หัวอกแม่! ตามหาลูกสาวที่ถูกน้ำป่าซัดจมต่อหน้าต่อตา กว่า 2 เดือนไม่พบแม้กระดูก

[ทีมงานบ้านเรา]

โดย  ASTVผู้จัดการภาคใต้ www.ASTVsouth.com

ชุมพร - หัวอกผู้เป็นแม่ตามหาลูกสาวนานนับเดือน หลังบ้านถูกน้ำป่าไหลทะลักเข้าท่วมจนพังแล้วถูกซัดจมน้ำหายไปต่อหน้าต่อตา แม้เวลาผ่านมากว่า 2 เดือนแล้ว ก็ยังไม่สิ้นหวังตามหาลูกสาวต่อขอเพียงกระดูกมาบำเบ็ญกุศลตามศาสนาก็พอใจแล้ว
       
       เมื่อเวลา 10.00 น. วันนี้ (4 ม.ค.) ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจาก นางพิกุล จุลบุษย์ อายุ 65 ปี อยู่บ้านเลขที่ 80/4 หมู่ 14 ต.ครน อ.สวี จ.ชุมพร เนื่องจากลูกสาวตนชื่อ นางสุชิรา จุลบุษย์ อายุ 43 ปี ถูกน้ำป่าไหลหลากเข้าท่วมบ้านพังเสียหายทั้งหลัง กระแสน้ำซัดร่างลูกสาวจมหายไปกับสายน้ำต่อหน้าต่อตานานนับเดือนแล้ว แม้ว่าญาติๆ และชาวบ้านจะออกตามหาแต่ก็ไร้วี่แวว พร้อมวอนหน่วยงานราชการช่วยเหลือ แม้ว่าจะไม่มีชีวิตอยู่ก็ตาม ขอเพียงได้กระดูกลูกสาวมาทำบุญตามประเพณีก็สบายใจแล้ว

[attach=1]       

       นางพิกุล จุลบุตร วัย 65 ปี ได้ลำดับเหตุการณ์สะเทือนขวัญที่ยังจดจำถึงทุกวันนี้ว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อช่วงสายของวันที่ 23 พ.ย.2556 ที่ผ่านมา หลังจาก จ.ชุมพร ได้เกิดฝนตกหนักติดต่อกันหลายวัน และเกิดน้ำป่าไหลหลากในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะในพื้นที่หมู่ 14 ต.ครน อ.สวี จ.ชุมพร ซึ่งเป็นหมู่บ้านอยู่กลางหุบเขา ขณะที่ตนกับ นายสุชาติ จุลบุษย์ อายุ 67 ปี สามี และนางสุชีรา หรือกบ จุลบุษย์ อายุ 43 ปี ลูกสาว กับนายสุพัฒน์ มณีศิริกาญจนา อายุ 53 ปี ลูกเขย ขณะที่ทุกคนในครอบครัวทั้งหมดกำลังช่วยนางสุชีรา ลูกสาว ขายก๋วยเตี๋ยวที่ร้านค้าฝั่งตรงข้ามถนนหน้าบ้าน จู่ๆ ได้มีน้ำป่าพร้อมดินโคลนไหลบ่าลงมาจากภูเขาล้านด้วยความเร็ว ทุกคนต่างช่วยกันขนของหนีน้ำ แต่ไม่ทันการณ์ โดยตนกับนายสุพัฒน์ ลูกเขย หนีขึ้นไปอยู่บนหลังคาบ้าน ขณะที่นายสุชาติสามี และลูกสาวตนหนีขึ้นไปอยู่บนหลังคาร้านขายก๋วยเตี๋ยวฝั่งตรงข้ามหน้าบ้าน
       
       นางพิกุล กล่าวต่อว่า จากนั้นระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ และจนมิดหลังคาบ้าน ตนและลูกเขยต้องปีนขึ้นไปอยู่บนต้นมะพร้าวที่อยู่ติดกับตัวบ้าน ส่วนนายสุชาติสามี และลูกสาวตนหนีขึ้นไปอยู่บนหลังคาร้านขายก๋วยเตี๋ยว ปรากฏว่า น้ำท่วมสูงจนมิดหลังคา และถูกกระแสน้ำซัดจนร้านพัง นายสุชาติ สามี กับนางสุชิรา ลูกสาวลอยไปติดอยู่บนต้นลองกองที่อยู่ใกล้ๆ กับร้านค้า แต่ครู่ต่อมากระแสน้ำไหลเชี่ยวแรงได้พัดต้นลองกองจนหักโค่น กระทั่งนางสุชีรา ลูกสาวถูกน้ำซัดจมหายไปต่อหน้าต่อตา ส่วนสามีตนเกาะกอไม้ไผ่ลอยไปตามน้ำไกลกว่า 200 เมตร และได้ปีนขึ้นไปอยู่บนต้นมะพร้าว จากนั้นประมาณบ่าย 2 โมง น้ำจึงลดลงตนพร้อมลูกเขย และสามีต่างรอดตายอย่างปาฏิหาริย์ ขณะที่นางสุชีรา ลูกสาวถูกน้ำซัดจมหายไป เมื่อน้ำลดระดับลงตนกับสามีและชาวบ้านได้ช่วยกันออกมาตามหาแต่ก็ไร้วี่แวว นับจากเกิดเหตุตอนปลายเดือน พ.ย.56 จนบัดนี้เข้าสู่ปีใหม่ พ.ศ.2557 ก็ยังไม่พบร่างของลูกสาวแต่อย่างใด
       
       นางพิกุล กล่าวด้วยน้ำตาคลอเบ้าต่อว่า ทุกวันนี้ ตนและสามียังออกค้นหานางสุชีรา ลูกสาวมาตลอดนานเกือบ 2 เดือนแล้ว แต่ก็ยังไม่เจอ และทำทุกวิถีทางไม่ว่าจะพึ่งไสยศาสตร์ บนบานศาลกล่าวสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย แต่ก็หาลูกไม่เจอ และยังมีความหวังว่าจะเจอลูกสาวแม้ว่าจะเหลือแต่กระดูกก็ตาม อย่างน้อยจะได้ทำบุญตามประเพณี จึงขอวิงวอนหน่วยราชการที่เกี่ยวข้องให้ช่วยเหลือติดตามหาลูกสาวตนด้วย เพราะช่วงเกิดเหตุที่ผ่านมามีเพียงแค่หน่วยกู้ภัยมูลนิธิ และตำรวจมาช่วยค้นหาเพียง 2 วันเท่านั้น ตนเชื่อว่าหากได้รับการช่วยเหลือ และค้นหาอย่างจริงจังตนยังมีความหวังที่จะเจอลูกสาวไม่ว่าจะอยู่อยู่ในสภาพใดก็ตาม

[ฅ ฅน]

.


...ลองติดต่อ คิดว่าท่านนี้ช่วยได้ 


คุณป๋อง รายการ the shock หาในกุเกิ้ล หรือ ยุทุบก็ได้