ข่าว:

ทดลองใช้งานบอร์ดตะลุง ที่อยู่ในขั้นตอนการกู้คืนข้อมูล เบื้องต้นมีแต่กระทู้ (ข้อความ) กำลังกู้รูปภาพ ไฟล์แนบต่าง ๆ คาดว่าจะทยอยสมบูรณ์ภายในไม่ช้า

Main Menu

ระทึก!รบ.'ปู' 20 พ.ย.ชี้ชะตา ส.ส. 310 คน จะอยู่หรือจะไป??

เริ่มโดย itplaza, 13:24 น. 18 พ.ย 56

itplaza


ผลพวงของการลงคะแนนเสียงมติของ ส.ส. ในสภาต่อร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม 310 เสียง ต่อผู้เข้าร่วมประชุม 314 คน ในคืนวันที่ 31 ตุลาคม 2556 เกิดกระแสคลื่นลูกใหญ่ต่อต้านรัฐบาลของน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม อย่างหนักหน่วงด้วยวาทกรรม "ล้างผิดคนโกง" ซึ่งมีนายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ เป็นแกนนำ

พร้อมประกาศกร้าว เดินหน้าชุมนุมต้าน พ.ร.บ. ฉบับนี้อย่างไม่ลดละ อีกทั้งปลุกระดมมวลชนจากทั่วทุกสารทิศ เกือบจะทุกสาขาอาชีพ ไม่เว้นแต่ข้าราชการ นักวิชาการ คณาจารย์ นิสิตนักศึกษาจากทุกมหาวิทยาลัย มารวมตัวกันเป่านกหวีดขับไล่รัฐบาล ณ อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย จนทำให้คะแนนนิยมของพรรคฝ่ายค้านนำโด่งลํ้าหน้ารัฐบาลยิ่งลักษณ์ กระทั่งทำฐานเสียงของเพื่อไทย และพรรคร่วมรัฐบาล สั่นคลอนไม่น้อย

แรงต้านจากคลื่นมหาชนจำนวนมหาศาล เกือบจะพังประตูเขื่อนจนพรรคเพื่อไทย มิอาจ 'เอาอยู่' กระทั่ง 'นายกฯปู' ออกโรง ถอดถอน พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ทำให้คลื่นลูกใหญ่ลูกแรกที่ถาโถมเข้าถล่มรัฐบาลบรรเทาลงได้บ้าง ทั้งยังทำสัตยาบรรณกับพรรคร่วมจะไม่แตะต้องกับ พ.ร.บ.นี้อีก หาก ส.ว.มีมติควํ่าร่าง จึงรอดพ้นไปได้อีกเปราะ ถึงแม้ว่าประชาชนบางกลุ่ม จะไม่เชื่อมั่นก็ตาม

โดยวันที่ 11 พ.ย.ที่ผ่านมา ถือเป็นอีกหนึ่งวันอันตรายทั้ง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม และปราสาทพระวิหาร นอนรอพิพากษารัฐบาลด้วยเช่นกัน แต่เมื่อมติประชุมวุฒิสภาโหวต ควํ่าร่างฯ เป็นเสียงเดียวกัน ด้วยคะแนน 141 เสียง ต่อ 0  คลื่นลูกที่สองจ่อคิวให้รัฐบาลลุ้นต่อ โดยศาลโลกนัดตัดสินพิพากษาคดีปราสาทพระวิหาร แต่คำตัดสินของก็ผ่านพ้นไปได้ด้วยดี เป็นอันเหมือน"ยกภูเขาออกจากอก" แม้ยังคงมีเสียงคัดค้านว่า ประเทศไทยอาจต้องเสียดินแดนตามมาเป็นระลอกก็ตาม


เมื่อม็อบบางส่วนสงบลง แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นด้าน 'เทพเทือก' ยังคงไม่ยอมแพ้ งัดไม้เด็ดเดิมพันด้วยการประกาศลาออก จากการเป็น ส.ส. พร้อม 8 ส.ส. ของประชาธิปัตย์ เดินหน้าขับเคลื่อนมวลชน ไล่รัฐบาล หลังคำตัดสินของคลื่นสองลูกแรก ส่งสายตรงมาจากวุฒิสภา และศาลโลก มายังกลุ่มผู้ชุมนุมทั่วประเทศเป็นไปในทิศทางที่ไม่ก่อให้เกิดความแตกแยกมากนัก

ครั้น 'เทพเทือก' โดดขึ้นเวทีงัดมุกใหม่ มาต่อยอดยกระดับการชุมนุมด้วย "อารยะขัดขืน 4 ข้อ" ซึ่งให้ผู้ชุมนุมนัดหยุดงานวันที่ 13-15 พฤศจิกายน และการชะลอการจ่ายภาษี โดยประกาศว่า "ทั้งหมดถือเป็นเพียงมาตรการขั้นต้นเท่านั้น และจะมีการยกระดับอีกภายหลัง"   
รัฐบาลออกมาแบ่งรับแบ่งสู้ ตั้งรับกลุ่มผู้ชุมนุมทุกหนทาง งัดข้อกับฝ่ายค้าน อย่างไม่ยอมแพ้ เพื่อรักษาเสถียรภาพให้คงอยู่ต่อไป จนครบวาระ ยังไม่ทันที่เพื่อไทย จะหายใจทั่วท้อง และกำจัดคลื่นระลอกแล้วละลอกเล่า ให้หมดไป

วันที่ 8 พ.ย. ศาลรัฐธรรมนูญ นัดฟังคำวินิจฉัยปมแก้รัฐธรรมนูญ ซึ่งมี พล.อ.สมเจตน์ บุญถนอม นายวิรัตน์ กัลยาศิริ นายสาย กังกเวคิน และนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค เป็นผู้ยื่นคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย ต่อกรณี ส.ส.และ ส.ว. รวม 312 คน ร่วมกันลงชื่อเสนอแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตราดังกล่าว ซึ่งระบุว่า "เป็นการกระทำเพื่อให้ได้มาซึ่งอำนาจในการปกครองโดยวิธีการซึ่งมิได้เป็นไป ตามวิถีทางที่บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญ อันเป็นการขัดต่อบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ มาตรา 68 วรรคหนึ่ง หรือไม่?" โดยนัดฟังคำวินิจฉัยในวันที่ 20 พฤศจิกายน 2556 เวลา 11.00 น.

อีกทั้งในวันเดียวกัน ยัวงมีอีก 1ปมที่ไม่อาจให้คลาดสายตาไปได้ ศาลรัฐธรรมนูญ ยังมีมติ 6 ต่อ 3 รับคำร้อง กรณีที่นายวิรัตน์ ยื่นคำร้องขอให้วินิจฉัยว่า "การแก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตรา 190 ขัดแย้งต่อรัฐธรรมนูญหรือไม่" โดยอาศัยอำนาจตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 68 วรรคหนึ่ง ซึ่งภายหลังเห็นว่าคำร้องดังกล่าวมีมูลด้วยเช่นกัน


ตลอดระยะเวลาช่วงหลังวันที่ 11 พ.ย. จวบจนตอนนี้ กระแสข่าวโหมกระหนํ่าดั่งพายุพุ่งเข้าชนรัฐบาล"ปู"จนเดินซวนเซไปมา ไม่ว่าจะเป็นกระแสการ ระบุ อ้าง จาก ส.ส.แกนนำเสื้อแดง ว่า ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ 2 คน โดยมีหนึ่งในนั้นอักษรย่อ 'ช' โดด เข้าพบกับ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีต ส.ส.สุราษฎร์ธานี พรรคประชาธิปัตย์ และแกนนำผู้ชุมนุมเวทีราชดำเนิน เพื่อหวังล้มรัฐบาล รวมถึงช่วงคํ่า ของวันที่ 16 พ.ย.ที่ผ่านมา นายสุเทพ ประกาศ ยกระดับการชุมนุม "มาตรการอารยะขัดขืน" รุนแรงขึ้น รวมถึงตั้่งโต๊ะให้ประชาชนลงชื่อถอดถอนสมาชิกสภาฯ ทั้ง 310 คน ที่ลงมติผ่านร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรม ในวาระ 3 ภายใน 19 พ.ย.นี้ เช่นกัน

ยังไม่จบเพียงเท่านี้ คลื่นลูกเก่า ที่ปลุกกระแสผู้คนของฝ่ายค้าน ยังไม่ทันได้สะสางก่อนเกิดชุมนุมต้านนิรโทษกรรม กำลังหวนคืนจ่อคิวชะล้างรัฐบาลอีกระลอก จากคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน ที่ยื่นเรื่องขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล ต่อประธานสภาในคํ่าวันเดียวกัน อีกหลากหลายประเด็น ไม่ว่าจะเป็น 1. การทุจริตและขาดทุนในโครงการจำนำข้าวของรัฐบาล 2. กรณีการใช้งบประมาณจัดการเรื่องน้ำทั้งระบบ ซึ่งบริหารจัดการผิดพลาดจนเกิดน้ำท่วมซ้ำซาก โดยวิปฝ่ายค้านระบุว่า "เป็นการสร้างความเสียหายแก่ทรัพย์สิน และผลอาสินในไร่นาของพี่น้องประชาชนโดยไม่มีแผนรองรับใด ๆ ที่เป็นรูปธรรม แต่กลับมีการอ้างใช้งบประมาณเรื่องน้ำไปจำนวนมากทั้งงบ 1.2 แสนล้านบาท และบางส่วนในงบเงินกู้ 3.5 แสนล้านบาท และยังมีกรณีอื่นๆ ที่วิปฝ่ายค้านกำลังคัดเลือกประเด็นและรวบรวมข้อมูลในการอภิปรายฯอีก


แม้การยื่นญัตติขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจยังไม่ผ่านด้วยเหตุผลจาก นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานสภาผู้แทนราษฎร ที่ระบุว่า ญัตติขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจของฝ่ายค้านนั้น ยังไม่สมบูรณ์ เนื่องจากไม่แนบข้อกล่าวหา การยื่นถอดถอนมาด้วย แต่ทว่า ฝ่ายค้านยังคงยืนกรานว่า การยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจนั้น ถูกต้องตามรัฐธรรมนูญ และทำแบบนี้ทุกครั้งในการขอเปิดอภิปราย

จึงสร้างความเคลือบแคลงสงสัยไม่น้อยของ ปชป. ถึงความพิรุธของประธานสภาฯด้วยเหตุผลนานัปการ ไม่ว่า จะเป็นปกป้องรัฐบาล ปกป้องเสถียรภาพของตนเอง หรือแม้กระทั่งทำตามใบสั่งของนายใหญ่ก็ตาม  ...แม้ภายหลังจากการยื่นญัตติแล้วทางฝั่งรัฐบาล นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี หนึ่งในรายชื่อของผู้มีชื่อติดโผถูกซักฟอก ในญัตติของฝ่ายค้าน ยืนยันแล้วว่า จะออกมาตอบทุกข้อสงสัยของฝ่ายค้านก็ตามที...

เรื่องวุ่นชุลมุนทั้งนอกและในสภา มีเข้ามาไม่หยุดยั้ง ทั้งการประชุมชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงในวันที่ 19-20 พ.ย. นี้ที่สนามราชมังคลากีฬาสถานเพื่อให้กำลังใจรัฐบาล ซึ่งหลายฝ่ายออกมาทักว่า ระวังกลายจะเป็นน้ำผึ้งหยดเดียว หากเกิดการปะทะกันของมวลชนทั้ง2 ฝ่าย ยิ่งนายสุเทพ เทือกสุบรรณ แกนนำม็อบราชดำเนินออกมาประกาศรวมพลไล่รัฐบาลในวันที่ 24 พ.ย. ที่จะถึงนี้ด้วยแล้ว ต้องบอกว่ารัฐบาลอาการน่าเป็นห่วง

แต่ทว่า กว่าจะถึงวันชำแหละของม็อบและด่านอภิปรายไม่ไว้วางใจของฝ่ายค้าน ด่านที่จะถึงที่สำคัญของ 'รัฐบาลปู' คือ จะต้องฝ่ามรสุมชำระกับศาลรัฐธรรมนูญ ในวันที่ 20 พ.ย. นี้ไปให้ได้ก่อน ซึ่งทางฝั่งบริหารประเทศอย่างรัฐบาล จะยังคง "เอาอยู่" และอยู่ได้ไปต่ออีก หรือไม่...? ก็ต้องมานั่ง ลุ้น!รอฟังคำวินิจฉัยกันด้วยใจระทึก...

และถึงแม้ "รัฐบาลยิ่งลักษณ์" หากผ่านด่านศาลรธน.ไปได้ แต่ยังต้องถูกชำแหละต่อ หนทางข้างหน้ายังคงต้องเผชิญวิกฤติคลื่นลูกใหญ่ ทั้งม็อบปชป. รวมไปถึงป.ป.ช. กำลังรออยู่เช่นกัน... ถึงนาทีนี้ก็หวังเพียงว่า จะไม่เกิดความรุนแรง วุ่นวายภายในประเทศขึ้นอีกก็พอ...

ขอบคุณเนื้อหา : ไทยรัฐ
ที่มา http://www.itplaza.co.th/update_details.php?type_id=1&news_id=31187&page=1