โอกาสและส่งเสริมเด็กดาวน์ในกิจกรรม“ปั้นดาวน์ให้เป็นดาว”

[ทีมงานบ้านเรา]

โอกาสและส่งเสริมเด็กดาวน์ในกิจกรรม"ปั้นดาวน์ให้เป็นดาว" "Thai Down got talent"

[attach=1]

คำว่า "สงสาร "ไม่เอา "เปิดโอกาส" ให้ดีกว่า  เด็กดาวน์ไม่ต้องการให้ใครมาส่งสาร ยิ่งพ่อแม่ ยิ่งไม่ชอบ  พ่อแม่ที่มีลูกเป็นเด็กดาวน์ อย่าเศร้า เปลี่ยนความเศร้าเป็นพลังใจ อย่าไปเปรียบเทียบความสามารถกับเด็กอื่น ให้เทียบกับตัวเขาเองว่าเวลาผ่านไปแล้วเขาเก่งขึ้น

ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ โดยการสนับสนุนจากสถาบันวิจัยและพัฒนาสุขภาพภาคใต้ จัดกิจกรรม "ปั้นดาวน์ให้เป็นดาว"เพื่อส่งเสริมและให้เด็กกลุ่มอาการดาวน์ ได้มีโอกาสแสดงความสามารถ รวมทั้งให้ผู้ปกครองได้แลกเปลี่ยนประสบการณ์ ในการส่งเสริมการเรียนรู้ของเด็ก ในวันอาทิตย์ที่ 24 กรกฎาคม 2554 เวลา 8.30-14.00 น. ณ อาคารแพทยศาสตรศึกษาราชนครินทร์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์

[attach=2]
ผศ.นพ.ทพ.สุรพงษ์  วงศ์วัชรานนท์ ประธานชมรมผู้ปกครองเด็กดาวน์สงขลา เปิดเผยว่า  ปัญหาการเรียนรู้ในเด็กกลุ่มอาการดาวน์ ในปัจจุบันแม้ว่าสังคมจะเปิดโอกาสและยอมรับเด็กกลุ่มอาการดาวน์มากขึ้นกว่าในอดีตแล้วก็ตาม แต่ก็ยังคงอยู่ในวงจำกัด  จึงได้จัดกิจกรรม "ปั้นดาวน์ให้เป็นดาว"ขึ้น โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมและให้เด็กกลุ่มอาการดาวน์ มีโอกาสแสดงความสามารถ รวมทั้งให้กลุ่มผู้ปกครองได้พบและแลกเปลี่ยนประสบการณ์ ในการส่งเสริมการเรียนรู้ของเด็ก 

ในโอกาสนี้ ชมรมผู้ปกครองเด็กดาวน์สงขลา ขอเชิญชวนผู้ปกครองและเด็ก เข้าร่วมกิจกรรม "ปั้นดาวน์ให้เป็นดาว" ณ อาคารแพทยศาสตรศึกษาราชนครินทร์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ในวันอาทิตย์ที่ 24 กรกฎาคม 2554 เวลา 8.30-14.00 น.

โดยในการเข้าร่วมกิจกรรมนี้ ผู้ปกครองไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆ แจ้งความจำนงและจำนวนผู้ที่จะมาร่วมกิจกรรม โดยกรอกข้อมูลลงในใบสมัครและส่งใบสมัครภายในวันที่ 30 มิถุนายน 2554  และขอเชิญชวนให้ผู้ปกครองส่งรูปถ่ายหรือแผ่นดิสก์หรือคลิปวิดีโอ ของลูกหลานท่านที่เป็นเด็กกลุ่มอาการดาวน์ ที่แสดงความสามารถในรูปแบบต่างๆ เช่น ร้องเพลง วาดรูป ระบายสี เล่านิทานและการแสดงอื่นๆ

[attach=3]

โดยทางคณะผู้จัด จะให้เวลาในการแสดงความสามารถในวันจัดกิจกรรมประมาณ 5-10 นาที สามารถส่งรูปถ่ายหรือแผ่นดิสก์หรือคลิปวิดีโอ ของลูกหลานท่านมาทางไปรษณีย์  และสมัครเข้าร่วมกิจกรรมที่ ศ.พญ. สมจิตร์ จารุรัตนศิริกุล ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ 15 ถ.กาญจนวณิชย์ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา 90110 หรือ email somchit.j@psu.ac.th     โทรศัพท์  074-451254,074-451250     โทรสาร   074-429618 ภายในวันที่ 30 มิถุนายน 2554

และขอเชิญชมผลงานของเด็กกลุ่มอาการดาวน์ ซึ่งร่วมแสดงผลงานศิลปะ ในนิทรรศการศิลปะเด็กนานาชาติ โดย เด็กไทย มาเลเซีย และสิงคโปร์  ระหว่างวันที่ 2-31 กรกฎาคม 2554 ณ นิทรรศการศิลปะหมุนเวียน  พิพิธภัณฑ์บ้านหัตถกรรมและศิลปกรรม เลขที่ 34/15-16 ถ.คลองเรียน 2 อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา  074-212841

[attach=4]
ศ.พญ.สมจิตร์ จารุรัตนศิริกุล ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ประธานจัดงาน"ปั้นดาวน์ให้เป็นดาว" กล่าวว่า สถิติเด็กทารกที่เป็นเด็กดาวน์ในประเทศไทย คือ 1 ต่อ 800 ของทารกแรกเกิดมีชีวิต เป็นอัตราเท่าๆ กับในต่างประเทศ ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา มีคนไข้เด็กดาวน์มาปรึกษาประมาณ 400-500 คน 
ด้านร่างกายจะเหมือนเด็กทั่วไป แต่จะตัวเตี้ย อ้วนง่าย  สติปัญญาไม่เท่าคนปกติ 

คนปกติมีไอคิว100  เด็กดาวน์จะมีไอคิวประมาณ 30-40  เด็กดาวน์ที่เป็นคนไข้ของหมอ มีไอคิวเขยิบขึ้นมาเป็น 50-60  พัฒนาการดีขึ้น ซึ่งควรกระตุ้นพัฒนาการตั้งแต่วัยทารก  ตอนเป็นทารกจะมีตัวอ่อนปวกเปียก ต้องกระตุ้นกล้ามเนื้อให้แข็งแรงขึ้น เด็กดาวน์มีโรคหัวใจร่วมด้วยประมาณ 40-50% เป็นโรคทางเดินอาหารอุดตัน 10-15% เป็นโรคไทรอยด์ 15-20 % 

การเป็นเด็กดาวน์  ไม่ทราบสาเหตุ แต่มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ว่า ส่วนหนึ่งเป็นเพราะคุณแม่อายุมาก เพราะเซลล์ไข่แบ่งตัวไม่ค่อยดี  แม่ที่อายุมากเซลล์ไข่จะแบ่งตัวผิดพลาดมากกว่าตอนอายุที่เหมาะสม ปัจจุบันสูติแพทย์ จะตรวจหากแม่อายุเกิน 35 ปี ขึ้นไป ด้วยการอัลตราซาวด์เมื่ออายุครรภ์ได้ 3 เดือน จะพอบอกได้ว่าเป็นหรือไม่ แต่ก็ไม่ 100%  เด็กดาวน์ ถ้าเป็นชนิดที่โครโมโซมเกิน จะสัมพันธ์กับอายุของแม่ หมอไม่ต้องตรวจคุณพ่อคุณแม่  แต่เด็กดาวน์อีกกลุ่มหนึ่งที่มีสาเหตุมาจากพ่อหรือแม่ ซึ่งเจอเป็นเปอร์เซ็นต์น้อยกว่า หมอต้องตรวจคุณพ่อคุณแม่ด้วย เพราะมีโอกาสเกิดซ้ำในลูกคนถัดไป

พ่อแม่มีความสำคัญอย่างยิ่งที่จะกระตุ้นให้เกิดการเรียนรู้ ต้องอดทนในการสอน เบื่อได้ แต่ต้องบอกตัวเองให้อดทนและพยายามในการสอนซ้ำๆ ในเรื่องเดิมๆ ปัจจุบันสังคมเปิดโอกาสให้เด็กดาวน์มากขึ้น กิจกรรมปั้นดาวน์ให้เป็นดาว คาดหมายว่าจะมีผู้ปกครองเข้าร่วม 50-60 ครอบครัว เพื่อแลกเปลี่ยนเรียนรู้ เทคนิคระหว่างผู้ปกครอง เรื่องคิดเลขเอาไปสู้กับเด็กปกติไม่ได้  แต่ด้านดนตรี ร้องเพลง ศิลปะ เขาเรียนรู้ได้ รวมทั้งงานภายในบ้านถ้าผู้ปกครองสอนเขาก็ทำได้ จะช้าจะเร็วเป็นเรื่องของการพยายามและความอดทน ค่อยเป็นค่อยไป ต้องอาศัยความใจเย็นและความอดทน ห้ามเบื่อ ห้ามท้อแท้

[attach=5]

คำว่า "สงสาร "ไม่เอา "เปิดโอกาส"ให้ดีกว่า เด็กดาวน์ไม่ต้องการให้ใครมาส่งสาร ยิ่งพ่อแม่ ยิ่งไม่ชอบ  พ่อแม่ที่มีลูกเป็นเด็กดาวน์ อย่าเศร้า เปลี่ยนความเศร้าเป็นพลังใจ อย่าไปเทียบความสามารถกับเด็กอื่น ให้เทียบกับตัวเขาเองว่าเวลาผ่านไปแล้วเขาเก่งขึ้น อย่าไปเทียบกับคนอื่น ให้เทียบกับตัวเองว่าเวลาผ่านไปแล้วลูกเก่งขึ้น

อยากให้รัฐหรือองค์กรช่วยเหลือในเรื่องของการเปิดโอกาสจากสังคม โดยเมื่อเขาโตขึ้นให้เขาได้มีโอกาสเข้าไปอยู่ในสถานที่ทำงาน ให้มีรายได้เป็นของตัวเอง เปิดโอกาสให้เข้าไปใช้ชีวิตร่วมกับผู้อื่น หากรัฐหรือองค์กรเปิดโอกาสให้มีคนเหล่านี้เข้าไปทำงานประมาณ 5% ของคนทำงานทั้งหมดก็ยังดีกว่าการไม่มีโอกาสเลย งานที่คนปกติเขาทำได้ กลุ่มดาวน์ก็ทำได้ "ศ.พญ.สมจิตร์ จารุรัตนศิริกุล กล่าว