ข่าว:

ทดลองใช้งานบอร์ดตะลุง ที่อยู่ในขั้นตอนการกู้คืนข้อมูล เบื้องต้นมีแต่กระทู้ (ข้อความ) กำลังกู้รูปภาพ ไฟล์แนบต่าง ๆ คาดว่าจะทยอยสมบูรณ์ภายในไม่ช้า

Main Menu

องค์กรต้านคอร์รัปชั่น ออกแคมเปญล้านชื่อหยุดกฎหมายล้างผิดคดีโกง

เริ่มโดย ฅนสองเล, 11:12 น. 02 พ.ย 56

ฅนสองเล

องค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน (ประเทศไทย) เชิญชวนคนไทยทุกคนร่วมแสดงพลังลงชื่อต้านคอร์รัปชั่น ล้มกฎหมายล้างผิดช่วยเหลือคนโกงชาติ ด้วยการร่วมกันลงชื่อต่อต้าน พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ผ่านทาง www.change.org/th แคมเปญเข้าชื่อ "ล้านชื่อหยุดกฎหมายล้างผิดคดีโกง"

[attach=1]

*********************************************

เนื่องจากกรรมาธิการเสียงข้างมากในที่ประชุมคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัตินิรโทษกรรมแก่ผู้ซึ่งกระทำความผิดเนื่องจากการชุมนุมทางการเมือง การแสดงออกทางการเมืองของประชาชน พ.ศ. .... (พ.ร.บ.นิรโทษกรรม) มีมติให้แก้ไขเพิ่มเติมความในร่างมาตรา 3 ซึ่งมีเจตนามุ่งหมายที่จะลบล้างคำพิพากษาของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองในคดีทุจริตต่าง ๆ และให้คดีที่ยังค้างคาเป็นอันต้องยุติ ให้ผู้สมรู้ร่วมคิดทั้งหมดพ้นจากความรับผิดและความรับผิดชอบโดยสิ้นเชิง

การแก้ไขเพิ่มเติมดังกล่าวจะส่งผลดังต่อไปนี้

1. ลบล้างคำพิพากษาในคดีทุจริตที่ศาลฎีกาฯ ได้ตัดสินแล้วทั้งหมด

2. คดีทุจริตทั้งหมดที่ยังอยู่ระหว่างการดำเนินการไม่ว่าอยู่ในชั้น ป.ป.ช. อัยการ ศาลฎีกาฯ หรือหน่วยงานอื่น จะต้องยุติ ไม่มีการดำเนินคดีอีกต่อไป จะไม่มีการนำเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมเพื่อเอาคนผิดมาลงโทษ

3. ส่งผลกระทบต่อคดีคอร์รัปชันทั้งหมดที่ดำเนินการโดย ป.ป.ช. ค.ต.ส. หรือคณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน (คตง.) ไม่ว่าการทุจริตนั้นจะเกิดก่อนวันที่ 19 กันยายน 2549 หรือไม่ เนื่องจากหากมีการดำเนินการโดย ป.ป.ช. ค.ต.ส. หรือ คตง. ก็ถือว่าเข้าเงื่อนไขร่างมาตรา 3

4. ร่างมาตรา 3 มีเนื้อหาที่เป็นการ "ส่งเสริม" ให้เกิดการทุจริตมากยิ่งขึ้น ผู้สมรู้ร่วมคิดทั้งตัวการ ผู้สนับสนุน และผู้ถูกใช้ให้กระทำ หรือถูกบังคับให้ทำ จะไม่มีความเกรงกลัวต่อกฎหมาย ทำให้คอร์รัปชันยิ่งทวีความรุนแรงมากขึ้นจนสามารถประมาณความสูญเสียได้

5. สถานการณ์คอร์รัปชันในประเทศไทยมีความรุนแรงมากขึ้นในทุกระดับ ประเทศไทยสูญเสียงบประมาณแผ่นดินไปกับการทุจริตมากกว่า 3 แสนล้านบาทต่อปี เป็นเงินจำนวนมหาศาลที่สามารถนำไปพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชน สร้างความแข็งแกร่งและศักยภาพการแข่งขันของประเทศได้อย่างมาก

6. การล้างผิดในคดีทุจริตเป็นการทำลายระบบคุณธรรมและจริยธรรมของสังคมอย่างร้ายแรง สังคมไทยโดยเฉพาะคนรุ่นใหม่มีค่านิยมใหม่ว่าโกงแล้วไม่มีความผิด โกงแล้วได้แต่ผลดี ซึ่งจะส่งผลให้เกิดความล้มเหลวทางสังคมอย่างใหญ่หลวงเกินกว่าจะแก้ไขได้

7. ส่งผลเสียโดยตรงและอย่างรุนแรงต่อผู้ถูกกล่าวหา เนื่องจากถูกตัดโอกาสที่จะพิสูจน์ความบริสุทธิ์ตามกระบวนการยุติธรรมให้ถึงที่สุด กระบวนการยุติธรรมจะหมดความศักดิ์สิทธิ์ เพราะไม่สามารถนำตัวคนผิดมาลงโทษตามครรลองของกฎหมาย เพื่อชดใช้และรับผิดต่ออาชญากรรมร้ายแรงที่กระทำต่อแผ่นดินและคนไทยทั้งประเทศได้

8. การแก้ไขเพิ่มเติมความในร่างมาตรา 3 ขัดแย้งอย่างชัดแจ้งต่อคำประกาศเจตนารมณ์ของรัฐบาล เมื่อวันที่ 2 กรกฎาคม 2556 รัฐบาลไม่อาจปัดความรับผิดชอบว่าเป็นเรื่องของฝ่ายนิติบัญญัติได้

9. เนื้อหาร่างมาตรา 3 ขัดแย้งและเป็นอุปสรรคต่อการดำเนินการตามอนุสัญญาขององค์การสหประชาชาติเพื่อการต่อต้านการทุจริต (UNCAC 2003) ที่ประเทศไทยได้ให้สัตยาบันไว้เมื่อ 1 มีนาคม 2554 ทำให้ประเทศไทยเป็นประเทศแรกและประเทศเดียวในโลกที่ออกกฎหมายนิรโทษกรรมให้กับคดีอันเป็นความผิดฐานคอร์รัปชันภายหลังลงนามให้สัตยาบัน ซึ่งจะทำให้ประเทศไทยมีภาพลักษณ์ที่เสื่อมเสียในสายตาของประชาคมโลก

10. ส่งผลกระทบต่อการลงทุนและการพัฒนาทางเศรษฐกิจ เพราะทำลายความเชื่อมั่นของนักลงทุนในภายในและภายนอกประเทศ ซึ่งจะส่งผลกระทบเป็นลูกโซ่มาถึงคนไทยทั้งสังคม โดยเฉพาะผู้มีรายได้น้อย

องค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน (ประเทศไทย) ย้ำจุดยืนว่า บรรดาคดีในฐานความผิดคอร์รัปชันทั้งหมดต้องเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมจนถึงที่สุด เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย สร้างบรรทัดฐานที่ถูกต้องของกระบวนการยุติธรรมในสังคม และเพื่อให้การปราบปราบการทุจริตคอร์รัปชันเป็นรูปธรรมอย่างจริงจังและน่าเชื่อถือ และขอเชิญชวนให้ประชาชนผู้ต้องการเห็นสังคมไทยปราศจากคอร์รัปชันร่วมสนันสนุนในการคัดค้านการแก้ไขเพิ่มเติมความในร่างมาตรา 3 ครั้งนี้

เราจะเอาชนะคอร์รัปชันได้ด้วยพลังของสังคม

ซัมเบ้ Note 7 Jr.

สังคมไทยจะพังก็เพราะคนโลภโกงกิน   ต้องช่วยกันขับไล่ครับ
ขอเป็นข้ารองพระบาททุกชาติไป

ฅ ฅนหลง

.


...พรุ่งนี้ 10โมงเช้า อย่าลืมออกมาเป่านกหวีดกันนะขอรับ ส-ดีใจ ส.สู้ๆ