมีชีวิตสมัยโบราณ หรือมหายุคพาลีโอโซอิก ที่มีอายุ 540-280 ล้านปีก่อน รวมถึงซากช้าง และแรดดึกดำบรรพ์ ที่มีอายุ 1.8-0.01 ล้านปีก่อน ซึ่งที่ผ่านมา ได้มีการอนุรักษ์ซากดึกดำบรรพ์ โดยการจัดตั้งพิพิธภัณฑ์ช้างดึกดำบรรพ์ทุ่งหว้า เพื่ออนุรักษ์ซากดึกดำบรรพ์ที่พบในจังหวัดสตูล และภาคใต้
       
       และมีการอนุรักษ์พื้นที่แหล่งที่พบฟอสซิลที่ถ้ำเลสเตโกดอน ต.ทุ่งหว้า อ.ทุ่งหว้า จ.สตูล ซึ่งเป็นถ้ำน้ำเค็มที่ยาวที่สุดในประเทศไทย โดยส่งเสริมให้มีการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ เพื่อสร้างจิตนึกการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ และประชาสัมพันธ์แหล่งท่องเที่ยว แหล่งเรียนรู้ใหม่ทางด้านธรณีวิทยา และชีววิทยาของจังหวัดสตูล รวมทั้งเพื่อสนับสนุนการจัดตั้งอุทยานธรณี หรือ Geopark ของจังหวัดสตูล จึงจัดงานสตูลฟอสซิลเฟสติวัลขึ้น

[ผีดำ1]

ถ้าเสียงนี้สะท้อนไปถึง ผู้ว่า สตูล ผมว่าใจเย็นๆอย่าเอามาโชว์หมด มีไรเก็บไว้มั่ง จะเสนอว่าตอนนี้ท่านมีของดีที่น่าดูชมอยู่แหล่งนึงแล้วคือ ถ้ำภูผาเพชร (ใหญ่ที่สุดในไทย ใหญ่ที่สุดในเอเซีย ใหญ่เป็นอันดับ4ของโลก ไม่ใช่ธรรมดาเลย)บางคนไม่รู้ บางคนไปมาแล้วแต่ไม่ประทับใจเช่นผมไปมาเมื่อเดือนสิงหาคม56นี้เองคือ เป็นถ้ำที่น่าดูชมกว้างขวาง และสวยงามมากแค่ดูกับไฟฉายนะ เพราะระบบไฟแสงสีในถ้ำชำรุดไปหมดแล้ว(เหลือแต่ไฟทางเดินหลอดเล็กๆ) สะพานไม้ก็ชำรุดเป็นจุดๆ ถ้ำที่สวยและน่าค้นหาศึกษามันไม่ได้แสดงศักยภาพของมันเลย ลองคิดดูถ้ำนี้มีเนื้อที่ทั้งหมด 5,000ไร่ มี4ชั้นแต่เปิดให้ชมได้แค่1ใน4ส่วน ก็สร้างความฉงนน่าตื่นเต้นได้มากขนาดนี้แล้วถ้าเราเพิ่มไฟที่ให้แสงในการถ่ายรูป(ซึ่งมันเคยมีแต่ชำรุด)  ที่มีมิติมากกว่าการใช้ไฟฉายเล็กๆ(เช่าเอาอันละ20หรือเพราะใครมีรายได้จึงไม่ผลักดันต่อ) ผมไปแล้วเห็นแล้วเสียดายครับเขาเก็บค่าเข้าคนละ30ก็ไม่แพงนะแต่เข้าไปเดินกว่า2ชั่วโมงเพื่อดมขี้ค้างคาวกับมองอะไรที่มันสลัวๆผมว่ามันไม่คุ้ม แต่เราเลือกไม่ได้เพราะซื้อแพ็คเกจทัวย์ไปมันก็บรรจุอยู่แล้ว ช่วยเถอะครับให้งบทำต่อสานต่อเก็บค่าชมสัก50ก็ได้(ค่าเข้า30+ไฟฉาย มันก็50อยู่แล้ว) ส่วนที่ใหม่ๆเราเก็บไว้ก่อนให้มันเสื่อมไปเป็นที่ๆแล้วค่อยเอางบไปเปิดอันซีนที่ใหม่ รับรองจังหวัดสตูลยังมีของไว้โชว์อีกหลายปี  เมื่อก่อนตะรุเตา ตอนนี้ หลีเป๊ะคือมัลดีฟเมืองไทยดังแล้ว เริ่มเสื่อม ท่านมีล่องแก่ง น้ำตกวังสายทอง สวยมากๆ และถ้ำภูผาเพชรอันนี้ยังโชว์ศักยภาพไม่เต็มที่ ขอฝากไว้ครับ(ผมไปที่ถ้ำมัคคุเทศที่ถ้ำอธิบายให้ความรู้ดีมากครับ ขอชมเชย)