ข่าว:

ทดลองใช้งานบอร์ดตะลุง ที่อยู่ในขั้นตอนการกู้คืนข้อมูล เบื้องต้นมีแต่กระทู้ (ข้อความ) กำลังกู้รูปภาพ ไฟล์แนบต่าง ๆ คาดว่าจะทยอยสมบูรณ์ภายในไม่ช้า

Main Menu

ขอตั้งศพไว้ที่คลัง เทือกสู้ตาย สั่งยึดทุกกระทรวง

เริ่มโดย itplaza, 13:21 น. 27 พ.ย 56

itplaza


ส่งสัญญาณไปต่างจังหวัด ยึดให้หมดทั้งประเทศไทย ระดมรถล้อมม็อบขวางตร. หลัง'ศาล'อนุมัติหมายจับ!

กลุ่มมวลชนโค่นล้มระบอบทักษิณได้ใจ กปท.เคลื่อนขบวนปิดทางเข้าออก 4 กระทรวง "คมนาคม-ท่องเที่ยว-เกษตร-มหาดไทย" หมายตากลาโหมเป็นรายต่อไป ม็อบนกหวีดพักออมแรง 1 วัน ก่อนดีเดย์ 27 พ.ย. "สุเทพ" ปลุกเร้าประชาชนต่างจังหวัด ยึดสถานที่ราชการแบบละมุนละม่อม เชื่อมั่นหยุดระบอบทักษิณชะงักทันที นปช.ระดมเสื้อแดงชุมนุมเวทีราชมังคลาฯ กางปีกปกป้องรัฐบาล นายกฯยิ่งลักษณ์วอนม็อบชุมนุมโดยสงบ ห่วงกระทบต่อเศรษฐกิจ เปิดใจยินดีจับเข่าคุยแกนนำขับไล่รัฐบาล บัวแก้ว กระตุกต่างชาติช่วยประณามม็อบบุกยึดกระทรวง ศอ.รส.งัดกฎเหล็กห้ามกลุ่มบุคคลก่อหวอดปั่นป่วนความมั่นคง เพิ่มระดับคุมเข้มรักษาความปลอดภัย ผวาขบวนการป่วนเมือง ศาลออกหมายจับ "เทพเทือก" ฐานเป็นผู้สั่งการให้เกิดความวุ่นวายแล้ว "ธาริต" ตีปีกดันเข้าสู่ระบบคดีพิเศษ

หลังจากรัฐบาลประกาศขยายพื้นที่ พ.ร.บ.ความมั่นคงฯเต็มพื้นที่ กทม. อ.ลาดหลุมแก้ว จ.ปทุมธานี อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ รับมือกลุ่มผู้ชุมนุมที่เพิ่มดีกรีการเคลื่อนไหวโค่นล้มระบอบทักษิณ โดยบุกยึดกระทรวงสำคัญๆ ล่าสุด ประกาศดีเดย์ 27พ.ย. ปลุกมวลชนทั่วประเทศไปหน่วยราชการจังหวัดต่างๆ เพื่อดึงข้าราชการให้ยืนเคียงข้างประชาชน

นายกฯวอนม็อบชุมนุมโดยสงบ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 26 พ.ย. เวลา 08.15 น. น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ได้เดินทางออกจากบ้านซอยโยธินพัฒนา 3 ไปยังรัฐสภา เพื่อประชุมสภาผู้แทนราษฎรพิจารณาญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล โดย น.ส.ยิ่งลักษณ์ ให้สัมภาษณ์ว่า กลุ่มผู้ชุมนุมบุกรุกสถานที่ราชการหลังประกาศเพิ่มพื้นที่การใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคงฯว่ารัฐบาล ไม่ต้องการให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ ไม่ต้องการให้เกิดความเดือดร้อน และเสียความเชื่อมั่น ต้องขอความร่วมมือจากประชาชน เพราะการบุกรุกสถานที่ราชการอาจทำให้การบริหารประเทศติดขัดได้ และการทำงานของกระทรวงต่างๆ มีหน้าที่ในการบริการประชาชนคนไทยทั้งประเทศ ทั้งนี้ รัฐบาลยินดีที่จะหารือในรายละเอียดความร่วมมือกัน ส่วนขั้นตอน ต่างๆนั้น คงจะมอบหมายให้ฝ่ายเจ้าหน้าที่ดูแลตามขั้นตอนกระบวนการต่อไป ผู้สื่อข่าวถามว่า ผู้ชุมนุมใช้กฎหมู่เหนือกฎหมาย น.ส.ยิ่งลักษณ์ตอบว่า รัฐบาลคงต้องขอความร่วมมือโดยยึดกฎหมาย ยึดกติกาเป็นหลัก ให้บ้านเมืองเดินต่อไปได้

ห่วงกระทบต่อเศรษฐกิจประเทศ

น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวว่า ส่วนกรณีที่รัฐบาลประกาศขยายพื้นที่ พ.ร.บ.ความมั่นคงฯ อยากให้ทุกอย่างดำเนินไปอย่างสงบ ตราบใดที่การชุมนุมเป็นไปอย่างสงบภายใต้กรอบกฎหมาย เชื่อว่าจะสามารถดำเนินการได้ ยืนยันไม่ได้สั่งให้เจ้าหน้าที่ใช้ความรุนแรงต่อประชาชน รัฐบาลยึดหลักการดูแลความสงบ ความมั่นคงในแนวสันติวิธีภายใต้กรอบกฎหมาย เมื่อถามถึงกรณีที่สหรัฐอเมริกาออกมาเตือนประชาชนถึงสถานการณ์ความวุ่นวายในไทย จะเรียก ความเชื่อมั่นต่อนานาชาติอย่างไร น.ส.ยิ่งลักษณ์ตอบว่า เป็นการกระทบความเชื่อมั่น ที่รัฐบาลไม่อยากเห็นภาพเช่นนี้กลับมาอีก ห่วงจะกระทบต่อเศรษฐกิจของประเทศ ดังนั้น อยากเรียกร้องถึงกลุ่มผู้ชุมนุมที่ได้แสดงออกและแสดงจุดยืนอย่างเต็มที่แล้ว ควรใช้กลไลการทำงานรัฐสภาตรวจสอบการทำงานของรัฐบาลตามที่ฝ่ายค้านได้ยื่นญัตติไว้ที่เริ่มอภิปรายในวันนี้

เมิน "สุเทพ" ตั้งรัฐบาลประชาชน

เมื่อถามอีกว่า หมายความว่ากลุ่มผู้ชุมนุมควร ยุติการชุมนุมด้วยหรือไม่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ตอบว่า การชุมนุมโดยสันติภายใต้กรอบของกฎหมายสามารถทำได้ แต่ไม่อยากให้นำไปสู่ความวุ่นวาย ต้องขอความ ร่วมมือ ถ้าได้มีโอกาสพูดคุยกันเชื่อว่าประชาชนจะกลับเข้าสู่ภาวะปกติ เพราะเดือน ธ.ค.ถือเป็นเดือน มหามงคล จึงอยากเห็นคนไทยมีความสุข จะได้ไม่เกิดความกังวลต่อการชุมนุม ต่อข้อถามว่านายกฯพร้อม เจรจากับนายสุเทพ เทือกสุบรรณ แกนนำกลุ่มผู้ชุมนุมราชดำเนินหรือไม่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ตอบว่า "ยินดีค่ะๆ ยินดีที่จะพูดคุย เวทีปฏิรูปทางการเมืองก็เปิดกว้างอยู่แล้ว อยากให้ใช้เวทีนี้พูดคุย ถ้ามัวแต่ต่างคน ต่างพูดคุยไม่ได้ตอบโจทย์ผู้ชุมนุม คงไม่สามารถหาข้อยุติได้" เมื่อถามว่า หากการพูดคุยไม่สำเร็จรัฐบาลจะใช้กฎหมายเข้มงวดขึ้นหรือไม่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ตอบว่า วันนี้ขอให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการไปทีละขั้น– ตอนให้เป็นไปตามหลักสากล เมื่อถามว่านายสุเทพประกาศจัดตั้งรัฐบาลประชาชน น.ส.ยิ่งลักษณ์ไม่ตอบคำถามดังกล่าว แล้วเดินเข้าร่วมประชุมสภาฯ ทันที

"ประชา" ชี้ทางออกจากวิกฤติ

พล.ต.อ.ประชา  พรหมนอก  รองนายกรัฐมนตรี กล่าวที่ทำเนียบรัฐบาลถึงการเคลื่อนไหวของผู้ชุมนุมที่ยังบุกปิดกระทรวงต่างๆว่า  คงเป็นการปิดล้อมเชิงสัญลักษณ์ รัฐบาลมี พ.ร.บ.ความมั่นคงฯดูแลอยู่เชื่อว่าจะควบคุมได้ ส่วนกรณีที่จะส่งคนไปเจรจากับนายสุเทพ  เทือกสุบรรณ  แกนนำผู้ชุมนุมเวทีราชดำเนิน ได้มอบให้ ศอ.รส. ที่มีทีมพูดคุยอยู่แล้ว  การพูดคุยกันจะเป็นทางออกที่ดีที่สุด  เมื่อถามว่า ที่นายสุเทพระบุจบภายใน 3 วัน จะจบได้จริงหรือไม่ พล.ต.อ. ประชาตอบว่า  ต้องถามนายสุเทพ สำหรับตนจบได้ก็ควรจะจบ ไม่ควรยืดเยื้อมากกว่านี้

"สุรนันทน์" วอนผู้ชุมนุมทำตาม รธน.

นายสุรนันทน์ เวชชาชีวะ เลขาธิการนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า  กรณีที่ผู้ชุมนุมได้เข้าบุกยึดสถานที่ราชการและยังได้ประกาศจะบุกยึดสถานที่ราชการอื่นๆอีก เป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย ขอให้ผู้ชุมนุมที่ต้องการบุกยึดสถานที่ราชการได้พึงตระหนักว่าข้าราชการและเจ้าหน้าที่ต่างมีหน้าที่ ที่จะต้องปฏิบัติและเป็นกลไกหลักในการขับเคลื่อนประเทศ รวมทั้ง การให้บริการประชาชนในภาคส่วนต่างๆ  การกระทำดังกล่าวของผู้ชุมนุมที่หวังผลเพียงเป็นสัญลักษณ์ของการยกระดับการชุมนุมข่มขู่รัฐบาลและคิดว่าเป็นความสำเร็จของผู้ชุมนุมนั้นกลับส่งผลให้ประเทศและประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศได้รับความเดือดร้อนอย่างกว้างขวาง ทำลายภาพลักษณ์ของประเทศอย่างใหญ่หลวง  จึงขอเรียกร้องให้ผู้ชุมนุมยุติการกระทำดังกล่าว และกลับไปชุมนุมอย่างสงบตามรัฐธรรมนูญ ไม่ใช่การปลุกระดมและยั่วยุ

กต. ฟ้องนานาชาติประณามม็อบ

เมื่อเวลา 10.00 น. ที่รัฐสภา นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล  รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.ต่างประเทศ แถลงว่าการที่กลุ่มเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย (คปท.) บุกยึดกระทรวงการต่างประเทศ เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นระหว่างที่  รมว.ต่างประเทศไปประชุมความร่วมมือเอเชีย (เอซีดี) ที่ประเทศบาห์เรน หลายประเทศสอบถามสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในไทย โดยได้แจ้งต่อรัฐมนตรีต่างประเทศของประเทศต่างๆว่า  การชุมนุมที่เกิดขึ้นเป็นการกระทำผิดกฎหมาย  และชี้แจงถึงสถานการณ์การเมืองว่าการยกระดับการชุมนุมเป็นการกระทำที่กระทบต่อความมั่นคงของชาติ ผิดกฎหมาย ไม่เป็นไปตามภายใต้ระบอบประชาธิปไตย เพราะบุกยึดสถานที่ราชการหลายแห่ง ขณะนี้ส่งสารถึงสถานเอกอัครราชทูตประเทศต่างๆประจำประเทศไทย องค์การสหประชาชาติ ที่นิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา สำนักงานข้าหลวงใหญ่สิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติที่นครเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ รวมทั้งรัฐมนตรีต่างประเทศ 5 ประเทศสมาชิกคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ได้แก่ สหรัฐฯ จีน อังกฤษ ฝรั่งเศส รัสเซีย เพื่อชี้แจงสถานการณ์ชุมนุมในไทย โดยขอให้ทุกประเทศช่วยกันประณามการกระทำที่ผิดกฎหมายนี้

22 ปท. เตือนพลเมืองตัวเอง

นายสุรพงษ์กล่าวต่อว่า  ขณะนี้มี 22 ประเทศออกหนังสือแจ้งเตือนประชาชนตนเองให้หลีกเลี่ยงการเข้าใกล้พื้นที่ชุมนุม ทำให้ส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยวและรายได้ของประเทศ โดยเฉพาะสถานทูตสหรัฐฯออกแถลงการณ์แสดงความไม่เห็นด้วยกับการบุกยึดสถานที่ราชการและไปที่บริษัทเอกชน เพราะวิธีการนี้ไม่ใช่การประท้วงภายใต้ระบอบประชาธิปไตย จึงขอเรียกร้องให้นายสุเทพ เทือกสุบรรณ แกนนำผู้ชุมนุม ต้องรับผิดชอบสิ่งที่เกิดขึ้น และสั่งการให้รองปลัดกระทรวงการต่างประเทศแจ้งความดำเนินคดีกับกลุ่มผู้ชุมนุมที่พังประตูกระทรวงฯจนเสียหาย รวมทั้งให้ฝ่ายความมั่นคงดำเนินการกับผู้ชุมนุมที่ยึดกระทรวงฯ ขอเรียกร้องให้ผู้ชุมนุมใช้สติและขอให้เดินทางกลับ เพราะประเทศเสียหาย ขอย้ำว่าต่างชาติยอมรับรัฐบาลจากการเลือกตั้ง

ศอ.รส.ออกประกาศฉบับที่ 7

วันเดียวกัน ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) พล.ต.ต.ปิยะ อุทาโย โฆษก ศอ.รส. เปิดเผยว่า ตามที่กลุ่มผู้ชุมนุมได้เคลื่อนตัวและใช้กำลังคนกดดัน ปิดล้อมสถานที่ราชการ  รัฐบาลได้ประกาศการบังคับใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคงฯในเขตพื้นที่กรุงเทพฯ จ.นนทบุรี รวมถึง อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ และ อ.ลาดหลุมแก้ว จ.ปทุมธานี เพื่อรักษาไว้ซึ่งการบริหารราชการแผ่นดิน ทาง ศอ.รส.ได้ประกาศศูนย์อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อยฉบับที่ 7/2556 ห้ามบุคคลหรือกลุ่มบุคคลใดซึ่งมีพฤติการณ์ก่อให้เกิดความไม่สงบ ยั่วยุ ปั่นป่วน การปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ และความสงบสุขของประชาชนต้องออกจากกระทรวงการคลัง  สำนักงบประมาณ  กระทรวงการต่างประเทศ และกรมประชาสัมพันธ์ รวมทั้งส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ องค์กรส่วนท้องถิ่น และหน่วยงานของรัฐอื่น รวมถึงศาลและองค์กรอิสระ ทั้งนี้ตั้งแต่ 25 พ.ย. เป็นต้นไป และจากนี้ไปประชาชนจะพบเห็นรถสายตรวจออกตรวจตราถี่มากขึ้น  เพราะยังไม่ไว้วางใจในการที่จะมีบางกลุ่มที่จะก่อความวุ่นวายในพื้นที่

บช.น.แถลงยอดผู้ชุมนุม

เมื่อเวลา 10.15 น. ที่กองบัญชาการตำรวจ นครบาล (บช.น.) พล.ต.ต.อดุลย์ ณรงค์ศักดิ์ รอง ผบช.น.ในฐานะโฆษก บช.น. แถลงถึงสถานการณ์การชุมนุม และแจ้งยอดผู้ชุมนุมตามสถานที่ต่างๆในวันที่ 25-26 พ.ย.56 ว่ากลุ่มพรรคประชาธิปัตย์ นำโดยนายสุเทพ เทือกสุบรรณ นำผู้ชุมนุมจำนวน 8,000 คน เข้าไปยึดที่บริเวณกระทรวงการคลัง และกรมประชาสัมพันธ์จนถึงปัจจุบัน ขณะนี้มีจำนวนผู้ชุมนุม 2,000 คน ขณะที่กลุ่มเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย (คปท.) โดยนายนิติธร ล้ำเหลือ และนายอุทัย ยอดมณี นำผู้ชุมนุมจำนวน 3,000 คน เข้าไปอยู่ในกระทรวงการต่างประเทศจนถึงปัจจุบัน ขณะนี้มีจำนวนผู้ชุมนุม 200 คน ส่วนที่เวทีนางเลิ้งยังมีการชุมนุมอยู่โดยมียอดผู้ชุมนุมจำนวน 50 คน ส่วนที่เวทีอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ยังคงมีการชุมนุมและมีการปราศรัย โดยขณะนี้มีจำนวนผู้ชุมนุม 4,000 คน และกลุ่มประชาชนปฏิวัติปฏิรูปประเทศไทยยังมีการชุมนุมอยู่ที่บริเวณแยกมัฆวาน ขณะนี้มีจำนวนผู้ชุมนุม 800 คน

ขอหมายจับ "สุเทพ" 2 คดี

เมื่อเวลา 10.40 น. ที่ศาลอาญา พล.ต.ต.ขจรศักดิ์ ปานสาคร รอง ผบช.น. เดินทางไปยื่นคำร้องขอหมายจับนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ใน 2 คดี คดีแรกท้องที่ สน.บางซื่อ กรณีนำกลุ่มผู้ชุมนุมเข้าปิดล้อมและยึดสำนักงบประมาณ กระทรวงการคลัง เป็นที่ชุมนุมคู่ขนาน กล่าวหาว่ากระทำความผิดตาม  ป.อาญา มาตรา 116 (3) ข้อหาผู้ใดกระทำการให้ปรากฏแก่ประชาชนด้วยวาจา หนังสือ หรือวิธีอื่นใดอันมิใช่เป็นการกระทำภายในความมุ่งหมายแห่งรัฐธรรมนูญ หรือมิใช่เพื่อแสดงความคิดเห็น หรือติชม โดยสุจริต เพื่อให้ประชาชนล่วงละเมิดกฎหมายแผ่นดิน, มาตรา 215 ผู้ใดเมื่อสุมกันตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป ใช้กำลังประทุษร้าย ขู่เข็ญจะใช้กำลังประทุษร้ายหรือกระทำการอย่างหนึ่งอย่างใด หรือใช้อาวุธ และเป็นผู้สั่งการหรือเป็นหัวหน้า ให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมือง, มาตรา 365 ใช้กำลังประทุษร้าย หรือขู่เข็ญว่าจะใช้กำลังประทุษร้าย โดยมีอาวุธ  หรือร่วมกันกระทำความผิดตั้งแต่สองคนขึ้นไปในเวลากลางคืน

ยันมีหลักฐานมัดตัวอยู่หมัด

พล.ต.ต.ขจรศักดิ์กล่าวอีกว่า ส่วนคดีที่สองเกิด ขึ้นในท้องที่ สน.สำราญราษฎร์ ในการชุมนุมที่บริเวณ อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย กล่าวหาว่านายสุเทพกระทำ ความผิดตาม ป.อาญา มาตรา 116 (3) และมาตรา 117 ผู้ใดยุยงให้เกิดการร่วมกันหยุดงาน การร่วมกันปิดงาน งดจ้าง หรือการร่วมกันไม่ยอมค้าขาย หรือติดต่อทาง ธุรกิจกับบุคคลใดๆ เพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในกฎหมายแผ่นดิน เพื่อบังคับรัฐบาล หรือข่มขู่ประชาชน โดยทราบความมุ่งหมายดังกล่าว และเข้ามีส่วน หรือ เข้าช่วยในการร่วมกันหยุดงาน และใช้กำลังประทุษร้ายขู่เข็ญว่าจะใช้กำลังประทุษร้าย หรือทำให้หวาดกลัว ด้วยประการใดๆ เพื่อให้บุคคลเข้ามีส่วน หรือมีส่วน ในการเข้าร่วมกันหยุด สำหรับพยานหลักฐานเท่าที่ ปรากฏขณะนี้สามารถขอศาลอนุมัติออกหมายจับนาย สุเทพได้ในเบื้องต้น ส่วนจะออกหมายจับผู้กระทำผิด รายอื่นๆ หรือไม่ต้องพิจารณาอีกครั้ง หากศาลจะ ไต่สวนการขอหมายจับ พนักงานสอบสวนได้เตรียม หลักฐานการชุมนุมของนายสุเทพเพื่อให้ศาลใช้ดุลพินิจประกอบการพิจารณา

ศาลออกหมายจับ "สุเทพ" 2 ข้อหา

ต่อมาเวลา 14.30 น. พล.ต.ต.ขจรศักดิ์ ปานสาคร กล่าวว่า ศาลมีคำสั่งอนุมัติหมายจับนายสุเทพ 2 ข้อหา คือ ความผิดตาม ป.อาญา มาตรา 215 และ มาตรา 365 จากกรณีนำม็อบบุกกระทรวงการคลังเมื่อวันที่ 25 พ.ย. ส่วนการชุมนุมบริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ถ.ราชดำเนิน ที่ขอออกหมายจับใน ข้อหาตาม ป.อาญา มาตรา 116 (3) และ 117 ศาลไม่ อนุมัติ เนื่องจากพยานหลักฐานไม่เพียงพอ จากนี้จะ รายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ เพื่อนำตัวนายสุเทพมาเข้าสู่กระบวนการสอบสวนต่อไป

"ถาวร" เล็งอุทธรณ์หมายจับแกนนำ

ขณะที่นายเจษฎา อนุจารี ทนายความนายสุเทพ ที่พยายามยื่นคัดค้านการออกหมายจับ โดยนำนายถาวร เสนเนียม อดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ แกนนำ กลุ่มผู้ชุมนุมมาเตรียมเข้าเบิกความคัดค้าน แต่ไม่ เป็นผล ภายหลังนายถาวรเปิดเผยว่า  จะอุทธรณ์คำสั่งของศาลในวันที่ 27 พ.ย.นี้ เพื่อชี้ให้ศาลเห็นว่านายสุเทพมีที่อยู่เป็นหลักแหล่ง ไม่มีพฤติการณ์หลบหนี และข้อหาไม่ร้ายแรง เคารพดุลพินิจของศาลที่มีคำสั่ง ออกหมายจับ ไม่เหมือนกรณีที่ประธานวุฒิสภาและพรรคเพื่อไทยออกแถลงคัดค้านอำนาจตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ส่วนนายสุเทพจะไม่เข้ามอบตัว เนื่องจากมีภารกิจสำคัญต้องกวาดล้างระบอบทักษิณและปฏิรูป ประเทศไทย แต่หากตำรวจจะเข้ามาจับกุมก็เชิญเข้ามาจับที่ม็อบได้เลย ขอฝากถึงเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า ข้อหามั่วสุมทางการเมืองตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป แกนนำ ทุกม็อบมีความผิดทุกคน ฉะนั้นกลุ่มคนเสื้อแดงที่ชุมนุม ที่สนามราชมังคลากีฬาสถานต้องมีความผิดเช่นกัน

"ธาริต" ดันคดี "เทือก" เป็นคดีพิเศษ

นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ให้สัมภาษณ์ที่ดีเอสไอถึงกรณีนายสุเทพ เทือกสุบรรณ เข้ายึดสถานที่ราชการหลายแห่ง ว่า ดีเอสไอได้ส่งเจ้าหน้าที่เข้าไปในพื้นที่สังเกตการณ์ตลอด พร้อมบันทึกเสียงการถ่ายทอดการอภิปรายใน การชุมนุมตลอด โดยถอดข้อความแบบวันต่อวัน เนื่องจากมีผู้มาร้องทุกข์ต่อดีเอสไอให้ดำเนินคดี แต่ขณะนี้การชุมนุมยังไม่เสร็จสิ้น มีการยกระดับแรงขึ้น ต่อเนื่อง ดีเอสไอกำลังพิจารณาว่าจะเสนอเป็นคดีพิเศษในวันที่ 2 ธ.ค. เพราะการยึดสถานที่ราชการน่าจะ เข้ามาตรา 21 (2) พ.ร.บ.สอบสวนคดีพิเศษ ที่เห็นการกระทำเหล่านี้มีความเสียหายอย่างรุนแรง มีความ ยุ่งยากซับซ้อน จึงมีแนวโน้มที่ตนในฐานะเลขานุการคณะกรรมการคดีพิเศษ (กคพ.) และกรรมการคดีพิเศษอาจจะเสนอเป็นคดีพิเศษ ในฐานความผิดบุกรุกสถานที่ ราชการยามวิกาล ทำให้ทรัพย์สินเสียหายทั้งประตูหรือรั้ว ส่วนการปลุกระดมให้ละเมิดกฎหมายเป็นความผิดหลายกรรมหลายกระทง สอดคล้องกับศาลออกหมายจับนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ส่วนสถานการณ์การชุมนุมในขณะนี้เป็นการประท้วงที่ผิดกฎหมาย ซึ่งดีเอสไอกำลังรวบรวมข้อมูล

หน่วยราชการแห่แจ้งจับแกนนำ คปท.

เมื่อเวลา 15.00 น. ผอ.กองการประชาสัมพันธ์ และเจ้าหน้าที่ฝ่ายอาคารสถานที่กระทรวงต่างประเทศ ได้เดินทางมาที่ สน.พญาไท เข้าแจ้งความกับ พ.ต.ท.เทพพิทักษ์ แสงกล้า พนักงานสอบสวนผู้ชำนาญการพิเศษ สน.พญาไท ให้ดำเนินคดีกับนายนิติธร ล้ำเหลือ นายอุทัย ยอดมณี และนายอมร อมร–รัตนานนท์ แกนนำกลุ่มเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย (คปท.) ที่เข้ายึดกระทรวงการต่างประเทศ และทำให้ประตูเลื่อนไฟฟ้า 4 บานเสียหาย มูลค่า 200,000 บาท ข้อหาร่วมกันบุกรุกโดยใช้กำลังประทุษร้ายในเวลากลางคืนและมั่วสุมกันตั้งแต่ 10 คนขึ้นไปและทำให้ทรัพย์สินเสียหาย ซึ่งเจ้าหน้าที่จะสอบสวนอย่างละเอียดเพื่อนำสำนวนขออนุมัติให้ศาลออกหมายจับต่อไป

น.แถลงศาลออกหมายจับ "เทพเทือก"

เมื่อเวลา 16.30 น. ที่ บชน. พล.ต.ต.อดุลย์ ณรงค์ศักดิ์ รอง ผบช.น. ฐานะโฆษก บช.น.กล่าวว่า กรณีนายสุเทพ เทือกสุบรรณ นำกลุ่มผู้ชุมนุมพรรคประชาธิปัตย์ ไปชุมนุมบริเวณหน้าสำนักงบประมาณ กระทรวงการคลัง และบุกยึดภายในกระทรวงการคลัง เมื่อวันที่ 25 พ.ย. เวลา 11.00 น. พนักงานสอบสวน สน.บางซื่อ รับคำร้องทุกข์จากนั้นรวบรวมพยานหลักฐานยื่นขออนุมัติหมายจับที่ศาลอาญา ศาลอาญาอนุมัติหมายจับ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ อยู่บ้านเลขที่ 1/1 หมู่ 2 ต.ท่าสะท้อน อ.พุนพิน จ.สุราษฎร์ธานี ตามหมายจับศาลอาญาที่ 2306/2556 ลงวันที่ 26 พ.ย.56 บช.น.จะเร่งดำเนินการจับกุมมาดำเนินคดีโดยเร่งด่วนการดำเนินการขออนุมัติหมายจับศาลอาญาด้วยว่า พนักงานสอบสวนได้ออกหมายเรียก หรือแจ้งให้มาพบพนักงานสอบสวนแล้ว เมื่อไม่มาพบ จึงดำเนินการขออนุมัติหมายจับ ขั้นตอนต่อไป บช.น.ก็จะดำเนินการจับกุมมาดำเนินคดี เจอเมื่อไหร่ก็จับ

ขอออกหมายจับเพิ่มแกนนำ คปท.

พล.ต.ต.อดุลย์กล่าวด้วยว่า พนักงานสอบสวนสน.พญาไท กำลังดำเนินการยื่นศาลอาญา เพื่อขออนุมัติหมายจับนายอุทัย ยอดมณี และนายนิติธร ล้ำเหลือ ในข้อหาเดียวกับนายสุเทพ กรณีนำผู้ชุมนุมยึดกระทรวงต่างประเทศ รวมทั้งดำเนินคดีแกนนำที่นำกลุ่มผู้ชุมนุมไปยึดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และกระทรวงคมนาคม ผู้สื่อข่าวถามถึง กทม.ออกมาโต้คลิปกรณีมีชาย 2 คน ใช้รถกระเช้านำถุงดำขึ้นไปคลุมกล้องวงจรปิด พล.ต.ต.อดุลย์กล่าวว่า ขอตรวจสอบก่อนว่ารายละเอียดเป็นอย่างไร ตนยังไม่เห็นคลิปดังกล่าว ตนได้รับรายงานที่เป็นข้อเท็จจริงจึงเสนอข้อมูลชี้แจงโดยสุจริตน่าจะไม่มีปัญหาอะไร ข้อมูลทางโซเชียลมีเดียก็ควรตรวจสอบให้ชัดเจนก่อนที่จะเชื่อข้อมูล

ตำรวจตั้งสายตรวจ ศอ.รส.

พล.ต.ต.ปิยะ อุทาโย โฆษก ศอ.รส. เปิดเผยที่ สตช.ว่า ตามที่กลุ่มผู้ชุมนุมได้เคลื่อนตัวและใช้กำลังคนกดดัน ปิดล้อมที่ทำการสถานที่ราชการหลายแห่ง ประกอบกับสถานการณ์ด้านการข่าวบ่งชี้ว่าจะมีการก่อกวนสร้างความวุ่นวายให้เกิดในสังคม โดยอาจก่อให้เกิดความไม่ปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนจนควบคุมไม่ได้ เพื่อเป็นการป้องกันเหตุร้ายและสร้างความอบอุ่นใจให้ประชาชน และเป็นการตัดช่องโอกาสในการกระทำความผิดของมิจฉาชีพและผู้ไม่หวังดี อีกทั้งการเข้าระงับเหตุร้ายที่อาจเกิดขึ้นได้ทันท่วงที ศอ.รส.จึงได้กำหนดให้มีสายตรวจ ศอ.รส.ขึ้น โดยระดมกำลังฝ่ายปฏิบัติการครั้งใหญ่ ประกอบด้วยกำลังพลสายตรวจทุก สน. 191 บก.จร. และเสริมด้วยกำลังพลสายตรวจจาก บช.ภ.1 2 และ 7 รวมทั้ง บก.ป. บก.ทท. และ บก.ทล.ดำเนินการตั้งด่านตรวจเข้มแข็งและด่านเคลื่อนที่ โดยมีการจัดวงรอบการตรวจและจัดเขตตรวจอย่างชัดเจน พร้อมทั้งจัดชุดเคลื่อนที่เร็วและชุดสยบไพรี จาก บช.ปส. เป็นหน่วยสนับสนุน โดยมี พล.ต.ท.วินัย ทองสอง ผู้ช่วย ผบ.ตร. เป็นผู้บังคับบัญชา

ระทึกลูกเกลี้ยงโผล่หน้าสาขา ปชป.

เมื่อเวลา 08.50 น. ร.ต.ท.ศรัณย์ พิชิตมโน พงส.สน.พระโขนง รับแจ้งเหตุพบวัตถุต้องสงสัยบริเวณศูนย์ประสานงานพรรคประชาธ

ขอบคุณเนื้อหา http://www.itplaza.co.th/update_details.php?type_id=1&news_id=31448&page=1