ข่าว:

ทดลองใช้งานบอร์ดตะลุง ที่อยู่ในขั้นตอนการกู้คืนข้อมูล เบื้องต้นมีแต่กระทู้ (ข้อความ) กำลังกู้รูปภาพ ไฟล์แนบต่าง ๆ คาดว่าจะทยอยสมบูรณ์ภายในไม่ช้า

Main Menu

3บิ๊กจัดทัพรับขุมทรัพย์ทีวีดิจิทัล เตรียม"คน-คอนเทนต์"ครั้งใหญ่รอดีมานด์ทะลัก

เริ่มโดย ทีมงานประชาสัมพันธ์, 10:40 น. 07 ต.ค 56

ทีมงานประชาสัมพันธ์

updated: 03 ต.ค. 2556 เวลา 16:51:40 น.
ประชาชาติธุรกิจออนไลน์

3 ยักษ์ผู้ผลิตจัดทัพตั้งรับขุมทรัพย์ช่องทีวีดิจิทัล "เจเอสแอล" ปรับโครงสร้างองค์กร วางตัวเองเป็นซูเปอร์มาร์เก็ตคอนเทนต์ ชูความหลากหลายเจาะทุกกลุ่มเป้าหมาย "กันตนา กรุ๊ป" โชว์ความครบเครื่อง หลังปูทางผุดสถาบันกันตนาปั้นบุคลากรทั้งเบื้องหน้า-เบื้องหลัง รับโอกาสทอง ด้านเวิร์คพอยท์เตรียม 40 รายการนำร่องรองรับเปิดช่องทีวีดิจิทัล

การเปิดขายซองเอกสารประมูลทีวีดิจิทัลช่องบริการธุรกิจของคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ที่มีผู้สนใจเข้าร่วมซื้อซองถึง 49 ซอง จาก 33 บริษัท ก่อนจะเปิดให้ผู้สนใจเข้าร่วมประมูลช่องอีกครั้งปลายเดือนตุลาคมนี้ หากทุกอย่างลงตัวเท่ากับว่าจากนี้ไปจะมีจำนวนช่องฟรีทีวีเพิ่มเป็น 48 ช่อง จาก 6 ช่องในปัจจุบัน นั่นหมายถึงว่า ความต้องการคอนเทนต์ที่จะเพิ่มขึ้นหลายเท่าตัวจากช่องทางของการออกอากาศที่ขยายตัวขึ้น ซึ่งถือเป็นขุมทรัพย์ใหม่ที่ผู้ผลิตคอนเทนต์ต้องรีบคว้าไว้

นางรติวัลคุ์ ศรีมงคลกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท เจเอสแอล โกลบอล มีเดีย จำกัด เปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า การเกิดขึ้นของทีวีดิจิทัลถือเป็นโอกาสทองของผู้ผลิตคอนเทนต์ที่จะสร้างรายได้จากการผลิตคอนเทนต์ป้อนให้กับช่องรายการต่าง ๆ ปัจจุบันมีผู้ผลิตคอนเทนต์รายใหญ่ที่มีศักยภาพเพียงพอต่อการผลิตคอนเทนต์รองรับทีวีดิจิทัลในตลาดหลัก ๆ มีเพียง 3 ราย ได้แก่ เจเอสแอล, กันตนากรุ๊ป และทีวีธันเดอร์ ส่วนเวิร์คพอยท์ ที่เตรียมจะประมูลช่องทีวีดิจิทัลด้วยนั้น คาดว่าหลัก ๆ คงจะเน้นการผลิตคอนเทนต์ให้กับช่องรายการของตัวเองเป็นหลัก

สำหรับเจเอสแอลฯ เองจากนี้ไปจะวางตัวเองเป็นผู้ผลิตรายการ หรือคอนเทนต์โพรไวเดอร์ ที่เจเอสแอลฯ มีความเชี่ยวชาญอยู่แล้ว และได้เตรียมตัวในแง่การสร้างคอนเทนต์ที่หลากหลาย ด้วยการวางตัวเองให้เหมือนกับซูเปอร์มาร์เก็ตที่มีสินค้าหลากหลายประเภทให้ผู้บริโภคได้เลือก ทั้งรายการวาไรตี้ ทอล์กโชว์ ละคร เป็นต้น

นอกจากนี้ยังมีนโยบายที่เปิดกว้างที่จะร่วมมือกับพันธมิตรทั้งรายเล็กและรายใหญ่ ในการผลิตคอนเทนต์เพื่อป้อนให้ช่องต่าง ๆ ด้วย จากปัจจุบันบริษัทมีทีมที่ผลิตรายการเพื่อป้อนให้กับฟรีทีวีช่องต่าง ๆ เป็นหลักอยู่แล้ว

"หลังการประมูลทีวีดิจิทัลเสร็จสิ้นลง และ กสทช.กำหนดให้ผู้ชนะการประมูลจะต้องออกอากาศภายใน 30 วันนั้น บริษัทก็มีความพร้อมที่จะผลิตคอนเทนต์ป้อนให้กับผู้สนใจทันที และวันนี้มีผู้ยื่นซื้อซองเข้าร่วมประมูลทีวีดิจิทัลทั้งรายเล็กและรายใหญ่เดินเข้ามาเจรจาถึงแนวทางการผลิตคอนเทนต์เบื้องต้นบ้างแล้ว อย่างไรก็ตาม ด้วยศักยภาพที่มีอยู่ในวันนี้ เราจะสามารถผลิตคอนเทนต์รองรับให้กับช่องทีวีดิจิทัลรวม 5 ช่อง"

นางรติวัลคุ์กล่าวว่า ด้วยโอกาสจากทีวีดิจิทัลที่จะเกิดขึ้น บวกกับความเคลื่อนไหวของธุรกิจบรอดแคสต์ที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ทำให้บริษัทต้องปรับโครงสร้างองค์กรต่อเนื่อง ปัจจุบันอยู่ระหว่างการปรับโครงสร้างองค์กรในเฟสแรก เพื่อรองรับกับธุรกิจที่กำลังจะเดินหน้า และจะปรับโครงสร้างองค์กรอีกครั้งหลังจากนำบริษัทเข้าตลาดหลักทรัพย์ในอีก 2 ปีข้างหน้า

สำหรับการปรับโครงสร้างองค์กรเฟสแรกนั้น เมื่อเดือนที่ผ่านมาบริษัทได้ตั้งบริษัท คอนเทนท์ แล็บ จำกัด ทำหน้าที่ดูแลเรื่องการซื้อ-ขายคอนเทนต์ต่างประเทศ รวมถึงคอนเทนต์ของบริษัทในเครือ ว่าจะซินเนอร์ยี่คอนเทนต์อย่างไร เพื่อสร้างมูลค่าทางธุรกิจ ซึ่งปัจจุบันเจเอสแอลฯ มีบริษัทในเครือรวม 7 บริษัท ทำหน้าที่ตั้งแต่ต้นน้ำยันปลายน้ำ คือการสร้างศิลปิน-นักร้อง-นักแสดง ผลิตรายการประเภทต่าง ๆ ทั้งเกมโชว์ เรียลิตี้ การรับจ้างผลิตรายการในลักษณะแบรนด์เดดคอนเทนต์ การบริหารลิขสิทธิ์แคแร็กเตอร์การ์ตูน เป็นต้น

สอดรับกับนางจิตรลดา ดิษยนันทน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท กันตนา มูฟวี่ทาวน์ (2002) จำกัด กล่าวว่า เมื่อทีวีดิจิทัลเกิดขึ้นจะกลายเป็นโอกาสที่สำคัญของคอนเทนต์โพรไวเดอร์ทุก ๆ ราย เพราะจำนวนช่องทางการออกอากาศจะเพิ่มขึ้น แต่ที่เป็นอุปสรรคของอุตสาหกรรมนี้ก็คือ ปัญหาการขาดแคลนบุคลากรจำนวนมาก ซึ่งที่ผ่านมาบริษัทได้เตรียมความพร้อมด้านนี้มาอย่างต่อเนื่อง ทั้งสถาบันกันตนา, บริษัท กันตนา เอ็ดดูเทนเมนท์ (อินเตอร์เนชั่นแนล) จำกัด เป็นต้น ที่สามารถผลิตบุคลากรทั้งเบื้องหน้าและเบื้องหลังได้อย่างครบวงจร ซึ่งถือเป็นข้อได้เปรียบของบริษัท

นอกจากนี้อีกหนึ่งธุรกิจที่ถือเป็นรายได้หลักของบริษัทคือ การให้เช่าเครื่องมือ อุปกรณ์ด้านการถ่ายละคร โดยแต่ละปีต้องใช้งบฯลงทุนจำนวนมาก เพราะเทคโนโลยีเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา ซึ่งจะกลายเป็นอีกโอกาสสำคัญหลังทีวีดิจิทัลเริ่มต้นขึ้น

นายชลากรณ์ ปัญญาโฉม ผู้ช่วยประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายโทรทัศน์และโครงการพิเศษ บริษัท เวิร์คพอยท์ เอ็นเทอร์เทนเมนท์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ทีวีดิจิทัลกลายเป็นโอกาสสำคัญของบริษัท เนื่องจากเตรียมตัวยื่นประมูลทีวีดิจิทัลด้วยเช่นกัน ซึ่งหากชนะการประมูลดังกล่าวจะทำให้บทบาทของเวิร์คพอยท์เปลี่ยนไปจากฐานะผู้ผลิตคอนเทนต์สู่เจ้าของสถานีโทรทัศน์ โดยชูจุดแข็งด้วยการมีคอนเทนต์เป็นของตัวเอง ซึ่งในส่วนของการรับจ้างผลิตนั้นอาจจะต้องพิจารณาอีกครั้งหนึ่ง เพราะต้องโฟกัสที่การผลิตคอนเทนต์เพื่อป้อนให้สถานีตัวเองเป็นหลัก ปัจจุบันบริษัทได้เตรียมความพร้อมด้านคอนเทนต์และบุคลากรไว้แล้ว ในส่วนของคอนเทนต์เตรียมรายการไว้ประมาณ 30-40 รายการ ซึ่งจะเพียงพอต่อการออกอากาศทันทีหลังชนะการประมูล

อย่างไรก็ตาม การเป็นเจ้าของสถานีมีทั้งความเสี่ยงทางธุรกิจและเป็นโอกาสทางธุรกิจด้วยเช่นกัน เพราะเท่ากับว่าเวิร์คพอยท์จะมีช่องทางในการออกอากาศของตัวเองอย่างชัดเจน แต่อาจจะต้องใช้เวลาพอสมควรในการสร้างสถานีให้เป็นที่ยอมรับจากผู้ชม ดังนั้นคอนเทนต์ที่มีจะต้องโดนใจผู้ชม เพราะในระยะยาวแล้วคอนเทนต์จะเป็นตัววัดผลว่าใครจะอยู่ได้บนการแข่งขันนี้ เนื่องจากจำนวนช่องฟรีทีวีจะเพิ่มขึ้นขณะที่ฐานผู้ชมเท่าเดิม