ปลุกม็อบสู้15พ.ย. เทือกรุก ทำตามมติมหาชน

[itplaza]

"จารุพงศ์" แฉแผนป่วนกรุง 15 พ.ย. โชว์อารยะขัดขืน ขนมวลชนตั้งขบวนแห่ พร้อมวงโยธวาทิตกลางถนนสายสำคัญ หวังให้การจราจรเป็นอัมพาตทั่ว กทม. จนประชาชนไม่สามารถเดินทางไปทำงานได้  สั่ง ผู้ว่าราชการจังหวัดเกาะติดกลุ่มผู้ชุมนุมต่างจังหวัดเติมทัพเข้าเมืองหลวง สมช.ผวามีมือที่ 3 สวมรอย ก่อเหตุป่วน จุดชนวนยกระดับการชุมนุม ประเมิน "สุเทพ" ลากยาวม็อบถึงสิ้นเดือน พ.ย. "เทพเทือก" ลั่นปลุกม็อบรุกไม่ยืดเยื้อ ดีเดย์ 6 โมงเย็นรู้ผลว่ามติมหาชนเอายังไง "ปู" ติดเข็มกลัดรณรงค์ต้านความรุนแรง  อ้อนฝ่ายค้านเลิกเกเร กลับใจเข้าสภาฯ แก้ปัญหาขัดแย้ง ตร.รวบผู้กองปูเค็ม ทำซ่าขวางรถผู้นำภูฏาน ขณะที่ม็อบ คปท. คึกบุกสีลม ต้านทูลเกล้าฯ แก้ รธน.มาตรา 190 แวะ สตช.กดดันตะเพิด "บิ๊กแจ๊ด" พ้นเก้าอี้ ฝ่ายค้านเล็งเชือด 4 รมต. "ยิ่งลักษณ์-สุรพงษ์-ปลอดประสพ-จารุพงศ์" ขึ้นเขียงซักฟอก

หลังจากนายสุเทพ เทือกสุบรรณ แกนนำการชุมนุมต่อต้านร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ประกาศมาตรการอารยะขัดขืน พร้อมระดมพลชุมนุมใหญ่วันที่ 15 พ.ย. กดดันรัฐบาล ทำให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายที่เกี่ยวข้องทั้งกระทรวงมหาดไทย และสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) เตรียมประเมินแผนรับมือการชุมนุมใหญ่ในวันดังกล่าว

มท.สั่งเกาะติดชุมนุมใหญ่ 15 พ.ย.

เมื่อวันที่ 14 พ.ย. เวลา 13.00 น. นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ รมว.มหาดไทย กล่าวถึงการดูแลสถานการณ์การนัดชุมนุมของกลุ่มคัดค้านร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ที่ประกาศยกระดับการชุมนุมในวันที่ 15 พ.ย. ว่า การข่าวของกระทรวงมหาดไทยรายงานว่า จะมีการนำมวลชนเข้ามาเคลื่อนไหวทั้งในต่างจังหวัดและส่วนกลาง โดยมวลชนต่างจังหวัดมาจากจังหวัดที่เป็นฐานเสียงพรรคประชาธิปัตย์ อาทิ จ.สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช ชุมพร และสงขลา กระทรวงมหาดไทยได้สั่งการให้ตรวจสอบและติดตามการเคลื่อนไหวของมวลชน และให้ผู้ว่าราชการจังหวัดชี้แจงทำความเข้าใจ มุ่งไปที่มวลชนที่มีความเห็นทางการเมืองที่เป็นกลาง ไม่เอนเอียงข้างใด ซึ่งสามารถใช้เหตุผลทำความเข้าใจได้ พร้อมประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจตั้งด่านตรวจอาวุธป้องกันไม่ให้มีการนำอาวุธเข้ามาสร้างสถานการณ์ในพื้นที่ชุมนุมได้ ทั้งนี้กำชับให้ข้าราชการทำหน้าที่เป็นกลาง ส่วนจะไปชุมนุมนอกเวลาทำงานถือเป็นสิทธิ

แฉแผนป่วนจราจรอัมพาตทั่วกรุง

นายจารุพงศ์กล่าวว่า สำหรับในส่วนกลางมีรายงานว่า จะแสดงอารยะขัดขืนด้วยการนำมวลชนออกเดินบนถนนในรูปแบบขบวนแห่ และวงโยธวาทิตที่ไม่เน้นความรุนแรง แต่จะเคลื่อนมวลชนผ่านถนนสำคัญ เพื่อให้การจราจรติดขัดเป็นอัมพาต ให้การสัญจรไปทำงานมีอุปสรรค ไม่สามารถเดินทางไปทำงานได้ จนต้องหยุดงาน และมาร่วมอารยะขัดขืน จุดประสงค์ของการเคลื่อนไหวในวันที่ 15 พ.ย.เป็นการรณรงค์ให้ทำอารยะขัดขืนตามแนวทางที่แกนนำเริ่มไว้ การเคลื่อนมวลชนไปตามท้องถนนต้องการให้สังคมเกิดความไร้ระเบียบในสังคม โดยจะระดมคนจากเขตต่างๆ โดยเฉพาะเขตพระนคร เขตป้อม– ปราบศัตรูพ่าย และเขตดุสิต ที่เป็นพื้นที่ใกล้พื้นที่ประกาศ พ.ร.บ.ความมั่นคง สิ่งที่น่าเป็นห่วงคือ จะนำเด็กนักเรียนในสังกัด กทม.มาร่วมเดิน โดยใช้วงโยธวาทิตและขบวนแห่ ถือเป็นเรื่องไม่เหมาะสม เพราะนักเรียนที่อยู่ในระดับการศึกษาภาคบังคับ ส่วนใหญ่อายุไม่ถึง 18 ปี เป็นการเอาเด็กมาเป็นเครื่องมือทางการเมือง ถือว่าแย่มาก

"ปลอด" ฉุนเด็ก ปชป.ไร้มารยาท

นายปลอดประสพ สุรัสวดี รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า อยากฝากฝ่ายที่ก่อเรื่องอยู่ในขณะนี้ว่า ให้มีมารยาท รู้จักกาลเทศะ เว้นวรรคบ้าง รู้อะไรควรทำไม่ควรทำ ส่วนกรณีนายจาตุรนต์ ฉายแสง รมว.ศึกษาธิการ ถูก ส.ส.และอดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ตามเป่านกหวีดใส่นั้น ให้คิดว่าเป็นเด็กบ้าบอ ไม่มีมารยาท ภาษาอังกฤษเรียก Assault การเป่าใส่หน้าเหมือนถ่มน้ำลายใส่หน้า ถ้าตนไม่เป่ากลับบ้างอาจมีอารมณ์โมโห แล้วทำให้ต้องเสียเงินค่าปรับ วันนี้เข้าใจแล้วว่าจะปิดประเทศเอาอะไรกัน แปลว่าปิดโรงเรียน ปิดโรงงาน ปิดถนนไปเรียบร้อยแล้ว บ๊องหรือเปล่าที่คิดจะปิดประเทศแบบนี้ เลอะเทอะ จากนั้นนายปลอดประสพได้หยิบนำนกหวีดมาเป่าเป็นจังหวะ พร้อมอธิบายว่า แปลว่า "จอดป้ายเลิกเถอะ"

"เต้น" ฉะ ปชป.ระดมคนป่วน กทม.

นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รมช.พาณิชย์และแกนนำนปช. กล่าวถึงกรณีนายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีต ส.ส.สุราษฎร์ธานี พรรคประชาธิปัตย์ ประกาศใช้มาตรการอารยะขัดขืนวันที่ 13-15 พ.ย. ว่า ขณะพรรคประชาธิปัตย์กำลังระดมคนจากภาคใต้ขึ้นมาเคลื่อนไหวยกระดับวันที่ 15 พ.ย. จะปิดกั้นการจราจรหลายพื้นที่ใน กทม. คิดว่า กทม.คงโกลาหล อยากให้เจ้าหน้าที่ดูแลอย่างใกล้ชิด ส่วนกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญจะวินิจฉัยการแก้รัฐธรรมนูญ เรื่องที่มาของ ส.ว. ในวันที่ 20 พ.ย.นั้น มองจากมุมไหนก็ไม่ใช่ล้มล้างการปกครอง เชื่อมั่นว่าศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยไม่เป็นลบต่อรัฐบาล แต่หากมีทฤษฎีสมคบคิดวางแผนร่วมกันหลายฝ่าย อาจต้องดูอีกที อยากให้นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เลิกแสดงเป็นแขกรับเชิญ ถอดหน้ากากตัวเองให้คนเห็นชัดๆว่าสมคบคิดกันมาตั้งแต่ต้น

แฉ 2 ตุลาการฯย่องพบ "เทือก"

ที่รัฐสภา นายวรชัย เหมะ ส.ส.สมุทรปราการ พรรคเพื่อไทย แถลงว่า การชุมนุมของกลุ่มต่อต้านร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม คล้ายการขับไล่รัฐบาลนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกรัฐมนตรี ที่มีการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรฯ จากนั้นศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยยุบพรรคพลังประชาชน ล่าสุดทราบว่ามีตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ 2 คน เป็นชุดเดียวกับที่ล้มรัฐบาลนายสมชาย นัดพบนายสุเทพ เทือกสุ-บรรณ อดีต ส.ส.สุราษฎร์ธานี ที่พรรคประชาธิปัตย์ ในช่วงเดียวกับที่ ส.ส.ประชาธิปัตย์ 9 คนลาออก เห็นว่าเรื่องนี้อาจมีการวางแผนล้มรัฐบาล โดยใช้การยื่นศาลรัฐธรรมนูญตีความการแก้รัฐธรรมนูญ เรื่องที่มา ส.ว.เป็นเงื่อนไข หากเป็นจริงถือเป็นการล้มล้างการปกครองโดยศาลรัฐธรรมนูญ ประชาชนไม่ยอมเด็ดขาด ส่วนในวันที่ 18-20 พ.ย.ที่คนเสื้อแดงจะนัดชุมนุมเพื่อฟังคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ ที่เมืองทองธานี อาจต้องเปลี่ยนสถานที่เพราะเชื่อว่าจะมีผู้มาร่วมชุมนุมกว่า 1 แสนคน

เย้ยปลุกอารยะขัดขืนมุกแป้ก

นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า กรณีที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวหารัฐบาลให้ท้ายการชุมนุมของคนเสื้อแดงในวันที่ 18-20 พ.ย. ที่เมืองทองธานีนั้นไม่เป็นความจริง ถ้านายอภิสิทธิ์มีหลักฐานก็เอามาเปิดเผย รัฐบาลให้สิทธิผู้ชุมนุมทุกฝ่ายทั้งสนับสนุนและคัดค้าน ขอให้นายอภิสิทธิ์ไปสำรวจพฤติกรรมตัวเองและแกนนำพรรคที่ขึ้นเวทีปลุกระดมอารยะขัดขืน ไม่คำนึงถึงภาพลักษณ์ประเทศ สุดท้ายแล้วประชาชนก็ไม่ตอบรับ มุกแป้กไปแล้ว จึงกำลังคิดแผนการที่หนักข้อขึ้นอีกหรือไม่ เราเป็นห่วงมือที่ 3 และพวกฮาร์ดคอร์ที่จะเดินทางมาจากภาคใต้ อาจสร้างสถานการณ์แล้วโยนบาปให้รัฐบาล ถ้าเกิดความรุนแรง นายสุเทพต้องรับผิดชอบ

คาดเปิดเวทีซักฟอก 22–24 พ.ย.

นายอำนวย คลังผา ประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) กล่าวถึงกรณีฝ่ายค้านเตรียมยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลว่า คาดว่าฝ่ายค้านจะยื่นญัตติดังกล่าวภายในสัปดาห์นี้ และน่าจะอภิปรายได้ช่วงวันที่ 22-24 พ.ย. เพราะวันที่ 25 พ.ย. นายกรัฐมนตรีมีภารกิจเดินทางไปต่างประเทศ ซึ่งนายกรัฐมนตรีและรัฐบาลมีความพร้อมชี้แจง ส่วนงานใดที่มอบให้รองนายกรัฐมนตรีดูแล ก็ต้องให้รองนายกรัฐมนตรีชี้แจง

สมช.จับตาม็อบยกระดับ 15 พ.ย.

พล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) กล่าวว่า จะติดตามการประกาศยกระดับการชุมนุมของพรรคประชาธิปัตย์ในวันที่ 15 พ.ย.อย่างใกล้ชิด เป็นกลยุทธ์ที่เคลื่อนไหวใกล้ๆวันหยุดสุดสัปดาห์ เพื่อดึงมวลชนมาชุมนุมให้ได้จำนวนมาก ถ้ามาตามเป้าก็คงมีกลยุทธ์ขยายผลต่อ แต่การยกระดับของม็อบจะยังแข็งแรงพอ เพราะขึ้นมาสูงสุดแล้วถอยกลับลงมาใหม่ แต่เชื่อว่าจะชุมนุมยืดเยื้อถึงสิ้นเดือน พ.ย. รอการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล อย่างไรก็ตาม เป็นห่วงการสร้างสถานการณ์รุนแรงจากมือที่ 3 ซึ่งจะใช้เหตุนี้มายกระดับการชุมนุม เพื่อให้เป็นความรับผิดชอบของรัฐบาล จึงต้องเฝ้าระวังวางมาตรการรองรับเพิ่มเติม ณ ตอนนี้มีเค้าลางบางอย่างตามที่ ผบ.ตร.แถลงไปก่อนหน้านี้

เล็งเจรจาขอพื้นที่คืนเดือน ธ.ค.

พล.ต.ต.อนุชา รมยะนันทน์ รองโฆษก ศอ.รส. กล่าวว่า พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผบ.ตร.สั่งการให้ บช.น. และ ศอ.รส.ติดตามข่าวการเคลื่อนไหวของมวลชนกลุ่มต่างๆในวันที่ 15 พ.ย.อย่างใกล้ชิด พร้อมเตรียมความพร้อมอำนวยความสะดวกด้านการจราจร นอกจากนี้ ในเดือน ธ.ค.เป็นเดือนมหา–มงคลของประชาชน พล.ต.อ.อดุลย์ได้มอบให้ บช.น.พูดคุยหาแนวทางออกที่เหมาะสม เพราะจะต้องเปิดใช้พื้นที่เพื่อประกอบพิธีมหามงคล

กวป.กระทุ้ง 2 ตุลาการฯถอนตัว

เมื่อเวลา 13.30 น. ที่ศาลรัฐธรรมนูญ กลุ่มสื่อวิทยุประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (กวป.) ยื่นหนังสือต่อศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อคัดค้านการพิจารณาคำร้องของ พล.อ.สมเจตน์ บุญถนอม ส.ว.สรรหา และนายวิรัตน์ กัลยาศิริ ส.ส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ ที่ให้ศาลวินิจฉัยการแก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตรา 190 เป็นการกระทำล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตย โดยนายหนึ่งดิน วิมุตตินันท์ ทนายความเสื้อแดง กล่าวว่า การที่ศาลรัฐธรรมนูญรับคำร้องดังกล่าวไว้พิจารณาไม่ต้องด้วยบทบัญญัติตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 68 และขอให้นายจรัญ ภักดีธนากุล และนายนุรักษ์ มาประณีต ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ถอนตัวจากองค์คณะพิจารณาคดีที่เกี่ยวกับร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญทุกฉบับ เพราะทั้ง 2 คนเคยเป็นสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญปี 50 มีส่วนได้ส่วนเสียการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ซึ่งในวันที่ 18 พ.ย. กลุ่ม กวป.จะมาชุมนุมที่หน้าศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อติดตามการพิจารณาคดีแก้ไขรัฐธรรมนูญเรื่องที่มา ส.ว. ในวันที่ 20 พ.ย.

ยื่นดีเอสไอฟัน "เทือก" ข้อหากบฏ

วันเดียวกัน ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) นายหนึ่งดิน วิมุตตินันท์ ทนายความเสื้อแดงยื่นหนังสือต่อนายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีดีเอสไอ ให้ดำเนินคดี พล.อ.ปรีชา เอี่ยมสุพรรณ เสนาธิการร่วมกองทัพประชาชนโค่นล้มระบอบทักษิณ (กปท.) กับพวกที่ชุมนุมที่แยกป้อมพระกาฬ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีต ส.ส.สุราษฎร์ธานี พรรคประชาธิปัตย์ และอดีต ส.ส.ประชาธิปัตย์อีก 8 คน ที่ชุมนุมอยู่ที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ข้อหาเป็นกบฏ ตามมาตรา 113 และความผิดหมวดต่อความมั่นคงแห่งรัฐ กรณีประกาศอารยะขัดขืนให้ประชาชนหยุดงาน และชะลอการจ่ายภาษี เบื้องต้นดีเอสไอรับเรื่องไว้ตรวจสอบข้อเท็จจริง

"มาร์ค" ข้องใจรัฐบาลถอยไม่จริง

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ในรายการฟ้าวันใหม่ ทางสถานีโทรทัศน์บลูสกายถึงกรณีคนเสื้อแดงนัดชุมนุมวันที่ 18-20 พ.ย. ว่า การที่รัฐบาลบอกว่าทุกอย่างจบ น่าจะเลิกได้แล้ว แต่มีประเด็นที่ต้องพิจารณาคือ ถอยจริงหรือไม่ หากถอยจริงแต่ทำไมการชุมนุมคนเสื้อแดงยังเกิดขึ้น มีการสั่งขึ้นป้ายสนับสนุนกฎหมายนิรโทษกรรม บางป้ายระบุว่า ให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กลับบ้าน ไม่ทราบว่าถอยอย่างไร อีกทั้งการปฏิบัติของตำรวจแตกต่างกัน โดยเฉพาะการเอาผิดกับคนติดธงชาติ ถ้าติดธงชาติจะเป็นความผิดใช่หรือไม่ แต่ติดธงแดงคือสัญลักษณ์ว่าต้องอำนวยความสะดวกให้หรือไม่ การชุมนุมคนเสื้อแดงนำรถตำรวจไปขนเก้าอี้มาตั้งให้ หรือการที่คนเสื้อแดงพูดว่า ถ้าอีกฝ่ายไม่หยุด จะไปบังคับให้หยุด แค่นี้ก็เพียงพอพิจารณาได้ว่ากลุ่มใดกำลังมุ่งสู่ความรุนแรง

ลูก "สุเทพ" โต้เดือดไม่ลง ส.ส.ล้างผิด

วันเดียวกัน นายแทน เทือกสุบรรณ บุตรชายนายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีต ส.ส.สุราษฎร์ธานี พรรคประชาธิปัตย์ โพสต์เฟซบุ๊กระบุว่า "เพิ่งเห็นข่าวนายสุนัย จุลพงศธร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย มาด่าว่าจะลงสมัคร ส.ส.สุราษฎร์ธานีแทนบิดา อยากบอกว่าสงสารประเทศไทยจริงๆที่มี ส.ส. แบบนายสุนัย ผมไม่เคยคิดลงเลือกตั้งแทนบิดา และไม่ทราบว่าการลงเลือกตั้งจะล้างความผิดในคดีได้อย่างไร คดีความพิสูจน์ความผิดถูกในศาล ไม่ใช่ใช้เสียงข้างมากมาอ้างว่าไม่ผิด ไม่ทราบว่านายสุนัยโง่จริงหรือแกล้งโง่ ยืนยันว่าไม่ได้ทำผิดกฎหมายเรื่องที่ดินเขาแพง ข้อหาที่ดีเอสไอตั้งมาไม่ใช่ข้อหาบุกรุกป่าสงวน เป็นข้อหาที่ตั้งไปมั่วๆ พร้อมสู้คดีในศาล ไม่ต้องให้บิดามาออกกฎหมายนิรโทษกรรมให้ มีแต่คนชั่วเท่านั้นที่ออกกฎหมายชั่วๆอ้างเสียงข้างมากมาล้างผิด

ปชป.ปูดชายชุดดำแฝงกลุ่มเสื้อแดง

เมื่อเวลา 11.30 น. ที่รัฐสภา มีการประชุมสภาผู้แทนราษฎร มีนายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ รองประธานสภาผู้แทนราษฎร เป็นประธานการประชุม เพื่อพิจารณากระทู้ถามสดการแก้ปัญหาวิกฤติประเทศของรัฐบาล โดยนายเจะอามิง โตะตาหยง ส.ส.นราธิวาส พรรคประชาธิปัตย์ ถามว่า รัฐบาลจะแก้ปัญหาการชุมนุมขณะนี้อย่างไร เพราะประชาชนไม่เชื่อคำพูดตัวแทนรัฐบาลว่า จะยับยั้งร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม แม้ ส.ว.จะคว่ำร่างไปแล้วก็ตาม นอกจากนี้เมื่อวันที่ 10 พ.ย. ในการชุมนุมของกลุ่มเสื้อแดงที่เมืองทองธานี มีกลุ่มชายฉกรรจ์แต่งตัวคล้ายทหารลงจากรถบัส และอยู่บนเวที ขณะที่บนเวทีแกนนำเสื้อแดงประกาศว่า หากไม่หยุดเราจะบังคับให้หยุด จึงเป็นห่วงว่าสถานการณ์จะบานปลาย มีการใช้ชายชุดดำก่อเหตุ และยังมีข่าวตำรวจคอยจับกุมคนที่ติดธงชาติในยานพาหนะด้วย

"ประชา" ซัดกลับกลุ่ม ตจว.รอป่วน

พล.ต.อ.ประชา  พรหมนอก  รองนายกรัฐมนตรี ชี้แจงว่า คนที่ไม่เชื่อรัฐบาลถือเป็นความเชื่อของบุคคล แต่รัฐบาลยืนยันว่าจะดูแลผู้ชุมนุมให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย มีเจ้าหน้าที่มาดูแลเพื่อควบคุมสถานการณ์ไม่ให้บานปลาย โดยใช้วิธีละมุนละม่อม ไม่ใช้ความรุนแรง ปฏิบัติตามมาตรการควบคุมฝูงชน ส่วนภาพถ่ายชายแต่งกายคล้ายทหารนั้น ยืนยันว่าไม่ใช่เจ้าหน้าที่ตำรวจ แต่ตำรวจได้รับการข่าวว่าในช่วง 2-3 วันนี้ มีกลุ่มคนไม่ประสงค์ดีจากต่างจังหวัดเดินทางเข้ามาใน กทม. ซึ่งได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ติดตามอย่างใกล้ชิด ส่วนประเด็นการติดธงชาตินั้น ยืนยันว่าไม่มีการสั่งการดังกล่าว

คุมเข้มกระทรวงศึกษาฯ 24 ชม.

นางสุทธศรี วงษ์สมาน ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวว่า นายจาตุรนต์ ฉายแสง รมว.ศึกษาธิการ มอบให้สำนักงานปลัด ศธ.เฝ้าระวังสถานการณ์การชุมนุม โดยให้มีมาตรการรักษาความปลอดภัยในกระทรวงอย่างเข้มงวด มีเวรยามผลัดเปลี่ยนตลอด 24 ชั่วโมง ทั้งนี้ ได้ตั้งคณะทำงานหนึ่งชุด มีตนเป็น ประธานเพื่อเฝ้าระวังส่วนราชการ อาคารสถานที่ และบริเวณโดยรอบกระทรวง รวมถึงตั้งศูนย์บัญชาการเกี่ยวกับสถานการณ์การชุมนุมภายในกระทรวงด้วย เพื่อดูว่าเหตุการณ์มีความรุนแรงมากน้อยแค่ไหน นอกจากนี้ ยังมีการส่งข้อความผ่านโทรศัพท์มือถือแจ้งให้ผู้บริหารระดับสูงรับทราบถึงสถานการณ์ที่เกิดขึ้นด้วย

โพลเชื่อรัฐกลับลำเสนอนิรโทษ

วันเดียวกัน สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ หรือนิด้าโพลเปิดเผยผลสำรวจความคิดเห็นของประชาชนเรื่อง "ทางออกของความวุ่นวายทางการเมือง กรณี ร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม"  จำนวน 1,243 ตัวอย่างโดยความเชื่อมั่นต่อพรรคเพื่อไทยและพรรคร่วมรัฐบาลที่จะไม่นำเสนอร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมอีกต่อไปนั้น พบว่าร้อยละ 48.51 เชื่อว่าจะเสนอร่าง พ.ร.บ. นิรโทษกรรมอีกครั้ง เพื่อช่วยเหลือ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ร้อยละ 34.67 เชื่อว่าจะไม่นำเสนอร่างนิรโทษกรรมอีก  เพราะรัฐบาลออกมาแถลงการณ์แล้ว ส่วนทางออกในการแก้ไขปัญหาความวุ่นวายทางการเมือง ร้อยละ 30.97 ระบุว่านายกฯควรยุบสภา ร้อยละ 25.50 ให้ทุกฝ่ายยุติ ร้อยละ 17.94 ระบุว่าไม่มีทางออก ร้อยละ 11.58 ให้นายกฯควรลาออก เมื่อถามถึงความสมานฉันท์ในสังคม หากตระกูลชินวัตรยุติบทบาททางการเมืองพบว่า ร้อยละ 43.36 ระบุว่าน่าจะเกิดความสมานฉันท์ เพราะเป็นต้นเหตุความขัดแย้งทั้งหมด ร้อยละ 39.98 ระบุว่าไม่เกิดความสมานฉันท์

ฝ่ายค้านจ่อส่ง "ปู" ขึ้นเขียง 15 พ.ย.

นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ ประธานวิปฝ่ายค้าน กล่าวว่า คาดว่าวันที่ 15 พ.ย. หรือ 18 พ.ย. ฝ่ายค้านจะยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล เนื่องจากจะมีการปิดสมัยการประชุมรัฐสภาวันที่ 28 พ.ย. แต่จะยื่นอภิปรายรายบุคคลหรือทั้ง ครม. ขอพิจารณาให้รอบคอบก่อน ส่วนที่นายอำนวย คลังผา ประธานวิปรัฐบาล กำหนดให้อภิปรายไม่ไว้วางใจวันที่ 22-24 พ.ย. เนื่องจากวันที่ 25 พ.ย. นายกรัฐมนตรีติดภารกิจเดินทางไปต่างประเทศนั้น เป็นข้ออ้างที่ฟังไม่ขึ้น นายกรัฐมนตรีรู้อยู่แล้วว่าสมัยการประชุมนี้มีการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ต้องแสดงความรับผิดชอบต่อการบริหารราชการแผ่นดิน แต่นายกรัฐมนตรีใช้ข้ออ้างเดินทางไปต่างประเทศตลอดเวลา

จองกฐินซักฟอก 4 ราย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พรรคประชาธิปัตย์จะยื่นเรื่องต่อประธานสภาฯไม่เกินวันที่ 19 พ.ย. เพื่ออภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล โดยพุ่งเป้าตรวจสอบการบริหารราชการของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกฯ และ รมว.กลาโหม ในโครงการทุจริต จำนำข้าวที่ขาดทุนและขายข้าวไม่ได้ รวมถึงจะยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจนายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.ต่างประเทศ กรณีความเสียหายในคดีพื้นที่ทับซ้อนปราสาทพระวิหารที่อาจทำให้ไทยต้องเสียดินแดน นอกจากนี้ ยังมีชื่อนายปลอดประสพ สุรัสวดี รองนายกรัฐมนตรี นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ รมว.มหาดไทย กรณีบริหารงบบริหารจัดการน้ำและการบริหารราชการที่แบ่งแยกประชาชนให้เกิดความแตกแยกในบ้านเมือง โดยจะมีการหารืออีกครั้งว่าจะอภิปรายรัฐมนตรีคนใดเพิ่มเติม

"ปู" รับนายกฯภูฏานเยือนไทย

เมื่อเวลา 10.30 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม เป็นประธานต้อนรับนายเชอริ่ง ต๊อบเกย์ นายกรัฐมนตรีภูฏาน ในโอกาสการเยือนไทยอย่างเป็นทางการ โดยนำตรวจแถวกองทหารเกียรติยศ ที่สนามหญ้าหน้าตึกไทยคู่ฟ้า จากนั้นผู้นำทั้งสองประเทศได้หารือข้อราชการเต็มคณะ และร่วมลงนามความตกลงว่าด้วยความร่วมมือทางการค้าและเศรษฐกิจ เพื่อแสวงหาการลงทุนใหม่ในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน สาธารณูปโภค ธุรกิจท่องเที่ยว จากนั้นนายกฯเป็นเจ้าภาพเลี้ยงอาหารกลางวัน

อ้อนฝ่ายค้านเลิกเกเรกลับเข้าสภา

ต่อมาเวลา 16.00 น. น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์กรณีฝ่ายค้านเตรียมยื่นเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจพุ่งเป้ามาที่นายกฯว่า ขอดูเนื้อหาที่ฝ่ายค้านจะอภิปรายก่อน แต่คงเป็นไปตามขั้นตอนของรัฐสภาในการตรวจสอบการทำงานของรัฐบาล ถือเป็นวิธีที่ถูกต้อง เรายินดีให้ข้อมูลอยู่แล้ว แต่ขอความกรุณาให้การอภิปรายเป็นไปอย่างสร้างสรรค์ เพื่อให้ประชาชนได้รับฟังข้อมูลข้อเท็จจริงอย่างเต็มที่ เมื่อถามว่า นายกฯอยากเรียกร้องให้ฝ่ายค้านยุติความ

ขอบคุณ THAIRATH

ที่มา : http://www.itplaza.co.th/update_details.php?type_id=1&news_id=31152&page=1