ข่าว:

ทดลองใช้งานบอร์ดตะลุง ที่อยู่ในขั้นตอนการกู้คืนข้อมูล เบื้องต้นมีแต่กระทู้ (ข้อความ) กำลังกู้รูปภาพ ไฟล์แนบต่าง ๆ คาดว่าจะทยอยสมบูรณ์ภายในไม่ช้า

Main Menu

เปิดใจด่านหน้า 'มัฆวานฯ' ศึก! พ.ร.บ.นิรโทษกรรม

เริ่มโดย itplaza, 10:32 น. 11 พ.ย 56

itplaza


หลายวันมานี้บรรยากาศในเชิงสะพานมัฆวานรังสรรค์ดูถ้าจะระอุอยู่ได้ตลอดเวลาตั้งแต่มวลชน คปท.เคลื่อนมาประจันหน้ากับตำรวจ ปจ. แต่แล้วต่างฝ่ายต่างก็ควบคุมสถานการณ์ได้อย่างดีแม้ว่าจะเปราะบางนิดเดียว การ์ดม็อบ และตำรวจ ปจ.ตัวแปรสำคัญอีกตัวหนึ่งที่สามารถทำให้สถานการณ์ดีหรือร้ายได้ในพริบตา โดยไทยรัฐออนไลน์จะพาไปรู้จักกับตำรวจ ปจ.และการ์ดม็อบ.....

แต่ละครั้งที่มีการชุมนุมทางการเมืองเจ้าหน้าที่ตำรวจปราบจราจล (ปจ.) หรือตำรวจอารักขาและควบคุมฝูงชน (อคฝ.) จะถูกเกณฑ์เข้ามาทำการรักษาความปลอดภัยสถานที่บุคคลสำคัญ ๆ ต่าง ๆ เป็นแนวรั้วป้องกันชั้นแรกที่ต้องเผชิญหน้ากับทางกลุ่มผู้ชุมนุมหรือการ์ดจากฝั่งผู้ชุมนุม บ่อยครั้งการชุมนุมที่ผ่านมาเกิดการกระทบกระทั่งจนนำไปสู่การบาดเจ็บทั้งสองฝ่ายอย่างเหตุการณ์ วันที่ 7 ตุลาคม 2551 ปะทะกับกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยที่แยกการเรือนจนทำให้มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต การปะทะกันเมื่อวันที่ 24 พฤศจิกายน 2555 ที่มีการปะทะกันระหว่างตำรวจ ปจ.กับผู้ชุมนุมองค์การพิทักษ์สยาม




ด้วยอารมณ์ที่คุกรุ่นจากฝั่งผู้ชุมนุมกับท่าทีของตำรวจ การยั่วยุปลุกระดมของแกนนำทำสถานการณ์ที่ตึงเครียดอยู่นำไปสู่จุดแตกหักและบ่อเกิดแห่งความรุนแรงเสียเลือดเสียเนื้อได้ทุกเมื่อ แต่การชุมนุมของเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทยที่ทำการเคลื่อนขบวนจากสี่แยกอุรุพงษ์เข้ามาในจุดที่ทางตำรวจประกาศเป็นพื้นที่ พ.ร.บ.มั่นคงฯ ซึ่งตั้งแต่มวลชนเคลื่อนเข้าแยก จปร.ถนนราชดำเนินนอกเพื่อเลี้ยวซ้ายไปเชิงสะพานมัฆวานรังสรรค์ท่าทีของแกนนำ การ์ดก็ดูเปลี่ยนไปมีการจัดรูปแบบขบวนใหม่ประกาศเรียกมวลชนมาไว้ด้านหลังให้แกนนำเป็นผู้นำหน้า มีการ์ดเดินคล้องแขนเป็นกำแพงมนุษย์ข้างแกนนำ  ด้วยเหตุนี้ทำให้เป็นจุดสังเกตได้ว่ากลุ่มมวลชน คปท.มีการวางแผนและควบคุมสถานการณ์อย่างเป็นลำดับขั้นอย่างรัดกุม

นายนัสเซอร์ ยีหมะ หัวหน้าการ์ดม็อบ คปท.อดีตหัวหน้าการ์ดกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เปิดเผยกับไทยรัฐออนไลน์ถึงการทำงานของการ์ดว่า หัวใจหลักของคนที่เป็นการ์ดคือมีไหวพริบมีสติและมีระเบียบวินัย การจะให้ใครมาเป็นการ์ดใช่ว่าจะเอาคนที่มีแค่พละกำลังและใจเด็ดอย่างเดียวไม่ได้




"เราจำเป็นต้องปรับขบวนเพื่อความปลอดภัยของผูชุมนุมให้แกนนำเป็นผู้เดินนำหน้าและมีการ์ดเดินเรียงหน้ากระดานเพื่อควบคุมมวลชนไม่ให้เดินนำหน้าเพื่อป้องกันการปะทะกับทางตำรวจที่ปฏิบัติหน้าที่และหากเกิดเหตุหรือสถานการณ์อะไรเกิดขึ้นการ์ดจะได้ทำหน้าที่ป้องกันทั้งแกนนำและมวลชนได้ เพราะที่ผ่านมาการชุมนุมที่มีการปะทะแล้วฝ่ายผู้ชุมนุมจะได้รับบาดเจ็บอาจจะเพราะไม่มีการวางแผนไว้ก่อนเวลาเผชิญหน้า"

เมื่อถามต่อว่าแล้วตัวการ์ดเองเราในฐานะหัวหน้าเราจะควบคุมการ์ดเองได้ไหม เพราะการ์ดก็มาจากกลุ่มผู้ชุมนุม  นายนัสเซอร์ ตอบว่า  "การ์ดมี 2ส่วน การ์ดรักษาความปลอดภัย พี่จะเลือกเอาคนที่รู้จักมักคุ้นและเคยผ่านเหตุการณ์เหล่านี้มาแล้ว และอีกส่วนคือ การ์ดอาสาสมัครก็จะให้กลุ่มผู้ชุมนุมที่ร่วมชุมนุมมาสมัครแล้วก็ทดลองปฏิบัติงาน คุณสมบัติที่มีคือจะต้องมีไหวพริบ สุขภาพร่างกายแข็งแรงส่วนอื่น ๆ เป็นองค์ประกอบรองพี่ก็จะมีผ้าขนหนูให้ หน้ากากกันก๊าซพิษ แว่นตา ส่วนวิทยุสื่อสารก็จะพกเฉพาะระดับหัวหน้าซึ่งส่วนใหญ่ก็มีกันเองถ้าไม่มีเราก็หาให้ ส่วนค่าตอบแทนไม่มีให้เพราะบอกตั้งแต่ต้นแล้วว่าไม่มีให้แต่จะมีของกิน บุหรี่ เราก็จัดหาให้เท่าที่หาได้ แล้วเราก็ต้องอบรมด้วยให้การ์ดรู้หน้าที่ว่าต้องทำอะไร อบรมให้เขาอดทน อดกลั้นต่อการยั่วยุ มีระเบียบวินัย




พี่ก็จะเอาประสบการณ์ที่เคยผ่านการชุมนุมมาตั้งแต่ปี 2549 มาปรับใช้บอกเล่าแนะนำเทคนิคเวลาเผชิญเหตุ แล้วพี่เคยไปดูงานการชุมนุมในต่างประเทศมาก็เอามาใช้ได้หมด แต่ในต่างประเทศเจ้าหน้าที่เขามีอุปกรณ์ที่ทันสมัยและหลากหลาย อย่างการฉีดน้ำก็มีแบบสะพายหลังเลย โล่อุปกรณ์ก็มีความทันสมัยกว่าตำรวจไทย แต่พี่รู้สึกว่า 8 เดือนนี่ ตำรวจไทยเริ่มมีการพัฒนาหาอุปกรณ์ใหม่เช่น โล่เมื่อก่อนสูงแค่อกตอนนี้ก็สูงระดับหัว ซึ่งตำรวจก็พัฒนาเขาด้วยแต่เราก็จะพยายามหาเทคนิคต่าง ๆ เข้ามาตลอด ๆ

สำหรับตัวแกนนำพี่ก็จะจัดหาการ์ดให้เพื่อรักษาความปลอดภัย  พี่ก็จะเลือกเอาพวกทหารเก่าเพราะเขาจะมีระเบียบวินัยเวลาแกนนำสั่งจะได้เชื่อฟัง การ์ดหญิงก็มี พี่ก็จะให้ไปทำในส่วนการตรวจค้นร่างกายเพราะจะมีความนุ่มนวลกว่าผู้ชายเวลาตรวจค้นผู้หญิง และตอนนี้การ์ดพี่มีทั้งหมดประมาณ 150 กว่าคนได้ "

นอกจากนี้ นายนัสเซอร์ยังบอกหน้าที่การ์ดนอกเหนือจากรักษาความปลอดภัยแล้วอีกหน้าที่หนึ่งคือ "ประสานงานประสานทั้งแกนนำกับคนที่มาชุมนุม ประสานงานกับตำรวจด้วยที่สำคัญ ฉะนั้น การ์ดจะมีความสำคัญมาก หากเกิดการปะทะจริงอาวุธไม่สำคัญเท่าไหวพริบ และตราบใดที่อยู่ใกล้กับฝ่ายตำรวจคือ ต้องมีสติทนต่อการยั่วยุ เพราะอย่างที่เห็นตำรวจเขาก็เจตนายั่วยุอย่างเปิดลำโพงหันเปิดเครื่องขยายเสียงดังรบกวนอย่างวันสองวันนี้ แต่การ์ดต้องควบคุมสถานการณ์ควบคุมมวลชนให้ได้ ยอมรับว่าบางทีก็มีอารมณ์ร่วมเพราะเป็นเรื่องปกติของคนแต่ก็เข้าใจตำรวจนะว่าทำตามหน้าที่เหมือนกันไม่ได้อยากให้เกิดความรุนแรงทั้งสองฝ่าย"หัวหน้าการ์ดเปิดเผยความรู้สึกในใจ"




ด้านตำรวจ ปจ.ที่ถูกมองว่าเป็นไม้เบื่อไม้เมาตลอดกาลที่มีม็อบที่ไรตำรวจชุดสีน้ำเงินแต่งตัวด้วยเครื่องแบบรัดกุมใส่หมวกมีโล่มีกระบองตั้งแถวเป็นแนวแน่นน่าเกรงขามอย่างตำรวจ ปจ.อย่างที่กล่าวไว้ตอนต้นว่าจะถูกเกณฑ์เข้ามาซึ่งการชุมนุมของกลุ่มทางการเมืองครั้งนี้ใช้กำลังตำรวจ ปจ.ถึง 46 กองร้อย หรือ 6,900 นาย รักษาพื้นที่ พ.ร.บ.มั่นคง 3 เขต ได้แก่เขตดุสิต เขตพระนคร เขตป้อมปราบศัตรูพ่ายซึ่งกินเวลานานร่วมเดือนกว่า ฉะนั้น ตำรวจ ปจ.ตำรวจฝ่ายปฏิบัติหน้าที่ต้องมีความอดทนเสียสละ

ซึ่งไทยรัฐออนไลน์ได้มีโอกาสได้พูดคุยกับ พล.ต.ต.ลือศักดิ์ สุดยอด ผู้บังคับการตำรวจอารักขาและควบคุมฝูงชน (ผบก.อคฝ) ถึงคุณสมบัติพิเศษของตำรวจ ปจ.ที่ต้องปฏิบัติหน้าที่เป็นด่านหน้าปะทะม็อบ




โดย ผบก.อคฝ.ระบุว่า การคัดเลือกตำรวจ อคฝ.ก็เป็นไปตามระเบียบของสำนักงานตำรวจแห่งชาติโดยจะคัดเลือกเอาชายไทยที่ผ่านการเกณฑ์ทหารแล้วสุขภาพร่างกายแข็งแรง และอีกส่วนคือสอบเข้ามาโดยใช้วุฒิปริญญาตรีสอบเข้ามาตามระเบียบของกองบัญชาการศึกษา โดยเราจะนำมาฝึกมุ่งเน้นในการรักษาคงามสงบเรียบร้อยและการควบคุมจลาจลเป็นไปตามหลักการควบคุมฝูงชนสากล โดยจะมีการฝึกประจำสัปดาห์ ทุกสัปดาห์ เพื่อให้กำลังพลมีร่างกายแข็งแรงทบทวนยุทธวิธีและมีการจำลองสถานการณ์โดยการนำสถานการณ์เก่ามาปรับแผนปรับยุทธวิธี และการฝึกใหญ่ประจำปี การฝึกร่วมกับอุปกรณ์ทั้งแก๊สน้ำตา รถควบคุมฝูงชน เพื่อให้กำลังพลมีความพร้อมและเข้าใจขั้นตอนการปฏิบัติ โดยจะเน้นจากเบาไปหาหนักคือเริ่มด้วยการเจรจาเป็นสำคัญ

ส่วนเครื่องแบบของตำรวจปราบจลาจลต้องสวมใส่เพื่อป้องกัน คือ  หมวก ลักษณะคล้ายหมวกกันน็อก และสามารถต่อปีกกันสะเก็ดด้านหลังบริเวณท้ายทอยเพื่อป้องกันส่วนคอศีรษะ เสื้อกันสะเก็ดมีลักษณะคล้ายเสื้อเกราะ ไว้ป้องกันการกระแทกการกระทบกระทั่งที่รุนแรง สะเก็ดไฟ  สนับแข้ง สนับเข่า สนับศอก เพื่อกันกระแทกที่รุนแรง  อาวุธประจำกายมีเพียงโล่ ไว้ป้องกัน กระบอง ไว้ป้องกันตัวเช่นกัน หากมีการเผชิญหน้าก็จะมีการตั้งแนวการปฏิบัติงานร่วมกันโดยมีผู้บังคับหมู่คอยควบคุมสั่งการ ซึ่งแนวทางการปฏิบัติก็จะเน้นให้เป็นไปตามสถานการณ์  อย่าง เช่น การใช้แก๊สน้ำตา ก็ต้องอยู่ในสถานการณ์ที่จำเป็น โดยรวมคือตำรวจ ปจ.จะเน้นการฝึกมาเพื่อการปฏิบัติยับยั้งสถานการณ์เพื่อไม่ให้เกิดความรุนแรงและรักษาความสงบเรียบร้อยไม่ได้ต้องการที่จะทำร้ายกลุ่มผู้ชุมนุมแต่อย่างใด


อย่างไรก็ตาม การปะทะกันระหว่างม็อบกับตำรวจในรอบทศวรรษ ที่มีการชุมนุมทางการเมือง เราจะเห็นความการสูญเสียบาดเจ็บทั้งสองฝ่าย แต่ก็เชื่อว่าต่างฝ่ายต่างก็ไม่ได้อยากทำร้ายกันและกัน เพราะอย่างไรเสียก็คนไทยด้วยกัน แต่ด้วยหน้าที่และอุดมการณ์ทัศนคติจึงทำให้นำไปสู่การใช้กำลังและการสูญเสีย แต่ก็ต้องภาวนาว่าขอให้ภาพเหตุการณ์การปะทะกันระหว่างพลเรือนและเจ้าหน้าที่รัฐจะไม่เกิดขึ้นอีก เพราะหากเกิดการสูญเสียเกิดขึ้นคนที่สูญเสียก็คือ เหยื่อทางการเมือง....

ขอบคุณเนื้อหา  : ไทยรัฐ
ที่มา http://www.itplaza.co.th/update_details.php?type_id=1&news_id=31031&page=1