เดี๋ยวก็รู้ใครแน่ 'อีโง่'

[itplaza]

กับปรากฏการณ์ฝนถล่มเมืองกรุงอย่างหนักในช่วงปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา ทำให้น้ำท่วมถนนหลายสายกลายสภาพเป็นคลอง เพราะท่อระบายไม่ทัน

ประกอบกับสถานการณ์ฝนตกหนักในพื้นที่ภาคเหนือ ภาคกลางตอนบน ทำให้ปริมาณน้ำในแม่น้ำป่าสัก แม่น้ำเจ้าพระยาล้นตลิ่งในเขตที่ลุ่มภาคกลาง

บรรยากาศคลับคล้ายคลับคลา

ภาพน้ำท่วมใหญ่เมื่อ 2 ปีที่แล้วย้อนกลับมาหลอน กระตุกต่อมผวา

ในขณะที่โครงการเงินกู้เพื่อการบริหารจัดการน้ำ 3.5 แสนล้านบาท  ของรัฐบาลก็คาราคาซัง หลังจากที่ศาลปกครองกลางได้มีคำวินิจฉัยให้หน่วยงานรัฐปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 57 วรรคสอง และมาตรา 67 วรรคสอง คือการรับฟังความคิดเห็นประชาชน ขณะนี้รัฐบาลอยู่ระหว่างอุทธรณ์ไปยังศาลปกครองสูงสุด

สะดุด เดินหน้าไม่ได้เต็มกำลัง

และก็แทงหวยล่วงหน้าได้เลยเหมือนกัน ร่าง  พ.ร.บ.ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อพัฒนาระบบโครงสร้างพื้นฐานด้านการคมนาคมขนส่งของประเทศ มูลค่า 2 ล้านล้านบาท ก็หนีไม่พ้น โดนเครือข่ายฝ่ายต้านเปิดเกมสกัด

ลากเกมเข้าองค์กรอิสระเพื่อไม่ให้รัฐบาลเดินหน้าได้ง่ายๆ

แม้แต่ร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2557 ก็ยังค้างเติ่ง ครม.ลงมติให้ชะลอนำขึ้นทูลเกล้าฯ เนื่องจากพรรคประชาธิปัตย์และเครือข่าย ส.ว.ฝ่ายต้านพรรคเพื่อไทย ยื่นร้องศาลรัฐธรรมนูญ  อ้างปมกรณีการตัดงบขององค์กรอิสระขัดรัฐธรรมนูญ

ตั้งด่านสกัดกันทุกจุด

ผลก็คือการบริหารชะงัก เพราะสะดุดเหลี่ยมเขี้ยวเกมอำนาจทางการเมือง

ตามท้องเรื่องใส่กันแบบไม่ยั้ง มาหมดทั้ง "อีโง่ กะหรี่ แรด ตอแหล" ครบสูตร ผรุสวาทกันบนเวทีผ่าความจริงของพรรคประชาธิปัตย์ที่ย่านดอนเมือง

มหาบัณฑิตออกซ์ฟอร์ดอย่าง "อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ" หรืออดีตกำนันลูกทุ่งอย่าง "สุเทพ เทือกสุบรรณ"

แท็กทีมกัน "ปล่อยของ" ใส่นายกรัฐมนตรีหญิงอย่างจงใจ โดยไม่สนกระแสตีกลับ ไม่ได้ใส่ใจว่าใครจะถูกมองเป็นผู้หญิง ใครเป็นผู้ชายกันแน่

ยกระดับดีกรี "หยาบคาย" กันชนิดที่แม่ค้าปากตลาดยังต้องหลบ

และก็แน่นอน ตามรูปการณ์มาถึงตรงนี้นายกฯยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ก็เตรียมพร้อมรับสถานการณ์ได้ ทุกอย่างล้วนอยู่ในวิสัยที่เป็นไปได้ทั้งนั้น

ไม่มีอะไรที่พรรคประชาธิปัตย์ และฝ่ายต้านจะยั้งมือให้แน่

ตามอารมณ์ที่นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย แกนนำพรรคประชาธิปัตย์ ประกาศโปรแกรมล่วงหน้า ตลอดทั้งเดือนกันยายนและเดือนตุลาคม เวทีผ่าความจริงของพรรคจะจัดอยู่ในกรุงเทพฯ และพร้อมยกระดับการเคลื่อนไหว หากเห็นว่าสถานการณ์การเมืองเข้าขั้นวิกฤติ

"อภิสิทธิ์" เกหมดหน้าตัก ไม่มีกั๊กแล้ว

แตกต่างกับ "ยิ่งลักษณ์" ที่ยังนิ่ง ถือไพ่ไว้ในมืออีกหลายใบ

โดยเฉพาะการบริหารเมกะโปรเจกต์ที่กระแสสังคมส่วนใหญ่ไม่ได้คัดค้านแต่อย่างใด

ตามจังหวะที่นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ รมว.คมนาคม "มืองาน" ของนายกฯยิ่งลักษณ์ ที่เล่นกระแส กระตุกเรตติ้งมาตลอด ตั้งแต่ "เรียลลิตี้" โหนรถเมล์ ลงเรือ ขึ้นรถไฟ เพื่อสัมผัสปัญหาแบบถึงแก่น

ได้คะแนนจากคนดู กดไลค์ในความเป็นมืออาชีพในเชิงบริหาร

ล่าสุดนายชัชชาติได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว เปรียบเทียบอันดับโครงสร้างพื้นฐานของประเทศไทยกับประเทศต่างๆในอาเซียน ที่มีรายงานไว้ใน The Global Competitiveness Report, World Economic Forum สะท้อนข้อมูลคุณภาพโครงสร้างพื้นฐานของไทย อยู่ที่ลำดับ 49 เมื่อเทียบกับเพื่อนบ้านอย่างมาเลเซีย อยู่ที่ลำดับ 29 และสิงคโปร์ อยู่ที่ลำดับ 2

ตอกย้ำตัวเลขประเทศไทยมีลำดับที่แย่ลงจากปี 2554-2555 ในทุกด้าน

ในสถานการณ์ที่ร่าง พ.ร.บ.เงินกู้ 2 ล้านล้านบาท กำลังเข้าสู่วาระการพิจารณาของสภา แน่นอนมันก็มองได้อีกมุมว่า เป็นยุทธศาสตร์เร้าแนวร่วมของรัฐบาล

เหลี่ยมเขี้ยวของเซียนการตลาด ตบตาพรรคประชาธิปัตย์ไม่ได้

แต่สุดท้ายเลย ถ้าเทียบระหว่างคนมุ่งทำงานกับคนจ้องเล่นแต่การเมือง สังคมจะให้แต้มใคร

"ยิ่งลักษณ์" ตีไพ่กิน "อภิสิทธิ์" จนหมดหน้าตักนั่นแหละ.

ขอบคุณเนื้อหา  : ไทยรัฐ
ที่มา http://www.itplaza.co.th/update_details.php?type_id=1&news_id=29658&page=1