จนท.เขื่อนวชิราลงกรณ์ งมไม้ตะเคียนขึ้นจากอ่างเก็บน้ำ หลังประทับทรงคนมาเที่ยวเขื่

[itplaza]

เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 31 ตุลาคม ที่บริเวณทางน้ำล้นหรือสปิลเวย์ เขื่อนวชิราลงกรณ์ อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี เจ้าหน้าที่เขื่อนวชิราลงกรณ์ พร้อมด้วยนักประดาน้ำ เขื่อนวชิราลงกรณ ช่วยกันกู้ไม้ตะเคียน ภายหลังจากที่มีร่างทรงบอกว่าที่บริเวณหน้าอ่างเก็บน้ำเขื่อนวชิราลงกรณ์ ก่อนใช้เชือกผูกไม้ตะเคียนไว้และใช้เรือทำการชักลากมาที่บริเวณประตูสปิลเวย์ จากนั้นได้ใช้รถเครนยกไม้ตะเคียนดังกล่าวขึ้นมา โดยก่อนหน้าที่จะทำการยกไม้ขึ้นมาจากผิวน้ำ เจ้าหน้าที่ได้ตั้งโต๊ะเครื่องเซ่นไหว้กลางแจ้ง พร้อมกับนิมนต์พระภิกษุสงฆ์มาทำพิธี ท่ามกลางเจ้าหน้าที่ของเขื่อนวชิราลงกรณ์ และชาวบ้าน ใน อ.ทองผาภูมิ ที่ทราบข่าวแห่มามุ่งดูพร้อมกับจุดธูปขอขมากันเป็นจำนวนมาก

โดยเจ้าหน้าที่ใช้เวลาในการกู้ไม้ตะเคียนประมาณ 1 ชั่วโมงจึงสำเร็จ ซึ่งพบว่าไม้ตะเคียนดังกล่าวมีขนาดความยาว 18 เมตร เส้นรอบวง 30 เซนติเมตร จากนั้นได้นำไม้ตะเคียนต้นนี้ไปไว้ที่วัดเขื่อนเขาแหลม ซึ่งระหว่างที่จะนำไม้ตะเคียนไปไว้ที่วัดนั้น ได้มีชาวบ้านนำผ้าสามสีและพวงมาลัยมาคล้องและกราบไหว้ไม้ตะเคียนกันอย่างคึกคัก

ด้าน นายพิสิษฐ์ ดีวงศ์วาลย์ เจ้าหน้าที่ชำนาญการ 4 เขื่อนวชิราลงกรณ์ ผู้ที่แจ้งว่ามีไม้ตะเคียนจมอยู่ใต้ท้องน้ำ เผยว่า ภรรยาของตนและเพื่อนๆ ได้มาเที่ยวชมอ่างเก็บน้ำเขื่อนวชิราลงกรณ์ เมื่อวันเสาร์ที่ 26 ตุลาคม ผ่านมา ขณะกำลังเดินทางกลับออกจากเขื่อนวชิราลงกรณ์ ภรรยาของตนซึ่งเป็นร่างทรงเจ้าแม่ตะเคียน อยู่ ๆ ก็เกิดประทับทรงและได้ร้องไห้ฟูมฟายขึ้นมาโดยไม่มีสาเหตุ โดยบอกว่าอยากให้ช่วยนำไม้ตะเคียนที่จมอยู่ใต้ท้องน้ำบริเวณหน้าเขื่อนดังกล่าวขึ้นมาที เพราะว่าหนาว

ต่อมาในช่วงเช้าของวันที่ 27 ตุลาคม ที่ผ่านมา ตนจึงได้ประสานกับทางเขื่อนเพื่อให้ช่วยจัดเจ้าหน้าที่ชุดดำน้ำลงไปงมเก็บกู้ไม้ตะเคียนขึ้นมาจากน้ำตามที่ร่างทรงบอกไว้ ซึ่งไม่มีใครเชื่อว่าจะมีไม้ตะเคียนจมอยู่ในบริเวณดังกล่าวจริง เนื่องจากเจ้าหน้าที่จะดำน้ำอยู่เป็นประจำทุกเดือน แต่ในที่สุดก็ยอมทดลองดำลงไปให้ ซึ่งหลังจากได้ดำน้ำลงไปตรงจุดที่ร่างทรงบอกไว้ กลับพบไม้ตะเคียนจมอยู่ในน้ำบริเวณที่เป็นน้ำวนจริง จึงได้ทำพิธีขอขมาเพื่อเชิญไม้ตะเคียนขึ้นมาจากใต้ท้องน้ำ ซึ่งตั้งแต่สร้างเขื่อนวชิราลงกรณ์แล้วเสร็จเมื่อปี 2527 ปัจจุบันเป็นระยะเวลา 29 ปี เพิ่งจะมีการพบไม้ตะเคียนและงมขึ้นมาเป็นครั้งแรก

ขอบคุณเนื้อหา  sanook.com
ที่มา http://www.itplaza.co.th/update_details.php?type_id=1&news_id=30803&page=1