ศึกนอกว่า...หนักแล้ว แต่ศึกใน...หนักยิ่งกว่า!

[itplaza]

"ถึงกับหวาดเสียวเลยก็แล้วกัน" กับลีลาทวิตเตอร์ในโลกโซเชียลมีเดีย ของคนระดับรองหัวหน้าพรรคภาคกลาง อย่าง นายอลงกรณ์ พลบุตร (เดอะจ้อน) ที่ออกแนวประกาศพร้อมจะแตกหักกับคนในพรรค ปชป. ด้วยกันเอง บางกลุ่มแบบ "ใครดีใครอยู่" ไม่ใครก็ใครคนใดคนหนึ่งก็ต้องเก็บของออกจากพรรคไป" หากสถาบันการเมืองเก่าแก่อย่าง ปชป. ยังไม่ยอมปรับตัวหรือเร่งปฏิรูปฯ ตัวเอง ให้มีความก้าวหน้า และพ้นจากวังวน พ่ายแพ้ทางการเมือง ไม่เคยชนะการเลือกตั้งติดต่อกันมา ถึง 21 ปี 

"ยก 2 ปฏิรูปฯ คณะกรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์ จะประชุมเรื่อง "การปฏิรูปพรรคเป็นการเฉพาะ เพื่อพิจารณาร่างข้อบังคับปรับโครงสร้างพรรคใหม่ จะรู้ว่า คณะ กก.บริหารพรรค กล้าเปลี่ยนแปลงปฏิรูปฯ หรือไม่ หรือยังติดหล่มแนวทางการเมืองแบบเก่าๆ ที่ทำให้พรรค ปชป.แพ้มา 21 ปี ติดต่อกัน แม้การประชุม คณะกก.บห.พรรค เดือนก่อน จะสรุปผลเห็นชอบในหลักการต่อการปฏิรูปพรรค ที่คณะทำงานฯ เสนอ แต่ก็ทำเอาเลขาฯ พรรค เกือบลาออก



การคัดค้านการปฏิรูปพรรค กลายเป็นเรื่องตลกของคนนอก เพราะมองไม่เห็นเหตุผลว่า ทำไมคนในพรรคบางกลุ่มจึงขัดขวาง การปฏิรูปฯ ข้อเสนอปฏิรูปฯ เมื่อ 13 เม.ย.ได้รับการขานรับ เพราะการปฏิรูปเปลี่ยนแปลงพรรคให้ทันสมัยก้าวหน้า ยึดมั่นประชาธิปไตย จะสร้างความเชื่อถือศรัทธาใหม่ เพื่อลบล้างภาพทุจริต, ดีแต่พูดและอิงแอบเผด็จการ

น่าจะคิดได้แล้วว่า ทำไม 2-3 เดือนมานี้ รัฐบาลบริหารผิดพลาดหลายเรื่อง โดยเฉพาะด้านเศรษฐกิจปากท้อง ของแพง แต่ความนิยมของพรรคเองก็ไม่ดีขึ้น วันที่ 7 ต.ค.จะเป็นยก 2 ของการปฏิรูปพรรคแต่ก็อาจเป็นยกสุดท้ายของผม ของเลขาฯ พรรค ของกลุ่มปฏิรูปหรือของคนบางคนบางกลุ่มในพรรคเก่าแก่แห่งนี้" นายอลงกรณ์ ร่ายยาว...

ตอกย้ำรอยร้าวภายในของพรรค "พระแม่ธรณีบีบมวยผม" ทั้งนี้ ทีมข่าวไทยรัฐออนไลน์ มีโอกาสได้พูดคุยกับ นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย กรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์ หนึ่งในทีมงาน "แก๊งไอติม" ของ "เดอะมาร์ค" อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งการพูดคุยก็ผ่านมาเป็นเวลาพอสมควรแล้ว จับสัญญาณได้ว่า คนในพรรคปชป.เอง ส่วนหนึ่งมีท่าทีไม่เห็นด้วยกับแนวทางการปฏิรูปพรรคฯ ฉบับที่เสนอโดย นายอลงกรณ์



ทั้งนี้ นายสาทิตย์ กล่าวว่า ข้อเสนอปฏิรูปฯ ของเดอะจ้อนนั้น ถือว่าตกไปแล้ว แต่มีฉบับปฏิรูปฯ ใหม่ของพรรค ขึ้นมาให้พิจารณาแทน โดยพิมพ์เขียวปฏิรูปฯ พรรค ปชป.ฉบับใหม่นี้ โครงสร้างเน้นไปที่การหดสายการบังคับบัญชาที่ยืดยาวในแนวสูงแบบข้าราชการ ให้สั้นลง และแผ่ขยายไปในแนวราบมากขึ้น หากพูดตามภาษาชาวบ้าน ก็คือกระจายอำนาจลงไปให้สาขาพรรคในท้องถิ่นนั้นๆ ตัดสินใจเองได้มากขึ้น โดยไม่ต้องผ่านมาที่ระดับผู้บริหารพรรคในทุกเรื่อง นายสาทิตย์ใช้คำว่า เพื่อการทำงานจะได้มีความรวดเร็ว ไม่ยืดยาดเหมือนอดีต จะได้ใช้สู้กับคู่แข่งสำคัญอย่างพรรคเพื่อไทย



ขณะที่การประชุมพรรค ปชป.เมื่อวานที่ผ่านมา ใช้เวลาถกเครียดกว่า 5 ชม. โดยนายอัศวิน วิภูศิริ ในฐานะประธานคณะทำงานปฏิรูปพรรค เปิดเผยหลังการประชุมว่า ที่ประชุมได้รับรองแผนการปรับโครงสร้างพรรค แต่มีการเปลี่ยนแปลงรายละเอียด เช่น การตั้งคณะกรรมการพรรค (บอร์ดพรรค) ที่ประชุมเห็นควรว่า ให้คงใช้เช่นเดิม คือ "สภาที่ปรึกษาพรรค" ที่มีนายชวน หลีกภัย เป็นประธาน ซึ่งคณะกรรมการชุดนี้จะเป็นผู้ใหญ่และผู้ทรงคุณวุฒิของพรรคในหลายด้าน เพราะเกรงว่าจะทำงานซ้ำซ้อนกับ กรรมการชุดอื่น ที่เสนอเข้ามาในโครงสร้างใหม่

ส่วนชุดที่สองคือ กรรมการบริหารพรรคที่เดิมมีการเสนอ 15 คน ก็ให้เพิ่มเป็น 25 คน คือ ให้เพิ่มรองหัวหน้าภาค 5 คน และเพิ่มรองหัวหน้าพรรคในโควตาหัวหน้า จากเดิมตั้งได้ 3 เพิ่มเป็น 5 คน โดยให้รับผิดชอบงานในแต่ละด้าน เช่น เศรษฐกิจ สังคม ต่างประเทศ



"ส่วนที่ประชุมพรรค มีการพิจารณาตามพิมพ์เขียว นายอลงกรณ์ หรือไม่นั้น นายอัศวิน กล่าวว่า สิ่งที่นายอลงกรณ์ เสนอมาก็อยู่ในแผนที่เสนอต่อพรรค โดยนายอลงกรณ์เห็นด้วยเกือบทั้งหมด โดยเฉพาะในแง่การบริหารและโครงสร้าง ไม่เกี่ยวกับนโยบาย ทั้งนี้ คาดจะเสนอเข้าที่ประชุม ส.ส.ได้ภายในสัปดาห์หน้า" นายอัศวิน กล่าว...

การปฏิรูปพรรคการเมืองของ ปชป. จะประสบความสำเร็จหรือไม่? จะทำให้ได้กลับมาเป็นรัฐบาล โดยวิธีการชนะการเลือกตั้ง ตามครรลองของประชาธิปไตย โดยไม่ต้องแอบอิงกับอำนาจนอกระบบได้จริงหรือเปล่า? คำตอบนี้ ยังต้องรอการพิสูจน์กันต่อไปในอนาคต 

เบื้องต้นก่อนเลย ขึ้นอยู่กับความกล้าหาญของนายอภิสิทธิ์ และคนระดับกรรมการบริหารฯ ในที่นี้อาจรวมไปถึง ระดับปรมาจารย์ อย่างนายชวน หลีกภัย ประธานที่ปรึกษาพรรคว่า จะตัดสินใจนำพรรคเก่าแก่อย่าง ปชป. เดินไปแนวทางไหน เพื่อให้บรรลุเป้าหมาย ในที่นี้อาจหมายถึง ขนาดต้อง "ยอมกลืนเลือด" ในข้อแม้ว่าจากนี้เป็นต้นไป ปชป.จะต้องกล้าทำให้สังคมเห็นว่า จะมีการปฏิรูปพรรคอย่างจริงจัง ไม่ใช่เป็นแค่ตัวหนังสืออยู่ในกระดาษ เท่านั้น และต้องไม่ลืม รวมทั้งควรทำใจยอมรับว่า "หนทางข้างหน้าไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ" แน่ อาจจะต้องมีเจ็บปวดกันบ้าง แต่ก็ต้องยอมรับ



หากทำได้จริง โอกาสที่พรรค ปชป.จะกลับมาเป็นที่พึ่งของพี่น้องประชาชนคนไทยทั่วประเทศได้อีกครั้ง เหมือนยุคสมัยหนึ่งที่ ปชป. มีดรีมทีมเศรษฐกิจ ซึ่งต้องยอมรับว่า ในช่วงนั้น พรรค ปชป.กลายเป็นที่คาดหวังของพี่น้องประชาชนว่า จะสามารถแก้ปัญหาโรคต้มยำกุ้งให้ประเทศไทยได้ แล้วก็ผ่านมาได้จริง สมดังหวัง



ทั้งนี้ยังเชื่อว่า หนทางเป็นจริงได้ แม้อาจต้องให้เวลาหน่อยก็ตาม หากคนในพรรคการเมืองเก่าแก่แห่งนี้มีความตั้งใจ ความสามัคคี รวมทั้งพร้อมที่จะเสียสละ ความหวังที่จะกลับมาก็มีแน่ จริงไหม?



ขอบคุณเนื้อหา  : ไทยรัฐ
ที่มา http://www.itplaza.co.th/update_details.php?type_id=1&news_id=30189&page=1

[ยังไม่รู้อีกเหรอ?]

น่าสงสาร คุณอลงกรณ์

อยู่ผิดที่  ตั้งแต่แรก  ยังไม่รู้ตัวอีกหรือ?

เชื่อคนดูเถอะ อยู่พรรคนี้มีแต่ถอย และจะถอยไปเรื่อยๆ

ยิ่งตอนนี้คุณเป็นปรปักษ์ด้วยแล้ว  ตัดใจเสียเถอะลาออกไป

ยังเชื่อได้ว่า มีพรรคที่ยินดีต้อนรับคุณไปร่วมงานอีกมาก

และคุณก็จะอยู่ด้วยดี มีศักดิ์ศรี มีตำแหน่ง มีคนนับหน้าถือตา

อยู่ได้อย่างสบายใจ ด้วยเกียรติและศักดิ์ศรีของตัวเอง

ไปเถอะอย่าอยู่ให้คนในพรรครังเกียจเปล่าๆ มันจะเป็นแกะดำเอา

[นายไข่นุ้ย]