ข่าว:

ทดลองใช้งานบอร์ดตะลุง ที่อยู่ในขั้นตอนการกู้คืนข้อมูล เบื้องต้นมีแต่กระทู้ (ข้อความ) กำลังกู้รูปภาพ ไฟล์แนบต่าง ๆ คาดว่าจะทยอยสมบูรณ์ภายในไม่ช้า

Main Menu

เปิดใจพระเอก ''ป๋อ'' ณัฐวุฒิ สะกิดใจ กับบท สามีพุ่มพวง

เริ่มโดย โสรยา..., 13:36 น. 30 มิ.ย 54

โสรยา...

ข่าวโดย สยามดารา
http://www.siamdara.com/Entertain.asp?eid=1877

ล่าสุดเราได้มีโอกาสพูดคุยกับพระเอกของเรื่องอย่าง ''ป๋อ'' ณัฐวุฒิ สะกิดใจ ถึงบทบาทที่เค้าได้รับในเรื่องนี้ว่าเป็นอย่างไรกันบ้าง


[attach=1]

    ในภาพยนตร์เรื่อง พุ่มพวง รับบทเป็นใครอย่างไร ?
    ''รับ บทเป็น ธีระพล แสนสุข ครับ แคแรกเตอร์เป็นนักดนตรีในวงของ ครูไวพจน์ เพชรสุพรรณ เครื่องดนตรีประจำกายคือแซกโซโฟน ธีระพลจะมีบุคลิกเป็นคนขี้เล่นแล้วก็เป็นกันเองแต่ก็มีความมุ่งมั่นมีความ จริงจังในการที่จะทำสิ่งใดสิ่งหนึ่ง และก็ได้มาเจอกับพุ่มพวง รักกันและช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ฝ่าฟันอุปสรรคต่างๆ ไปด้วยกันครับ ซึ่งในช่วงแรกก็อาจจะเป็นวัยน่ารักสนุกสนานแต่ว่าชีวิตก็จะดำเนินไปเรื่อยๆ เริ่มมีความเข้มข้นตามมา''


    เป็นภาพยนตร์ที่สร้างจากเค้าโครงเรื่องจริงของ ''พุ่มพวง ดวงจันทร์'' และหยิบประเด็นเรื่องการต่อสู้ชีวิตมาสร้างเป็นหนังอย่างไรบ้าง?
     ''ใน ภาพยนตร์เรื่องนี้เราจะเล่าเกี่ยวกับคุณพุ่มพวงตั้งแต่วัยเด็กครับ จะเห็นการฝ่าฟันของคุณพุ่มพวงตั้งแต่การที่จะเดินเข้ามาในวงของครูไวพจน์ เพื่อที่จะขอเป็นนักร้องถูกปฏิเสธจนในที่สุดก็ฝ่าฟัน และเข้ามาเป็นนักร้องในวงได้ แต่ก็มีเหตุการณ์อีกเหตุการณ์ที่จะทำให้ตัวเองไม่ได้เป็นนักร้อง ชีวิตของคุณพุ่มพวงค่อนข้างจะพลิกผันพอสมควรครับ จนได้มาเจอผู้ชายคนหนึ่งก็คือ ธีระพล หลังจากนั้นชีวิตก็เปลี่ยนไป อาจจะเปลี่ยนไปในทางที่ไม่ดีบ้างแต่ทั้ง 2 คนก็ได้ฝ่าฟันมาพอสมควรในการที่จะเจอกับปัญหาต่างๆ แล้วในที่สุดทั้ง 2 คนก็เหมือนกับว่าเดินไปสู่ความฝันของตัวเองได้สำเร็จนั้นก็คือการเป็นนัก ร้อง แล้วคุณพุ่มพวงก็ประสบความสำเร็จ หลังจากนั้นชีวิตของคุณพุ่มพวงก็ยังประสบปัญหาอีก นั้นคือโรคร้ายที่รุมเร้าตามมาซึ่งอันนี้เส้นเรื่องทั้งหมดมันจะเริ่ม ตั้งแต่ศูนย์ถึงร้อย ภาพยนตร์เรื่องนี้ผมเชื่อว่าหากใครได้ชมแล้วจะเป็นกำลังใจที่ดีกับใครหลายๆ คนที่กำลังมีความฝันอย่างแน่นอนครับ''

[attach=2]

    ห่างหายจากการแสดงภาพยนตร์ไปนาน ได้มีโอกาสกลับมาอีกครั้งรู้สึกอย่างไร ?
    ''คือ จริงๆ ผมเป็นนักแสดงละครนะครับ จนผมได้มีโอกาสไปแวะเวียนไปแสดงภาพยนตร์มาบ้างอยู่หนึ่งเรื่องก็คือ ครอบครัวตัวดำ ของน้าโน้ต เชิญยิ้ม ก็รู้สึกสนุกดีรู้สึกชอบ หลังจากนั้นก็กลับไปเล่นละครก็มีช่วงนี้แหละครับที่มีโอกาสที่ดีมากคือ หมายความว่าเป็นโอกาสที่ดีที่ได้อ่านบทอย่างลึกซึ้งของเรื่อง พุ่มพวง ได้พูดคุยกับทางโปรดิวเซอร์กับทางผู้กำกับ ''พี่อ๊อด'' บัณฑิต ทองดี ได้นั่งพูดคุยกันว่าตัวแสดงของ คุณธีระพล แสนสุข น่าจะเป็นป๋อนะ ซึ่งผมก็มีความรู้สึกว่าจริงหรอพี่ และผมก็แบบขอบทกลับไปอ่านอีกรอบ ซึ่งพี่อ๊อดก็ย้ำว่าน่าจะเป็นผม ตอนที่ผมขอบทกลับไปอ่านอีกรอบ ผมเองก็พยายามจะนึกตามว่าเราเหมาะกับบทนี้หรือว่าบทนี้เหมาะกับเราขนาดไหน และเริ่มมีความรู้สึกว่าน่าสนใจดีนะสำหรับบทนี้จึงตัดสินใจครับ''


    รับบทเป็น ธีระพล ต้องปรับลุกส์ต้องมีการเปลี่ยนเสื้อผ้าทรงผมอย่างไรบ้าง ?
    ''ใน เรื่องจะมีประมาณ 2 ลุกส์ 2 สมัย จะมีพัฒนาการในเรื่องของเสื้อผ้า เรื่องของทรงผมมีการใส่วิก เพื่อให้ธีระพลดูย้อนกลับไปในวัยหนุ่ม ผมเห็นแล้วก็นึกถึง เจมส์ ดีน สมัยยุคผมจะตั้งๆ เสยๆ หน่อย แล้วก็จะมีรากไทรนิดๆ ดีครับแปลกดี รู้สึกว่าหล่อแบบโบราณแต่จะเฟี้ยวๆ หน่อย รองเท้าก็เป็นส้นตึกเดินทีไรข้อเท้าก็จะพลิกทุกทีครับ เสื้อผ้ากางเกงก็จะเอวสูงหน่อยขาจะบานมาก และในยุคต่อมาก็จะเริ่มเข้ามาคล้ายๆ ในยุคปัจจุบัน แต่เรื่องสีสันของเสื้อผ้าจะเน้นมากเป็นพิเศษ มีลายดอก ลายทางบ้าง ทรงผมก็จะหวีเรียบธรรมดาครับ ผมว่าหน้าผมเหมาะกับลุกส์นี้นะ (หัวเราะ)''


    สไตล์การแต่งตัวจะเป็นแนวย้อนยุค ทั้งสีสันจัดจ้านเริ่มรู้สึกติดใจบ้างไหม?
    ''ใน เรื่องนี้ก็จะเป็นนักร้องนักดนตรีอยู่บนเวทีเล่นคอนเสิร์ต เพราะฉะนั้นสีสันของเสื้อผ้าก็จะมีความสำคัญมาก คืออยู่บนเวทีแล้วเมื่อแสงไฟโดนเสื้อผ้าปุ๊บ มันจะต้องวิบวับไปหมดเลยทีเดียว ตอนแรกผมก็ไม่ค่อยชินนะครับ ตอนนี้เริ่มชอบ และติดใจ (หัวเราะ) หลังๆ เนี่ยแต่งตัวใส่เสื้อผ้าสีๆ ตลอดเลย มันก็สดชื่นดีนะ และมันก็ให้บรรยากาศของเพลงด้วย ในเรื่องจะมีทั้งเพลงที่สนุกสนาน เพลงเศร้า แต่พอเป็นเพลงสนุกสีสันของเสื้อผ้ามันบวกเข้าไปอีกก็ทำให้รู้สึกเราสนุกและ มีความสุข ผมคิดว่าคนดูก็น่าจะมีความสุขเหมือนกันนะ''

[attach=3]
    ในเรื่องต้องเป่าแซกโซโฟนด้วย มีการเตรียมตัวอย่างไรบ้าง?
    ''คือ ผมได้มีโอกาสไปร่วมงานกับวงดนตรีวงหนึ่งแล้วผมก็แอบไปขอวิชาจากคนที่เขาเป่า แซกโซโฟนจริงๆ ครับ ก็จะถามพี่เขาว่าเป่าแซกต้องมีท่าจับและถืออย่างไร เลยทำให้รู้ว่าช่วงแรกที่ถ่ายไปเนี่ยผมจับผิดมาตลอดเลย พี่เขาก็แนะนำว่าต้องเอานิ้วโป้งไปเกี่ยวตรงข้างล่าง ทำแบบนี้นะ ท่าทางมันต้องแบบนี้ต้องโยกแบบนี้แต่ไม่ต้องโยกมากให้โยกธรรมดาตามจังหวะ เพลง โดยเฉพาะเพลงลูกทุ่งด้วยก็ไม่น่าจะมีการโยกอะไรมากมาย จริงๆ แล้วแซกโซโฟนเป็นเครื่องดนตรีที่ผมชอบมากแต่ว่าไม่เคยเล่นไม่เคยเป่าเลย เล่นเรื่องนี้ผมได้ลองเป่าเลยทำให้รู้ว่ายากมาก ต้องใช้ลมจากปอดเยอะมากครับ''


    ต้องกลายเป็นป๋าดันเพราะว่าประกบคู่นางเอกใหม่ ''น้องเปา-เปาวลี'' แนะนำเทคนิคอะไรบ้าง ?
    ''เป็น เรื่องแรกของน้องเปาครับและก็ได้มาประกบคู่กันครั้งแรก แล้วก็ต้องเล่นเป็นสามีภรรยากันด้วย ฉะนั้นความกลมกลืนของตัวละคร 2 ตัวย่อมที่จะต้องสนิทใจกันพอสมควร คือ น้องเปาจะมีคุณแม่มาด้วยตลอดทุกครั้ง แต่ผมก็พยายามพูดคุยทั้งคุณแม่และน้องเปาอยู่เสมอว่า ให้ไว้ใจกันนะ เพราะนี่คือการทำงานเวลามีฉากกอด กุ๊กกิ๊กกันก็เลยไม่เกร็ง เราเองก็ไม่ได้คิดในเชิงแบบนั้น แต่เรากลับที่จะพยายามทำให้มันกลมกลืนในมุมของความเป็นสามีภรรยากันจริงๆ ซึ่งน้องเปาก็ทำออกมาได้ดี เป็นธรรมดาที่ช่วงแรกๆ ก็อาจจะเกร็งบ้าง เขินบ้าง แล้วมีฉากเลิฟซีนด้วยกันอีกตอนนั้นน้องเปาตัวแข็งมากครับ พอตัวแข็งก็จะหนักมาก และต้องนอนทับแขนผม โอ้โห!วันนั้นแขนเป็นเหน็บหมดเลยครับ (หัวเราะ) ผมก็จะบอกน้องเปาใจเย็นๆ นะ ส่วนผมเองก็มือสั่นเหมือนกันแต่จะเป็นอีกฉาก คือ ผมต้องเอามือลูบเปาแบบค่อยๆ แล้วมันเกิดอาการเกร็งกับตื่นเต้นไปหมดพอให้เราค่อยๆ ทำอะไร แล้วตัวเรารู้สึกว่าต้องโฟกัสตรงนั้นเท่านั้น แต่หลังๆ มาพอลูบสัก 7-8 ทีมันก็เริ่มชินล่ะครับ มันเป็นภาพยนตร์ที่เน้นสื่ออารมณ์ ผู้กำกับก็เลยอยากทำให้ทุกอย่างช้าเพื่อเข้าถึงอารมณ์คนดูอย่างแท้จริง ครับ''


    หลายคนฮือฮาตอนที่น้องเปาสวมชุดลายเสือกันมาก แล้วพี่ป๋อล่ะเห็นครั้งแรกอึ้งเลยไหม ?
    ''ก็รู้สึกตกใจเหมือนกันนะ เพราะว่าครั้งแรกที่เราเจอกันยังไม่ได้แต่งหน้าผมหรือสวมชุด จะทำอะไรน้องเปาก็เหมือนเด็กๆ ผู้หญิงคนหนึ่งครับ แต่พอแต่งครบเครื่องตั้งแต่หัวจรดเท้า วิกผมซอยสั้น แล้วชุดเสื้อผ้าทุกอย่างเนี่ยเหมือนคุณพุ่มพวงหมดเลยก็ตกใจเหมือนกัน ต้องบอกว่าคล้ายมากแล้วพอน้องเปาร้องเพลงเนี่ยรัศมีทุกอย่างเกิดออกมาหมดเลย ครับ อึ้งกันไปเลย''

     ส่วนตัวแล้วชื่นชอบและฟังเพลงของ ''พุ่มพวง ดวงจันทร์'' ด้วยหรือไม่ ?
    ''ฟัง อยู่แล้วครับ ยุคผมยังทันนะในช่วงที่คุณพุ่มพวงยังจะมีชีวิตอยู่ ซึ่งผมเองก็เป็นอีกหนึ่งคนที่ซึมซับงานเพลงของคุณพุ่มพวงมากคนหนึ่งเลยที เดียว รู้สึกภูมิใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในการนำเรื่องราวชีวิตช่วงหนึ่งของคุณ พุ่มพวงมานำเสนอ ทุกวันนี้แม้คุณพุ่มพวงจะจากไปแล้วแต่ก็ยังอยู่ในใจของคนไทยทุกคนๆ รวมถึงคนหลายๆ คนที่กราบไหว้ และให้ความเคารพคุณพุ่มพวงเพราะมีความเชื่อว่าจะเป็นแรงบันดาลใจให้ทำสิ่งใด สิ่งหนึ่งแล้วสำเร็จ''


    กับผลงานภาพยนตร์เรื่อง ''พุ่มพวง'' อยากจะฝากกับผู้ชมว่าอย่างไรบ้าง ?
     ''ขอฝากภาพยนตร์เรื่อง พุ่มพวง ไว้ด้วยนะครับ ซึ่งผมตั้งใจเต็มที่กับการแสดงครั้งนี้มาก รวมถึงทีมงานทุกคนตั้งใจเต็มที่ ผมเชื่อว่าเรื่องราวของ คุณพุ่มพวง ดวงจันทร์ ยังอยู่ในใจของใครหลายๆ คนและขอให้ภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นกำลังใจให้กับคนไทยทุกๆ คนที่กำลังท้อแท้ในเรื่องอะไรก็ตามแต่ กับปัญหาที่พวกเรากำลังประสบอยู่เชิดหน้าขึ้นครับ แล้วก็เดินไปตามความฝันที่ตัวเองฝันไว้ ก้าวไปและคว้ามันให้ได้นะครับกับความฝัน 21 กรกฎาคมนี้ ทุกโรงภาพยนตร์''
อาสาเสิร์ฟข่าวบันเทิง เรื่องผู้หญิง และเรื่องเบาสมอง