ข่าว:

ทดลองใช้งานบอร์ดตะลุง ที่อยู่ในขั้นตอนการกู้คืนข้อมูล เบื้องต้นมีแต่กระทู้ (ข้อความ) กำลังกู้รูปภาพ ไฟล์แนบต่าง ๆ คาดว่าจะทยอยสมบูรณ์ภายในไม่ช้า

Main Menu

คิดอย่างไรกับการศึกษาของไทย

เริ่มโดย cooltarn, 14:03 น. 23 มิ.ย 54

cooltarn

ผู้ปกครองทั้งหลายคิดอย่างไรบ้างกับการศึกษาไทย

ปวดหัวกับเด็กสมัยนี้

เด็กสมัยนี้มีแต่ IQ  แต่ไม่มี EQ

วสันตฤดู :)

ปิดโรงเรียน.. แล้วให้เด็กเรียนแต่ในติวเตอร์ครับ

ในเมื่อโรงเรียนห่วยแตกขนาดต้องแห่กันไปเรียนติว ก็ปิดไปเหอะครับ เด็กจะได้เอาเวลาไปทำอย่างอื่น

ครูก็สอนกั๊กๆ ใน ร.ร. แต่ไปสอนลึกๆ ตอนสอนติว
(ผมไม่ได้เหมานะครับ ครูดีๆ ก็มี)

ส่วนเด็กเล็ก ก็จะยัดอะไรให้มากมายขนาดนั้นครับ คุณผู้ปกครองบางท่าน
ผมเห็น อนุบาล ก็เรียนพิเศษ จนแทบไม่ได้เวลาได้อยู่กับพ่อแม่กันเลยทีเดียว
เข้าใจว่าอยากให้ลูกเก่ง ลูกเด่น แต่อย่าลืมธรรมชาติของเด็กนะครับ :)

การเรียนสมัยนี้ สอนให้เด็กเก่งแต่วิชาการ แข่งขัน แย่งชิงเพื่อคะแนน
จนเกือบลืมกันไปแล้วหรือเปล่าครับ ว่าสิ่งที่สำคัญกว่าวิชาการคืออะไร ?

cooltarn

เห็นด้วยนะค่ะ ไหนๆพวกติวเตอร์ก็มีการรับรองจากกระทรวงศึกษาธิการอยู่แล้ว ถ้าอย่างนั้นก็ทำให้มันเป็นมาตรฐานเลยเรียนจบครอ์สได้ไปเกียรติบัตรสามารถนำไปสอบเข้ามาหาลัยได้เลยดีกว่า สงสารผู้ปกครองที่จะต้องมาเสียค่าเทอม ค่าเสื้อผ้า ค่ารายงาน ฯลฯ แล้วอีกอย่างเรียนกับติวเตอร์มันถูกซะที่ไหนละค่ะ แพงกว่าที่โรงเรียนอีก

อยากบอก

อย่าไปโรงเรียน

กะ


อยากไปโรงเรียน


บางคนไม่รู้ถึงความแตกต่าง ลองสังเกตุดู มีถมไป...


...อนิจจัง อนิจจา การสึกสาไท...

ลุงป.4

ห่วยแตกสิ้นดีครับ เด็กเก่งและมีเงินโอกาสสูงกว่าใครๆ เด็กเก่งชนบทหมดสิทธิ์ ผิดกับมาเลย์สิงคโปร์ เรื่องเรียนไม่ใช่ปัญหาของพ่อแม่ รัฐมีทุนสำรองไว้ส่งเสริมโดยเฉพาะ ของเราแค่เรียนฟรียังหลอกกันเลย เพราะฟรีไม่จริง รัฐไม่กล้าเจียดเงินมาทุ่มเท เพราะสูญเปล่า(คิดโง่ๆ) อิจฉาเขาเหลือเกิน ลูกสาวเพื่อนที่มาเลย์ขึ้นป.1มีรถบัสมารับมาส่ง หนังสือฟรีกระเป๋าฟรี มีอาหารเช้าไข่ดาวหนมปัง มีอาหารเที่ยง ตอนบ่ายมีนมแจก ขอให้เด็กตั้งหน้าเรียนเต็มที่ พ่อแม่ก็ทำงานให้เต็มที่ จ่ายภาษีให้ครบถ้วนแล้วกัน ระยะ30ปีที่ผ่านมาเมืองไทยมีนายกเกือบ10คน แต่มาเลย์มีมหาเธร์เป็นนายกฯผูกขาดเพียงคนเดียว สร้างวิสัยทัศน์ก้าวไกลได้ถึงเพียงนี้ พณฯนายกฯไทย10คนนั่นไม่รู้เคยส่องกระจกดูตัวเองบ้างไหม?5555

sap

อ้างจาก: ว สั น ต ฤ ดู :) เมื่อ 13:35 น.  27 มิ.ย 54
ปิดโรงเรียน.. แล้วให้เด็กเรียนแต่ในติวเตอร์ครับ

ในเมื่อโรงเรียนห่วยแตกขนาดต้องแห่กันไปเรียนติว ก็ปิดไปเหอะครับ เด็กจะได้เอาเวลาไปทำอย่างอื่น

ครูก็สอนกั๊กๆ ใน ร.ร. แต่ไปสอนลึกๆ ตอนสอนติว
(ผมไม่ได้เหมานะครับ ครูดีๆ ก็มี)

ส่วนเด็กเล็ก ก็จะยัดอะไรให้มากมายขนาดนั้นครับ คุณผู้ปกครองบางท่าน
ผมเห็น อนุบาล ก็เรียนพิเศษ จนแทบไม่ได้เวลาได้อยู่กับพ่อแม่กันเลยทีเดียว
เข้าใจว่าอยากให้ลูกเก่ง ลูกเด่น แต่อย่าลืมธรรมชาติของเด็กนะครับ :)

การเรียนสมัยนี้ สอนให้เด็กเก่งแต่วิชาการ แข่งขัน แย่งชิงเพื่อคะแนน
จนเกือบลืมกันไปแล้วหรือเปล่าครับ ว่าสิ่งที่สำคัญกว่าวิชาการคืออะไร ?

ส.ยกน้ิวให้ ส.ยกน้ิวให้ ส.ยกน้ิวให้  เห็นด้วยอย่างแรงคะ

ก.ไก่ทอด

  อาชีพครู กับครูอาชีพความหมายมันต่างกันครับ ผลประโยนช์ก็ต่างกันครับ........ จากก.ไก่ทอด
พรุ่งนี้ก็ทอด วันนี้ก็ทอด มะลือก็ทอด อนาคตก็ยังทอด  ร้าน ก.ไก่ทอด      

จ่าหรอย

อาชีพครู
ครูอาชีพ
รับจ้างสอน
3อย่างนี้ไม่เหมือนกันนะขอรับ
อาชีพครู = เลี้ยงชีพด้วยการเป็นครู หมดเวลาสอนก็หมดกัน กลับบ้านไปทำงานส่วนตัว
ครูอาชีพ = มีความเป็นครูในสายเลือด นอกหรือในเวลาเรียนก็ยังเป็นห่วงลูกศิษย์ ทั้งเรื่องเรียนและเรื่องส่วนตัว
รับจ้างสอน = มีอาชีพสอนหนังสือตามแต่ใครจะจ้าง อยู่ที่ตัวเงินและเวลา ไม่มีความผูกพันใดๆ

ก.ไก่ทอด

  ที่เขาเรียกครูอัตราจ้างนะครับมันเหมือนกันหม้ายครับ.......  จากก.ไก่ทอด
พรุ่งนี้ก็ทอด วันนี้ก็ทอด มะลือก็ทอด อนาคตก็ยังทอด  ร้าน ก.ไก่ทอด      

เด็กเทศบาล๔

น่าสงสารเด็กนักเรียนโรงเรียนเทศบาลทั้ง 5 แห่ง เด็กเทศบาลที่หัวดีมีแววฉลาด คุณครูจะติวให้เป็นพิเศษเพื่อพาไปแข่งทักษะวิชาการ  หรือเด็กที่เก่งด้านกีฬาครูก็จะพาไปซ้อมเพื่อมุ่งมั่นพาไปแข่ง  ส่วนเด็กที่หัวไม่ดีครูจะไม่สนใจหรือเด็กไม่เก่งด้านกีฬาครูก็จะเฉยเมย   ส่วนเด็กที่สร้างผลงานได้เหรียญรางวัล ครูและโรงเรียนก็จะได้ชื่อเสียงและบางครั้งก็จะนำผลงานเหล่านี้ไปทำผลงานเพื่อเลื่อนขั้น  เด็กที่ติววิชาการ เช่น สังคม หรือภาษาไทย ฯลฯ  เด็กเหล่านี้จะใช้เวลาช่วงเย็นในการติว ซึ่งจะติวเฉพาะวิชานั้นเพียงวิชาเดียว  ส่วนวิชาที่ไม่ได้ติวจะทำคะแนนได้ไม่ดีเลย เพราะฉะนั้นคุ้มแล้วหรือที่ครูเทศบาลนำเด็กไปติววิชาที่ตัวเองสอนเพื่อนำไปแข่งขันจนได้เหรียญ แต่เด็กเก่งแค่วิชาเดียว พอจบ ป.6 แทบเอาตัวไม่รอดต้องไปหาที่เรียนพิเศษวิชาอื่นเพื่อที่จะเข้าเรียนชั้น ม.1 นี่แหละการศึกษาไทยที่นำเด็กเป็นขั้นบันไดก้าวไปหาอนาคต สำหรับผู้ปกครองบางคนอาจดีใจที่ครูติวให้เป็นพิเศษแต่หารู้ไม่ว่าบุตรหลานท่านกำลังเป็นบันไดให้ครูข้าม...

sap

อ้างจาก: เด็กเทศบาล๔ เมื่อ 21:54 น.  28 มิ.ย 54
น่าสงสารเด็กนักเรียนโรงเรียนเทศบาลทั้ง 5 แห่ง เด็กเทศบาลที่หัวดีมีแววฉลาด คุณครูจะติวให้เป็นพิเศษเพื่อพาไปแข่งทักษะวิชาการ  หรือเด็กที่เก่งด้านกีฬาครูก็จะพาไปซ้อมเพื่อมุ่งมั่นพาไปแข่ง  ส่วนเด็กที่หัวไม่ดีครูจะไม่สนใจหรือเด็กไม่เก่งด้านกีฬาครูก็จะเฉยเมย   ส่วนเด็กที่สร้างผลงานได้เหรียญรางวัล ครูและโรงเรียนก็จะได้ชื่อเสียงและบางครั้งก็จะนำผลงานเหล่านี้ไปทำผลงานเพื่อเลื่อนขั้น  เด็กที่ติววิชาการ เช่น สังคม หรือภาษาไทย ฯลฯ  เด็กเหล่านี้จะใช้เวลาช่วงเย็นในการติว ซึ่งจะติวเฉพาะวิชานั้นเพียงวิชาเดียว  ส่วนวิชาที่ไม่ได้ติวจะทำคะแนนได้ไม่ดีเลย เพราะฉะนั้นคุ้มแล้วหรือที่ครูเทศบาลนำเด็กไปติววิชาที่ตัวเองสอนเพื่อนำไปแข่งขันจนได้เหรียญ แต่เด็กเก่งแค่วิชาเดียว พอจบ ป.6 แทบเอาตัวไม่รอดต้องไปหาที่เรียนพิเศษวิชาอื่นเพื่อที่จะเข้าเรียนชั้น ม.1 นี่แหละการศึกษาไทยที่นำเด็กเป็นขั้นบันไดก้าวไปหาอนาคต สำหรับผู้ปกครองบางคนอาจดีใจที่ครูติวให้เป็นพิเศษแต่หารู้ไม่ว่าบุตรหลานท่านกำลังเป็นบันไดให้ครูข้าม...

อันนี้โดนใจคะ ในผลงานเลื่อนขั้น มีแต่ของสวยๆ งามๆทั้งนั้น  ส.อืม

อ้างจาก: จ่าหรอย เมื่อ 21:01 น.  28 มิ.ย 54
อาชีพครู
ครูอาชีพ
รับจ้างสอน
3อย่างนี้ไม่เหมือนกันนะขอรับ
อาชีพครู = เลี้ยงชีพด้วยการเป็นครู หมดเวลาสอนก็หมดกัน กลับบ้านไปทำงานส่วนตัว
ครูอาชีพ = มีความเป็นครูในสายเลือด นอกหรือในเวลาเรียนก็ยังเป็นห่วงลูกศิษย์ ทั้งเรื่องเรียนและเรื่องส่วนตัว
รับจ้างสอน = มีอาชีพสอนหนังสือตามแต่ใครจะจ้าง อยู่ที่ตัวเงินและเวลา ไม่มีความผูกพันใดๆ

อย่างแรก นี่เยอะคะ  ส่วนงานส่วนตัวนี่ ก็คือ รับจ๊อบต่อที่โรงเรียนนั่นแหละคะ เขาเรียกว่า สอนการบ้านอีก 1 ชม.

แบ่งเบาภาระพ่อแม่ที่ไม่มีเวลา แถม + ไปอีกหลายพันอยู่  อย่างว่าแหละ เขาว่าน้ำพึ่งเรือ เสือหิว เอ๊ยย เสือพึ่งป่า อิอิ

cooltarn

ครูเดี๋ยวนี้ก็แปลกนะค่ะ พออยู่ที่โรงเรียนสอนอีกแบบ แต่พอมารับสอนพิเศษสอนดีมากๆ ดูจากครูหรืออาจารย์ตามโรงเรียนดังๆดูสิค่ะอย่างนี้จะเรียกว่า แม่พิมพ์ของชาติได้อีกรึปล่าวค่ะ

hcc

   ดูได้จากผลงาน ตกทั้งประเทศ
จาก​การ​ประกาศ​ผล​สอบ "โอ​เน็ต" ของ นักเรียน ม.6 ทั่ว​ประเทศ ใน 8 สาขา​วิชา โดย​แต่ละ​วิชา​มี​คะแนน​เต็ม 100 คะแนน ผล​ปรากฏ​ว่า

วิชา​ภาษาไทย มี​ผู้​สอบ 351,633 คน ได้​คะแนน​เฉลี่ย 42.61 คะแนน

วิชา​สังคมศึกษา มี​ผู้​สอบ 357,050 คน ได้​คะแนน​เฉลี่ย 46.51 คะแนน

วิชา​ภาษา​อังกฤษ  มี​ผู้​สอบ 354,531 คน ได้​คะแนน​เฉลี่ย 19.22 คะแนน

วิชา​คณิตศาสตร์ มี​ผู้​สอบ 356,591 คน ได้​คะแนน​เฉลี่ย 14.99 คะแนน

วิชา​วิทยาศาสตร์ มี​ผู้​สอบ 349,210 คน ได้​คะแนน​เฉลี่ย 30.90 คะแนน

วิชา​ศิลปะ มี​ผู้​สอบ 347,462 คน ได้​คะแนน​เฉลี่ย 32.62 คะแนน

วิชาการ​งาน​อาชีพ​และ​เทคโนโลยี มี​ผู้​สอบ 347,462 คน ได้​คะแนนเฉลี่ย 43.69 คะแนน

วิชา​สุขศึกษา​และ​พลศึกษา มี​ผู้​สอบ 347,462 คน ได้​คะแนน​เฉลี่ย 62.86 คะแนน

คะแนน​สอบ​เข้า​มหาวิทยาลัย 8 วิชา เด็ก​สอบ​ตก​ยก​ประเทศ 7 วิชา มี​เพียง​วิชา​เดียว​เท่านั้น​ที่​สอบ​ได้​เกิน​ร้อย​ละ 50 คือ วิชา​สุขศึกษา​และ​พลศึกษา ก็ได้​แค่ 62.86 คะแนน ซึ่ง​ถือว่า​เป็น​คะแนน​ที่​ไม่​ดี​นัก

และ ​คะแนน​ที่​แย่​ที่สุด ก็​คือ ​คณิตศาสตร์​ เฉลี่ย 14.99 คะแนน และ ภาษา​อังกฤษ ได้ 19.22 คะแนน​ จาก​คะแนน​เต็ม 100