ข่าว:

ทดลองใช้งานบอร์ดตะลุง ที่อยู่ในขั้นตอนการกู้คืนข้อมูล เบื้องต้นมีแต่กระทู้ (ข้อความ) กำลังกู้รูปภาพ ไฟล์แนบต่าง ๆ คาดว่าจะทยอยสมบูรณ์ภายในไม่ช้า

Main Menu

ร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ไม่ได้แก้ไขปัญหาความขัดแย้งอย่างแท้จริงหรือ ?

เริ่มโดย zaczaz, 17:44 น. 05 ก.ย 56

zaczaz

ร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ไม่ได้แก้ไขปัญหาความขัดแย้งอย่างแท้จริงหรือ ?


แถลงการณ์ของพรรคร่วมรัฐบาล เรื่อง พระราชบัญญัตินิรโทษกรรม

สภาพปัญหา  สังคมไทยเกิดความขัดแย้ง แตกแยก แบ่งฝักแบ่งฝ่ายกันมาเป็นเวลานาน ส่งผลให้เกิดความขัดแย้งที่ฝังลึกในสังคมไทย ทำให้เกิดการกระทำและแสดงความคิดเห็นทางการเมืองที่ขัดต่อกฎหมาย เป็นผลให้เกิดการดำเนินคดี ซึ่งสร้างความเดือดร้อนให้แก่ประชาชน เพียงเพราะมีความคิดเห็นทางการเมืองที่แตกต่างกัน ประชาชนส่วนใหญ่เบื่อหน่ายกับความขัดแย้งที่เกิดขึ้น ต่างมีความต้องการที่จะให้ประเทศชาติหลุดพ้นจากวิกฤตดังกล่าว ต้องการเห็นคนในสังคมไทยมีความปรองดอง สมานฉันท์  ประชาชนจำนวนมากต้องตกเป็นผู้ต้องหาในคดีอาญา มีทั้งถูกจำคุก ไม่ได้ประกันตัว และหลบหนี ส่งผลให้เผชิญกับความทุกข์ยากลำบาก ขาดความเป็นอิสระ พลัดพรากจากครอบครัว และสูญเสียอาชีพการงาน  และบางส่วนยังมีผลกระทบไปถึงบุคคลในครอบครัว เกิดสภาพบ้านแตกหรือเป็นภาระที่ทำให้การดำเนินชีวิตของครอบครัว ต้องเผชิญกับภาวะวิกฤต เกิดปัญหาครอบครัว ส่งผลให้เกิดปัญหาในสังคม

แนวทางแก้ไข
พรรคร่วมรัฐบาลเห็นว่าแนวทางการแก้ไขปัญหาฝังลึกดังกล่าวคือ การให้โอกาสประชาชน เป็นการส่งเสริมสิทธิมนุษยชนและสิทธิพลเมืองตามระบอบประชาธิปไตย เป็นการลดความขัดแย้งทางการเมือง อันจะเป็นพื้นฐานเบื้องต้นที่จะนำไปสู่ความปรองดองสมานฉันท์ของคนในชาติ ประเทศไทยมีบทเรียนจากการแก้ไขปัญหาด้วยความรุนแรงมาแล้ว (การปฏิวัติ การสลายการชุมนุม) ซึ่งล้วนแต่เป็นการเพิ่มความขัดแย้ง เพิ่มความไม่เข้าใจกัน การให้โอกาสประชาชนดังกล่าว คือการแก้ปัญหาโดยการให้อภัยทุกฝ่าย ไม่ใช้ความอาฆาตแค้น พรรคร่วมรัฐบาลจึงเห็นพ้องต้องกันว่า สภาผู้แทนราษฎรควรจะพิจารณาร่างพระราชบัญญัตินิรโทษกรรมแก่ผู้ซึ่งกระทำความผิดเนื่องจากการชุมนุมทางการเมือง

การแสดงออกทางการเมืองของประเทศ พ.ศ. .... (ร่างของนายวรชัย เหมะและคณะ)โดยสภาผู้แทนราษฎรได้บรรจุร่างพระราชบัญญัติดังกล่าว โดยมีหลักการสำคัญที่จะ

นิรโทษกรรมประชาชนที่เข้าร่วมชุมนุมทางการเมือง ทุกสี ทุกฝ่าย อย่างเท่าเทียมกัน  ซึ่งกระทำความผิดเนื่องจากการชุมนุมทางการเมือง การแสดงออกทางการเมืองของประชาชน ระหว่างวันที่ 19 กันยายน พ.ศ. 2549 ถึงวันที่ 10 พฤษภาคม พ.ศ. 2554

การพิจารณาร่างพระราชบัญญัติฉบับนี้ ถือเป็นวาระปกติ โดยพรรคร่วมรัฐบาลจะไม่นำร่างพระราชบัญญัติอื่นๆ ในทำนองเดียวกันมาพิจารณาร่วมด้วย และใช้วิธีพิจารณาตามข้อบังคับปกติทั่วไป โดยไม่มีข้อยกเว้นหรือเร่งรัดใดๆ เพื่อให้เกิดความรอบคอบและเป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติมากที่สุด
ทำความเข้าใจพระราชบัญญัตินิรโทษกรรม

พระราชบัญญัตินิรโทษกรรม ฉบับนายวรชัย เหมะและคณะ มีหลักการคือ "ไม่รวมถึงการกระทำใดๆ ของบรรดาผู้ซึ่งมีอำนาจในการตัดสินใจ หรือสั่งการให้มีการเคลื่อนไหวทางการเมืองในห้วงระยะเวลาดังกล่าว"  ซึ่งเป็นการนิรโทษกรรมให้ประชาชนผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการชุมนุมเท่านั้น ไม่เกี่ยวข้องกับแกนนำและผู้สั่งการ

คดีที่ติดค้างกับประชาชนทั้งสองฝ่าย ร้ายแรงไม่แพ้กัน เช่น การก่อการร้าย การยึดสนามบิน ถ้าปล่อยไว้จะกลายเป็นชนักติดหลัง ความสงบจะเกิดขึ้นยาก พระราชบัญญัติฉบับนี้จึงนิรโทษกรรมให้ " ประชาชนทั้งสองฝ่ายอย่างเท่าเทียมกัน  ไม่มีการเลือกข้างใดๆ ทั้งสิ้น "

ผลที่ได้รับ
เมื่อสังคมมีความสงบสุข ความขัดแย้งทางการเมืองลดน้อยลง จึงเป็นโอกาสของประเทศในการเข้าสู่ความสงบเรียบร้อย มีความมั่นคงหลังจากเราสูญเสียโอกาสแห่งความเจริญก้าวหน้ามาเป็นเวลานาน ซึ่งจะเอื้ออำนวยต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศอย่างมีเสถียรภาพ นำประเทศกลับไปสู่ครั้งอดีต เกิดความรัก ความสามัคคีกัน ของคนในชาติ


ในค่าย

กลับไปดูใหม่ครับ ระดับผู้นำ ไม่มีใครได้ผลประโยชน์ครับ มีแต่พวกลูกกระจอกครับที่ได้ผลประโยชน์ เขาก็ประกาศชัดเจนแล้ว ก็ชอบเอามาตะแบงกัน เสื้อเหลือง เสื้อแดง ได้ผลประโยชน์ไม่มีความผิด มีแต่ระดับผู้นำเท่านั้นที่ต้องเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม ส.หลกจริง

apache

จะนิรโทษทำไมครับ ทำผิดก็ควรจะต้องกล้ายอมรับผิด เพราะคิดกันแบบนี้ไง คิดแบบโง่ๆ "คนทำผิดมาก คนทำผิดถูกหลอก คนทำผิดเป็นคนจน ควรจะนิรโทษ" ตอนทำไม่คิด ถ้าโง่ขนาดให้เพื่อนหลอกไปทำผิดก็สมควรที่จะอย่ในคุก ยาวๆ เลย ติดคุกไป ติดคุกไป ติดคุกไป ติดคุกไป ติดคุกไป ติดคุกไป ติดคุกไป ติดคุกไป ติดคุกไป ติดคุกไป ติดคุกไป ออกมาข้างนอกก็เป็นภาระสังคม ส.หลกจริง