ข่าว:

ทดลองใช้งานบอร์ดตะลุง ที่อยู่ในขั้นตอนการกู้คืนข้อมูล เบื้องต้นมีแต่กระทู้ (ข้อความ) กำลังกู้รูปภาพ ไฟล์แนบต่าง ๆ คาดว่าจะทยอยสมบูรณ์ภายในไม่ช้า

Main Menu

ดูแลโทรศัพท์มือถืออย่างไรให้ใช้นาน เคล็ด(ไม่)ลับ กับการดูแลมือถือ

เริ่มโดย zamini, 11:30 น. 21 พ.ย 56

zamini

หน้าจอ (Display) เริ่มต้นที่หน้าจอก่อน เพราะหยิบมาเมาท์ทีไรก็ต้องแนบกับหน้าทุกครั้งพอคุยเสร็จปุ๊บก็เป็นคราบเลย ทั้งแป้งทั้งเหงื่อทั้งความมัน ถ้าปล่อยไว้นานๆ อาจได้สิวเป็นของแถม การดูและหน้าจอโทรศัพท์มือถือดีทั่วๆ ไปนั้น ทำได้ไม่อยากแค่ใช้ผ้าสะอาดๆ หรือทิชชู่สำหรับเด็ก (ทิชชู่ทั่วไปจะทำให้หน้าจอเป็นรอยได้) หรือใช้ผ้าเช็ดแว่นเป็นอุปกรณ์ในการทำความสะอาดหน้าจอมือถือ ส่วนเช็ดบ่อยแค่ไหนขึ้นอยู่กับความถี่ในการใช้งาน นอกจากนี้ยังมีจอแบบ Touch Screen ซึ่งจะไวต่อความร้อน ความชื้น และการกระทบกระแทกเป็นพิเศษ ดังนั้น การดูแลรักษาโทรศัพท์มือถือจึงต้องทะนุถนอมกว่าจอมือถือแบบอื่นซักหน่อย

วิธีการดูแลรักษาหน้าจอแบบ Touch Screen
-  อย่าทำตกหรือให้อะไรมากระแทกจอเพราะจะแตกได้

-  ควรจะติดแผ่นกันรอยเพราะจะช่วยกันจอจากความชื่น รอยขีดข่วน และการกระแทกได้ส่วนหนึ่ง

-  อย่าใช้น้ำอย่าที่ไม่ได้ทำมาเพื่อใช้ทำความสะจอ Touch Screen ถ้าเป็นน้ำยาเช็ดคอม หรือแอลกอฮอล์จะซึมเข้าไปข้างในจอทำให้จอเสียได้

-  ควรใช้ผ้าไมโครไฟเบอร์แบบที่เช้ดแว่นแห้งๆถูเบาๆหากยังไม่ออกให้ใช้น้ำยาเช็ดหน้าจอ Touch Screen เพิ่มได้

-  อย่าวางเครื่องทิ้งไว้ในที่ความร้อนสูงเช่นหน้าคอนโซลรถเพราะจะทำให้จอเสื่อม

-  หากโดนน้ำให้รีบเช็ดออกให้เร็วที่สุดห้ามเอาไดร์เป่าผมมาเป่าเพราะจอจะโดนความร้อนจะบวมได้

-  หลีกเลี่ยงการเปลี่ยนอุณหภูมิอย่างรวดเร็วเช่นตากแดดร้อนๆมาเข้าห้องแอร์เย็นๆ เพราะถ้าจอปรับตัวไม่ทันจะทำให้แตกได้ และที่สำคัญไม่ว่าจะเป็นจอแบบไหก็ตามพยายามอย่าทำหล่นบ่อย เพราะจะทำให้หน้าจอแตกหรือร้าวได้ ป้องกันง่ายๆโดนเก็บใส่กระเป๋าถือหรือกระเป๋ากางเกง จะหาซองมาใส่กันกระแทก เอาสายมาคล้องคอหรือข้อมือเวลาถือก็ช่วยเซฟได้ดีเหมือนกันบางคนอาจจะไม่ชอบรู้สึกว่าสิ้นเปลืองหรือไม่สะดวก แต่ว่าคุ้มกว่าค่าซ่อมเป็น ไหนๆ

กล้อง (Camera) สำหรับการดูแลรักษากล้องบน
มือถือก็ทำได้ไม่ยาก คือใช้คอตต้อนบัดหรือผ้าเช็ดแวนชุบน้ำยาทำความสะอาดเลนส์ (แบบเดียวกับที่ใช้กับกล้องทั่วไป) เช็ด หรือหาแผ่นฟิล์มสำหรับป้องกันรอยบนหน้าจอมาปิดเพื่องป้องกันฝุ่นและรอยนิ้วมือก็ได้

แบตเตอร์รี (Battery) การที่จะใช้
โทรศัพท์มือถือได้นานๆ ก็ต้องขึ้นอนู่กับการชาร์ตแบตด้วย ซึ่งการใช้งานที่ถูกต้องก็จะช่วยยืดอายุการใช้งานไปได้ เช่น เมื่อซื้อมือถือใหม่ก็ควรชาร์ตแบตใน 2-3 ครั้งแรกให้เต็มที่ เพื่อให้กระบวนการทางสารเคมีของสารประกอบภายในเกิดปฎิกิริยาให้สมบูรณ์ไม่ควรชาร์ตแบตเกิน 24 ชม. โดนไม่ถอดสายชาร์ตออก เพราะจะทำให้แบตเสื่อมเร็ว ถ้ายังมีพลังงานเหลืออยู่มากอย่าพึ่งรีบชาร์ตใหม่ ควรจะใช้ให้หมดก่อนจึงเริ่มชาร์ต เนื่องจกการชาร์ตหนึ่งครั้ง จะคิดเป็นหนึ่งรอบซึ่งจะมีอายุกำหนดว่าสามารถชาร์ตได้กี่ครั้ง ขณะชาร์ตควรปิดเครื่องด้วยเพราะหากมีสายเข้ามาจะทำให้การชาร์ตหยุดลงชั่วขณะและเริ่มชาร์ตใหม่เมื่อวางสาย

ตัวเครื่อง (Body) ไม่ว่าจะเป็นแบบ Bar Phone, Clam Shell หรือ Slide จะมีเสาหรือมีไม่มีเสา วิธีดูแลแบบเบสิกเลยคือทำหล่นให้น้อยที่สุด ซึ่ง
โทรศัพท์มือถือแบบ Clam Shell หรือ Slide จะมีโอกาสเสียง่ายมาก เพราะทำให้สายพานที่เชื่อมต่อบานพับหรือข้อต่อเสื่อมหรือหลุดได้ บางทีตัวเครื่องไม่เป็นไรแต่วงจรภายในเจ้ง ซึ่งค่าซ่อมไม่น้อยแน่ๆ การป้องกันก็เหมือนกับที่ได้กล่าวไปในเรื่องขอหน้าจอนั่นแหละ แล้วเวลาว่างๆ ก็หาผ้าสะอาดๆ มาเช็ดบ้าง หรือ จะใช้น้ำยาสำหรับทำความสะอาดมือถือมาเช็ดด้วยอีกแรงก็ดีเหมือนกัน นอกจากจะช่วยให้น่าใช้แล้วยังช่วยลบรอยกำ, คราบและฝุ่นต่างๆ ที่ติดอยู่ได้ด้วย


ข้อมูลโดย...
http://www.weloveshopping.com

นายไข่นุ้ย

DO YOU KNOW ME? I AM A CAT 28 YEARS. AND YOU?    แมวแท้สู (แมวยิ้ม)

Jobie

ข้อมูลเรื่องแบตเตอรี่น่าจะไม่ถูกต้องเท่าไหร่นะ อันนั้นน่าจะเป็นคำแนะนำสำหรับแบตเตอรี่ที่ไม่ใช่ Lithium ion  เดี๋ยวนี้แบตแบบ Li-ion จะชาร์จอย่างไรก็ไม่มีผลต่ออายุการใช้งานครับ  จำนวน Cycle ของการชาร์จก็ไม่เกี่ยวข้องกับการนับว่าชาร์จกี่ครั้ง  ดังนั้นการชาร์จ 1 ครั้งก็อาจจะไม่เท่ากับ 1 cycle

จำนวน 1 Cycle จะคิดจากการชาร์จไฟจากแบตเตอรี่ที่ไม่มีไฟ(0%) จนแบตเตอรี่มีไฟเต็ม(100%) 1 ครั้ง

เช่น ถ้าเราชาร์จครั้งแรกจากแบตเตอรี่ 60% จนเต็ม 100% การชาร์จครั้งนี้ก็จะนับเท่ากับ 0.4 cycle
และถ้าชาร์ครั้งต่อมาอีกจาก 70% จนเต็ม 100% ก็จะคิดเป็น 0.3 cycle
เมื่อรวมกับครั้งแรกก็จะได้เท่ากับ 0.4+0.3 = 0.7 cycle แล้วก็จะนับสะสมแบบนี้ไปเรื่อยๆ ทุกครั้งที่มีการชาร์จ
แบตเตอรี่แบบ Li-ion ส่วนใหญ่ก็จะมี life cycle อยู่ประมาณ 300-500 cycle จึงจะเสื่อมลงเหลือประสิทธิภาพแค่ 80% ของแบตใหม่   ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ขึ้นกับลักษณะการใช้งานแบตเตอรี่ด้วย  เช่น อุณหภูมิแบต การชาร์จแบบใช้แอมป์สูง 

itplaza


หน้าจอ (Display) เริ่ม ต้นที่หน้าจอก่อน เพราะหยิบมาเมาท์ทีไรก็ต้องแนบกับหน้าทุกครั้งพอคุยเสร็จปุ๊บก็เป็นคราบเลย ทั้งแป้งทั้งเหงื่อทั้งความมัน ถ้าปล่อยไว้นานๆ อาจได้สิวเป็นของแถม การดูและหน้าจอโทรศัพท์มือถือดี ทั่วๆ ไปนั้น ทำได้ไม่อยากแค่ใช้ผ้าสะอาดๆ หรือทิชชู่สำหรับเด็ก (ทิชชู่ทั่วไปจะทำให้หน้าจอเป็นรอยได้) หรือใช้ผ้าเช็ดแว่นเป็นอุปกรณ์ในการทำความสะอาดหน้าจอมือถือ ส่วนเช็ดบ่อยแค่ไหนขึ้นอยู่กับความถี่ในการใช้งาน นอกจากนี้ยังมีจอแบบ Touch Screen ซึ่งจะไวต่อความร้อน ความชื้น และการกระทบกระแทกเป็นพิเศษ ดังนั้น การดูแลรักษาโทรศัพท์มือถือจึงต้องทะนุถนอมกว่าจอมือถือแบบอื่นซักหน่อย 

วิธีการดูแลรักษาหน้าจอแบบ Touch Screen

-  อย่าทำตกหรือให้อะไรมากระแทกจอเพราะจะแตกได้

-  ควรจะติดแผ่นกันรอยเพราะจะช่วยกันจอจากความชื่น รอยขีดข่วน และการกระแทกได้ส่วนหนึ่ง

-  อย่าใช้น้ำอย่าที่ไม่ได้ทำมาเพื่อใช้ทำความสะจอ Touch Screen ถ้าเป็นน้ำยาเช็ดคอม หรือแอลกอฮอล์จะซึมเข้าไปข้างในจอทำให้จอเสียได้

-  ควรใช้ผ้าไมโครไฟเบอร์แบบที่เช้ดแว่นแห้งๆถูเบาๆหากยังไม่ออกให้ใช้น้ำยาเช็ดหน้าจอ Touch Screen เพิ่มได้

-  อย่าวางเครื่องทิ้งไว้ในที่ความร้อนสูงเช่นหน้าคอนโซลรถเพราะจะทำให้จอเสื่อม

-  หากโดนน้ำให้รีบเช็ดออกให้เร็วที่สุดห้ามเอาไดร์เป่าผมมาเป่าเพราะจอจะโดนความร้อนจะบวมได้

-  หลีก เลี่ยงการเปลี่ยนอุณหภูมิอย่างรวดเร็วเช่นตากแดดร้อนๆมาเข้าห้องแอร์เย็นๆ เพราะถ้าจอปรับตัวไม่ทันจะทำให้แตกได้ และที่สำคัญไม่ว่าจะเป็นจอแบบไหก็ตามพยายามอย่าทำหล่นบ่อย เพราะจะทำให้หน้าจอแตกหรือร้าวได้ ป้องกันง่ายๆโดนเก็บใส่กระเป๋าถือหรือกระเป๋ากางเกง จะหาซองมาใส่กันกระแทก เอาสายมาคล้องคอหรือข้อมือเวลาถือก็ช่วยเซฟได้ดีเหมือนกันบางคนอาจจะไม่ชอบ รู้สึกว่าสิ้นเปลืองหรือไม่สะดวก แต่ว่าคุ้มกว่าค่าซ่อมเป็น ไหนๆ

กล้อง (Camera) สำหรับการดูแลรักษากล้องบนมือถือก็ ทำได้ไม่ยาก คือใช้คอตต้อนบัดหรือผ้าเช็ดแวนชุบน้ำยาทำความสะอาดเลนส์ (แบบเดียวกับที่ใช้กับกล้องทั่วไป) เช็ด หรือหาแผ่นฟิล์มสำหรับป้องกันรอยบนหน้าจอมาปิดเพื่องป้องกันฝุ่นและรอยนิ้ว มือก็ได้

แบตเตอร์รี (Battery) การที่จะใช้โทรศัพท์มือถือได้นานๆ ก็ต้องขึ้นอนู่กับการชาร์ตแบตด้วย ซึ่งการใช้งานที่ถูกต้องก็จะช่วยยืดอายุการใช้งานไปได้ เช่น เมื่อซื้อมือถือใหม่ก็ควรชาร์ตแบตใน 2-3 ครั้งแรกให้เต็มที่ เพื่อให้กระบวนการทางสารเคมีของสารประกอบภายในเกิดปฎิกิริยาให้สมบูรณ์ไม่ควรชาร์ตแบตเกิน 24 ชม. โดนไม่ถอดสายชาร์ตออก เพราะจะทำให้แบตเสื่อมเร็ว ถ้ายังมีพลังงานเหลืออยู่มากอย่าพึ่งรีบชาร์ตใหม่ ควรจะใช้ให้หมดก่อนจึงเริ่มชาร์ต เนื่องจกการชาร์ตหนึ่งครั้ง จะคิดเป็นหนึ่งรอบซึ่งจะมีอายุกำหนดว่าสามารถชาร์ตได้กี่ครั้ง ขณะชาร์ตควรปิดเครื่องด้วยเพราะหากมีสายเข้ามาจะทำให้การชาร์ตหยุดลงชั่วขณะ และเริ่มชาร์ตใหม่เมื่อวางสาย

ตัวเครื่อง (Body) ไม่ว่าจะเป็นแบบ Bar Phone, Clam Shell หรือ Slide จะมีเสาหรือมีไม่มีเสา วิธีดูแลแบบเบสิกเลยคือทำหล่นให้น้อยที่สุด ซึ่งโทรศัพท์มือถือแบบ Clam Shell หรือ Slide จะมีโอกาสเสียง่ายมาก เพราะทำให้สายพานที่เชื่อมต่อบานพับหรือข้อต่อเสื่อมหรือหลุดได้บางทีตัวเครื่องไม่เป็นไรแต่วงจรภายในเจ้ง ซึ่งค่าซ่อมไม่น้อยแน่ๆการป้องกันก็เหมือนกับที่ได้กล่าวไปในเรื่องขอหน้าจอนั่นแหละ แล้วเวลาว่างๆก็หาผ้าสะอาดๆมาเช็ดบ้าง หรือ จะใช้น้ำยาสำหรับทำความสะอาดมือถือมาเช็ดด้วยอีกแรงก็ดีเหมือนกัน นอกจากจะช่วยให้น่าใช้แล้วยังช่วยลบรอยกำ, คราบและฝุ่นต่างๆ ที่ติดอยู่ได้ด้วย
ขอบคุณเนื้อหา  teenee.com

ที่มา http://www.itplaza.co.th/know_details.php?type_id=2&know_id=418&page=1

dekgang

Post By Sport Baboo OasisSBO)